ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ มาอยู่ตปท เกือบ 3 ปีแล้ว แต่ยังคิดถึงบ้าน ร้องไห้เกือบทุกคืน Homesick

สวัสดีค่ะ เราขอเรียกแทนตัวเองว่า ชาน นะคะ ขอพูดก่อนว่าอาจจะพิมพ์ไม่รู้เรื่องหรือพูดวกวนบ้าง ขออภัยด้วยนะคะ ตอนอยู่ไทย ชานเป็นคนสนุกค่ะ ยิ้มแย้มตลอด หัวเราะตลอด เป็นตัวโจ๊กของห้องเลยค่ะ เพื่อนๆที่ไทยจะรู้ว่า ชานเป็นคนไม่ค่อยเครียด ไม่ซีเรียส ไม่เคยมีใครเห็นชานร้องไห้เลย นอกจากจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ เพื่อนๆถึงจะค่อยเห็นน้ำตา ยอมรับว่าชีวิตที่ไทยมีความสุขมากจริงๆ อยู่หมู่บ้านเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก มีประมาน 600 หลังคาเรือน พอตื่นเช้าก็ได้เจอหน้าครอบครัวที่ถกเถียงกัน แต่เถียงกันแบบน่ารักๆนะ เถียงแบบแปปเดียวทุกคนก็หัวเราะลั่นกันทั้งบ้าน เตรียมตัวไปเรียน เพื่อนๆ ก็จะขับรถมารอหน้าบ้าน ไปพร้อมกัน เเวะกินข้าว นู้นนั่นนี่ หยอกกัน แกล้งกัน แล้วชานจะสะพายกีต้าร์ไปทุกวันค่ะ เป็นสีสันของห้องไม่พอ เป็นเสียงดนตรีของห้องด้วยค่ะ ที่ไทยชานมีเพื่อนเยอะมาก เพื่อนๆน่ารักกับชานทุกคน ชานไม่ค่อยมีเรื่องกับใครเลยค่ะ ถ้ามีก็ไม่ถึงขั้นใช้ความรุนแรงหรืออะไร ถึงจะเป็นคนปากไว ใจร้อน แต่ก็ไม่เคยตบตีใครเลย การเรียนชานก็ 3.50 ขึ้นทุกครั้ง ไม่เคยตกไม่เคยเสียการเรียนเลยค่ะ ทุกๆวันของชานที่ไทยมีค่า มีความสุขมากค่ะ หัวเราะทุกวัน เที่ยวเล่นทุกวัน บางวันดื้อหน่อยก็ขับรถมอไซคู่ใจของตัวเองไปในเมืองกับเพื่อนๆ กับน้องสาว(ลูกของลุงชาน)บ้าง 555 แต่เห็นชานเป็นคนขี้เล่น ดื้อๆแบบนี้ ชานไม่เคยออกกลางคืนค่ะ ไม่เที่ยวกลางคืนเลย จะมีบ้างนานๆครั้ง แต่จะไปกับพี่ชายของชาน 4 คน พี่ชายไม่ใช่พี่แท้ๆนะคะ ทุกคนเป็นลูกของปู่กับย่า แต่ชานเรียกพี่มาตั้งแต่เกิดค่ะ แล้วทุกคนก็เลี้ยงดูชานหมด ส่วนพ่อ พ่อของชานเสียตั้งแต่ยังไม่คลอดชานเลยค่ะ แต่ไม่เคยรู้สึกขาดความรักอะไรเลยค่ะ ได้รับความรักจากครอบครัวที่ประเทศไทยตลอด แถวบ้านก็เอ็นดูชานกันทั้งนั้น ทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่แล้วหลังจากจบม. 1 ชานต้องย้ายมาอยู่กับแม่กับพ่อเลี้ยงที่ออสตั้งแต่อายุ 13 ย่าง 14 ตอนนี้อายุ 16 จะ 17 ปีนี้ ตอนนี้เรียนอยู่ ม. 5 นะคะ คือไปแรกๆคือตื่นเต้น ตื่นเต้นสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ตอนแรกก็มีเพื่อนบ้าง เป็นกลุ่มเล็กๆ พอไว้เม้าส์มอยกัน แล้วเริ่มเพิ่มเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ชานตีตัวออกห่างช่วงชาน ม. 3 เพราะว่ากลุ่มที่ชานอยู่มันมั่วสุมมากค่ะพี่ๆ แล้วบอกก่อนว่าความสัมพันธฺ์ของชานกับแม่ก็ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ ทะเลาะกันเกือบทุกวันก็ว่าได้ ที่เป็นแบบนี้ไม่ได้อะไรเลยนะคะ คือแม่ชานทิ้งชานไว้ตั้งแต่จำความได้ ทื้งไว้ให้ปู่กับย่าชานเลี้ยงอเพราะแม่ไปทำงานหาเงินค่ะ อันนี้ชานเข้าใจ ซึ้งชานก็เรียกปู่ย่า พ่อ แม่ มาตลอด ตอนมาอยู่ 2 อาทิตย์รู้สึกสนุกค่ะ แต่พอเริ่มเรียนตอนแรกๆไม่มีเพื่อน ก็แอบนอยๆอยู่ เพราะที่เห็นมีแต่คนเหยียดเอเชีย เลยไม่ค่อยกล้าคุยกับใครเลย 4 เดือนแรกที่มาอยู่ร้องไห้อยากกลับบ้านแทบทุกวันค่ะ แต่ไม่กล้าบอกแม่ กลัวท่านว่าว่า เสียเงินให้มาแล้ว ยังจะมาร้องไห้ งอแงกลับบ้านอีก เลยไม่บอกแม่เลยค่ะเรื่องนี้ แต่จะพูดกับเพื่อนคนไทยของตัวเองตลอดว่า อยากกลับไทย อยากกลับไปหาครอบครัวตัวเอง ตั้งแต่ย้ายมา ชานเป็นคนเก็บตัวเลยค่ะ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา เวลามีอะไรจะเงียบ ไม่หัวเราะเท่าไหร่ จากเป็นคนร้องไห้ยาก ก็กลายเป็น sensitive ไปเลย อะไรกระทบจิตใจหน่อยจะร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว เวลาฟังเพลงก็จะร้องไห้เพราะคิดถึงบ้าน เป็นคนไม่มีอารมณ์ขัน เพื่อนๆที่ไทยหลายคนก็ทักมาถามว่าเป็นอะไร ชานก็ไม่บอกค่ะ ไม่อยากให้เพื่อนๆกับครอบครัวเป็นห่วงกัน ชานก็ทะเลาะกับพ่อเลี้ยงบ่อยอยู่เหมือนกันนะ แบบความคิดไม่ตรงกัน เขาพูดเสียๆหายๆบ้าง เขา anti ประเทศไทยมากค่ะพี่ๆ บางครั้งพูดจนชานพูดไม่ออกเหมือนกันว่าเขาคิดยังงั้น คือบ้านเมืองเรา เวลามีคนต่างชาติมาพูดในทางไม่ดี ก็รู้สึกแย่กันทั้งนั้นแหละค่ะ รู้ค่ะว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร แต่ความสุขบ้านๆแบบทั่วๆไป มันหาที่ไหนไม่ได้นอกจากบ้านเราจริงๆ ตื่นมาก็เจอตึกใหญ่ ผู้คนเร่งรีบแข่งเวลา แข่งกันไปหมด รถราแน่นหนา รถติดบ้าง มีอุบัติเหตุบ้าง ประท้วงบ้าง ต่างจากที่บ้านของชาน ที่ตื่นเช้ามา เจอหน้าครอบครัว กินข้าวพร้อมกัน ได้รับบรรยากาศดีๆ ปลูกสวน ปลูกผัก นั่งคุยกับครอบครัวก่อนไปเรียน มันมีความสุขมากกว่าการที่ในสังคมใหญ่ๆแบบนี้อีกค่ะพี่ๆ แล้วตั้งแต่ย้ายมา ชานไม่เคยได้กลับบ้านเลยค่ะ คิดดูว่าเป็นเวลาเกือบ 3 ปี บางคนแค่ไม่กี่เดือนก็คิดถึงบ้านแล้ว  แล้วไปที่แล้วหลังจากจบม.4 ก็เป็น school holidays ช่วง พฤศจิ มกรา ชานกลับไทย ไปสองเดือน แล้วทุกอย่างยังเหมือนเดิมค่ะ เปลี่ยนไปแค่ถนนหนทาง ความสุขก็มีมาเหมือนเดิม  มีเพื่อนเพิ่มขึ้นเพื่อนเก่าไม่ขาดหายค่ะ มีความสุข แล้ววันปีใหม่ชานก็เค้าดาวน์กับเพื่อนๆ ครอบครัวชาน ที่บ้านชาน พอถึงตี 4 ก็เหลือแค่ชานกับเพื่อนๆอีกไม่กี่คน แฟนชาน เพื่อนแฟนชานคนนึง พี่ชายชานที่เป็นลูกของปู่ย่าอีกคนนึง ชานดื่มไปนิดเดียวค่ะ แต่มันมึนๆ แล้วด้วยความมึน อยู่ๆก็คิดเรื่องกลับมาออส แล้วก็ร้องไห้ขึ้นมาเลยค่ะ ทุกคนตกใจ เพราะไม่มีใครเคยเห็นร้องไห้ โดยเฉพาะพี่ชายชาน พี่ชานรีบดึงเข้าไปกอดเลยค่ะ ทุกคนนั่งฟังตั้งใจฟังที่ชานเล่าค่ะ เล่าไปน้ำตาตกไป สะอื้นไป จนพี่ชายพูดว่า ถ้ามันไม่ไหวก็กลับมาอยู๋บ้านเราเถอะน้อง พวกพี่ๆ แม่ๆก็ยังรอน้องอยู่ พวกเรารักน้องนะถึงจะไม่เคยพูดแต่ก็รักมาก ไม่ให้รักได้ไง เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กๆ พร้อมลูบหัวชานได้ยินคำนี้ ชานยิ่งร้องหนักค่ะพี่ๆ ครอบครัวชานเป็นยังงี้จริงๆ ไม่ค่อยบอกรัก แต่จะแสดงออกแทน เวลามีปัญหาก็ช่วยกันตลอด เรื่องนี้ก็ไม่เคยบอกย่านะคะว่าไม่มีความสุข เพราะกลัวท่านเป็นห่วงอีก ส่วนปู่ ปู่ชานเสียตั้งแต่ชานอยู่ ป 6 ค่ะ ถ้าปู่ชานไม่เสีย ก็คงไม่ได้ย้ายมา ปู่รักชานมาก เพราะหน้าชานเหมือนพ่อของชาน ที่เป็นลูกของท่านที่เสียไป และเป็นลูกสาว(หลาน)คนเดียวในบ้าน ในตระกูล พอกลับมาออส ชานกลับมาเงียบเหมือนเดิมเก็บตัวเหมือนเดิม ตอนนี้ชานเริ่มหางานทำค่ะ อยากกลับบ้านช่วงสงกรานต์ แต่พ่อเลี้ยงไม่ให้กลับ แต่แม่ชานโอเคแม่เข้าใจชานค่ะ พ่อเลี้ยงพูดกับชานว่า ทำไมไม่รอกลับพร้อมกันอีก 2-3 ปีจะพากลับ หรือไม่อยากอยู่ที่นี่ ชานเลยบอกไปค่ะ ว่าไม่อยากอยู่ แต่ต้องอยู่เพราะแม่อยากให้อยู่ แม่อยากให้จบการศึกษา ชานบอกว่าชานไม่มีความสุข มาตอนเช้าก็ไม่คุยกับพ่อเลี้ยงเลยค่ะ ตอนนี้ทำได้แค่โทรหาที่บ้าน แต่ยังไม่ได้บอกย่ากับแม่เรื่องไม่มีความสุขนะคะ กลัวท่านเป็นห่วงจริงๆ พวกพี่ว่าตอนนี้ชานต้องทำยังไงคะ ในเมื่ออยู่แล้วไม่มีความสุข คือตอนนี้ตั้งแต่กลับมาร้องไห้ทุกคนเลยค่ะ คิดถึงครอบครัว บ้าน เพื่อน แฟน ค่ะ ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ ชานกังวลใจจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่