อย่างที่รู้ๆกันนะคะ ว่ากทม.กำลังตกอยู่ในสภาวะ ฝุ่นควันเกินค่ามาตรฐาน
เรารู้สึกว่าหายใจไม่ค่อยปกติค่ะ
เลยไปหาหมอ ตรวจปอดก็ไม่เจออะไร แต่พอตรวจหัวใจทำม๊ายยยยยยย เจอแต่เธอ
ผ่ามมมมมมม!!!!!!!!!!
55555555 ขอบคุณมุกจากทางบ้านด้วยค่ะ
  
พอค่ะ เล่นแค่นี้พอ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ทริปนี้แจ๊คจะพาเพื่อนๆไปทริปชิลๆ สวยๆ ชมดอกไม้ ชมธรรมชาติ
ถ้าช่วงนี้ ก็จะเป็นที่ไหนไม่ได้นะคะ นอกจากนางพญาเสือโคร่ง หลายๆที่บานสวยงามรอให้เราไปชื่นชมแล้วนะคะ
ก่อนเดินทางมารู้จักกันมากขึ้น ฝากติดตามการเดินทางของแจ๊คได้ที่เพจค่ะ
เพจเราชื่อ นักเดินทางตัวน้อย
https://www.facebook.com/journeymemories
ฝากกดไลค์ให้กำลังใจด้วยนะคะ
ขายของเสร้จแล้ว เดินทางต่อได้ เฮะ!!!!
บันทึกนักเดินทาง 26-27 มกราคม 2562
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
ภูลมโล เป็นภูเขาในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย จะขึ้นทางภูหินร่องกล้า หรือจะขึ้นทางกกสะทอน ด่านซ้าย ก็ได้ค่ะ
โดยเราจะต้องใช้บริการรถของชมรมท่องเที่ยว หรือของอุทยานค่ะ ห้ามนำรถยนต์ส่วนบุคคลขึ้นไปนะคะ
ซึ่งรถที่ให้บริการ มีเยอะมากๆ ไม่ต้องจองอะไรทั้งนั้น เพียงพอต่อนักท่องเที่ยวแน่นอนค่ะ

-ขึ้นทางด่านซ้าย จะใช้บริการของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตำบลกกสะทอน ค่าบริการ 1,500 บาท นั่งได้ 10 คน
-ขึ้นทางภูหินร่องกล้าจะมี 2 จุด จุดที่ 1 ที่ทำการอุทยานภูหินร่องกล้า ประมาณ 15 KM. ราคา 1500 บาท นั่งได้ 10 คน
                                         จุดที่ 2 บ้านใหม่ร่องกล้า ระยะทาง 7 KM. ราคา  1,000 บาท นั่งได้ 10 คน
ถ้าเราไปคนเดียว 2 คน 3 คน ทำไง ต้องจ่ายแพงอ่ะดิ่  
ไม่เลยค่ะ เราสามารถแชร์กับคนอื่นได้ค่ะ รอไม่นานก็มีคนมาจอยกับเราแล้ว มีคนขึ้นตลอดเลยค่ะไม่ต้องกังวลค่ะ
โดยจะมีเวลาให้เราเที่ยวได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมง
-ปกติดอกพญาเสือโคร่งจะบานช่วงปลายเดือน ม.ค.-ต้นเดือน ก.พ. แต่ปีนี้บานช้าค่ะ เราว่ากลางๆกุมภา น่าจะบานเต็มที่
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม ดูสถานการณ์ว่าบานแค่ไหน โรยแล้วหรือยัง
ได้ที่นี่เลยค่ะ เฟซบุ๊ก  ภูลมโล,ซากุระเมืองไทย,นางพญาเสือโคร่ง,กกสะทอน
ทางทีมงานท่องเที่ยวเลยจะอัพเดทตลอดค่ะ

-การเตรียมตัว ไม่มีอะไรมาก ชุดสวยๆ กล้องช่วงเลนส์ยาวๆหน่อยไว้ซูมถ่ายดอกบนต้น
อุปกรณ์กันแดด กันหนาว(ถ้าขึ้นตี5) น้ำดื่ม ของกินเพราะข้างบนไม่มีขายนะคะ
สุดท้ายสำคัญมาก อุปกรณ์ป้องกันฝุ่น  ทางเป็นทางดิน รถสวนกันแต่ละที่ แทบจะร้องไห้ ฝุ่นเยอะมากๆค่ะ
ได้ข้อมูลคร่าวๆแล้ว เรามาเดินทางกันต่อค่ะ
ทริปนี้ไม่ได้วางแผนอะไรมาก สัปดาห์นี้ว่างเว้นจากการเดินป่า แต่ก็นะ วิถีนักเดินทางอย่างเรา อยู่นิ่งไม่ได้ค่ะ
พยายามหาที่เที่ยวที่ไม่ไกลมาก พอจะขับรถไปได้
ที่เราเลือกขับรถเพราะ มีเวลาน้อย ถ้าใช้รถโดยสารสาธารณะ มันมีข้อจำกัดของเวลา รอบรถ เวลาที่มีอาจจะต้องเสียไปกับการเดินทาง
และนับว่าเป็นจังหวะที่ดีมาก พญาเสือโคร่งที่ภูลมโลกำลังบานต้อนรับนักเที่ยงเที่ยวให้ไปชื่นชม
เอาจริงๆ อยากไปที่นี่นานละ แต่ปีก่อนๆช่วงที่บานเราก็มีทริปไปที่อื่นตลอด
ไม่ต้องคิดมากเลย ไปสิ่รออะไร เราออกเดินทาง คืนวันศุกร์ช่วง 5 ทุ่มกว่าๆ ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้นอน ช่วงตี 1 เริ่มง่วง ต้องหาที่นอนก่อน
แวะปั้มนอนมันในรถนั่นแหละค่ะ คือเพลียมากนอนหลับสนิทกว่าตอนอยู่ห้องอีกจ้า
ตื่นมาตีห้ากว่าๆ ล้างหน้าแปรงฟัน หาอะไรรองท้องแล้วไปต่อ  
ลืมบอก เรื่องของเส้นทาง ถ้าเราเปิด google map จะพบว่าไปได้ 3 ทาง google จะเลือกทางในภาพที่ 2 ซึ่งมันเร็วที่สุด
คือทางตากฟ้า แต่แจ๊คไม่แนะนำค่ะ ทางไม่ดี
ทางในภาพที่ 3 คือทางภูทับเบิก ทุกคนคงรู้ว่าเป็นยังไง ชันและโค้ง จากที่ถนนชำรุด ไม่รู้ว่าตอนนี้ซ่อมทาหรือยัง
แต่เราไม่ไปแน่นอน 555เคยขับไปแล้ว ไม่เวิร์ค น่ากลัว
ทางที่เราขึ้นเรียกว่าฝั่งนครไทย
แจ๊คเดินทางแบบนี้ค่ะ  
-ขาไป แจ๊คไปทางภาพที่1 ไกลกว่านิดนึง แต่ถนน 4 เลน ขับสบาย ทำเวลาได้  โอเคเลยล่ะเส้นนี้
-ขากลับลองกลับทางตากฟ้า อยากรู้ว่าเป็นยังไง ผลก็คือขับเหนื่อยค่ะ ทางไม่ค่อยดี แต่ผิวถนนพอใช้ได้แหละมีการซ่อมแซมบางช่วงดี แต่ประเด็นคือ
เป็นทางแบบรถสวนกันตลอดเส้น ยาวๆเลย เวลาที่ติดรถคันหน้ายาวเป็นขบวน ขับแล้วเหนื่อยต้องหาจังหวะแซง ไม่โอเคเลย
DAY 1
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เดินทางไม่ยาก ตาม Google map เลย หรือจะดูป้ายก็ได้ มีป้ายบอกตลอด ไม่หลงแน่นอน
เมื่อไปถึงอุทยาน ก็จ่ายค่ะเข้า 40 บาท ค่าพาหนะ 30 บาท แล้วขับ ต่อไปอีก จะถึงที่ทำการอุทยาน  
เราก็จะพบกับคิวรถขึ้นภูลมโล ซึ่งมีรถเยอะมากจ้า
ก่อนอื่นต้องเข้าไปกางเต็นท์ก่อน เราเอาเต็นท์ไปเอง จ่ายอีก 30 บาท แล้วขับรถไปที่ลานกางเต็นท์ได้เลย
มีที่กางเยอะมากๆ มีทั้งโซนลานหิน โซนลานสน  เลือกทำเลได้ตามใจชอบเลยค่ะ
ภายในอุทยานมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สะดวกสบายมากๆ เรียกว่ามาแต่ตัวก็ยังได้ แต่ต้องมีตังค์นะ5555
แจ๊คกางในลานหินค่ะ
สำหรับวันนี้ แจ๊คจะพาไปเที่ยวภายในอุทยาน ที่เป็นไฮไลค์ก็คือ โรงเรียนการเมืองการทหาร
ขับรถไปจากที่ทำการอุทยาน ประมาน 4 กิโล จอดรถริมถนนได้เลยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะมีร้านค้าขายของที่ระลึก ของทานเล่น ผักผลไม้ต่างๆ
มีข้อมูลเรื่องราวของสถานที่ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษากันด้วยค่ะ
ที่นี่จะมีต้นเมเปิ้ล ถ้าแดงเยอะๆ จะสวยมาก แต่ จนท.บอกว่าปีนี้แดงช้า เราเลยได้มาแบบนี้ เพิ่งจะแดงอยู่ยอดเดียวค่ะ

แดงประมาณนี้ค่ะ






โรงเรียนการเมืองการทหาร ในอดีตเคยเป็นสถานที่สำหรับให้การศึกษาตามแนวทางของลัทธิคอมมิวนิสต์
จะประกอบไปด้วยบ้านฝ่ายพลเรือน ฝ่ายพลาธิการ ฝ่ายสื่อสาร และสถานพยาบาล
เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ กระจายอยู่อย่างเป็นระเบียบ ภายในบ้านแต่ละหลังจะมีแคร่สำหรับนอน
และโต๊ะสำหรับเขียนหนังสือทำด้วยไม้กระดานอย่างหยาบ ๆ
เศษข้าวของกระจายอยู่เกลื่อน บางหลังเริ่มผุพังเพราะถูกปล่อยให้ร้างหลังจากมวลชนเข้ามอบตัวแล้ว
ต่อไปเราจะไปลานหินปุ่ม เราจะขับรถย้อนกลับไปก่อนถึงที่ทำการอุทยาน ประมาณ 4 กิโลเมตร มีป้ายบอกชัดเจน
เมื่อจอดรถ เราต้องเดินเข้าป่าไป โลกว่าๆ  
เดินไปสักพักเราจะพบกับป้ายบอกทางค่ะ ไม่หลงแน่นอน
ระหว่างทางมีหินรูปร่างแปลกให้เราได้ชมกันค่ะ
เดินไม่นานก็ถึงลานหินปุ่มแล้วค่ะ
วันนี้เป็นวันวันหยุด นักท่องเที่ยวเยอะมาก หามุมโล่งๆยากหน่อยค่ะ
ตั้งกล้องถ่ายตัวเองก็ได้
ลักษณะลานหินซึ่ง มีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่มเป็นปมขนาดไล่เลี่ยกัน
คาดว่า เกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน
ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักฟื้นของคนไข้ของ โรงพยาบาล เนื่องจาก อยู่บนหน้าผา มีลมพัดเย็นสบาย
จริงๆมีอีกจุดคือผาชูธง แต่เราไปแค่ลานหินปุ่มเพื่อรอพระอาทิตย์ตกดินตรงนี้เลย
พระอาทิตย์ตกดินวันนี้สวยมากๆ แต่เราเก็บไว้ได้แค่ในความทรงจำ เพราะแบตกล้องหมด ลืมแบตอีกก้อนไว้ที่รถ 5555
ใช้โทรศัพท์ถ่ายไม่สวยเท่าไร
มีคนหลายคนบนลานหินปุ่มที่มารอดูอาทิตย์ลับขอบฟ้า เราเลยอยู่ด้วย แล้วเดินกลับพร้อมคนอื่นๆ พกไฟฉายไปด้วยนะคะ  
ตอนนั่งอยู่ลานหินปุ่ม น้องเปิ้ล น้องที่เคยออกทริปด้วยกันทักไลน์มา ปรากฏว่าน้องก็มาที่นี่ด้วย มาทริปอาสายิงหนังสติ๊กปลูกป่า
คืนนี้เราเลยนัดกันกินหมูกะทะ ร้านในอุทยานนั่นแหละค่ะ  ชื่อร้านดวงใจ
อากาศเย็นๆ นั่งกินหมูกะทะฟินมากค่ะ กินอิ่มแยกย้ายกันเข้านอน

DAY 2
เช้านี้ตื่นมาราวๆตี 5 แต่เราไม่ได้ขึ้นภูลมโลรอบแรก(รอบแรก ตี 5 สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นบนภูลมโลได้)
เราตื่นมา ถ่ายทางช้างเผือกที่ลานกางเต็นท์ แต่สภาพแวดล้อมไม่เป็นใจ คือพระจันท์ยังไม่ตก แต่ไม่สว่างมาก พอเก็บดาวได้
แต่ฝั่งที่ทางช้างเผือกขึ้น เป็นแนวสนบังหมดเลย พอๆๆๆเลิกถ่าย แล้วนั่งจิปกาแฟในเต็นท์
ไหนๆก็ไม่ได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นข้างบน งั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องรีบไปขึ้นภูลมโลละ เราเลยเก็บเต็นท์แล้วออกไปทีเดียวเลย
เราขับรถไปที่บ้านใหม่ร่างกล้า เพื่อขึ้นรถกะบะ และเดินเที่ยวในหมู่บ้าน
มีลานจอดรถไว้บริการ แต่ฝุ่นเยอะมากค่ะ
จะขึ้นภูลมโล ให้มาติดต่อตรงนี้เลยค่ะ เราไปคนเดียว เดินไปบอกพี่คนจัดคิวรถ แล้วก็รอให้มีคนกลุ่มเล็กๆมา แล้วหารค่ารถกัน
ของเรามีพี่ๆ 6 คนมาหารกัน ทุกคนพร้อมแล้วก็โดดขึ้นท้ายรถกะบะกันเลยค่ะ
ตัวอย่างทางค่ะ เห็นฝุ่นมั้ยคะ นั่นแหละค่ะที่เราต้องเผชิญ อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์กันฝุ่นมาด้วยนะคะ
รถจะพาเราไปที่จุดแรก คือจุดสูงสุดของภูลมโล ลงรถแล้วชมวิวได้เลย