สวัสดีครับ เรื่องนี้รบกวนช่วยอ่าน วิเคราะห์และแนะแนวทางแก้ไขให้ผมด้วยครับ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณเดือน สิงหาคม 2561 ได้เกิดอุบัติเหตุระหว่างรถผมกับคู่กรณี ซึ่งผมเป็นคนชนท้ายทำให้ด้านหน้ารถผมเสียหาย และด้านหลังของคู่กรณีก็เสียหายเช่นกัน แล้วในตอนนั้นประกันรถผมขาดพอดี ทำให้ผมต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด หลังจากนั้น เมื่อประกันของคู่กรณีมา จึงได้บันทึกภาพก่อนไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน และหลังจากนั้นทางผมได้เรียกช่างที่รู้จักมาประเมินราคาซ่อมให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทางช่างได้ประเมินราคากับทางผู้เสียหายจำนวน 13000 - 15000 บาท ผมก็ยินดีที่จะจ่ายค่าเสียหายนั้นให้ แต่เรื่องมันก็ไม่จบ เพราะผมได้คุยกับเจ้าของรถแล้วเรื่องราคานี้ แต่เจ้าของรถให้ผมไปคุยทั้งหมดนี้กับประกัน ประมาณว่าเค้าว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเลย ประกันก็บอกว่าจะคิดราคากลางให้ ซึ่งอาจจะไม่เกิน 20000 บาท ในตอนนั้นผมมองแล้วว่ามันแพงเกินไป เพราะแค่กันชนด้านหลังบุบและไฟท้ายแตก นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเสียหาย ประกอบกับรถของคู่กรณีมีสภาพเก่าและอายุการใช้งานเยอะ (ยี่ห้อโตโยต้าวีออส น่าจะประมาณ 10 กว่าปีได้แล้วครับจากที่คุยกับช่างมา) หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ และยังไม่ได้ตกลงราคาซ่อมด้วย จบกันไปที่ว่าถ้าทางนั้นติดต่อมาก็จะได้รู้ราคาค่าซ่อมเอง ส่วนรถของผมก็เสียหายทางด้านหน้าซึ่งน่าจะหนักกว่าด้านหลังพอสมควร และค่าซ่อมทางรถผมอยู่ที่ 12000 บาท
จากนั้นเรื่องก็เงียบจนกระทั่งเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ผู้ที่อ้างว่าเป็นทางบริษัทประกันโทรมาแจ้งเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งตรงนี้ผมไม่มั่นใจว่าเป็นใครแอบอ้างมารึเปล่า เพราะจากที่ผมได้ยินค่าใช้จ่ายแล้วถึงกับช็อคเลย ทางประกันประเมินราคาอยู่ที่ 50000 บาท ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอก ห้าหมื่นบาทถ้วนครับ ซึ่งผมพูดอะไรไม่ออกเลย ก็เลยจะขอเบอร์เจ้าของรถเพื่อมาตกลงค่าเสียหาย แต่ทางผู้ที่อ้างว่าเป็นบริษัทประกันไม่สามารถให้เบอร์ได้ ด้วยเหตุผลอะไรผมก็ไม่ทราบ ผมจึงเดินทางไปสน.ที่เคยลงบันทึกไว้ เพื่อขอเบอร์เจ้าของรถกับทางตำรวจ และผมก็ได้ติดต่อเจ้าของรถ แต่เจ้าของรถปฎิเสธที่จะคุยและพยายามจะโยนเรื่องให้ประกันแทน เลยอยากทราบว่า
1. ผมสามารถต่อรองราคาให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมได้หรือไม่
2. ถ้าผมตกลงที่จะรับผิดชอบ แต่ค่าเสียหายมันโอเวอร์เกินไป ผมสามารถร้องเรียนได้ไหมครับ
3. เงินที่จะจ่ายควรจะจ่ายให้กับประกันหรือเจ้าของรถครับ
4. ถ้าตกลงราคาไม่ได้ผมควรจะทำอย่างไรต่อดีครับ รบกวนชี้แนะแนวทางด้วยครับ
ผมโดนคนที่อ้างว่าเป็นบริษัทประกันเอาเปรียบอยู่หรือเปล่าครับ?
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณเดือน สิงหาคม 2561 ได้เกิดอุบัติเหตุระหว่างรถผมกับคู่กรณี ซึ่งผมเป็นคนชนท้ายทำให้ด้านหน้ารถผมเสียหาย และด้านหลังของคู่กรณีก็เสียหายเช่นกัน แล้วในตอนนั้นประกันรถผมขาดพอดี ทำให้ผมต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด หลังจากนั้น เมื่อประกันของคู่กรณีมา จึงได้บันทึกภาพก่อนไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน และหลังจากนั้นทางผมได้เรียกช่างที่รู้จักมาประเมินราคาซ่อมให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทางช่างได้ประเมินราคากับทางผู้เสียหายจำนวน 13000 - 15000 บาท ผมก็ยินดีที่จะจ่ายค่าเสียหายนั้นให้ แต่เรื่องมันก็ไม่จบ เพราะผมได้คุยกับเจ้าของรถแล้วเรื่องราคานี้ แต่เจ้าของรถให้ผมไปคุยทั้งหมดนี้กับประกัน ประมาณว่าเค้าว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเลย ประกันก็บอกว่าจะคิดราคากลางให้ ซึ่งอาจจะไม่เกิน 20000 บาท ในตอนนั้นผมมองแล้วว่ามันแพงเกินไป เพราะแค่กันชนด้านหลังบุบและไฟท้ายแตก นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเสียหาย ประกอบกับรถของคู่กรณีมีสภาพเก่าและอายุการใช้งานเยอะ (ยี่ห้อโตโยต้าวีออส น่าจะประมาณ 10 กว่าปีได้แล้วครับจากที่คุยกับช่างมา) หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ และยังไม่ได้ตกลงราคาซ่อมด้วย จบกันไปที่ว่าถ้าทางนั้นติดต่อมาก็จะได้รู้ราคาค่าซ่อมเอง ส่วนรถของผมก็เสียหายทางด้านหน้าซึ่งน่าจะหนักกว่าด้านหลังพอสมควร และค่าซ่อมทางรถผมอยู่ที่ 12000 บาท
จากนั้นเรื่องก็เงียบจนกระทั่งเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ผู้ที่อ้างว่าเป็นทางบริษัทประกันโทรมาแจ้งเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งตรงนี้ผมไม่มั่นใจว่าเป็นใครแอบอ้างมารึเปล่า เพราะจากที่ผมได้ยินค่าใช้จ่ายแล้วถึงกับช็อคเลย ทางประกันประเมินราคาอยู่ที่ 50000 บาท ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอก ห้าหมื่นบาทถ้วนครับ ซึ่งผมพูดอะไรไม่ออกเลย ก็เลยจะขอเบอร์เจ้าของรถเพื่อมาตกลงค่าเสียหาย แต่ทางผู้ที่อ้างว่าเป็นบริษัทประกันไม่สามารถให้เบอร์ได้ ด้วยเหตุผลอะไรผมก็ไม่ทราบ ผมจึงเดินทางไปสน.ที่เคยลงบันทึกไว้ เพื่อขอเบอร์เจ้าของรถกับทางตำรวจ และผมก็ได้ติดต่อเจ้าของรถ แต่เจ้าของรถปฎิเสธที่จะคุยและพยายามจะโยนเรื่องให้ประกันแทน เลยอยากทราบว่า
1. ผมสามารถต่อรองราคาให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมได้หรือไม่
2. ถ้าผมตกลงที่จะรับผิดชอบ แต่ค่าเสียหายมันโอเวอร์เกินไป ผมสามารถร้องเรียนได้ไหมครับ
3. เงินที่จะจ่ายควรจะจ่ายให้กับประกันหรือเจ้าของรถครับ
4. ถ้าตกลงราคาไม่ได้ผมควรจะทำอย่างไรต่อดีครับ รบกวนชี้แนะแนวทางด้วยครับ