สวัสดีสาวกพันทิพ ช่วงนี้อากาศเย็นลง ไม่อยากจะตื่นไปเรียนเล้ย อยู่ๆก็นึกถึงเดทแรกในฤดูหนาวของตัวเองขึ้นมา เลยอยากมาเล่าสู่แลกเปลี่ยนกัน คือจะบอกว่าเราเป็นคนมีความเกรียนอยู่ระดับนึงไม่ถึงกับมาก เช่น เราเป็นพวกแบบเข้าสังคมคนเดียวได้แล้วค่อยไปหาเพื่อนเอาข้างหน้า ชอบเที่ยวที่ไกลๆคนเดียว อะไรพวกนี้
ทีนี้เรามาเรียนต่อที่ยุโรป ได้เกือบ 2 เทอม จนเข้าฤดูหนาวครั้งแรกในชีวิต ช่วงนั้นคนที่นั่นฮิตทินเดอร์ไง เราออกไปไหนไม่ได้เพราะมันโคดหนาวเลยข้างนอก

ก็โหลดมาลองดู นึกว่าจะมีแต่คนแปลกๆมาเล่นไรแบบนี้ อือหือออ

ที่ไหนได้มีหนุ่มสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักทั้งนั้นอะ พูดได้ว่า 60-70%ในบริเวณใกล้เคียง เราสนุกเลย swipe ขวารัวๆๆ ช่วงนั้นก็เลยได้มีเพื่อนออนไลน์แชทคุยฝึกภาษาท้องถิ่นที่เพิ่งเริ่มเรียน มีหลายคนขอนัดเจอแต่ก็ไม่ได้อยากไป เพราะก็รู้มาว่าทินเดอร์เดทมันคาดหวังอะไรกัน ทีนี้มีฝรั่งคนนึงเป็นนักศึกษาเหมือนกันนี่ละ คุยกันมาซัก1-2อาทิตย์เขาก็ขอนัดเจอ มันเป็นช่วงเราพึ่งสอบเสร็จเลยเหมือนอยากระบายหลังจากอ่านแต่หนังสืออยู่ที่บ้าน เลยตอบตกลงจะไป มีข้อแม้ว่าเขาต้องมาที่ใกล้เรา
วันเดทมาถึง นัดเจอกันหน้าสถานีรถไฟ บรรยากาศตอนนั้นคือเทศกาลคริสมาสต์จะมีตลาดขายของตอนเย็น คนเดินขวักไขว่ ไฟประดับนานา ในตัวเมืองดูครึกครื้น เราสอบเสร็จล่ะกำลังจะถึงเวลานัด ตอนนั้น2จิต2ใจ จะไม่อยากไปล่ะ แล้วเขาก็ทักมาพอดีว่ามารอตรงที่นัดแล้ว เอาวะ เดินไปดูก็ได้ และก็เจอกันปุ๊บ แค่ตอนจะทักทายก็งุ่มง่ามแล้ว เพราะไม่รู้ว่าควรจะจับมือหรือกอดเบาๆเหมือนทำกะเพื่อนต่างชาติ เราเลยทำ

2 อย่าง เลยโดนแซวว่าทำ2อย่างเลยหรอ

เขาก็ดูเหมือนในรูปนะ ฝรั่งแนวผมบลอนตาฟ้า ถือว่าตรงปก โอเคใช้ได้ไม่หลอกลวงประชาชน แล้วเราก็พาเดินไปหาของกินที่ตลาด เขาซื้อฮอทดอกกะไวน์ร้อนให้ เราก็ยืนกินกันใกล้กองไฟคลายหนาว คุยเรื่องทั่วๆไป เช่น เรื่องเรียนที่มหาลัย คนไทยกินอะไร แตกต่างกะที่นี่ยังไง บลาๆ เขาก็คุยดี บทสนทนาลื่นไหลตลอด จากนั้นเราชวนไปนั่งดื่มเบียร์ในบาร์เพื่อจะได้เลี้ยงเขากลับ ระหว่างนี้เรารู้สึกว่าเราพูดอยู่คนเดียว คือเราไม่ชอบให้มี dead air เลยพยายามเล่านู่นนี่นั่น (ส่วนนึงคือเบียร์ทำให้พูดมาก) เขาก็นั่งฟังเออออ อย่างน้อยไม่เบื่อที่เราพูด(มั้ง) สรุปว่า 2 ชั่วโมงมานี้ คุยกันเหมือนเพื่อนมากกว่า ไม่เห็นเขามีทีท่าถามเรื่องไรส่วนตัว หรือละลาบละล้วงเลย เขาดูเรียบร้อยและพูดจามีเหตุผล เราก็สบายใจดี เบียร์หมดล่ะ แยกย้าย ...ที่ป้ายรถเมล์ รถเรามาละ ช่วงสั้นๆของการกอดอำลาตามธรรมเนียม มันมีอยู่เพียงแวปนึงที่หน้า2คนจะใกล้กัน จังหวะนั้นคือรู้สึกเหมือนเขาจงใจเอาหน้ามาใกล้เรามากผิดปกติ แต่เราไวกว่า สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง นางสะตั้นไป3วิ เราก็เลยรีบบอกบ๊ายบายย

ขึ้นรถเล้ยยย
แต่เรื่องราวก็ยังไม่จบแค่ความงุ่มง่ามนี้ เพราะครั้งต่อไปเขาขอมาเยี่ยมที่บ้านเราเว่ย

แล้วเดทกะคนแปลกหน้าครั้งแรกของคุณเป็นยังไง?
เดทแรกของคุณกับคนแปลกหน้างุ่มง่ามแค่ไหน
ทีนี้เรามาเรียนต่อที่ยุโรป ได้เกือบ 2 เทอม จนเข้าฤดูหนาวครั้งแรกในชีวิต ช่วงนั้นคนที่นั่นฮิตทินเดอร์ไง เราออกไปไหนไม่ได้เพราะมันโคดหนาวเลยข้างนอก
วันเดทมาถึง นัดเจอกันหน้าสถานีรถไฟ บรรยากาศตอนนั้นคือเทศกาลคริสมาสต์จะมีตลาดขายของตอนเย็น คนเดินขวักไขว่ ไฟประดับนานา ในตัวเมืองดูครึกครื้น เราสอบเสร็จล่ะกำลังจะถึงเวลานัด ตอนนั้น2จิต2ใจ จะไม่อยากไปล่ะ แล้วเขาก็ทักมาพอดีว่ามารอตรงที่นัดแล้ว เอาวะ เดินไปดูก็ได้ และก็เจอกันปุ๊บ แค่ตอนจะทักทายก็งุ่มง่ามแล้ว เพราะไม่รู้ว่าควรจะจับมือหรือกอดเบาๆเหมือนทำกะเพื่อนต่างชาติ เราเลยทำ
แต่เรื่องราวก็ยังไม่จบแค่ความงุ่มง่ามนี้ เพราะครั้งต่อไปเขาขอมาเยี่ยมที่บ้านเราเว่ย