เสนอไอเดีย การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ฯลฯ (ที่ต้นเหตุ) ในระยะยาว พร้อมลดปัญหาการจราจรบนท้องถนนไปด้วย

กระทู้ข่าว
สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน ผมเชื่อว่าทุกวันนี้ หลายคนคงปวดหัวกับปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 กันไม่น้อย ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น


ย้อนไปสัก 5 ปีก่อน ผมได้ดูหนังเรื่อง Interstella ซึ่งเป็นหนังท่องอวกาศ เรื่องโปรดของผม
เนื้อเรื่องหลักๆ คือ โลกมนุษย์ เริ่มอยู่ไม่ได้จากปัญหาพายุฝุ่น ทำให้มนุษย์ ต้องไปตระเวนหาดาว อื่นที่มีสภาพอากาศ และทรัพยากรให้มนุษย์สามารถอยู่ได้    
ดูๆ แล้วก็ คิดว่ามันคงยังไม่เกิดกับยุคของเราในเร็วๆนี้หรอกมั้ง แต่ที่ไหนได้ มันกระทบมาก ผมเดินออกจากบ้านมองฟ้า มันดู อึมครึมขมุกขมัว ซึ่งมันเกิดจากฝุ่น และเราต้องทนอยู่กับมันไปแบบนี้จริงๆ หรอ?


ผมได้เห็นไอเดียการแก้ปัญหาของภาครัฐ ในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสั่งปิดโรงเรียนชั่วคราว, รถฉีดน้ำกลางแยกไฟแดง, และยังมีแผนมาตรการล่าสุด ให้รถวิ่งวันคู่วันคี่, ห้ามขับรถเดินทางคนเดียว ฯลฯ ซึ่งผมต้องขอเรียนตามตรงว่า ดูจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นแหตุ  

และเนื่องจากไลฟ์สไตล์การทำงานของผมที่เป็นออนไลน์เสียส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยได้ออกไปไหนถ้าไม่จำเป็น ยกเว้นที่จะต้องออกไปงานจริงๆ
ทำให้ผมพอมองเห็นมุมมองบางอย่างว่า จริงๆ มันน่าจะมีวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ผมจึงอยากจะเสนอไอเดีย ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้นำไปใช้ปฏิบัติกันได้จริงครับ

ซึ่งผมขอสรุปเป็น 5 ประเด็นจากมุมมองของผม ดังนี้ครับ


1. ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนบริษัทต่างๆ ที่พนักงาน สามารถทำงานเองผ่านหน้าคอม อยู่กับบ้านได้
ช่วยให้ไม่ต้องเดินทางมาทำงาน และอาจช่วยลดโหลดของสภาพการจราจรบนท้องถนน
ยกเว้น จะต้องมีการมาส่งงาน ที่บริษัท หรือ นัดประชุม หรือ ต้องพบปะกับลูกค้าจริงๆ

ในข้อนี้ พนักงานออฟฟิศหากสามารถเคลียร์ทำงานหน้าที่ของตัวเองได้ที่บ้าน จะช่วยลดการใช้ทรัพยากรได้หลายอย่าง
ไม่เสียเวลาเดินทางสามารถนำเวลาไปทำงานได้เต็มที่ หรือ อย่างน้อยก็ได้เวลาพักผ่อนลดความตึงเครียดในการเดินทางลง, ลดค่าใช้จ่าย ในการเดินทาง หรือ ค่าน้ำมัน, ช่วยลดการใช้รถบนท้องถนน (ลดรถติดระดับหนึ่ง) หรือ ความแออัดเบียดเสียดบนรถสาธารณะ
ข้อนี้ หากทางนายจ้างเสียผลประโยชน์ อาจต้องพูดคุยเงื่อนไขกับพนักงาน เช่น กำหนด KPI ในการทำงานแต่ละวันให้ชัดเจน
กำหนด Deadline การส่งงานที่แน่นอน เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานอู้เวลาทำงาน
หรือ อาจจะคุยขอปรับลดเงินเดือน เพื่อแลกกับการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลง ตามจริง


2. อยากให้ภาคเอกชนทั้งหลายสนับสนุนในเรื่องของการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ ให้มากขึ้น
เนื่องจาก บริษัทหลายบริษัท ยังคงยึดรูปแบบการวางบิล รับเช็ค ส่งเอกสาร
ทำให้ต้องมีพนักงานวิ่งส่งเอกสาร หรือ Messenger คอยวิ่งตลอด บางบริษัทมีมากกว่า 1 ซึ่งก็ต้องใช้รถมอเตอร์ไซค์อย่างน้อย 1 คันไปแล้ว

ในยุค 4.0 เช่นนี้ เห็นได้ว่าหลายแบงค์ เริ่มปิดสาขาลงไปมากพอควร เพราะ พยายามดันในเรื่องของระบบการทำธุรกรรมออนไลน์
ซึ่งปัจจุบันมีเสถียรภาพมากขึ้น การทำจ่ายโดยการตัดบัญชี หรือ โอน จะช่วยในด้านของความสะดวกรวดเร็วขึ้น
ป้องกันกรณีพิมพ์ชื่อเช็คผิด, เชึคเด้ง, ลายเซ็นต์ไม่ตรง หรือ พนักงานทำเช็คหล่นหาย อีกด้วย


ในเรื่องของการทำธุรกรรมออนไลน์ นี้ผมยังอยากให้ต่อยอดไปถึงการรลดการใช้เงินสดแบบ Cashless ตัวอย่างในประเทศจีน ที่ใช้ QR Code ในการจ่ายเงินไม่ว่าร้านอาหารขนาดเล็ก ใหญ่ หรือ การซื้อของข้างทาง ก็ใช้ยิง QR Code


ข้อดีอีกต่อไป คือ คนไม่ต้องพกเงินสด ลดมิจฉาชีพ ที่ชอบใช้แบงค์ปลอมทำธุรกรรม รวมไปถึงการปล้นจี้เพื่อหวังเอาเงินสด
นอกจากนี้ ยังสามารถเช็คย้อนหลังได้อีกด้วย ถึงที่มาที่ไปของเงิน บางร้านจ้างพนักงานขายสินค้า แต่ทำไมเงินขายของในแต่ละวันกลับได้น้อย
ผมเชื่อว่าจะต้องมีเคยเจอ เรื่องความไม่โปร่งใสของพนักงานจ้าง


3. ภาครัฐควรร่วมมือกับค่ายรถ และไฟแนนซ์ ออกแคมเปญสนับสนุนให้ผู้ที่ใช้รถเก่า ที่ปล่อยไอเสีย ควันดำ ควันขาว (รถมอไซค์ 2T, รถเครื่องยนต์ดีเซลเก่าๆ) สามารถนำรถเหล่านั้นมา Turn เปลี่ยนเป็นรถใหม่ ซึ่งควรมีการสนับสนุนในเรื่องของ โปรโมชั่น ในการออกรถ ราคาที่พอจะกระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจ เปลี่ยนมาใช้รถใหม่ได้ เหมือนอย่างที่เคยทำกับ แคมเปญรถยนต์คันแรก


4. ไม่สนับสนุนให้รถติดเครื่องยนต์จอดทิ้งไว้นานๆ อย่างที่เราทราบกันดีว่า สาเหตุหลักสำคัญถึง 52% ของการเกิดฝุ่น PM 2.5 เกิดจากไอเสียดีเซลที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ (จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรม)

ซึ่งเราจะพบเจอได้บ่อยมาก กับพวกรถตู้ รถกระบะ ที่มักชอบจอดติดเครื่องเอาไว้ ดังนั้นต้องขอความร่วมมือ หรือ อาจต้องมีมาตรการในการปรับ
หากติดเครื่องที่ในที่สาธารณะ


5. ลดภาษีในเรื่องของการนำเข้ารถไฟฟ้า (EV) ลง และ สนับสนุนในเรื่องของการลงทุนในการผลิตรถยนต์ EV ในบ้านเรา รวมถึง Plug in Hybrid
เพราะ อย่างที่ทราบกันดีว่าภาษีรถไฟฟ้า ในบ้านเราแพงมาก รถ Nissan Leaf เปิดราคา 1.99 ล้าน ไม่แปลกใจที่รถไฟฟ้าในบ้านเราจะเกิดยาก ถ้ายังมีการกีดกันมาตรการทางภาษี เหล่านี้อยู่

สุดท้ายนี้ ถ้าเพื่อนๆ มีไอเดียหรือความคิดเห็นเพิ่มเติมก็คอมเม้นท์แชร์กันได้ครับ
และสำหรับเพื่อนๆ ที่เห็นด้วยกับไอเดียผม ขอรบกวนฝากแชร์กระจายไอเดียนี้ เพื่อเป็นกระบอกเสียงในการผลักดันให้เกิดการกระตุ้นแนวทางแก้ไขปัญหา ในอนาคตของประเทศเราในยุค 4.0 นี้กันครับ ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่