แฟนหาว่าเราไปเกาะเขากิน

อาจจะยาวนิดนึงนะครับ  เรื่องมีอยู่ว่าจขกท. กับแฟนคบกันมา 11 ปี  มีปัญหาเรื่องการใช้เงิน ซึ่งเพิ่งมามีตอนปีที่ 10 – 11 นี้
เราตกลงกันว่าจะใช้เงินร่วมกัน ใครหาได้เท่าไหร่ก็เอามารวมกัน หักค่าใช้จ่ายประจำเดือนและที่เหลือก็ใช้จ่ายตามความจำเป็นโดยการใช้จ่ายบางอย่างที่สูงมาก ๆ จะต้องขออนุญาตอีกฝ่ายก่อน ซึ่งเรามีเป้าหมายจะเก็บเงินเพื่อซื้อตึกใหม่สำหรับทำธุรกิจ
    เราทั้งคู่รับราชการได้เงินเดือนเท่ากัน แต่แฟนมีงานธุรกิจส่วนตัวทำ ซึ่งเราทั้ง 2 คนสามารถทำธุรกิจนี้ได้ทั้งคู่ แต่เลือกทำเพียงคนเดียวเนื่องจากอีกคนจะให้ดูแลงานบ้านทั้งหมด โดยจะมีรายได้เพิ่มมาจากธุรกิจนี้ประมาณเดือนละ 4 – 5 หมื่นบาท จขกท. ซึ่งทำงานประจำอย่างเดียวเลยแลกเปลี่ยนโดยทำงานบ้านทั้งหมด แฟนไม่ต้องทำเลยทำงานประจำ กับธุรกิจเท่านั้น โดยแฟนมีภาระค่าใช้จ่ายประจำคือ ผ่อนชำระหนี้ให้พ่อแม่เดือนละประมาณ 2,000 บาท  และให้เงินพ่อแม่อีก 3,000 บาท ส่วนจขกท. ไม่มีภาระที่ต้องส่งให้ทางบ้าน ซึ่งเงินเดือนของจขกท. ใช้ยื่นกู้เพื่อนำเงินมาทำธุรกิจ และต้องผ่อนร่วมกันเดือนละ 17,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านก็จะใช้เงินที่ได้จากที่แฟนทำธุรกิจ
    ปัญหาเริ่มต้นประมาณปลายๆ ปี 61 จากแฟนขอเพิ่มเงินให้พ่อกับแม่ ซึ่งเดิมเคยให้เดือนละ 5 พัน แต่ลดเหลือ 3 พัน เนื่องจาก 2 พันนำไปผ่อนชำระหนี้ เราก็ยินยอมแต่ขอให้ผ่านช่วงเดือนมีนาคม นี้ไปก่อนเพราะช่วงนี้มีค่าใช้จ่ายเยอะ แต่แฟนไม่พอใจทะเลาะกันและบอกว่าเขาหาเงินได้มากกว่าเขาจะให้พ่อแม่ บอกว่าจขกท.ไม่มีสิทธิ์
    หลังจากนั้นแฟนนำเงินเข้ากองกลางน้อยลงจากทุก ๆ เดือนที่จขกท. ต้องเป็นคนนำไปฝาก จขกท. สงสัยถามไปก็ทะเลาะกันอีก บอกว่าธุรกิจกำไรน้อยลง โน่น นี่ นั่น แต่มีอยู่วันนึงจขกท. เอาโทรศัพท์แฟนมาเล่น เปิดไปเจอแอพโมบายแบงค์กิ้ง แอพหนึ่งจึงเปิดเข้าดูแต่ไม่สามารถเข้าไปดูได้เพราะติดรหัส จึงสอบถามแฟนก็ไม่ยอมบอก แฟนบอกโหลดมาเฉยๆ ไม่ได้ใช้ ก็ทะเลาะกันแฟนก็ไม่ยอมรับ แต่ในใจจขกท. คิดว่าแฟนต้องแอบเก็บเงินในบัญชีตัวเองโดยไม่บอกจขกท. แน่นอน ในใจก็รู้สึกว่าเสียใจที่แฟนทำแบบนี้เพราะตั้งแต่คบกันมา 10 ปีเราบอกกันในทุก ๆ เรื่อง ไม่เคยปิดบังอะไรกันเลย มีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด ในวันที่พ่อแม่แฟนลำบาก จขกท. ก็เคยหยิบยื่นเงินให้ในหลายๆ ครั้ง หรือในเวลาที่จขกท. ลำบากแฟนก็จะช่วยกันมาตลอด
    จุดแตกหักมันเริ่มจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแฟนขอให้พ่อแม่มาอยู่ที่บ้านด้วย ทั้งที่ตอนคบกันแรก ๆ แฟนเป็นคนเสนอให้เราแยกออกมาเพื่อตัดปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมา เราก็เห็นใจเนื่องจากก่อนหน้านี้พ่อแม่แฟนไปอาศัยอยู่บ้านของแฟนพี่สาว และเกิดมีปัญหาทะเลาะกัน เลยต้องหาที่อยู่ใหม่ จขกท. เสนอให้พ่อแม่ไปอยู่บ้านของยายของแฟน ซึ่งเป็นบ้านที่พ่อแม่แฟนเคยอาศัยมาในอดีต แต่ก็ไม่ยอมเนื่องจากพ่อแม่แฟนไม่สามารถอยู่ร่วมกับญาติๆ ในบ้านนั้นได้ เพราะทะเลาะกันบ่อยครั้ง  จขกท. จึงตัดสินใจแบบกึ่งรับกึ่งสู้ว่าให้มาได้ จขกท. เลยถือโอกาสบอกว่าแลกกับการบอกได้ไหมว่าเงินที่แอบเก็บมีเท่าไหร่และเอาไปทำอะไรบ้าง แฟนเลยยอมเปิดให้ดู ในนั้นมีเงิน 9 พันบาท จขกท. ก็ดีใจที่ยอมบอก
    ผ่านมาเมื่อคืนนี้จขกท. เอาโทรศัพท์แฟนมาเปิดแอพโมบายแบงค์กิ้ง และเปิดดูรายการเคลื่อนไหวแต่ละเดือน ปรากฏว่าพบว่ามีการโอนเงิน 36,000 บาทให้พ่อของแฟน และในทุก ๆ เดือนตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงปัจจุบันมีการโอนให้พ่อประมาณ เดือนละ 2 – 3 พันในทุก ๆ เดือน จขกท. จึงถามแฟนว่า ก้อน 36,000  โอนเป็นค่าอะไร คำตอบคือโอนไปให้พ่อไปเอาทองที่จำนำไว้ออก ซึ่งทองเป็นของขวัญวันรับปริญญาของแฟน และจากนั้นก็ทะเลาะกัน จขกท. พูดถึงสิ่งที่เราเคยพูดไว้ว่าเราจะต้องบอกกัน แฟนอ้างว่า จขกท. เห็นแก่ตัว บอกไปก็ไม่ให้ เลยต้องทำแบบนี้ แต่ความจริง ทุก ๆ ครั้งที่ครอบครัวแฟนมีปัญหา จขกท. ยินดีให้ช่วยเหลือทุกครั้ง ก่อนหน้านี้พ่อแม่แฟนไปกู้เงินเป็นจำนวน 4 แสนกว่าบาท จขกท. ก็ไปหาเงินมาให้ใช้หนี้ก้อนนี้ให้พ่อแม่แฟน และช่วยกันผ่อนจนเกือบจะหมดแล้ว จากนั้นเราก็ไม่คุยกัน จขกท. ไม่เคยโกรธแฟนนานขนาดนี้ ปกติจะต้องง้อก่อนข้ามคืน แต่ครั้งนี้จขกท. เสียใจที่แฟนคิดว่าจขกท. จ้องจะไปเกาะเอาเงินของเขา เพราะเขาหาได้มากกว่า เขาจะทำอะไรก็ได้
    จขกท. อยากจะปรึกษาว่าจขกท. ควรจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดี รบกวนทุกท่านด้วยนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่