#ดอยขุนแม่ยะ 2,020ม. 19-20มค.62
เป็นทริปคาร์แคมป์ รถถึง กางเต๊นท์นอนชิลๆ ทามกลางดอกนางพญาเสือโคร่ง สีชมพู
#คลิปvdo บรรยากาศดอกนางพญาเสือโคร่ง
https://youtu.be/1usOx0m3e40
#คลิปvdo ช่วงไปดอยขุนแม่ยะ
https://youtu.be/V-OmEyrA3-Q
เนื่องจากทริปนี้ เป็นทริปที่ล๊อกวันเดินทางไว้ล่วงหน้า ซึ่งปกติช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่ ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานมากในช่วงนี้ของทุกปี แต่ปีนี้จังหวะไม่ดี ดอกนางพญาเสือโคร่ง บานล่าช้า ทำให้เราได้ยลโฉมเพียง15% ส่วนที่เหลือน่าจะบานตามหลังอีก15-20วัน คงจะเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
จัดแจงหาทำเลกางเต๊นท์ ที่นี้มีพื้นที่กว้างขวาง สามารถกางเต๊นท์ได้อย่างสบาย ที่สำคัญมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ไว้ให้ด้วย หลังจากนั้นก็พักกินมื้อเที่ยงกันก่อน แล้วจึงไป ดอยขุนแม่ยะ
ส่วนการขึ้นไป ดอยขุนแม่ยะ ที่มีความสูงราว 2,020ม. ซึ่งห่างจากจุดที่เราพักแคมป์ ความสูงราว 1,485ม. ไปอีกราว4-5km.
พี่น้อย บอกว่าทางไป ดอยขุนแม่ยะ เดินง่าย ทางชัด เดิน2ชม. พี่น้อยเคยขึ้นมาแล้ว เมื่อ5ปีที่แล้ว หลังจากมื้อเที่ยง ราวบ่ายโมง พี่น้อยก็พาไปยังจุดขึ้น โดยมี กุ้งDanet เป็นผู้นำขึ้น โดยมี ปีใหม่,พี่จรูญศรี,อ้น,ดิ๋ม,ผม เป็นผู้ติดตาม ส่วนพี่น้อย,พี่อ๊อด,พี่ตู่,นุ้ย รอที่แคมป์ ไม่ได้ขึ้นไปด้วย
ด้วยความเข้าใจว่า ทางเดินชัดเดินง่าย เลยใส่แค่รองเท้าแตะ พอมาถึงจุดที่จะเดินขึ้น พี่น้อยบอก ”ดันขึ้นไปตรงนี้แหละ” อ้าวเห้ย!!!..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี้ว่า...
เริ่มต้นก็ชันเลย แถมร่องทางเดินก็ไม่ค่อยชัด ก็ดันกันขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อไปหาสันเชื่อม
ช่วงแรกทางยังไม่รกมาก พอมีไลน์ทางเก่าให้เห็นบาง แต่เดินไปสักพักไลน์เดินก็จะหาย แทบไม่มีให้เห็น เรียกว่าต้องเปิดทางใหม่กันเลย แต่ยังดี ที่กุ้งพกมีดมาด้วย ไม่งั่นคงลำบาก เท่าที่ทราบ ดอยขุนแม่ยะ พี่น้อยขึ้นมาล่าสุด น่าจะ5-6ปีที่แล้วได้ หลังจากนั้นก็ไม่น่าจะมีใครขึ้นมาเท่าไร
เดินขึ้นมาได้สักพัก ก็เห็นวิวเปิด ที่สามารถมองเห็น ดอยช้าง กับ ฝั่งห้วยน้ำดัง
บางช่วงก็จะเป็นที่โล่งๆเดินง่าย จนเดินมาได้ราว2km.กว่า ที่ความสูงราว 1,880ม. ก็จะเห็นต้นเมเปิ้ลอยู่ไม่มาก ใบยังไม่ออกแดงเท่าไร
สังเกตุระหว่างทางมีร่องรอย กองไฟอยู่เป็นระยะๆ แสดงว่าน่าจะมีคนขึ้นมา เพราะ ระหว่างทางเราก็เจอวัว3ตัว เดินหากินอยู่แถวๆนี้
ยอดฝั่งขวามือ ตือ ดอยขุนแม่ยะ
หลังจากจุดนี้ เดินมาสักพักก็เจอ จุดชมวิวอีกจุด ที่สามารถมองเห็น ยอดดอยขุนแม่ยะ อยู่ไม่ไกลเท่าไร แต่จากจุดนี้ไป ทางค่อนข้างรกมากขึ้น ตอนนั้นยังพอมีเวลา เลยดันกันต่อ แต่ยิ่งเดิน ทางยิ่งรกมากขึ้น ไหนจะเจอใบช้างร้อง หนามไข่ปูอีก ที่เจอมาตลอดทาง
สภาพทาง ค่อนๆข้างรก
จนเวลาร่วงเลยมา ราวใกล้จะ4โมงเย็น ซึ่งตอนนี้ เราเดินมาได้ ราว3.4km. ที่ความสูงราว1,936ม. ซึ่งระยะทางน่าจะเหลืออีกไม่ไกล ราว1km. กับเส้นทางที่รกพอสมควร พวกเราจึงลงมติกันว่า ไม่ไปต่อดีกว่า เพราะสาเหตุสำคัญ คือ ไม่มีใครพกไฟฉายมากันเลย
หากเราดันไปถึง ยอดดอยขุนแม่ยะ ได้ก็ต้องใช้เวลาอีกราว1ชั่วโมง เพราะไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะรกแค่ไหน รวมถึงต้องใช้เวลาเดินกลับไปแคมป์อีกราว2ชั่วโมง เราจะเดินลงกันลำบากมาก เพราะ ไม่มีไฟฉาย อีกอย่างช่วงนี้ แค่5:30 ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว พวกเราจึงเน้นความปลอดภัยไว้ก่อน
ขากลับเดินสบายขึ้นหน่อย เพราะ พยายามเดินกลับร่องทางเดินที่มา แต่มีบางช่วงที่เปิดทางใหม่อีกนิดหน่อย กว่าจะถึงแคมป์กันก็ 6โมงเย็น ระยะทางรวมเดินไปกลับ ราว7.5km.
แล้วกลับมากินมื้อค่ำ ซึ่งพี่น้อย ก็เตรียมไว้เรียบร้อย คืนนี้อุณหภูมิ ราว14องศา นอนเย็นๆแบบสบายๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็เดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆที่พักอีกครั้ง ก่อนจะเก็บของแล้วเดินทางกลับกทม.
ไว้โอกาสหน้าค่อยกลับมาแก้มือใหม่ กับ #ดอกพญาเสือโคร่ง ที่มาไม่ได้จังหวะ รวมถึง #ดอยขุนแม่ยะ ที่ยังไม่รู้ว่าด้านบน วิวจะเป็นยังไง
สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่
หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ 053-217453
สามารถติดตามเรื่องราวการเดินทาง ของเราได้ที่
https://m.facebook.com/storytripper.hd/
##########
ดอกนางพญาเสือโคร่ง ดอยขุนแม่ยะ อ.ปาย จ.แม่ฮองสอน (ดอกซากุระ เมืองไทย)
#ดอยขุนแม่ยะ 2,020ม. 19-20มค.62
เป็นทริปคาร์แคมป์ รถถึง กางเต๊นท์นอนชิลๆ ทามกลางดอกนางพญาเสือโคร่ง สีชมพู
#คลิปvdo บรรยากาศดอกนางพญาเสือโคร่ง
https://youtu.be/1usOx0m3e40
#คลิปvdo ช่วงไปดอยขุนแม่ยะ
https://youtu.be/V-OmEyrA3-Q
เนื่องจากทริปนี้ เป็นทริปที่ล๊อกวันเดินทางไว้ล่วงหน้า ซึ่งปกติช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่ ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานมากในช่วงนี้ของทุกปี แต่ปีนี้จังหวะไม่ดี ดอกนางพญาเสือโคร่ง บานล่าช้า ทำให้เราได้ยลโฉมเพียง15% ส่วนที่เหลือน่าจะบานตามหลังอีก15-20วัน คงจะเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
จัดแจงหาทำเลกางเต๊นท์ ที่นี้มีพื้นที่กว้างขวาง สามารถกางเต๊นท์ได้อย่างสบาย ที่สำคัญมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ไว้ให้ด้วย หลังจากนั้นก็พักกินมื้อเที่ยงกันก่อน แล้วจึงไป ดอยขุนแม่ยะ
ส่วนการขึ้นไป ดอยขุนแม่ยะ ที่มีความสูงราว 2,020ม. ซึ่งห่างจากจุดที่เราพักแคมป์ ความสูงราว 1,485ม. ไปอีกราว4-5km.
พี่น้อย บอกว่าทางไป ดอยขุนแม่ยะ เดินง่าย ทางชัด เดิน2ชม. พี่น้อยเคยขึ้นมาแล้ว เมื่อ5ปีที่แล้ว หลังจากมื้อเที่ยง ราวบ่ายโมง พี่น้อยก็พาไปยังจุดขึ้น โดยมี กุ้งDanet เป็นผู้นำขึ้น โดยมี ปีใหม่,พี่จรูญศรี,อ้น,ดิ๋ม,ผม เป็นผู้ติดตาม ส่วนพี่น้อย,พี่อ๊อด,พี่ตู่,นุ้ย รอที่แคมป์ ไม่ได้ขึ้นไปด้วย
ด้วยความเข้าใจว่า ทางเดินชัดเดินง่าย เลยใส่แค่รองเท้าแตะ พอมาถึงจุดที่จะเดินขึ้น พี่น้อยบอก ”ดันขึ้นไปตรงนี้แหละ” อ้าวเห้ย!!!..ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี้ว่า...
เริ่มต้นก็ชันเลย แถมร่องทางเดินก็ไม่ค่อยชัด ก็ดันกันขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อไปหาสันเชื่อม
ช่วงแรกทางยังไม่รกมาก พอมีไลน์ทางเก่าให้เห็นบาง แต่เดินไปสักพักไลน์เดินก็จะหาย แทบไม่มีให้เห็น เรียกว่าต้องเปิดทางใหม่กันเลย แต่ยังดี ที่กุ้งพกมีดมาด้วย ไม่งั่นคงลำบาก เท่าที่ทราบ ดอยขุนแม่ยะ พี่น้อยขึ้นมาล่าสุด น่าจะ5-6ปีที่แล้วได้ หลังจากนั้นก็ไม่น่าจะมีใครขึ้นมาเท่าไร
เดินขึ้นมาได้สักพัก ก็เห็นวิวเปิด ที่สามารถมองเห็น ดอยช้าง กับ ฝั่งห้วยน้ำดัง
บางช่วงก็จะเป็นที่โล่งๆเดินง่าย จนเดินมาได้ราว2km.กว่า ที่ความสูงราว 1,880ม. ก็จะเห็นต้นเมเปิ้ลอยู่ไม่มาก ใบยังไม่ออกแดงเท่าไร
สังเกตุระหว่างทางมีร่องรอย กองไฟอยู่เป็นระยะๆ แสดงว่าน่าจะมีคนขึ้นมา เพราะ ระหว่างทางเราก็เจอวัว3ตัว เดินหากินอยู่แถวๆนี้
ยอดฝั่งขวามือ ตือ ดอยขุนแม่ยะ
หลังจากจุดนี้ เดินมาสักพักก็เจอ จุดชมวิวอีกจุด ที่สามารถมองเห็น ยอดดอยขุนแม่ยะ อยู่ไม่ไกลเท่าไร แต่จากจุดนี้ไป ทางค่อนข้างรกมากขึ้น ตอนนั้นยังพอมีเวลา เลยดันกันต่อ แต่ยิ่งเดิน ทางยิ่งรกมากขึ้น ไหนจะเจอใบช้างร้อง หนามไข่ปูอีก ที่เจอมาตลอดทาง
สภาพทาง ค่อนๆข้างรก
จนเวลาร่วงเลยมา ราวใกล้จะ4โมงเย็น ซึ่งตอนนี้ เราเดินมาได้ ราว3.4km. ที่ความสูงราว1,936ม. ซึ่งระยะทางน่าจะเหลืออีกไม่ไกล ราว1km. กับเส้นทางที่รกพอสมควร พวกเราจึงลงมติกันว่า ไม่ไปต่อดีกว่า เพราะสาเหตุสำคัญ คือ ไม่มีใครพกไฟฉายมากันเลย
หากเราดันไปถึง ยอดดอยขุนแม่ยะ ได้ก็ต้องใช้เวลาอีกราว1ชั่วโมง เพราะไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะรกแค่ไหน รวมถึงต้องใช้เวลาเดินกลับไปแคมป์อีกราว2ชั่วโมง เราจะเดินลงกันลำบากมาก เพราะ ไม่มีไฟฉาย อีกอย่างช่วงนี้ แค่5:30 ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว พวกเราจึงเน้นความปลอดภัยไว้ก่อน
ขากลับเดินสบายขึ้นหน่อย เพราะ พยายามเดินกลับร่องทางเดินที่มา แต่มีบางช่วงที่เปิดทางใหม่อีกนิดหน่อย กว่าจะถึงแคมป์กันก็ 6โมงเย็น ระยะทางรวมเดินไปกลับ ราว7.5km.
แล้วกลับมากินมื้อค่ำ ซึ่งพี่น้อย ก็เตรียมไว้เรียบร้อย คืนนี้อุณหภูมิ ราว14องศา นอนเย็นๆแบบสบายๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็เดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆที่พักอีกครั้ง ก่อนจะเก็บของแล้วเดินทางกลับกทม.
ไว้โอกาสหน้าค่อยกลับมาแก้มือใหม่ กับ #ดอกพญาเสือโคร่ง ที่มาไม่ได้จังหวะ รวมถึง #ดอยขุนแม่ยะ ที่ยังไม่รู้ว่าด้านบน วิวจะเป็นยังไง
สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่
หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ 053-217453
สามารถติดตามเรื่องราวการเดินทาง ของเราได้ที่
https://m.facebook.com/storytripper.hd/
##########