ช่วงชีวิตวัยรุ่นในสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยมีใครเคยเป็นแบบผมบ้างมั้ยครับเกิดความรักบ้าๆบอๆกับคนที่โทรผิดมาเพียงครั้งเดียว(เบอร์เพิ่งเปิดใหม่)
หลังจากนั้นก็โทรหากันทุกวันคุยกันจนก่อเกิดเป็นความรัก ความผูกพันธุ์ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าบ้านอยู่ที่ไหน เรียนอยู่ที่ไหน
ถ้าจะเล่าแบบรายละเอียดทั้งหมดมันยาวกว่าจะพิมพ์หมดคงใช้เวลานานับ 3-4 ชั่วโมงแต่จะพยายามพิมพ์รายละเอียดให้หมดเลยครับ ถึงจะผ่านมานานมากแต่เรื่องราวทุกอย่างยังคงจดจำฝังลึกในสมองเกินจะลืมเลือนได้ครับส่วนนึงอาจเป็นเพราะว่าที่คือประสบการณ์พิเศษที่มักจะไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก
...ประมาณช่วงเย็นหลังจากทั้งเบื่อทั้งเหนื่อยจากการเรียนกลับถึงห้องก็นอนลอกคราบนอนพักบนเตียงเพื่อรอเวลาออกไปตระเวนหาของกินยัดกระเพราะ
ตุนไว้เพื่อที่จะทำการบ้าน(ที่เยอะมว๊ากกกกกองสุมไว้บนโต๊ะพร้อมจะล้มมาทับได้ทุกเมื่อ)นอนได้สักพักเหมือนเคลิ้มจะหลับก็มีเสียงสายเข้าเพียงหยิบมาดูก็
เอะใจแล้วครับ"อีกแล้วหรอหว่ะ"เพราะช่วงที่เพิ่งเปิดเบอร์ใหม่มามีคนโทรผิดบ่อยมากบ่อยจนรำคาญยังบ่นเจ้าของเดิมเลยครับว่าจะไปรู้จักเพื่อนที่ไหน
เยอะแยะขนาดนั้น ตัดใจรับสายด้วยความรำคาญอย่างนั้นเลยครับ
"ฮัลโหล...สวัสดีคร่ะพี่เอ็ม(ขอใช้นาสมมตินะครับ)จำหนูได้มั้ยไม่ได้คุยกันานเลยนะ"ไรหว้าตรูยังไม่ทันพูดเลยใส่มาก่อนหล่ะ
"เอ่ออออ....ไม่ใช่ครับพอดีเบอร์นี้เพิ่งเปิดใหม่สงสัยน้องโทรผิดแล้วครับ"ตัดบทง่ายๆขี้เกียจคุยต่อ
"เพื่อนพี่เอ็มรับสายหรอ...แกล้งหนูหรอให้หนูคุยกับพี่เอ็มเดี๋ยวนี้เลยนะ"เอ๊าอิบร้านี่ตรูจะโกหกทำบ้าไรฟร่ะ
"น้องครับพี่ไม่ได้ล้อเล่นนะพี่ชื่อฟ้า(นามสมมติอีกอ่ะหล่ะ)พี่เพิ่งเปิดเบอร์นี้มาไม่นานนี้เองสงสัยพี่ของน้องเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วครับตอนนี้พี่อยู่กทม.และกำลังนอนอยู่น้องมารบกวนพี่เข้าใจมั้ยครับ"เสียงแข็งแล้วนะ
"อ่อคร่ะ...ขอโทษด้วยนะคร่ะสงสัยจะโทรผิดจริงๆ"น้ำเสียงอ่อยๆจากนั้นก็วางสายไป
หลังจากวางสายมองดูนาฬิกาชิบหล่ะยังไม่ทันนอนหลับเลยใกล้ได้เวลาไปหาของกินหล่ะ ลุกมาบิดขี้เกียจสักทีสองทีก็ไปใส่เสื้อผ้าเตรียมออกไปข้างนอก
เสียงมือถือดังอีกหล่ะใครอีกหล่ะเนี่ยโทรบ่อยจังหยิบมือถือมาดู ตะลึ้ง ตะลึงเบอร์เดิมไอ้เบอร์ที่เพิ่งวางเมื่อกี้นี้เองไรของมันหว้าทำตรูอดนอนยังกล้าโทรมาอีกรอบหรอ กดรับสายแล้วสวนทันควันเลย
"น้องครับพี่ไม่สนุกนะ พี่บอกแล้วว่าพี่ไม่ได้ชื่อเอ็มแล้วพี่ก็ไม่รู้จักพี่เอ็มไรของน้องด้วยจะโทรมาอีกทำไมครับ"ตรูโมโหจริงๆแล้วนะ
"พี่คร่ะอย่าเพิ่งโกรธหนูนะ หนูไม่ได้อยากคุยกับพี่เอ็มแล้วแต่หนูเอ่ออออ....เอ่ออ...หนูอยากคุยกับพี่อ่าได้มั้ยคร่ะเสียงพี่มันเหน่ออน่าฟังดีหนูชอบ"
(นึกภาพคนสวนมาเรียน กทม.ครับเสียงมันก็จะแปลกกว่าชาวกรุงสักหน่อย) อึ้ง+งงดิครับปรับอารมณ์ไม่ถูกมันมาไม้ไหนของมันน้อวววยังไม่ทันตอบเลยมาอีกชุดหล่ะ
"พี่ พี่ พี่คร่ะยังอยู่มั้ยไม่ตอบหนูเลย งั้นถ้าหนูจะขอโทรหาพี่แบบนี้ทุกวันจะได้มั้ยอ่าหนูชอบเสียงพี่ฟังแล้วแปลกหูดี ถ้าแฟนพี่ไม่ว่านะ...เออใช่ลืมถามว่าแต่พี่มีแฟนยังเอ่ยยย"
"ยังครับ ยังไม่มีหรอกแค่ตามจีบรุ่นพี่ในคณะอยู่ คุยๆได้ 2-3 วันแล้ว"เอ๊า!!!แล้วตรูจะไปบอกมันทำไมหว้าแค่บอกไม่มีก็จบแล้วนี่
"อ่อหรอ....อิอิ งั้นดีเลยเดี๋ยวหนูไปกินข้าวก่อนนร้าแล้วหนูขอโทรมาหาพี่อีกรอบนะ"ยังงงกับคำตอบมะกี้อยู่เลยมาขอไรอีกเนี่ย
"แล้วแต่น้องงงงเลยครับพี่ก็กำลังจะออกไปกินข้าวเหมือนกันเสร็จแล้วจะได้มารีบทำการบ้าน เสียเวลาคุยกับน้องก็นานแล้วเนี่ยหิวจนท้องร้องหล่ะ"
ไม่รู้นะว่าใช้คำพูดแรงไปหรือป่าว พอวางสายก็ไม่ได้คิดไรมากมายเดินออกจากหอไปหาข้าวกิน พอกินข้าวเสร็จขากลับแวะ 7-11 หาของกินตุนไว้ตอนดึกอีกเผื่อทำการบ้านแล้วเกิดหิวขึ้นมาอีกพอซื้อครบก็เดินกลับห้องเลย ถึงห้องจัดการเก็บข้าวของให้เข้าที่เข้าทางแล้วลงมือทำการบ้าน
20.00 น.อาจกว่าสักเล็กน้อย
...กำลังปั่นการบ้านเพลินเสียงมือถือดังอีกหล่ะ แล้วไม่ใช่ใครที่ไหนเลยเจ้าเดิมเบอร์เดิมโทรมาอีกแล้วจร้า เห้ยมันโทรจริงๆหรือหว่ะเนี่ยนึกว่าพูดเล่นขำๆ
"พี่คร่ะทำไรอยู่ รอบนี้หนูโทรมากวนพี่อีกหรือป่าวหนูอยากจะโทรหาพี่ตอนทุ่มครึ่งด้วยซ้ำกลัวแต่พี่จะว่าเปิดปิดโทรออกเป็นว่าเล่นเลย"
เสียงใสมาเชียวยังไม่ทันได้พูดตอบสักคำ
"ก็อยากบอกว่าไม่กวนเวลาอยู่หรอกนะแต่พี่ทำการบ้านอยู่ อ่าแต่ให้เวลาคุยได้แปปนึงครับถือว่าเป็นการพักไปในตัว"เสียงนุ่มกว่าตอนแรกเยอะเลย
"จริงหรอคร่ะพี่ พี่น่ารักจังเลย ก็ไม่รู้นะแต่ทำไมเวลาหนูฟังเสียงพี่แล้วหนูรู้สึกชอบอ่า ไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนเลย"
"หนูชื่อ ตุ๊กตานะ (ก็สมมติตามเคย) อายุ 16 คร่ะเรียนที่โรงเรียน....ขอสงวนไว้...ในจังหวัดนครนายก พี่อ่าเรียนที่ไหนหรอ"
"พี่ชื่อฟ้าครับอายู 20 เรียนบัญชีที่...ก็สงวนไว้อีกนั่นหล่ะ..."
หลังจากแนะนำตัวต่อกันเสร็จเรียบร้อยก็คุยกันสัพเพเหระมีสาระบ้างไม่มีบ้างจำไม่ได้แล้วครับว่าคุยไรกันบ้าง แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือทีแรกว่าคุยแปปเดียวตอนจะวางสายปาเข้าไป 21.00 กว่าๆ ใฃ่เลยครับคุยบ้าๆบอกับคนที่ไม่รู้จักไปได้ยังไงเป็นชั่วโมงบ้าบอไปใหญ่แล้ว!!! จำได้เพียงก่อนจะวางสายน้องถามว่า
"พี่คร่ะพรุ่งนี้หนูขอโทรหาพี่อีกนะ แต่กลางวันหนูโทรไปไม่ได้อ่าอาจารย์ห้ามเอามือถือไปโรงเรียน งั้นตอนเย็นๆหนูจะโทรไปอีกพี่ว่างตอนไหนหรอ"
"แล้วแต่น้องเลยครับ จะโทรตอนไหนก็โทรเลยครับว่างก็รับ ไม่รับคือไม่ว่าง"
"พี่นี่เป็นอะไรกับคำว่าแล้วแต่นักหนาฮะ...อะไรก็แล้วแต่ แล้วแต่"
มันล้อเลียนมาด้วยน้ำเสียงของเราแล้วมันก็วางสายหนีไปเฉยเลย ไม่รู้ว่าจะโกรธหรือจำขำดีแต่ยังไม่จบนะยังมี sms ตบท้ายอีกว่า
"หลับฝันดีนะคร่ะไอ่พี่บ้า ฝันถึงหนูบ้างนร้า...ไอ่หมาาาาาา"ดูมันทำ แต่ก็แปลกดีเนอะว่ามั้ยครับที่คนเราคุยกันเพียงวันแรกจะสนิทสนมกันได้ถึงเพียงนี้
**นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความรักและความผูกพันธุ์ที่แสนจะวุ่นวายและจบด้วยความหักมุมในเวลาเพียงปีกว่าๆเท่านั้น
***ไว้มีเวลาว่างจะมาต่อให้จบนะครับ
เคยกันมั้ยครับมีความรักกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หลังจากนั้นก็โทรหากันทุกวันคุยกันจนก่อเกิดเป็นความรัก ความผูกพันธุ์ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าบ้านอยู่ที่ไหน เรียนอยู่ที่ไหน
ถ้าจะเล่าแบบรายละเอียดทั้งหมดมันยาวกว่าจะพิมพ์หมดคงใช้เวลานานับ 3-4 ชั่วโมงแต่จะพยายามพิมพ์รายละเอียดให้หมดเลยครับ ถึงจะผ่านมานานมากแต่เรื่องราวทุกอย่างยังคงจดจำฝังลึกในสมองเกินจะลืมเลือนได้ครับส่วนนึงอาจเป็นเพราะว่าที่คือประสบการณ์พิเศษที่มักจะไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก
...ประมาณช่วงเย็นหลังจากทั้งเบื่อทั้งเหนื่อยจากการเรียนกลับถึงห้องก็นอนลอกคราบนอนพักบนเตียงเพื่อรอเวลาออกไปตระเวนหาของกินยัดกระเพราะ
ตุนไว้เพื่อที่จะทำการบ้าน(ที่เยอะมว๊ากกกกกองสุมไว้บนโต๊ะพร้อมจะล้มมาทับได้ทุกเมื่อ)นอนได้สักพักเหมือนเคลิ้มจะหลับก็มีเสียงสายเข้าเพียงหยิบมาดูก็
เอะใจแล้วครับ"อีกแล้วหรอหว่ะ"เพราะช่วงที่เพิ่งเปิดเบอร์ใหม่มามีคนโทรผิดบ่อยมากบ่อยจนรำคาญยังบ่นเจ้าของเดิมเลยครับว่าจะไปรู้จักเพื่อนที่ไหน
เยอะแยะขนาดนั้น ตัดใจรับสายด้วยความรำคาญอย่างนั้นเลยครับ
"ฮัลโหล...สวัสดีคร่ะพี่เอ็ม(ขอใช้นาสมมตินะครับ)จำหนูได้มั้ยไม่ได้คุยกันานเลยนะ"ไรหว้าตรูยังไม่ทันพูดเลยใส่มาก่อนหล่ะ
"เอ่ออออ....ไม่ใช่ครับพอดีเบอร์นี้เพิ่งเปิดใหม่สงสัยน้องโทรผิดแล้วครับ"ตัดบทง่ายๆขี้เกียจคุยต่อ
"เพื่อนพี่เอ็มรับสายหรอ...แกล้งหนูหรอให้หนูคุยกับพี่เอ็มเดี๋ยวนี้เลยนะ"เอ๊าอิบร้านี่ตรูจะโกหกทำบ้าไรฟร่ะ
"น้องครับพี่ไม่ได้ล้อเล่นนะพี่ชื่อฟ้า(นามสมมติอีกอ่ะหล่ะ)พี่เพิ่งเปิดเบอร์นี้มาไม่นานนี้เองสงสัยพี่ของน้องเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วครับตอนนี้พี่อยู่กทม.และกำลังนอนอยู่น้องมารบกวนพี่เข้าใจมั้ยครับ"เสียงแข็งแล้วนะ
"อ่อคร่ะ...ขอโทษด้วยนะคร่ะสงสัยจะโทรผิดจริงๆ"น้ำเสียงอ่อยๆจากนั้นก็วางสายไป
หลังจากวางสายมองดูนาฬิกาชิบหล่ะยังไม่ทันนอนหลับเลยใกล้ได้เวลาไปหาของกินหล่ะ ลุกมาบิดขี้เกียจสักทีสองทีก็ไปใส่เสื้อผ้าเตรียมออกไปข้างนอก
เสียงมือถือดังอีกหล่ะใครอีกหล่ะเนี่ยโทรบ่อยจังหยิบมือถือมาดู ตะลึ้ง ตะลึงเบอร์เดิมไอ้เบอร์ที่เพิ่งวางเมื่อกี้นี้เองไรของมันหว้าทำตรูอดนอนยังกล้าโทรมาอีกรอบหรอ กดรับสายแล้วสวนทันควันเลย
"น้องครับพี่ไม่สนุกนะ พี่บอกแล้วว่าพี่ไม่ได้ชื่อเอ็มแล้วพี่ก็ไม่รู้จักพี่เอ็มไรของน้องด้วยจะโทรมาอีกทำไมครับ"ตรูโมโหจริงๆแล้วนะ
"พี่คร่ะอย่าเพิ่งโกรธหนูนะ หนูไม่ได้อยากคุยกับพี่เอ็มแล้วแต่หนูเอ่ออออ....เอ่ออ...หนูอยากคุยกับพี่อ่าได้มั้ยคร่ะเสียงพี่มันเหน่ออน่าฟังดีหนูชอบ"
(นึกภาพคนสวนมาเรียน กทม.ครับเสียงมันก็จะแปลกกว่าชาวกรุงสักหน่อย) อึ้ง+งงดิครับปรับอารมณ์ไม่ถูกมันมาไม้ไหนของมันน้อวววยังไม่ทันตอบเลยมาอีกชุดหล่ะ
"พี่ พี่ พี่คร่ะยังอยู่มั้ยไม่ตอบหนูเลย งั้นถ้าหนูจะขอโทรหาพี่แบบนี้ทุกวันจะได้มั้ยอ่าหนูชอบเสียงพี่ฟังแล้วแปลกหูดี ถ้าแฟนพี่ไม่ว่านะ...เออใช่ลืมถามว่าแต่พี่มีแฟนยังเอ่ยยย"
"ยังครับ ยังไม่มีหรอกแค่ตามจีบรุ่นพี่ในคณะอยู่ คุยๆได้ 2-3 วันแล้ว"เอ๊า!!!แล้วตรูจะไปบอกมันทำไมหว้าแค่บอกไม่มีก็จบแล้วนี่
"อ่อหรอ....อิอิ งั้นดีเลยเดี๋ยวหนูไปกินข้าวก่อนนร้าแล้วหนูขอโทรมาหาพี่อีกรอบนะ"ยังงงกับคำตอบมะกี้อยู่เลยมาขอไรอีกเนี่ย
"แล้วแต่น้องงงงเลยครับพี่ก็กำลังจะออกไปกินข้าวเหมือนกันเสร็จแล้วจะได้มารีบทำการบ้าน เสียเวลาคุยกับน้องก็นานแล้วเนี่ยหิวจนท้องร้องหล่ะ"
ไม่รู้นะว่าใช้คำพูดแรงไปหรือป่าว พอวางสายก็ไม่ได้คิดไรมากมายเดินออกจากหอไปหาข้าวกิน พอกินข้าวเสร็จขากลับแวะ 7-11 หาของกินตุนไว้ตอนดึกอีกเผื่อทำการบ้านแล้วเกิดหิวขึ้นมาอีกพอซื้อครบก็เดินกลับห้องเลย ถึงห้องจัดการเก็บข้าวของให้เข้าที่เข้าทางแล้วลงมือทำการบ้าน
20.00 น.อาจกว่าสักเล็กน้อย
...กำลังปั่นการบ้านเพลินเสียงมือถือดังอีกหล่ะ แล้วไม่ใช่ใครที่ไหนเลยเจ้าเดิมเบอร์เดิมโทรมาอีกแล้วจร้า เห้ยมันโทรจริงๆหรือหว่ะเนี่ยนึกว่าพูดเล่นขำๆ
"พี่คร่ะทำไรอยู่ รอบนี้หนูโทรมากวนพี่อีกหรือป่าวหนูอยากจะโทรหาพี่ตอนทุ่มครึ่งด้วยซ้ำกลัวแต่พี่จะว่าเปิดปิดโทรออกเป็นว่าเล่นเลย"
เสียงใสมาเชียวยังไม่ทันได้พูดตอบสักคำ
"ก็อยากบอกว่าไม่กวนเวลาอยู่หรอกนะแต่พี่ทำการบ้านอยู่ อ่าแต่ให้เวลาคุยได้แปปนึงครับถือว่าเป็นการพักไปในตัว"เสียงนุ่มกว่าตอนแรกเยอะเลย
"จริงหรอคร่ะพี่ พี่น่ารักจังเลย ก็ไม่รู้นะแต่ทำไมเวลาหนูฟังเสียงพี่แล้วหนูรู้สึกชอบอ่า ไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนเลย"
"หนูชื่อ ตุ๊กตานะ (ก็สมมติตามเคย) อายุ 16 คร่ะเรียนที่โรงเรียน....ขอสงวนไว้...ในจังหวัดนครนายก พี่อ่าเรียนที่ไหนหรอ"
"พี่ชื่อฟ้าครับอายู 20 เรียนบัญชีที่...ก็สงวนไว้อีกนั่นหล่ะ..."
หลังจากแนะนำตัวต่อกันเสร็จเรียบร้อยก็คุยกันสัพเพเหระมีสาระบ้างไม่มีบ้างจำไม่ได้แล้วครับว่าคุยไรกันบ้าง แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือทีแรกว่าคุยแปปเดียวตอนจะวางสายปาเข้าไป 21.00 กว่าๆ ใฃ่เลยครับคุยบ้าๆบอกับคนที่ไม่รู้จักไปได้ยังไงเป็นชั่วโมงบ้าบอไปใหญ่แล้ว!!! จำได้เพียงก่อนจะวางสายน้องถามว่า
"พี่คร่ะพรุ่งนี้หนูขอโทรหาพี่อีกนะ แต่กลางวันหนูโทรไปไม่ได้อ่าอาจารย์ห้ามเอามือถือไปโรงเรียน งั้นตอนเย็นๆหนูจะโทรไปอีกพี่ว่างตอนไหนหรอ"
"แล้วแต่น้องเลยครับ จะโทรตอนไหนก็โทรเลยครับว่างก็รับ ไม่รับคือไม่ว่าง"
"พี่นี่เป็นอะไรกับคำว่าแล้วแต่นักหนาฮะ...อะไรก็แล้วแต่ แล้วแต่"
มันล้อเลียนมาด้วยน้ำเสียงของเราแล้วมันก็วางสายหนีไปเฉยเลย ไม่รู้ว่าจะโกรธหรือจำขำดีแต่ยังไม่จบนะยังมี sms ตบท้ายอีกว่า
"หลับฝันดีนะคร่ะไอ่พี่บ้า ฝันถึงหนูบ้างนร้า...ไอ่หมาาาาาา"ดูมันทำ แต่ก็แปลกดีเนอะว่ามั้ยครับที่คนเราคุยกันเพียงวันแรกจะสนิทสนมกันได้ถึงเพียงนี้
**นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความรักและความผูกพันธุ์ที่แสนจะวุ่นวายและจบด้วยความหักมุมในเวลาเพียงปีกว่าๆเท่านั้น
***ไว้มีเวลาว่างจะมาต่อให้จบนะครับ