สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามารีวิวร้านอาหาร เป็นร้านอาหารที่อยู่ในเมือง แต่ภายในร้านเงียบสงบเหมาะแก่การพาครอบครัวมาทานอาหารมากๆ ค่ะ ร้านนี้มีชื่อว่าร้านอาหารบ้านหมอมี อยู่ภายในซอยเกษมสันต์ 3 ใกล้กับ BTS สนามกีฬา สามารถเดินทางด้วย BTS หรือรถส่วนตัวก็ได้ค่ะ ภายในร้านมีที่จอดรถ : )
ตัวร้านจะเป็นบ้านสีขาวขนาดใหญ่ ที่นี่นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้วยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของที่ใช้ในยุคก่อน บางอย่างเราก็ไม่เคยเห็นเลยค่ะ มาดูรีวิวกันดีกว่าเนอะ

เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะพบกับห้องแรกค่ะ เป็นห้องกาแฟ มีเครื่องดื่มหลากหลายไว้สำหรับบริการลูกค้าที่อยากจะแวะมาดื่มเครื่องดื่ม

บริเวณห้องกาแฟนี้มีส่วนสำหรับรองรับแขกและนั่งพักก่อนขึ้นไปรับประทานอาหารด้วยนะคะ

ขึ้นมาที่ห้องอาหารเรียบร้อยค่า บรรยากาศสวยงามน่าประทับใจดี จะเป็นห้องสีขาวๆ ตกแต่งด้วยกระจก แสงเข้าค่อนข้างดี วันนี้ต้องได้รูปสวยแน่ๆ เลยค่ะ


ท๊าดาาา มาดูอาหารที่เราสั่งมากันดีกว่าค่ะ สั่งมาเต็มโต๊ะแบบไม่สนว่าใจเลยว่ามากันแค่สองคน ฮือออ นี่แหละ อย่าให้สั่งตอนหิวเลยค่ะ มันจะสั่งรัวๆ จนเต็มโต๊ะแบบนี้

เมนูแรกเป็นแกงรัญจวนค่ะ อยากลองทานมานานแล้ว เพราะเราเห็นในรายการทำอาหารบ่อยค่ะ เดี๋ยวก็พูดถึงแกงรัญจวน ทำเองรัญจวนกันอีกแล้ว ที่ร้านอาหารบ้านหมอมีเป็นร้านที่มีอาหารไทยแบบโบราณอยู่ด้วย เราเลยลองสั่งมาทานค่ะ

เมนูแกงรัญจวนมาแบบเป็นหม้อไฟร้อนๆ เลยค่ะ ในหม้อจะมีกระดูกหมูต้มมาในน้ำซุป รสชาติดีถูกใจทีเดียวค่ะ ราคาจะอยู่ที่ 250 บาทนะคะ

เมนูต่อมาจะเป็นปลากระพงทอดตะไคร้ค่ะ ยกมาแบบยิ่งใหญ่อลังการมาก เมนูนี้เขาทอดปลากระพงมาแบบเป็นชิ้นๆ ทำให้ทานง่าย ไม่ต้องค่อยๆ ใช้ช้อนแกะเนื้อปลาออกจากก้างเองค่ะ มาพร้อมกับเด็กน้อยก็สะดวกด้วย เพราะสามารถหยิบให้เด็กทานได้เลยค่ะ

น้ำจิ้มจะมีสองแบบนะคะ มีเป็นน้ำจิ้มสีฟู้ดสีเขียวและน้ำจิ้มน้ำยาอุทัยที่เป็นจุดเด็นของร้านอาหารบ้านหมอมี รสชาติของน้ำจิ้มสีแดงจะมีรสหวานนิดๆ อร่อยดีค่ะ
เมนูปลากระพงเปลนี้ราคา 490 บาทนะคะ


มาถึงเมนูที่อยากแนะนำสำหรับคนชอบของทอดค่ะ เมนูนี้ชื่อว่า กุ้งพันเบคอนทอด พันเบคอนมาแบบเต็มแผ่นเลยค่า รสชาติจะออกเค็มนิดๆ ซึ่งเป็นรสชาติเค็มแบบธรรมชาติของเบคอนอยู่แล้ว

จานนี้น้องหนูชอบมากๆ เลยค่ะ ถึงแม้จะเป็นกุ้งทอดแต่อยากจะบอกว่าด้านในไม่แข็งนะคะ เนื้อกุ้งจะมีความนุ่มอยู่ อร่อยดีค่ะ จานนี้ราคา 280 บาทนะคะ

เมนูต่อมาเป็นน้ำตกไก่ย่างค่ะ รสชาติกำลังดี ไม่เผ็ดเกินไป แต่ยังมีความเข้มข้นอยู่ อร่อยดีค่ะเมนูนี้ แถมเนื้อไก่ยังมาแบบเป็นชิ้นใหญ่ๆ ด้วยค่ะ ราคาจานนี้อยู่ที่ 180 บาทนะคะ


เด็กน้อยที่พามาวันนี้ชอบกินต้มยำมากๆ เลยค่ะ พอเห็นต้มยำในเมนูก็เลยต้องขอสั่งสักหน่อย วันนี้สั่งมาเป็นเมนูต้มยำกุ้งนะคะ มีกุ้งตัวโตๆ และเห็ดฟาง เมนูนี้ราคา 280 บาท ถ้วยขนาดกลางๆ ค่ะ


จัดการอาหารของเราเรียบร้อย ขออนุญาตถ่ายไกลๆ นิดนึงนะคะ เพราะว่าถ้าถ่ายใกล้ไปรูปอาจจะดูไม่งามค่ะ ><

มาถึงของหวานกันบ้างดีกว่านะคะ ขนมหวานของเด็กน้อยไม่พ้นไอศกรีม เมนูของหวานนี้มีชื่อว่า วนิลา เยลลี่ เป็นไอศกรีมรสวนิลา พร้อมเยลลี่สีแดงๆ เจ้าตัวเล็กบอกว่าอร่อยมากๆ เลยค่ะ ถ้วยนี้ราคาอยู่ที่ 150 บาทค่ะ

ส่วนขนมหวานของเราเองนั้นเป็นมะม่วงหาว มะนาวโห่ลอยแก้ว ถ้วยนี้ราคา 80 บาท ตัวมะม่วงหาวมะนาวโห่ไม่ฝาดเลยค่ะ เราเองเคยไปซื้อที่สวนที่ต่างจังหวัด รู้สึกว่าเวลาทานสดจะมีรสฝาดนิดๆ แต่จานนี้ที่ทำเป็นลอยแก้วมาเรียบร้อย ไม่มีรสฝาดเลยค่ะ เวลากัดเข้าไปเนื้อตัวมะม่วงหาว มะนาวโห่ก็กรอบมากๆ ส่วนตัวชอบของหวานเมนูนี้นะคะ

ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ขอมาเดินดูบรรยากาศห้องอื่นๆ กันสักเล็กน้อย อย่างส่วนนี้จะเป็นห้องรูปตัวแอล ใช้สำหรับการจัดเลี้ยงได้ค่ะ

อีกห้องหนึ่งที่เราเดินมาชมเหมือนกัน จะเป็นห้องอาหารโต๊ะกลมซึ่งเป็นห้องรับประทานอาหารสำหรับครอบครัว ถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว สามารถจองห้องนี้ได้นะคะ มีประตูปิดเป็นส่วนตัวแน่นอนค่ะ

มุมนี้จะเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ค่ะ มีกล่องยา แพ๊กเกจจิ้งสมัยก่อนเยอะแยะเลยค่ะ จะไม่เพิ่มรูปเยอะนะคะ เพราะอยากให้แวะมาดูกันเอง ><


อ้วววนี่คืออะไรเนี่ยย เป็นหลุมหลบภัยที่ตั้งไว้อยู่นอกตัวบ้านค่ะ ทำขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเลย อันนี้เป็นหลุมเล็ก ต้องลงไปทีละคน และด้านในก็มีช่องสำหรับเก็บน้ำด้วยค่ะ หลุมนี้ลงได้ประมาณ 4–5 คน แต่ต้องนั่งเข่าชิดกันหน่อยนะคะ เราเองไม่เคยเห็นหลุมหลบภัยมาก่อนเลยค่ะ ครั้งแรกเลยที่ได้เห็น

อีกอย่างที่จัดแสดงไว้หน้าบ้านจะเป็นเรือแคนูประจำบ้าน สุวรรณเวศมค่ะ เพราะว่าร้านอาหารบ้านหมอมีนี้อยู่ติดคลองแสนแสบเลยค่ะ เรือลำนี้เป็นเรือที่เคยใช้พายในช่วงเทศกาลต่างๆ ของคนในครอบครัวจริงๆ

ก่อนจะจากกันไป ขอแวะไปเข้าห้องน้ำนิดนึงนะคะ สวยมากกกก แต่งชุดไทยๆ มาถ่ายรูปที่นี่ก็สวยแน่ๆ ค่ะ

บริเวณห้องน้ำด้านนอกยังมีโถบิเด้จัดแสดงไว้ด้วยค่ะ บอกเลยว่าเป็นสุขภัณฑ์ที่ทันสมัยมากในสมัยก่อน โดยโถบิเด้นี้จะเริ่มใช้ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 ค่ะ

สำหรับใครที่สนใจอยากลองไปชิมอาหารที่ร้านอาหารบ้านหมอมีก็สามารถดูเมนูอาหารที่เราถ่ายไว้ได้จากด้านล่างนี้เลยนะคะ




ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้นะคะ การรีวิวในครั้งนี้เรามารีวิวไว้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของทุกคนน้าาา หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย วันนี้ขอลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีค่ะ
[CR] พาชิมอาหารไทยอร่อยๆ ที่ร้านอาหารบ้านหมอมี
ตัวร้านจะเป็นบ้านสีขาวขนาดใหญ่ ที่นี่นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้วยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของที่ใช้ในยุคก่อน บางอย่างเราก็ไม่เคยเห็นเลยค่ะ มาดูรีวิวกันดีกว่าเนอะ
เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะพบกับห้องแรกค่ะ เป็นห้องกาแฟ มีเครื่องดื่มหลากหลายไว้สำหรับบริการลูกค้าที่อยากจะแวะมาดื่มเครื่องดื่ม
เมนูปลากระพงเปลนี้ราคา 490 บาทนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น