จากการไล่ล่าหาข้อมูลทั้งหมด และได้บทสรุปไล่เรียงมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่
ดีเซล ภาพรวมของฝุ่น ความสัมพันธ์ของฝุ่น และลมสมรภูมิ
จนมาจบที่กระทุ้นี้เพื่ออธิบายสถารการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นของสมุทธสาครว่าทำไมถึงวิกฤติได้ขนาดนี้
ระดับ pm 2.5 ของสมุทธสาคร ขึ้นสูงจนถึงระดับอันตรายตลอดชกลางคืนถึงช่วงเที่ยง
เมื่อไปไล่ดูโครงสร้างเมืองของสมุทธสาคร เป็นหนึ่งใน เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม
มีนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่งมีโรงงานมากกว่า 130 โรงงาน
นั่นคือแหล่งกำเนิดฝุ่นพื้นฐานหลักของ สมุทธสาคร
แต่ที่เสริมให้สมุทธสาครมีปัญหามากกว่า เพราะสมุทธสาครเป็นทางผ่านของฝุ่น ที่จะออกไปอ่าวไทย
โดยเป็นฝุ่นจาก กทมที่เข้มข้นจากการก่อสร้างและการสัญจร ฝุ่นจากนิคมอุตสาหกรรมสระบุรี
ฝุ่นจากการขุดหน้าดินระเบิดหินที่สระบุรี ฝุ่นที่มาจากแนวตะวันตกทั้งหมดที่วิ่งมาตามแนวสันเขาเพื่อออกสู่อ่าวไทย
ทั้งหมดนี้ต้องผ่านสมุทธสาคร
ยังไม่นับรวมทีว่าการส่งต่อฝุ่นคอขวดนี้ทำได้ไม่ดีนัก
เพราะ มีแรงลมจากอ่าวไทยตีกลับเข้ามาบ้าง ยิ่งทำให้สถาณณ์แย่ขึ้นนั่นเอง
เปรียบเทียบคือ ในช่วงเดือน ตค ถึง พค สมุทธสาคร
เหมือนประตูทางออกของฝุ่นจากฝั่งตะวันตกและภาคกลาง
รวมทั้งฝุ่นที่ไปกองอยู่ที่ราชบุรีก็ต้องแบ่งบางส่วนมาทางสมุทธสาครเช่นกัน
ในขณะที่
ประตูที่สองคือ สมุทธปราการเหมือประตูทางออกฝุ่นจากทมและทางเหนือที่สะสมมายังกทม
ซึ่งพอจะช่วยแบ่งเบาภาระของสมุทธสาครลงได้บ้าง
ประตูที่สามคือ ชลบุรี แตกต่างออกไปเพราะเป็นทางออกของฝุ่นที่สะสมมาจากตัวเองและโซน ปราจีน จนไปถึงปอยเปตกัมพูชา
ซึ่งจะไม่ได้พัวพันอะไรกับฝุ่นทางภาคกลาง
ดังนั้นคนที่อยู่สามประตูนี้ หรือติดกับสามประตูนี้ก็รักษาสุขภาพกันด้วยเน้อ

ด้วยปัจจัยทั้งหมด สมุทธสาครจึง วิกฤติที่สุด และจะวิฤตต่อเนื่องกว่าที่อื่นๆไปอีกเพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น
จากจุดท๊อป ทั้งตัวเมืองและ การผลิตที่เข้มข้มของภาคกลางทั้งหมดนั่นเอง และจะดีขึ้นหลังจากเดือน พคเป็นต้นไป
จบจ้า
[บทสรุป] ทำไมสมุทธสาคร ถึงมี pm2.5 วิกฤติที่สุด
ดีเซล ภาพรวมของฝุ่น ความสัมพันธ์ของฝุ่น และลมสมรภูมิ
จนมาจบที่กระทุ้นี้เพื่ออธิบายสถารการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นของสมุทธสาครว่าทำไมถึงวิกฤติได้ขนาดนี้
ระดับ pm 2.5 ของสมุทธสาคร ขึ้นสูงจนถึงระดับอันตรายตลอดชกลางคืนถึงช่วงเที่ยง
เมื่อไปไล่ดูโครงสร้างเมืองของสมุทธสาคร เป็นหนึ่งใน เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม
มีนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่งมีโรงงานมากกว่า 130 โรงงาน
นั่นคือแหล่งกำเนิดฝุ่นพื้นฐานหลักของ สมุทธสาคร
แต่ที่เสริมให้สมุทธสาครมีปัญหามากกว่า เพราะสมุทธสาครเป็นทางผ่านของฝุ่น ที่จะออกไปอ่าวไทย
โดยเป็นฝุ่นจาก กทมที่เข้มข้นจากการก่อสร้างและการสัญจร ฝุ่นจากนิคมอุตสาหกรรมสระบุรี
ฝุ่นจากการขุดหน้าดินระเบิดหินที่สระบุรี ฝุ่นที่มาจากแนวตะวันตกทั้งหมดที่วิ่งมาตามแนวสันเขาเพื่อออกสู่อ่าวไทย
ทั้งหมดนี้ต้องผ่านสมุทธสาคร
ยังไม่นับรวมทีว่าการส่งต่อฝุ่นคอขวดนี้ทำได้ไม่ดีนัก
เพราะ มีแรงลมจากอ่าวไทยตีกลับเข้ามาบ้าง ยิ่งทำให้สถาณณ์แย่ขึ้นนั่นเอง
เปรียบเทียบคือ ในช่วงเดือน ตค ถึง พค สมุทธสาคร เหมือนประตูทางออกของฝุ่นจากฝั่งตะวันตกและภาคกลาง
รวมทั้งฝุ่นที่ไปกองอยู่ที่ราชบุรีก็ต้องแบ่งบางส่วนมาทางสมุทธสาครเช่นกัน
ในขณะที่ ประตูที่สองคือ สมุทธปราการเหมือประตูทางออกฝุ่นจากทมและทางเหนือที่สะสมมายังกทม
ซึ่งพอจะช่วยแบ่งเบาภาระของสมุทธสาครลงได้บ้าง
ประตูที่สามคือ ชลบุรี แตกต่างออกไปเพราะเป็นทางออกของฝุ่นที่สะสมมาจากตัวเองและโซน ปราจีน จนไปถึงปอยเปตกัมพูชา
ซึ่งจะไม่ได้พัวพันอะไรกับฝุ่นทางภาคกลาง
ดังนั้นคนที่อยู่สามประตูนี้ หรือติดกับสามประตูนี้ก็รักษาสุขภาพกันด้วยเน้อ
ด้วยปัจจัยทั้งหมด สมุทธสาครจึง วิกฤติที่สุด และจะวิฤตต่อเนื่องกว่าที่อื่นๆไปอีกเพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น
จากจุดท๊อป ทั้งตัวเมืองและ การผลิตที่เข้มข้มของภาคกลางทั้งหมดนั่นเอง และจะดีขึ้นหลังจากเดือน พคเป็นต้นไป
จบจ้า