ฮาเมส โรดริเกซ จะเป็นผู้ปลุก “เสือใต้” ให้คืนชีพอีกครั้ง

ในนาทีนี้เหล่าแฟนๆ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คงดีใจกันไม่น้อยกับข่าวที่ โทมัส มึลเลอร์ จะติดโทษแบนอดลงฟาดแข้งในศึกยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่บาเยิร์นจะโคจรมาพบกับลิเวอร์พูล แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าฮาเมส โรดริเกซนั้นหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาพร้อมลุยศึกกับทีมแล้ว


หลังพลาดลงเล่นบุนเดสลีกาใน 8 นัดล่าสุดด้วยอาการบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าซ้ายอย่างรุ่นแรง ซุป’ตาร์จากโคลอมเบียวัย 27 ปีก็หายเจ็บกลับมาพร้อมรบอีกครั้ง งานนี้คงสร้างความกังวลใจให้กับ เยือร์เก้น คล็อปป์ กุนซือใหญ่หงส์แดงและลูกทีมอยู่ไม่น้อย

นักเตะผู้ไขว่คว้าและสร้างสรรค์โอกาส

แม้จะได้ลงเป็นตัวจริงเพียง 7 จาก 15 นัดล่าสุดให้กับบาเยิร์น แต่ฮาเมสก็ยังคงเป็นแรงสำคัญของทีมได้เหมือนในฤดูกาลที่ผ่านมา ซีซั่นที่แล้วเขามีสถิติการยิงประตูหรือทำแอสซิสต์ได้ทุกๆ 92 นาที (ยิง 7 ประตู / ทำ 11 แอสซิสต์จากการลงสนาม 19 นัด) และจาก 8 เกมในซีซั่นนี้ เขาก็ยังทำได้ 1 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ คิดเป็นอัตราเฉลี่ยทุกๆ 117 นาที มีเพื่อนร่วมทีมเพียง 2 คนที่ทำผลงานได้ดีกว่า ได้แก่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (10 ประตู 5 แอสซิสต์ อัตราเฉลี่ยทุก 96 นาที) และ แซร์จ นาบรี้ (4 ประตู 3 แอสซิสต์ อัตราเฉลี่ยทุก 108 นาที) ส่วนโทมัส มึลเลอร์ ทำสถิติอยู่ที่ยิงหรือจ่ายทุกๆ 154 นาที


“ผมรู้ว่าเขาคือนักเตะที่สุดยอด ผมรู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง” นิโก้ โควัช กล่าวหลังฮาเมสหายเจ็บกลับมาซ้อมกับทีมได้ “เขาได้แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่กับทีมนี้ แต่กับสโมสรยักษ์ใหญ่อื่นๆ ก็เช่นกัน ผมคาดหวังฟอร์มอันยอดเยี่ยมจากเขา เหมือนกับที่คาดหวังในตัวทุกๆคน เราจบครึ่งฤดูกาลแรกได้อย่างน่าพอใจ และการต่อสู้แย่งชิงอันดับมันก็ดุเดือด มันเป็นแบบนี้เสมอ และตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของเขาที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาสมควรได้กลับมาลงตัวจริงอีกครั้ง”

ฮาเมสผู้ไม่เคยท้อถอย

เถียงไม่ได้เลยว่าฮาเมสนั้นเป็นนักเตะที่ชี้ชะตาผลการแข่งขันได้ ทุกประตูและแอสซิสต์ที่เขาทำได้ในฤดูกาลนี้ล้วนทำให้ทีมได้รับชัยชนะทั้งในศึกบุนเดสลีกาและแชมเปียนส์ลีก ส่วนในซีซั่นที่แล้ว มีเพียง 2 จาก 13 เกมที่เขายิงได้แล้วทีมไม่ชนะ และต้องอย่าลืมว่าถ้าในครึ่งซีซั่นหลังเขาไม่บาดเจ็บอดลงสนามไปถึง 4 เกม บาเยิร์นคงจะคว้าแชมป์ได้เร็วกว่าที่เกิดขึ้นแน่ๆ


ฮาเมสหลบหนีความวุ่นวายในมาดริดมาซบเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค และคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกาครั้งแรกของเขาได้สำเร็จ ในฤดูกาลนี้เขาตั้งเป้าจะครอบครอบบังลังก์แชมป์อีกครั้งและโชว์ฟอร์มได้สุดยอดเสมอในเวลาที่ทีมต้องการ โดยเมื่อมองย้อนกลับไปในครึ่งหลังของฤดูกาลที่ผ่านมา ฮาเมสยิงได้ถึง 5 ประตูและทำได้อีก 8 แอสซิสต์ (ผลงานตลอดทั้งฤดูกาลทำไป 7 ประตูกับ 11 แอสซิสต์) เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่านี่แหละคือความหวังของทีมตัวจริง

ฮาเมสและมึลเลอร์ สูตรความสำเร็จที่ลงตัว

สามคำที่เหมาะสมกับฮาเมสน่าจะเป็นคำว่า คุณภาพ ฉลาด และสารพัดประโยชน์ ฮาเมสเล่นได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวาในแนวรุก แถมยังเล่นคู่กับเลวานดอฟสกี้และเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางก็ได้ เขามีทั้งความแน่นอนและปรับตัวตามสถานการณ์ได้ดี ออกบอลได้อย่างแม่นยำจากทุกท่วงท่าทุกซอกมุม ความสามารถแบบนี้แหละที่ทำให้โค้ชปวดหัวเมื่อต้องเลือก 11 ตัวจริง

แต่มึลเลอร์ไม่ได้คิดแบบนั้น

“ผมไม่คิดว่าเราเป็นคู่แข่งกัน” แข้งดาวดังบาเยิร์นกล่าวกับสื่อในเยอรมนี “ฮาเมสจะมีส่วนร่วมในเกมก่อนผมมาก เขาต้องการได้บอลตั้งแต่บริเวณครึ่งสนาม เขาคือนักเตะที่คอยจ่ายบอล และสามารถจ่ายบอลแบบที่ไม่มีใครที่นี่ทำได้ ฮาเมสแสดงให้เห็นในฤดูกาลที่ผ่านมาแล้วว่าเขาเป็นตัวรุกมีประสิทธิภาพแค่ไหนในฐานะที่เป็น 1 ใน 2 มิดฟิลด์ตัวหลัก และเทคนิคของเขามหัศจรรย์มาก ผมชอบลงสนามพร้อมกับเขา”


สถิติการจ่ายบอลสำเร็จของฮาเมสที่ 92% เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามึลเลอร์พูดไม่ผิดเลย แต่สองคนนี้เล่นคู่กันได้ดีหรือเปล่านะ?

ในฤดูกาล 2017/18 มี 12 เกมที่ฮาเมสและมึลเลอร์ได้ลงเล่นพร้อมๆกัน ทั้งคู่ช่วยให้เสือใต้คว้า 33 จาก 36 แต้ม ยิงได้ 33 ประตู และใน 10 เกมที่ทั้งคู่ไม่ได้ลงพร้อมกัน บาเยิร์นเอาชนะคู่แข่งได้เพียง 6 นัด เสมอ 2 นัดและแพ้ 2 นัด ยิงได้เพียง 20 ประตู


ยิ่งไปกว่านั้น 6 จาก 10 ประตู และ 10 จาก 12 แอสซิสต์ทั้งหมดที่ฮาเมสทำได้ในบุนเดสลีกามาจากเกมที่เขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงพร้อมๆ กับมึลเลอร์ นี่มันบุพเพสันนิวาสชัดๆ!

โอกาสมาแล้ว

โควัชแก้เกมพาทีมกลับมาโกยแต้มได้โดยใช้แผน 4-2-3-1 อย่างที่ยุปป์ ไฮน์เคสเคยใช้กับบาเยิร์นเพื่อให้ฮาเมสโชว์ฝีเท้าได้เต็มที่มาแล้ว โดยฮาเมสสามารถเล่นคู่หรือเล่นแทนมึลเลอร์ก็ได้ ลงไปยืนต่ำเพื่อต่อบอลกับโกเร็ตซ์กา คิมมิช และติอาโก้ก็ยังได้ อย่างไรก็ดี ก็ไม่ได้หมายความว่าฮาเมสจะหายเจ็บกลับมาเดินสบายๆ เข้ามายึดตำแหน่งตัวจริงได้ง่ายๆ เพราะในเวลานี้ทีมกำลังกลับมาฟอร์มดีวันดีคืน คว้า 3 คะแนนเต็มได้ใน 5 นัดหลังสุด แต่ฤดูกาลนี้ก็ยังอีกยาวไกล และโควัช หัวเรือใหญ่ก็รู้ดีแล้วว่าเขามีอาวุธสำคัญที่จะพาบาเยิร์นกลับมาครองบัลลังก์แชมป์ได้ การกลับมาของฮาเมสน่าจะทำให้การต่อสู้ลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาปีนี้ทวีความดุเดือดน่าติดตามเข้าไปอีกแน่นอน

credit : www.siamsport.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่