
องค์พระนอนวัดแหลมพ้อ เป็นพระพุทธรูปปางปรินิพานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 ประดิษฐานบนฐานไม่สูงมากนัก
พระพุทธรูป ปางปรินิพพาน เป็นชื่อเรียกของพระพุทธรูปลักษณะบรรทม (นอน) ตะแคงเบื้องขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย (หมอน) พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาวางหงายอยู่ข้างพระเขนย พระบาทซ้ายทับซ้อนพระบาทขวา
วัดแหลมพ้อ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยมีพระครูทิพวาสี (พรหมแก้ว) จากวัดท้ายยอมาดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าว เป็นแหลมยื่นออกไป และมีต้นพ้ออยู่จำนวนมาก จึงเรียชื่อวัดกันต่อมา “วัดแหลมพ้อ”
วัดแหลมพ้อ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2431 กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2540วัดแหลมพ้อ หรือ ที่เรียกกันว่า วัดพระนอนแหลมพ้อ ตั้งอยู่ที่เกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นพระนอน ปางปรินิพพานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่ง และเป็นวัดที่มีชื่อเสียงอีกเช่นกัน ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย นิยมมากราบไหว้ ณ วัดแห่งนี้
ชวนไหว้พระนอนใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดแหลมพ้อ
องค์พระนอนวัดแหลมพ้อ เป็นพระพุทธรูปปางปรินิพานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 ประดิษฐานบนฐานไม่สูงมากนัก
พระพุทธรูป ปางปรินิพพาน เป็นชื่อเรียกของพระพุทธรูปลักษณะบรรทม (นอน) ตะแคงเบื้องขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย (หมอน) พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาวางหงายอยู่ข้างพระเขนย พระบาทซ้ายทับซ้อนพระบาทขวา
วัดแหลมพ้อ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยมีพระครูทิพวาสี (พรหมแก้ว) จากวัดท้ายยอมาดำเนินการก่อสร้าง เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าว เป็นแหลมยื่นออกไป และมีต้นพ้ออยู่จำนวนมาก จึงเรียชื่อวัดกันต่อมา “วัดแหลมพ้อ”
วัดแหลมพ้อ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2431 กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2540วัดแหลมพ้อ หรือ ที่เรียกกันว่า วัดพระนอนแหลมพ้อ ตั้งอยู่ที่เกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นพระนอน ปางปรินิพพานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นวัดที่เก่าแก่อีกวัดหนึ่ง และเป็นวัดที่มีชื่อเสียงอีกเช่นกัน ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย นิยมมากราบไหว้ ณ วัดแห่งนี้