สวัสดีชาวพันทิปทุกคนค่ะ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนเรามีโอกาสเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ด้วยสายการบิน Air China สายการบินแห่งชาติจีน เราเห็นว่ายังไม่เคยมีใครรีวิวรูทนี้ของแอร์ไชน่า เลยขอรีวิวให้เพื่อนๆดูสักหน่อยค่ะ
ปล.1 นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกในพันทิปของเรา ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ
ปล.2 ขอโทษที่รูปไม่เยอะและไม่ค่อยสวยเพราะเราใช้กล้องมือถือถ่าย อีกอย่างตอนขึ้นเครื่องค่อนข้างวุ่นวาย เลยไม่อยากรบกวนผู้โดยสายท่านอื่นมากเกินไปค่ะ

Flight Info
Air China CA805 PVG-BKK
Departure Time: 23.05
Arrival Time: 02.35 (+1)
Flight Time: 04.30 hrs.
Class: Economy
Aircraft: Airbus A321-232
มาเริ่มที่ขั้นตอนการเช็คอินกันเลยค่ะ
คราวนี้เราเช็คอินที่ เทอร์มินัล 2 สนามบินเซี่ยงไฮ้ผู่ตงค่ะ ตอนเช็คอินสะดวกมาก ผู้โดยสาร Air China ที่มีไฟลท์บินไปไทย ญี่ปุ่นสามารถทำ self-check in ได้ที่ตู้เช็คอินอัตโนมัติ และพิมพ์บอร์ดดิ้งพาสได้เลย ส่วนสัมภาระที่จะโหลด พอเช็คอินกับเครื่องแล้ว ก็มาต่อแถวรอโหลดสัมภาระสำหรับคนที่มีบอร์ดดิ้งพาสแล้ว แถวสั้นกว่าแถวปกติมาก ทำให้ประหยัดเวลากว่าเช็คอินปกติไปโขเลยค่ะ ส่วนน้ำหนักสัมภาระ ไฟลท์นี้เราสามารถโหลดสัมภาระได้ 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม และมี carry-on luggage ได้อีก 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัมค่ะ

ตู้เช็คอินหน้าตาประมาณนี้ค่ะ ขอยืมรูปจากอากู๋มาอ้างอิงนะคะ
หลังจากโหลดสัมภาระและผ่านตม.มาเรียบร้อยแล้วก็เข้ามาในเกท คราวนี้ได้ bus gate ค่ะ



เครื่องบินคราวนี้เป็น Airbus 321 single-aisle แบ่งที่นั่ง 3-3 ส่วนตัวคิดว่าที่นั่งกว้างกว่าที่คิด คนตัวใหญ่แบบเรานั่งได้แบบไม่อึดอัดเลย ตรงพนักพิงไม่มีที่ปรับล็อคตรงคอเหมือนเครื่องใหญ่ เป็นแบบเรียบไปเลย ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่อยากเมื่อยคอ เราแนะนำให้พกหมอนรองคอมาด้วยก็ดีค่ะ



ในช่องใส่ของด้านหน้าที่นั่งมีถุงอาเจียน คู่มือความปลอดภัย และนิตยสารสายการบินค่ะ

ก่อนเครื่อง take off แอร์โฮสเตสก็มาถามผู้โดยสารทุกคนว่าต้องการผ้าห่มหรือหมอนไหม พร้อมจดเบอร์ที่นั่งของคนที่ต้องการไว้ พอ take off ได้ 15 นาที ก็เริ่มแจกผ้าห่มหมอน ตามด้วยofferหนังสือพิมพ์ให้ตามที่นั่งต่างๆ หลังจากนั้นก็เริ่มบริการเครื่องดื่ม ตัวเลือกเครื่องดื่ม มี น้ำเปล่า soft drink และไวน์บริการค่ะ ส่วนอาหาร ด้วยความที่บินดึกเลยเสิร์ฟแซนวิชแฮมชีสอุ่นร้อนอย่างเดียวค่ะ หน้าตาอาจจะเฉยๆ แต่อร่อย หอมออริกาโน่ดี ถือว่าผ่านสำหรับการเป็นมื้อดึกค่ะ

หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ไฟในเครื่องบินก็มืดลงเพื่อให้ผู้โดยสารพักผ่อนค่ะ

ความบันเทิงบนเครื่อง เป็นหนังและสารคดีจีนผ่านจอ overhead เลือกเองไม่ได้ ถ้าต้องการดูหนังผ่านจอต้องขอหูฟังจากแอร์เองค่ะ ไฟลท์เราเป็นหนังตลกที่แกงค์ Lost in Thailand เล่นชื่อ Hello! Mrs. Money ค่ะ
สำหรับคนที่กังวลว่าจะไม่สามารถเปิด flight mode บนไฟลท์ Air China ได้ ขอให้วางใจได้แล้วค่ะ เพราะสำนักงานการบินพลเรือนจีนอนุญาตให้สายการบินสัญชาติจีนเปิด flight mode ได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018แล้ว ไม่ต้องนั่งเหงาหงอยเพราะไม่มีความบันเทิงส่วนตัวแล้วค่ะ เราไม่ค่อยชอบดูหนังจีน เลยเปิดเพลงจากมือถือตัวเองฟังตลอดไฟลท์เลย
สรุป
- เราพอใจกับบริการโดยรวมตั้งแต่เช็คอินจนรับกระเป๋าค่ะ ไม่มีสิ่งที่ทำให้ไม่พอใจ แต่ในขณะเดียวกันเราเองก็ไม่ได้ประทับใจอะไรในไฟลท์นี้เป็นพิเศษ
- ส่วนตัวคิดว่าเวลาบินค่อนข้างเหมาะกับคนที่กลับจากไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ เพราะไฟลท์ออกห้าทุ่ม สามารถเที่ยวในเมืองได้ยาวๆก่อนเข้าสนามบิน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นไฟลท์ที่ค่อนข้างทรมานร่างกายเหมือนกันเพราะเป็นไฟลท์ดึกที่กินเวลาแค่ 4 ชั่วโมงกว่า แถมถึงไทยตอนตีสองกว่า กว่าจะได้ขึ้นเครื่อง ทานอาหาร รอปิดไฟ ฟังประกาศต่างๆก็กินเวลาไปพอสมควร เรียกว่าถ้าคุณไม่ใช่คนที่หลับง่ายคุณอาจจะไม่ได้นอนตลอดไฟลท์เลยค่ะ
วันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะมารีวิวขาออกจากสุวรรณภูมิไปเซี่ยงไฮ้ด้วย สวัสดีค่ะ
[CR] รีวิว Air China Economy Class Shanghai-Bangkok
ปล.1 นี่เป็นกระทู้รีวิวแรกในพันทิปของเรา ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคะ
ปล.2 ขอโทษที่รูปไม่เยอะและไม่ค่อยสวยเพราะเราใช้กล้องมือถือถ่าย อีกอย่างตอนขึ้นเครื่องค่อนข้างวุ่นวาย เลยไม่อยากรบกวนผู้โดยสายท่านอื่นมากเกินไปค่ะ
Departure Time: 23.05
Arrival Time: 02.35 (+1)
Flight Time: 04.30 hrs.
Class: Economy
Aircraft: Airbus A321-232
มาเริ่มที่ขั้นตอนการเช็คอินกันเลยค่ะ
คราวนี้เราเช็คอินที่ เทอร์มินัล 2 สนามบินเซี่ยงไฮ้ผู่ตงค่ะ ตอนเช็คอินสะดวกมาก ผู้โดยสาร Air China ที่มีไฟลท์บินไปไทย ญี่ปุ่นสามารถทำ self-check in ได้ที่ตู้เช็คอินอัตโนมัติ และพิมพ์บอร์ดดิ้งพาสได้เลย ส่วนสัมภาระที่จะโหลด พอเช็คอินกับเครื่องแล้ว ก็มาต่อแถวรอโหลดสัมภาระสำหรับคนที่มีบอร์ดดิ้งพาสแล้ว แถวสั้นกว่าแถวปกติมาก ทำให้ประหยัดเวลากว่าเช็คอินปกติไปโขเลยค่ะ ส่วนน้ำหนักสัมภาระ ไฟลท์นี้เราสามารถโหลดสัมภาระได้ 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม และมี carry-on luggage ได้อีก 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัมค่ะ
ตู้เช็คอินหน้าตาประมาณนี้ค่ะ ขอยืมรูปจากอากู๋มาอ้างอิงนะคะ
หลังจากโหลดสัมภาระและผ่านตม.มาเรียบร้อยแล้วก็เข้ามาในเกท คราวนี้ได้ bus gate ค่ะ
เครื่องบินคราวนี้เป็น Airbus 321 single-aisle แบ่งที่นั่ง 3-3 ส่วนตัวคิดว่าที่นั่งกว้างกว่าที่คิด คนตัวใหญ่แบบเรานั่งได้แบบไม่อึดอัดเลย ตรงพนักพิงไม่มีที่ปรับล็อคตรงคอเหมือนเครื่องใหญ่ เป็นแบบเรียบไปเลย ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่อยากเมื่อยคอ เราแนะนำให้พกหมอนรองคอมาด้วยก็ดีค่ะ
ในช่องใส่ของด้านหน้าที่นั่งมีถุงอาเจียน คู่มือความปลอดภัย และนิตยสารสายการบินค่ะ
ก่อนเครื่อง take off แอร์โฮสเตสก็มาถามผู้โดยสารทุกคนว่าต้องการผ้าห่มหรือหมอนไหม พร้อมจดเบอร์ที่นั่งของคนที่ต้องการไว้ พอ take off ได้ 15 นาที ก็เริ่มแจกผ้าห่มหมอน ตามด้วยofferหนังสือพิมพ์ให้ตามที่นั่งต่างๆ หลังจากนั้นก็เริ่มบริการเครื่องดื่ม ตัวเลือกเครื่องดื่ม มี น้ำเปล่า soft drink และไวน์บริการค่ะ ส่วนอาหาร ด้วยความที่บินดึกเลยเสิร์ฟแซนวิชแฮมชีสอุ่นร้อนอย่างเดียวค่ะ หน้าตาอาจจะเฉยๆ แต่อร่อย หอมออริกาโน่ดี ถือว่าผ่านสำหรับการเป็นมื้อดึกค่ะ
หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ไฟในเครื่องบินก็มืดลงเพื่อให้ผู้โดยสารพักผ่อนค่ะ
ความบันเทิงบนเครื่อง เป็นหนังและสารคดีจีนผ่านจอ overhead เลือกเองไม่ได้ ถ้าต้องการดูหนังผ่านจอต้องขอหูฟังจากแอร์เองค่ะ ไฟลท์เราเป็นหนังตลกที่แกงค์ Lost in Thailand เล่นชื่อ Hello! Mrs. Money ค่ะ
สำหรับคนที่กังวลว่าจะไม่สามารถเปิด flight mode บนไฟลท์ Air China ได้ ขอให้วางใจได้แล้วค่ะ เพราะสำนักงานการบินพลเรือนจีนอนุญาตให้สายการบินสัญชาติจีนเปิด flight mode ได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018แล้ว ไม่ต้องนั่งเหงาหงอยเพราะไม่มีความบันเทิงส่วนตัวแล้วค่ะ เราไม่ค่อยชอบดูหนังจีน เลยเปิดเพลงจากมือถือตัวเองฟังตลอดไฟลท์เลย
สรุป
- เราพอใจกับบริการโดยรวมตั้งแต่เช็คอินจนรับกระเป๋าค่ะ ไม่มีสิ่งที่ทำให้ไม่พอใจ แต่ในขณะเดียวกันเราเองก็ไม่ได้ประทับใจอะไรในไฟลท์นี้เป็นพิเศษ
- ส่วนตัวคิดว่าเวลาบินค่อนข้างเหมาะกับคนที่กลับจากไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ เพราะไฟลท์ออกห้าทุ่ม สามารถเที่ยวในเมืองได้ยาวๆก่อนเข้าสนามบิน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นไฟลท์ที่ค่อนข้างทรมานร่างกายเหมือนกันเพราะเป็นไฟลท์ดึกที่กินเวลาแค่ 4 ชั่วโมงกว่า แถมถึงไทยตอนตีสองกว่า กว่าจะได้ขึ้นเครื่อง ทานอาหาร รอปิดไฟ ฟังประกาศต่างๆก็กินเวลาไปพอสมควร เรียกว่าถ้าคุณไม่ใช่คนที่หลับง่ายคุณอาจจะไม่ได้นอนตลอดไฟลท์เลยค่ะ
วันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะมารีวิวขาออกจากสุวรรณภูมิไปเซี่ยงไฮ้ด้วย สวัสดีค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้