ทริปนี้เป็นทริปที่เกิดขึ้นแบบงงๆ เกิดจากความว่าง แล้วอยากไปเที่ยว ก็เลยคิดว่างั้นก็ออกเที่ยวสิแบบไปก็ไปวะ โดยที่แพลนแค่ว่าจะไปค้าง 2 วัน 1 คืน ที่น้ำตกเอราวัณ แล้วจึงลองแบกเป้แล้วออกเที่ยวคนเดียวดู
16/1/2562
เช้าตื่นขึ้นมา รีบเก็บของแล้วก็ไปที่สถานีธนบุรี นั่งรถไฟขบวนธนบุรี-น้ำตก จะมีอยู่วันละ 2 รอบ คือรอบ 7.50 กับเที่ยงกว่าๆ ซึ่งก็ไปถึงที่สถานี 7.20 พอไปถึงที่สถานีก็รีบไปที่ช่องซื้อตั๋ว แล้วก็ได้ตั๋วมาในราคา 39 บาท จริงๆต้องบอกเค้าว่าลงสถานีกาญจนบุรี แต่เราไปบอกเค้าว่าลงสถานีน้ำตก แต่ก็ไม่เป็นไร ไปได้เหมือนกัน พอมีเวลาเหลือ ก็หาไรกินแถวนั้น ที่นั่นตลาดธนบุรี จะมีของกินมีไรขาย สามารถไปหาซื้อกันได้ แต่ถ้าไปไม่ทัน บนรถไฟก็มีขาย
7.50 ขึ้นรถไฟ เตรียมตัวไปกาญจนบุรี
และแล้วก็ขึ้นมาบนรถไฟฟ
อันนี้จริงๆถ่ายรูปไว้ในกล้อง แต่ดันโฟลเดอร์ดันหาย เลยเหลือแต่ในมือถือ

10.50 ถึงสถานีกาญจนบุรี ลงสถานีนี้ แล้วไปขึ้นรถบัสสีฟ้า เพื่อไปน้ำตกเอราวัณ มีทางไป 2 ทาง คือ 1) นั่งรถสองแถวจากสถานีรถไฟไปที่ บขส แล้วนั่งรถบัสสีฟ้า จาก บขส ไปน้ำตกเอราวัณ กับ 2) ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามแล้วรอโบกรถสองแถว
ซึ่งเราเลือกทางที่ 2 ก็คือข้ามถนนไปขึ้นฝั่งตรงข้าม แล้วแวะไปซื้อของในเซเว่น ขณะที่กำลังทำการจ่ายตัง รถบัวสีฟ้า ก็ผ่านไป ต้องรออีกประมาน 1 ชม. จึงเดินเล่นแถวนั้น เพื่อหาร้านนั่ง แต่เดินไปเดินมาก็ไปเจอกับสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก จึงเดินเข้าไปดู แล้วก็รอรถแถวนั้น
อันนี้ถ่ายด้วยกล้อง รูปมีการแต่งเพิ่มนะะ
(แต่ถ้าใครอยากไปสะพานข้ามแม่น้ำแควก่อน ก็สามารถหารถมอเตอร์ไซต์พ่วง ไปก็ได้ ราคาอยู่ที่ 50 บาท) ประมานเกือบเที่ยงๆ รถบัสสีฟ้าก็มาจึงรีบโบก แล้วเดินขึ้นรถ ขณะกำลังเดินขึ้นเชือกรองเท้าก็ไปเกี่ยวกับตรงขั้นบันไดจึงล้ม แต่พี่คนขับรถก็ใจดียังไม่ออกรถก็หันมาดูแล้วรอให้ไปนั่งที่ก่อน และแล้วรถก็มุ่งหน้าไปที่เอราวัณ ค่ารถอยู่ที่ 50 บาท
พอไปถึงน้ำตกเอราวัณ ตรงด่านเข้าอุทยานจะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาบนรถมาเก็บเงินค่าเข้า ถ้าเป็นคนไทย เด็กหรือนิสิต นักศึกษา จะอยู่ที่ 50 แต่ทั้งนี้ถ้าเป็นนิสิตหรือนักศึกษาต้องมีบัตรด้วยนะ ส่วนชาวต่างชาติราคา เด็ก 200 ส่วนผู้ใหญ่ 300 พอไปถึงเราจึงรีบไปที่ทำการท่องเที่ยว แล้วติดต่อเช่าเต้นท์ เพราะคืนนี้เราจะค้างที่นี่ ซึ่งก็จะมีเอกสารให้กรอก แล้วก็มัดจำบัตรประชาชน เสร็จเราเอาใบไปยื่น ตรงที่ทำการในลานกางเต้นท์ ซึ่งเราก็ไปยื่น พร้อมกับแจ้งของที่เราจะเช่า โดยเราเช่าเต้นท์ 120 บาทเป็นเต้นท์แบบนอนคนเดียว กางเอง แต่กางง่าย กับที่รองนอน 20 บาท และหมอนอีก 10 บาท ส่วนถุงนอนเราแบกไปเอง (แต่ถ้าเราเลือกเต้นท์ 300 เต้นท์ใหญ่ นอนได้ 3 คน เจ้าหน้าที่จะกางไว้ให้แล้ว)
พอได้เต้นท์แล้วก็ทำการหาที่กางเต้นท์ แล้วก็กางเต้นท์เก็บของ แล้วไปหาไรกินน
(อันนี้เต้นท์เรานะ)
(ตรงเต้นท์สีเหลืองคือที่เจ้าหน้าที่กางไว้ให้)
ตรงลานกางเต้นท์จะมีมาม่ากับน้ำขายอยู่ตรงนี้จะปิด 2 ทุ่ม แต่เราไปกินตรงที่เป็นร้านขายอาหาร ถ้าเป็นอาหารจานเดียวราคาจะอยู่ประมาน 50-70 บาท ร้านจะปิด 6 โมง ต่อมาพอกินเสร็จ ก็ได้เวลาเดินขึ้นน้ำตก ซึ่งก็มีทั้งหมด 7 ชั้น
14.30
ไปขึ้นน้ำตกกันเถอะะ
  >>เดินขึ้นกันน (มีรถบริการนะไปส่งประมานชั้น 1 ราคา 30 บาท)
ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง
  >>ชั้นนี้คนเล่นน้อย ไม่ค่อยมีคนเล่นกัน แต่ถ้าจะเล่นก็เล่นได้นะะ
ชั้น 2 วังมัจฉา
>>ชั้นนี้คือดูน่าเล่น คนเล่นเยอะ จริงๆคือถ้ามีคนไปด้วยนี่คงลงเล่นแล้วอ่ะะ เห็นตรงน้ำตก คือ อยากไปยืนตรงนั้นแล้วให้น้ำไหลลงมาใส่มาก แต่ว่าด้วยความที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็เลยกลัวๆ บวกกับได้ยินเค้าคุยกันว่า วันนี้มีคนจมน้ำเลยไม่กล้า ถึงจะมีชูชีพให้ใส่ก็เหอะ ถ้าครั้งหน้าไม่ได้ไปคนเดียว น่าจะได้ลงเล่นแหละ
ชั้น 3 ผาน้ำตก
>>ชั้นนี้ก็ยังน่าเล่นอยู่ และก็คนเล่นเยอะ
ชั้น 4 อกนางผีเสื้อ
ชั้นนี้คือมันจะมีหินที่เหมือนอก คือน่าปีนขึ้นไปสไลด์ลงมามาก เห็นมีคนเล่นอยู
ชั้น 5 เบื่อไม่ลง
ชั้นนี้คือชอบบ สวยมากก คือ อยากปีนป่ายมากก จริงๆชั้นนี้ก็มีคนเล่นอยู่นะ ชั้นนี้คือ ถ่ายรูปสวยมากก มีมุมให้ถ่ายเยอะมากก
ชั้น 6 ดงพฤกษา
ชั้นนี้ต้องลุยน้ำมาถ่ายรูป ไม่มีคนเล่นเลย ถ้าจะเล่นก็ระวังหน่อย ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นเล่นได้ไหม เพราะว่าเย็นแล้ว แล้วก็มี จนท.เดินมาตาม ทำท่าว่าหมดเวลา เลยต้องรีบลง
ชั้น 7 ภูผาเอราวัณ
เสียดายมาก ไม่ได้ขึ้นไป คือมันหมดเวลาแล้ว บวกกับเราไม่เห็นคนเลย เลยคิดว่ารีบลงดีกว่า บวกกับความที่ต้องเดินลุยน้ำขึ้นไปอีก เลยคิดว่าไม่น่าขึ้นได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่มารู้จากเพื่อนทีหลังว่าเดินขึ้นบันไดไปก็เห็นเลยเสียดายมากๆๆ

อันนี้ระหว่างทางจะขึ้นไปชั้น 6 กับชั้น 7
จะมีให้เลือกว่าไปชั้น 6 หรือ ชั้น 7

ลงกันเถอะะะ
ตอนลงลงง่ายนะ ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ แต่ก็ลื่นง่ายเหมือนกัน ก็ต้องระวังด้วย เราก็ดันรีบจนล้มเลย เพราะในใจก็กลัวๆมันไม่มีคนเลย บวกกับเริ่มมืด เลยรีบเดินลื่นไปหลายรอบอยู่เหมือนกัน
แอบกลัวนิดนึงง
พอลงมาจนถึงชั้น 4 ก็ยังเจอคนเล่นน้ำอยู่ เลยรู้สึกโล่งหน่อยย
ระหว่างทางจะมีคล้ายๆจุดชมวิวอยู่
เดินต่อกันดีกว่าาา
แล้วก็เดินมาเรื่อยจนถึงชั้น 2 คนก็ยังเล่นเยอะอยู่ เราก็เลยลงมานั่งตรงชั้น 1 นั่งเล่นสักพัก แล้ว 5 โมงค่อยเดินกลับ
พอเดินลงจากน้ำตกมาเสร็จ ก็เลยมาเก็บของในเต้นท์ ไปอาบน้ำแล้วก็ ซื้อมาม่าซื้อน้ำ กับเอาขนมที่ซื้อมาไปนั่งกินเล่นบนแพ
  >>นั่งบนแพแบบนี้
แล้วก็นั่งเปื่อย จนถึง 1 ทุ่ม ลืมบอกไปตรงนี้จะไม่เห็นพระอาทิตย์ตกนะ มันตกอีกทางและก็ที่สำคัญห้ามลงไปเล่นน้ำนะ และเราก็ไม่แนะนำให้เอาเท้าจุ่มน้ำเพราะว่าพอตอนเย็นน้ำมันไหลแรงขึ้น แล้วก็พอตอนเดินขึ้นมาอาจจะลื่นแล้วล้มได้ สักทุ่มนึงทุ่มครึ่งก็มานอน ง่วงมากทำไมก็ไม่รู้ วันที่เราไปเราว่าคนน้อยดี บรรยากาศดีมากๆเลย น่าจะมีประมาณ 6-7เต้นท์เอง ส่วนเต้นท์ที่เห็น จริงแล้วบางเต้นท์ ก็เป็นเต้นท์เปล่า
ตอนดึกๆตื่นมาเข้าห้องน้ำ ก็ไม่น่ากลัวนะะ
เดี๋ยวมีต่อนะะ
ปล.นี่เป็นกระทู้แรกของเรานะ ถ้าผิดพลาดยังไงก็บอกและก็ขอโทษด้วยนะะ