หนังสือสัญญาไกล่เกลี่ย และ ใบลงบันทึกประจำวัน มีผลกับเราแต่ไหนคะ ถ้าเราไม่ได้ทำตาม??

จขกท.มีปัญหากับทางครอบครัวของแฟน และได้ตกลงไกล่เกลี่ยให้ไปในทางที่จขกท.จะได้ลูกคืนภายในวันที่ไกล่เกลี่ย และวันนี้ตัวจขกท.ได้ลูกคืนกลับมาแล้วค่ะ แต่มันยังมีประเด็นอยู่ตรงที่ว่า ทางจนท.ภาครัฐได้พยายามไกล่เกลี่ยให้ตัวจขกท.เองลองปรับและกลับไปเป็นครอบครัวเหมือนเดิมอีกครั้ง เพราะเห็นว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด จนท.ได้ปล่อยให้ตัวจขกท.กับแฟนไปคุยกัน ซึ่งวันนี้ดูท่าทางยังไงแฟนก็ไม่ยอม แต่ขอให้กลับไปเป็นครอบครัว ขอให้ไม่ทิ้งเค้า และเค้าได้ให้คำสัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงและจะกันไม่ให้ทางบ้านมาทำร้ายจิตใจตัวจขกท.ได้อีก ตัวจขกท.เองก็ยอมรับว่ายังห่วงใย ยังรัก แต่ลึกๆเองก็อยากลองใช้ชีวิตอยู่แค่กับลูก อยากให้ตัวแฟนได้ไปลองใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของเค้า แต่เหตุการณ์เมื่อวานมันเป็นสถานการณ์บีบบังคับ เพราะ พม.เองจะประเมินจากสภาวะทางครอบครัวด้วย ซึ่งทางครอบฝ่ายชายก็เตรียมการไว้ดี คุยทับ คุยโอ้อวด พูดให้ตัวเองดูดีว่ามีสภาวะจะเลี้ยงเด็กได้ดี ทับถมว่าเราจะพาเด็กไปอยู่ที่กทม.ก็เป็นแค่บ้านเอื้ออาทร (แต่ทางครอบครัวเราเป็นเจ้าของไม่ได้เช่า) ตัวจขกท.ตระหนักดีแล้วว่า มีทางตัดสินใจแค่ทางเดียวที่จะได้ลูกกลับภายในวันนี้ เพราะการอยู่ต่อเพื่อสู้คดีความในต่างถิ่น ค่าใช้จ่ายเยอะ ตัวจขกท.เองก้ออยากจะรีบกลับพาลูกไปเที่ยว ไปทำงาน พาเค้าไปเข้ารร.ได้มีสังคมเพื่อนๆ ไม่อยากรอการต่อสู้ทางศาล เพราะทางบ้านฝ่ายชายไม่ยอมแน่ๆต้องเป็นความขึ้นศาลอย่างเดียว จขกท.จึงตัดสินใจยอมกลับไปเป็นครอบครัวโดยที่ห้ามบุคคลที่3(ครอบครัวของแต่ละฝ่ายไม่มายุ่งเกี่ยว) ส่วนถ้าครอบครัวของแต่ละฝ่ายอยากจะซัพพอร์ตเด็ก ทางตัวจขกท.กับแฟนก็ยินดี มีข้อตกลงในบันทึกชัดเจน (หลักฐานที่ต้องเซ็น) มีข้อกำหนดคุ้มครองว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ทำร้ายร่างกาย หรือจิตใจเกิดขึ้น แจ้งที่อยู่ที่ภาครัฐสามารถตรวจสอบได้ชัดเจน ตัวจขกท.เห็นว่าเป็นทางเดียวที่สามารถรับตัวลูกกลับได้วันนี้และขอยื่นข้อเสนอให้ลูกได้ไปเจอฝั่งทางครอบครัวจขกท.เป็นเวลา7วัน มีการลงบันทึกประจำวันว่าเมื่อครบ7วันจะกลับมาอยู่เป็นครอบครัวกับแฟนอีกครั้ง แต่ตัวจขกท.เองพึ่งได้มาอยู่กับลูกอีกครั้งทำให้เห็นได้ว่าลูกมีความเปลี่ยนแปลงไปมาก (ทางจนท.ไม่ได้สอบถามจากเด็กเพราะคิดว่า3ขวบยังเล็กต่อการตัดสินใจ) ลูกคิดถึงจขกท.มาก เมื่อเจอกันเค้ายังขอจุ้บเต้าเหมือนเดิม เหมือนด้วยความโหยหาและคิดถึง (แต่ถ้าไม่ได้ทานนมเด็กก็สามารถนอนเองได้ ไม่ได้จุ้บจนหลับ แต่จุ้บพอขอดื่มนมแม่เท่านั้น) และตัวจขกท.ได้ลองถามลูกในระหว่างที่อยู่ด้วยกันขณะเดินทางกลับ ตอนอยู่ต่อหน้าพ่อเด็ก เด็กต้องการแค่พ่อเด็กเดินทางไปด้วยกันเท่านั้น แต่พอห่างออกมา เค้าให้คำตอบว่าไม่อยากกลับไปที่ที่พ่อเด็กอาศัยอยู่ อยากอยู่กับแม่ ไม่อยากกลับไปหาพ่อ
  สอบถามด้วยนะคะ เราสามารถทำอะไรได้บ้างไหมคะ ถ้าเราอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับลูกต่อเลยที่ทางบ้านเรา เพราะเด็กก็มีความต้องการที่จะอยู่กับเรา ไม่กลับไปทางนู้น บันทึกประจำวันกับสัญญาที่ได้เซ็นไปนั้น จะมีผลอะไรมากไหมคะ
ปล. การตัดสินใจของเราเหมือนจะเข้าทางผูใหญ่ครอบครัวฝ่ายชาย แต่ขอยืนยันว่าไม่ได้อยากกลับไปให้ถูกทำร้ายจิตใจหรือย่ำยี เพียงแค่สามารถกลับไปอยู่เฉพาะฝ่ายชายได้ถ้ารับปากหนักแน่นว่าจะปกป้องไม่ทำร้ายจขกท.อีก ถึงแม้ครอบครัวฝ่ายชายขอให้ฝ่ายชายได้เซ็นรับรองบุตร แต่ทางเราไม่ยินยอมเด็ดขาด จะไม่มีการเซ็นใดๆทั้งสิ้น มีการตัดสินใจร่วมกับฝ่ายชายเองแล้ว
ปล.2 การตัดสินใจของจขกท. ทำให้ทางบ้านของจขกท.ผิดหวัง เพราะอยากให้เดินออกจากครอบครัวนี้ วงจรนี้สักที แต่นี่เป็นวิธีเดียวที่จะได้ลูกคืนภายในวันนี้ และ ลูกจะได้ไม่ต้องอยู่ในบ้านพักพม.ถ้าต้องสู้กันทางกฏหมาย จขกท.ทำใจให้ลูกตกอยู่สภาวะที่ไม่ได้อยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อยู่ตรงกลางกับคนที่ลูกไม่รู้จักโดยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลากี่วันไม่ได้ ลำบากใจกับทางบ้านค่ะ กลัวทางบ้านจะโกรธและไม่โอเคกับเรา กลัวเค้าจะตัดเรา กลัวตัวจขกท.เองจะไม่เหลือคนในบ้านคอยช่วยเหลือค่ะ
ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ 🙏🙏
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่