
#ช้างศึกข้างสนาม
………………
อันที่จริง มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีในมุมมองของผมนะ ที่ ทีมชาติไทย ผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอล เอเชี่ยนคัพ 2019 แม้สุดท้ายจะพ่ายแพ้ ทีมชาติจีน 1-2 แต่มันก็เป็นเกมที่เราสามารถ “สู้ได้” และ “สู้ได้ดี” อีกด้วย
มันน่ายินดีมากนะ ที่เราสามารถพลิกนรกจากพ่ายแพ้อินเดีย 1-4 ในเกมแรก มาเข้ารอบน็อกเอาท์ได้สำเร็จ
มันน่ายินดีมากนะ ที่เราได้เชียร์ทีมชาติไทยถึง 4 นัด ไม่ใช่ลงแข่งแค่ 3 นัดตามโปรแกรมแล้วตกรอบกลับบ้าน
มันน่ายินดีมากนะ ที่เราพบกับชัยชนะนัดแรกในศึกเอเชี่ยนคัพ รอบสุดท้าย นอกประเทศ
มันน่ายินดีมากนะ ที่เราสามารถยิงได้ทุกเกม ได้เฮได้ดีใจทุกเกมเลย
มันน่ายินดีมากนะ ที่นักฟุตบอลของเราแสดงออกถึงการมีสปิริตภายในทีมอย่างเต็มเปี่ยม
มันน่ายินดีมากนะ ที่นักฟุตบอลของเราลงเล่นอย่างเต็มที่ วิ่งสู้ฟัดชนิดได้ใจกองเชียร์ชาวไทยมากมาย
มันน่ายินดีมากนะ ที่ทีมชาติไทย, เพลงชาติไทย และธงชาติไทย ได้ปรากฏในศึกใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียอีกครั้ง
แต่ดูเหมือนว่า บนความน่ายินดีมากมายที่เกิดขึ้นนั้น กลับกลายเป็นเรื่องไม่น่ายินดีเท่าไร ของแฟนบอลบางกลุ่ม บางคน และบางท่าน ที่ยังคิดลบ และโจมตีทีมชาติไทย โดยเฉพาะนักฟุตบอลที่ทำพลาดในสนาม เวลาที่พ่ายแพ้
ภาพคำหยาบ การด่าทอ การดูถูกนักฟุตบอลทีมชาติไทยในพื้นที่สังคมออนไลน์ส่วนตัวของนักเตะ ได้ถูกแชร์บนโซเชี่ยลตั้งแต่หลังจากวินาทีที่ทีมชาติไทยแพ้ทีมชาติจีน โดยเป้าหมายหลักก็คือ ชนานันท์ ป้อมบุบผา และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว สองนักเตะที่ถูกมองว่า “พลาด” จนทำให้เสียประตูที่ 1 และ 2 รวมถึง “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ที่ถูกมองว่า แทคติกการแก้เกม และการเปลี่ยนตัวนั้น ไม่สามารถสู้กับ มาร์เซโล ลิปปี้ กุนซือสมองเพชรชาวอิตาลีของทีมชาติจีนได้
ทั้งที่จริงๆ นั้น ไม่มีใครหรอกครับ ที่ไม่เคยทำงานพลาด ดั่งประโยคคำคมที่ว่า คนที่ไม่เคยทำงานพลาด ก็คือ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย
ความผิดพลาดของนักฟุตบอล เป็นเรื่องปกติครับ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม มีกองหน้า มีกองกลาง มีกองหลัง มีผู้รักษาประตู มีวันเล่นดี มีวันเล่นพลาด แต่ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าคุณจะเล่นดี เพื่อนเล่นแย่ หรือคุณเล่นแย่ เพื่อนเล่นดี ผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น มันก็คือต้องรับด้วยกันทั้งทีม
ซึ่งแฟนบอลบางท่านเองก็ควร “เข้าใจ” ความเป็นฟุตบอลมากกว่านี้
เข้าใจว่า มันก็มีแพ้ มีชนะ มีเสมอ เป็นเรื่องปกติ
เข้าใจว่า มันก็มีการตกรอบ มีการเข้ารอบ
เข้าใจว่า นักกีฬาทุกคน ไม่มีใครอยากแพ้ และพวกเขาก็ทำเต็มที่แล้ว
เข้าใจว่า มันคือกีฬา ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจรรโลงหัวใจกับคนดูในแง่ความบันเทิง
เมื่อเข้าใจแล้ว คุณก็จะมองเห็นแง่บวกของมัน มองเห็นเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้น แม้จะแพ้ หรือแม้จะตกรอบก็ตาม ซึ่งนั่นแหละ ที่กีฬาฟุตบอลได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบให้กับคุณ
ลองเปลี่ยนจากมองโลกฟุตบอลในแง่ร้าย มาเป็นมองโลกฟุตบอลในแง่รัก
ลองเปลี่ยนจากการยินร้ายกับทุกสิ่ง มาเป็นยินดีกับทุกอย่าง
แล้วชีวิตของการดูฟุตบอลของคุณ จะแฮปปี้ขึ้นเยอะเลย….
“จอน”
#ช้างศึก #เชียร์ไทยใจเดียวกัน #TogetherAsOne #Thailand #Asiancup2019 #ฟุตบอลไทย #บอลไทย #ฟุตบอลทีมชาติไทย #นักฟุตบอลทีมชาติไทย
บทความดีๆ จากคุณจอน ..... "ยินดีไม่มีปัญหา! เพราะฟุตบอล คือ สิ่งสวยงาม"
#ช้างศึกข้างสนาม
………………
อันที่จริง มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีในมุมมองของผมนะ ที่ ทีมชาติไทย ผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอล เอเชี่ยนคัพ 2019 แม้สุดท้ายจะพ่ายแพ้ ทีมชาติจีน 1-2 แต่มันก็เป็นเกมที่เราสามารถ “สู้ได้” และ “สู้ได้ดี” อีกด้วย
มันน่ายินดีมากนะ ที่เราสามารถพลิกนรกจากพ่ายแพ้อินเดีย 1-4 ในเกมแรก มาเข้ารอบน็อกเอาท์ได้สำเร็จ
มันน่ายินดีมากนะ ที่เราได้เชียร์ทีมชาติไทยถึง 4 นัด ไม่ใช่ลงแข่งแค่ 3 นัดตามโปรแกรมแล้วตกรอบกลับบ้าน
มันน่ายินดีมากนะ ที่เราพบกับชัยชนะนัดแรกในศึกเอเชี่ยนคัพ รอบสุดท้าย นอกประเทศ
มันน่ายินดีมากนะ ที่เราสามารถยิงได้ทุกเกม ได้เฮได้ดีใจทุกเกมเลย
มันน่ายินดีมากนะ ที่นักฟุตบอลของเราแสดงออกถึงการมีสปิริตภายในทีมอย่างเต็มเปี่ยม
มันน่ายินดีมากนะ ที่นักฟุตบอลของเราลงเล่นอย่างเต็มที่ วิ่งสู้ฟัดชนิดได้ใจกองเชียร์ชาวไทยมากมาย
มันน่ายินดีมากนะ ที่ทีมชาติไทย, เพลงชาติไทย และธงชาติไทย ได้ปรากฏในศึกใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียอีกครั้ง
แต่ดูเหมือนว่า บนความน่ายินดีมากมายที่เกิดขึ้นนั้น กลับกลายเป็นเรื่องไม่น่ายินดีเท่าไร ของแฟนบอลบางกลุ่ม บางคน และบางท่าน ที่ยังคิดลบ และโจมตีทีมชาติไทย โดยเฉพาะนักฟุตบอลที่ทำพลาดในสนาม เวลาที่พ่ายแพ้
ภาพคำหยาบ การด่าทอ การดูถูกนักฟุตบอลทีมชาติไทยในพื้นที่สังคมออนไลน์ส่วนตัวของนักเตะ ได้ถูกแชร์บนโซเชี่ยลตั้งแต่หลังจากวินาทีที่ทีมชาติไทยแพ้ทีมชาติจีน โดยเป้าหมายหลักก็คือ ชนานันท์ ป้อมบุบผา และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว สองนักเตะที่ถูกมองว่า “พลาด” จนทำให้เสียประตูที่ 1 และ 2 รวมถึง “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ที่ถูกมองว่า แทคติกการแก้เกม และการเปลี่ยนตัวนั้น ไม่สามารถสู้กับ มาร์เซโล ลิปปี้ กุนซือสมองเพชรชาวอิตาลีของทีมชาติจีนได้
ทั้งที่จริงๆ นั้น ไม่มีใครหรอกครับ ที่ไม่เคยทำงานพลาด ดั่งประโยคคำคมที่ว่า คนที่ไม่เคยทำงานพลาด ก็คือ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย
ความผิดพลาดของนักฟุตบอล เป็นเรื่องปกติครับ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม มีกองหน้า มีกองกลาง มีกองหลัง มีผู้รักษาประตู มีวันเล่นดี มีวันเล่นพลาด แต่ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าคุณจะเล่นดี เพื่อนเล่นแย่ หรือคุณเล่นแย่ เพื่อนเล่นดี ผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น มันก็คือต้องรับด้วยกันทั้งทีม
ซึ่งแฟนบอลบางท่านเองก็ควร “เข้าใจ” ความเป็นฟุตบอลมากกว่านี้
เข้าใจว่า มันก็มีแพ้ มีชนะ มีเสมอ เป็นเรื่องปกติ
เข้าใจว่า มันก็มีการตกรอบ มีการเข้ารอบ
เข้าใจว่า นักกีฬาทุกคน ไม่มีใครอยากแพ้ และพวกเขาก็ทำเต็มที่แล้ว
เข้าใจว่า มันคือกีฬา ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจรรโลงหัวใจกับคนดูในแง่ความบันเทิง
เมื่อเข้าใจแล้ว คุณก็จะมองเห็นแง่บวกของมัน มองเห็นเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้น แม้จะแพ้ หรือแม้จะตกรอบก็ตาม ซึ่งนั่นแหละ ที่กีฬาฟุตบอลได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบให้กับคุณ
ลองเปลี่ยนจากมองโลกฟุตบอลในแง่ร้าย มาเป็นมองโลกฟุตบอลในแง่รัก
ลองเปลี่ยนจากการยินร้ายกับทุกสิ่ง มาเป็นยินดีกับทุกอย่าง
แล้วชีวิตของการดูฟุตบอลของคุณ จะแฮปปี้ขึ้นเยอะเลย….
“จอน”
#ช้างศึก #เชียร์ไทยใจเดียวกัน #TogetherAsOne #Thailand #Asiancup2019 #ฟุตบอลไทย #บอลไทย #ฟุตบอลทีมชาติไทย #นักฟุตบอลทีมชาติไทย