แอ่วเหนือ @Chiang Mai 6วัน ด้วยงบ 5000บาท เหลือๆ

-------------------------------
สวัสดีครับ นี่เป็นการทำรีวิวที่เที่ยวครั้งแรก ดีไม่ดียังไงขอโทษไว้ก่อนนะครับ แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง
ทริปนี้มันเกิดขึ้นจากการพูดเล่นๆในกลุ่มเพื่อน ว่าสิ้นปีจะไปเที่ยวไหนกันดี พูดไปมาก็ตกลงไป “เชียงใหม่” กันดีกว่า พอได้ที่ที่จะไป ก็จองโรงแรมกันก่อนเลย*กันเพื่อนเท แต่การที่เราจะไปเที่ยวทั้งทีหลายคนคงเคยเจอปัญหากับเพื่อนมาบ้างเช่น เออกูไม่ว่าอะ กูไม่มีตัง พ่อเเม่กูไม่ให้ไปวะ บลาๆๆ... แล้วจบด้วยทริปล่มทุกที เเต่ครั้งนี้มันไม่ล่มเพราะได้ทพการจองโรงเเรง และรถที่จะไปกันเเล้ว เพื่อนเลยไม่กล้าเท ลองเอาวิธีนี้ไปใช้กันดู แต่ก่อนที่จะไปเชียงใหม่ ก็แวะรับเพื่อนที่พะเยาแล้วค้างสักคืนค่อยไปต่อที่เชียงใหม่ เริ่มจะพูดมากไปละ งั้นอย่ารอช้าเริ่มเก็บกระเป๋าเดินแล้วออกเดินทางกันเลยดีกว่า

----- Day 1 [27/12/61]
เริ่มมุ้งหน้าไปหาเพื่อนที่พะเยากันเลยดีกว่า ออกเดินทางด้วยรถทัวร์ ขึ้นรถที่สถานีขนส่งรถทัวร์ บริษัท สมบัติทัวร์ ที่วิภาวดี จองผ่าน https://www.sombattour.com/ คนละ 484 บาท รถออกตอน19:00 ถึงตอน 05:40 ลงรถมาคือหนาวมากกกกก
[บนรถก็มีของว่างให้กินเป็นขนมเค้กกับฝอยทองอบกรอบและน้ำเปล่า มีหมอนรองคอและผ้าห่มให้ด้วย
*เก็บตั๋วรถให้ดีท้ายตั๋วมีบัตรสามารถฉีกแรกอาหารได้ มีข้าวต้มกับก๋วยเตี๋ยวให้เลือก1อย่าง]
----- Day 2 [28/12/61]
พอถึงก็โทรตามให้เพื่อนมารับแล้วเอาของไปเก็บ แล้วต่อด้วยการไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ
ระหว่างทางที่จะไปคือหนาวและหมอกเยอะมาก พอไปถึงก็ไม่เห็นไรเลยนอกจากหมอก ก็ได้เเต่ถ่ายรูปเล่นกับหมอก
ไม่ทันไรก็หิวกัน เลยขับรถมาหาไรกิน ด้วยความที่มันเช้ามาก และม.พะเยาอยู่ในช่วงปิดเทอมอยู่หลายร้านเลยปิดเเละยังไม่เปิด
ขับไปมาเจอร้านนึงเปิดอยู่เลยจอดเเล้วเข้าไปสั่ง ข้าวผัดผงกระหรี่ปลาหมึกไข่เจียว 45 บาท ถูกและอร่อย พอกินอิ่มก็กลับห้องมานอน *ด้วยที่เพื่อนเรียนที่พะเยาเลยไม่ต้องเสียค่าที่พัก นอนเอาเเรงเพื่อจะได้ไปหาที่เดินเล่นตอนเย็น แต่ก็นอนก็ไม่เท่าไหร่ตื่นมาตอนบ่ายก็หิวกันอีกแล้ว เลยจะไปหาชาบูกินกันที่หน้ามอ ก็อย่างว่ามอปิดร้านก็ปิด แล้วอยู่ช่วงจะปีใหม่อีกด้วยเลยอดกินที่ร้านเลย
เลยไปซื้อของมาทำกินกันเองที่หอพักเลย กินกัน3คนตกคนละ 370 บาท

พอตกเย็นก็ไปเดินเล่นที่ ถนนคนเดินกว๊านพะเยา ของขายเยอะมาก ไม่ว่าจะเสื้อผ้าหรือของกิน ถูกๆและอร่อยทั้งนั้นเลย

เดินไปกินไปจนตังหมดก็ถึงเวลากลับหอ เตรียมตัวไปเชียงใหม่เเต่เช้า
----- Day 3 [29/12/61]
วันนี้เเล้วสินะที่จะได้ไปเชียงใหม่ ไม่ทันไรก็ตื่นสายเเล้ว เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปขึ้นรถทัวร์ที่จองไว้ตอนเที่ยว 08:20 ถึงเชียงใหม่ตอน 11:30 ค่ารถ 20 บาท
ค่ารถทัวร์ 142 บาท พะเยา-เชียงใหม่
นั่งรถก็หลับตลอดทาง ตื่นขึ้นมาก็ถึงสถานีขนเชียงใหม่เเล้ว ถึงก็เอ๋อเลยไม่รู้จะไปที่พักที่จองไว้ยังไง ด้วยความที่ไม่เคยมากกันเองเเละไม่รู้จักเส้นทาง เเต่ตาก็ดันไปเห็นรถแดง

ก็กลัวมันจะเเพง เพราะตอนไปก็มีข่าวออกพอดีว่ารถเเดงโกงราคากับนักท่องเที่ยว แต่จริงๆตอนนี้มันมีราคามาตรฐานแล้วไม่เกิน 30บาท แต่ถ้านั่งไปลงใกล้ๆก็แค่ 20บาท เราก้ไม่รอช้ารีบขึ้นรถไปที่พักเลย โดนไป 30บาท
เช็คอินเข้าที่พักตอนเที่ยง แต่รูปถ่ายตอนเที่ยงคืน
ที่พักเป็นแบบ hostel เน้นประหยัดแต่อยู่สบาย ห้องพักก็ไม่ได้เเย่เลย ห้องน้ำมี7-8ห้อง แยกเป็นห้องอาบน้ำ 4ห้อง สะอาดไม่สกปรกเลย แต่ลืมถ่ายรูปมา

เก็บของเสร็จก็ไปหาไรกินกันไปเจอร้านอาหารร้านนึงเป็นคนจีนแก่ๆสองคนร้านไม่มีคนเลย ก็เข้าไปนั่งกินไม่ได้คิดอะไร ข้าวไม่อร่อยเลย กินไม่ทันหมดก็จ่ายตังเดินออกมาเลย ก็ไม่รู้จะไปไหนเลยไปเดินเล่นที่ เซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ โบกตุ๊กๆไปกันสามคน 150บาท เดินเล่นเดินดูเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า บลาๆๆๆ... เริ่มเบื่อไม่รู้จะไปไหนก็ searchหาที่เดินเล่นในเชียงใหม่ ก้ไปเจอ ''กาดหน้ามอ'' ก็ไม่รอช้าเลยนั่งรถถเมลล์หน้าเซ็นทรัลไปแปปเดียวก็ถึง 20บาท
กาดหน้ามช ของขายเยอะมาก ของกินเสื้อผ้าต่างๆนานา (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ถ่ายมาแต่ของกิน) มาเดินทีคือหมดตังไปเยอะ


กินไปฟังเพลงไป+กับบรรยากาศเย็นๆ ชิวมากกกกก ไม่ทันไรก็3ทุ่มกว่าเเล้วกลับที่กันดีกว่า เรียกรถแดงหน้าตลาด 30บาท
ก่อนจะเข้าที่พักก็เเวะถ่ายรูปเล่นตรงประตูท่าแพสักหน่อยดีกว่า ตอนกลางคืนแทบจะไม่มีคนเลยแล้วอากาศก็เย็นๆ ไฟเหลืองๆส้ม ก็สวยไปอีกแบบ
----- Day 4 [30/12/61]
วันนี้เเล้วสินะ ที่เพื่อนที่เหลือจะตามมา แล้วก็เป็นวันที่พวกเราจะขึ้นดอยกัน โดยที่พวกเราเช่ารถแดงไว้ 2วัน1คืน ราคา 5000บาท (โปรแกรมดอยอ่างขาง)


ถ้าไป 10คนมันก็ถูกดี แต่เราไปกัน 6คนก็หรเยอะหน่อย
ไม่ทันไรพี่เค้าก็มารับเราหน้าที่พักพอดี ก็เริ่มออกเดินทางขึ้นดออยกันไม่รอช้า แต่ก่อนที่เราจะขึ้นดอยอ่างขางเราก็แวะไปที่ ม่อนเเจม
ทางไปอากาศหนาวมากและหมอกก็เยอะด้วยเช่นกัน  
ระหว่างทางที่ไป ม่อนเเจ่ม หมอกลงหนามากเนื่องจากเมื่อเช้าฟ้นตก ทำให้มีหมอกมาก คนขับคนเค้าบอกมางั้นนะ เเล้วพอไปถึงก็เป็นอย่างที่คิด เห็นเห็นวิวสวยๆอย่างในเน็ตเลย ขึ้นไปถึงนึกว่าทะเลหมอก
ก็ถ่ายไรไม่เห็นเลยนอกจากหมอก ซวยจริงๆ ก็ลงมาจาก ม่อนเเจ่ม ไปเล่น จังเเกิ้ลโคสเตอร์ คนละ 150บาท สนุกดี มีหลายอย่างให้เล่น
เล่นเสร็จก็หิว เลยขับรถออกมาหาข้าวกินกันก่อนก่อนที่จะไปต่อ
บรรยากาศร้านอาหารที่ไปกิน ติริมลำธานน้ำ สามารถลงไปกินเเคร่ไม้ไผ่ได้
แต่ว่าอาหารรอนานมาก เเถมรสชาติก็เฉยๆไม่ได้อร่อยอะไรมาก โดนไป 525บาท
รีบกินรีบไปดีกว่า ก็ไปต่อที่ไร่องุ่นก่อนที่จะขึ้นดอยอ่างขาง
พอไปถึงมันก็ไม่มีอะไรเลยนอกจากไร่องุ่นเลยเลือกที่จะไม่เข้าไปดูกัน แต่เจอขนมอย่างนึงมันแปลกๆเลยลองซื้อกินดู
รสชาติเหมือน ขนมจาก ไม่มีรสไรนอกจากจืดๆ เค้ากินกับนมข้น เรียกว่า ข้าวปุก ก็อร่อยดีเหมือนกินขนมจากเลย
ไม่รีรอก็มุ้งหน้าขึ้นดอยอ่างขางกันยาวๆ  แต่ก็กลัวบอนดอยจะไม่มีไรขายเลยเเวะ 7-11 ตุนเสบียงอาหารสำหรับคืนนี้ไว้เลย

ก็ไปกันต่อหลับมากันตลอดทาง ตื่นๆหลับๆเพราะทางโค้งเยอะมาก และคนที่ขึ้นดอยก็เยอะด้วยเช่นกัน
แต่ระหว่างทางที่มาคือสวยมาก แล้วเริ่มสูงหมอกก็เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ
พอมาถึงก็หาที่กางเต้นท์กัน เพราะนำเต้นท์กันมาเองอย่างดิบดี ปรากฏว่าเต็มจ้าาาาา
(ก่อนที่จะมาเราก็โทรไปจองที่กางเต็นท์กับทางอุทยานก่อนเเล้ว เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่รับจองใครมาถึงก่อนก็ได้ที่ไป เเต่พอไปถึงก็มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นไปคุยกับเจ้าหน้าที่ เเล้วเค้าล็อกที่กางเต็นท์ให้ พวกเราก็ยืน งง กันเลยจ้า)
เราก็เลยจองเต็นท์ หลังใหญ่2หลัง 1600บาท นอนได้3คนต่อหลัง
ขึ้นดอยมาก็ไม่รู้ใครเป็นคนคิดริเริ่มที่ต้องกินหมูกะทะ หน้าเต็นท์หรือมันเป็นธรรมเนียมที่มาเเล้วต้องกินกัน
ก็กลัวจะตกเทรน เลยสั่งมากินมั้ง2ชุดๆละ 400บาท มีครบทุกอย่างเลย (ส่วนใครที่เป็นมุสลิมก็มีเนื้อกะทะให้กินเป็นร้านมุสลิมเองเลยนะ)
กินเนื้อกะทะกันหน้าเต็นท์แล้วก็สังสรรค์กันนิดหน่อยก็นอ