สวัสดีครับผมชื่อต้นน้ำครับ กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้ที่จะมาบอกเล่าอุทาหรณ์หรือข้อเตือนใจใครหรอกนะครับ เพราะผมรู้ว่ามันมีมาแล้วมากมายที่ใครต่อใครหลายๆคนมาแชร์ มาบอกเล่าเกี่ยวกับเพื่อนๆในตัวของเขาให้ฟัง ซึ่งผมก็รู้อยู่แล้ว......
แต่....!!!!!! คนเราเมื่อไม่เจอกับตัวเองจะไม่มีวันที่รู้สึกอะไร (ผมว่าหลายๆคนก็เป็นแบบนี้นะ..555+.)
ดังสุภาษิตที่ว่า “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” อั๊ยย่ะ..!!! ผมต้องเอามันมาใช้กับผมหรือนี่..555+
เข้าเรื่องละวันนี้และทุกๆวัน (ถ้าผมยังมีแรงอยู่) ผมจะมาบอกเล่า และแชร์ให้เพื่อนๆทุกคนรู้ว่าในแต่ละวันหลังจากที่ผมรู้ว่าผมมีเพื่อนใหม่ ในร่างกายของผม (จริงๆไม่ค่อยอยากมีเท่าไหร่) ผมทำอะไรบ้าง และอะไรที่ไม่ควรทำมันบ้าง จนกว่าวาระสุดท้ายของผมจะมาถึงแค่นั้นเอง.......
===> 22/01/2019 (วันที่ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ในร่างกายของผม..)

08.00 น. ผมลืมตาตื่นขึ้นมากดปิดเสียงนาฬิกาปลุก ที่ผมตั้งไว้ในมือถือของผม และผมก็รู้ดีว่าอีก 15 นาทีมันจะดังต่อ ผมปลุกให้คุณแฟนที่งัวเงีย และนอนอยู่ข้างๆผมลุกไปอาบน้ำก่อน (ผมให้อาบก่อนเพราะผมจะได้มีเวลางีบอีกซักอย่างน้อย 15-20 นาที ผมรู้หลายๆคนก็เป็นแบบนี้..55+) วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะวันนี้ผมกับคุณแฟนมีนัดกันว่าจะไปตรวจเลือดกัน (เมื่อวานนี้ผมแห้วเพราะคุณแฟนเบี้ยวผม) ผมนี่ไม่ค่อยอยากตรวจเท่าไหร่ แต่คุณแฟนนี่คืออยากตรวจมาก ไม่รู้จะอยากตรวจไรหนักหนา (คิดในใจนะ..คิดดังเดี๋ยวงอล..อิอิ)
09.00 น.กว่าๆ ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ และไม่วายที่จะกวนตรีนคุณแฟนที่น่ารัก เหมือนทุกวันที่เคยทำ (คือผมชอบแกล้ง ชอบกวนตรีนก่อนผมไปทำงานหรือไปข้างนอกทุกวันอ่ะ..เหมือนโรคจิตเลย..55+) วันนี้เราไปรถกันคนละคัน เพราะคิดว่าถ้าเสร็จธุระแล้วจะได้แยกย้ายกันไปทำงาน ผมก็ไม่ต้องวนไปวนมาหลายรอบ เลยแยกกันไป เราไปถึงสสจ.(สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) พอถึงก็งงๆกันหน่อยว่าห้องตรวจมันอยู่ตรงไหน เหมือนเดิมครับผู้รับหน้าที่ ถามทางไม่ใช่ใครแน่นอน... คุณแฟนผมเอง!! เดินไปเจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิงแนะนำ และชี้บอกทางเราว่าต้องไปตรงไหน
“มันทำไมลึกลับจัง อยู่ใต้บันไดด้วย” คุณแฟนพูดขึ้น
“เอ้า..ก็เขาจะเก็บเป็นความลับไง มันเลยต้องอยู่ใต้ดิน ดีเขาไม่ขุดรูอยู่ 555+” ผมไม่วายกวนตรีน
ถึงห้องใต้ดิน เรา ต้องพบกับคุณป้าหน้าห้อง เราแจ้งว่าจะมาตรวจเลือด ก่อนที่คุณป้าแกจะชี้เข้าไปด้านในสุด ไปถึงเราพบคุณป้าอีกท่าน ถามเราว่ามาจากไหน ใครแนะนำมา ผมก็ตอบไปว่าเพื่อนผมเองครับ พร้อมทั้งต่อสายมันให้คุณป้าแกคุย ก่อนคุณป้าจะจบบทสนทนากับเราว่า “เดี๋ยวมีเจ้าหน้าที่มานะ รอแป๊บนึง...”
อ้าว...นี่รออีกเหรอ โว๊ะ!! อยากตรวจแล้วเนี่ย ผมตื่นเต้น..555+
รอไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่หนุ่ม (คิดในใจเอ่อ..น่ารักดี เหมือนเคยเห็น 555+) ผมขอเรียกพี่แกว่า “พี่ต่าย”ละกันนะมาพบเราสองคน และสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเล็กน้อย ก่อนจะให้กรอกแบบรับเงินค่าเดินทาง (อิอิ..มาตรวจมีค่าเดินทางด้วย) เสร็จแล้วก็ถึงเวลาที่จะได้ตรวจละ
“เดี๋ยววัดความดัน ส่วนสูง และน้ำหนักได้เลยนะครับ” คุณหมอประจำศูนย์บอกเรา เราทำตามทุกขั้นตอน ก่อนเข้าไปห้องตรวจทีละคน คนแรกคงไม่ต้องบอกว่าใคร...55 คุณแฟนของผมเองเช่นเคย เข้าไปและก็ออกมาพร้อมกับก้อนสำลีปิดข้อพับแขนซ้าย อันเป็นสัญลักษณ์บอกว่า “ฉันเจาะเลือดแล้ว”
และแล้วก็ถึงคิวผมครับ เข้าไปห้องตรวจด้วยการสะกดความตื่นเต้นไว้ข้างใน...(อยากจะบอกว่าจริงๆแล้วหัวใจมันเต้นแรงมากๆ555+)
“สวัสดีครับ” เป็นประโยคที่ใช้ในการเริ่มสนทนาของผม และเป็นประโยคเพื่อทำให้ผมคลายความตื่นเต้น
“สวัสดีครับ หมอขอถามอะไรหน่อยนะ เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้น” คุณหมอประจำศูนย์เริ่มบทสนทนากับผม
“ครับผม” ผมตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“คุณมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ กับใคร และป้องกันโดยใส่ถุงยางอนามัยมั๊ย” คุณหมอเริ่มคำถามแรก
“เอ่อ...2 วันที่แล้วครับ กับแฟนครับ คนตะกี้ครับ ไม่ได้ใส่ครับ” ผมตอบตามที่คุณหมอถาม
“อ้าว..แล้วตะกี้น้องเขาบอกว่า 3 วันละ” คุณหมอสวนมาทันที
“อ่อ..3 วันแหล่ะครับ ผมจำไม่ได้ครับ” ผมก็ตอบคุณหมอไปแบบนั้น
“หมอถามต่อนะ.....” และคุณหมอก็ใส่คำถามเหมือนคุณครูสมัยผมเรียนมาเป็นระลอก…
ตั้งแต่คำถาม “มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงยางเสี่ยงติดมั๊ย?” จนถึง “ถ้ายุงกัดคนรับเชื้อ แล้วไปกัดคนไม่เป็นติดมั๊ย?” ผมตอบได้หมดทุกคำถาม จนคุณหมอทิ้งท้ายคำถามสุดท้ายให้ผม
“อ้าว..รู้ทุกอย่างละทำไมไม่ป้องกันล่ะครับ..” ไปต่อไม่ถูกเลยผม 555+ (คิดในใจ...ผมผิดไปแล้วครับ) แล้วคุณหมอก็ค่อยๆจิ้มเข็มลงที่ข้อพับขวาของผม (ตอนนั้นไม่มองนะ..ผมกลัวเข็ม..อิอิ) หันมาอีกทีเลือดเต็มหลอดละ เป็นอันเสร็จกระบวนการเจาะ และออกไปนั่งรอด้านนอกห้องตรวจ รอฟังผล...ต่อไป
ออกจากห้องมา คุณแฟนก็บรรเลงคำถามกับพี่ต่ายอย่างครบถ้วน เกี่ยวกับเรื่องของการใช้ชีวิตต่อไป ถ้าผลออกมาพบว่า “Yes” แถมหันมาหาผมละบอกว่า “นี่เธอจะไม่ถามไรเลยเหรอ...” ก็แหม...คุณแฟนครับ เล่นถามไปหมดแล้วผมจะเอาคำถามไหนมาถามอีกครับ ถามไปผมก็ได้ยินทุกอย่างที่พี่ต่ายตอบละ 555+
==> 20 นาทีผ่านไป (ช่วงเวลาของการได้พบเพื่อนใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น....)
“คุณ..... เข้ามาก่อนครับ” คุณหมอเรียกชื่อของคุณแฟนผม เข้าไปเป็นคนแรก เข้าไปประมาณไม่ถึง 10 นาที คุณแฟนก็ออกมาพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก และส่ายหัวเบาๆ บอกว่าไม่เจอ...... พร้อมกับบอกให้ผมเข้าไปเป็นคนถัดไป
ผมเข้าไปในห้องพร้อมกับแววตาที่กังวลมากๆ (คือไม่มีกระจกหรอก แต่คิดว่ามันคงแสดงออกชัดเจนแบบนั้น) คุณหมอก็เริ่มประโยคแรกของการแจ้งผลว่า...
“แฟนเก่าคุณต้นน้ำ น่าจะมีเชื้อนะครับ” ผมเหรอ...555+ ไม่ต้องเดาครับ ใจไปหมดละตอนนั้น แต่ไม่แสดงอาการอะไรออกมาหรอก
“หมออยากให้คุณต้นน้ำทำใจให้สบาย และเตรียมใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปนะครับ เพราะการที่รับเชื้อมา ถ้ารับการรักษา และกินยาอย่างต่อเนื่องอยู่ได้นานเลยครับ.... ไม่ต้องกังวลหรือคิดมากนะครับ” คุณหมอก็พูดต่อไป..... (คือตอนนั้นสมองมันจะมึนๆหน่อย คิดแต่ว่า เอาไงต่อดี จะเริ่มยังไง จะทำอะไร แล้วต้องดูแลตัวเองยังไงดี.....
“เดี๋ยวหมอขอให้คุณต้นน้ำ เอาใบส่งตัวนี้ไปที่โรงพยาบาลนะครับ และเดี๋ยวที่โรงพยาบาลจะตรวจอีกครั้ง แล้วก็ตรวจหาค่า CD4 เพื่อประเมินการรักษาต่อไปนะครับ” คุณหมอแนะนำและบอกวิธีการต่อไป ว่าหลังจากนี้ กับการที่ผมมีเพื่อนใหม่ ที่ไม่รู้ว่าอยู่กับผมมานานเท่าไหร่แล้วในร่างกายต้องปฏิบัติยังไงต่อไป... พร้อมกับยื่นเอกสารในซองขาว และประโยคทิ้งท้ายว่า “ข้อมูลทั้งหมดจะเป็นความลับ และขอให้คุณต้นน้ำดูแลตัวเองดีๆนะครับ โชคดีครับ”
เฮ้อ...สุดท้ายสิ่งที่ผมไม่อยากให้มันเกิดก็เกิดขึ้นจนได้นะ อยากตบหน้าตัวเองแรงๆ แล้วตื่นขึ้นมาแล้วบอกว่า นี่คือฝันไป (ขอโทษเถอะ...เรื่องจริงครับ!!)
ไงล่ะ... “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” ซึ้งเลยผม...ร้องไห้ข้างในได้มั๊ย...
ออกมาจากห้องตรวจ ยิ้มให้คุณแฟน และพี่ต่าย พร้อมกับกล่าวขอบคุณและเดินออกมาจากตรงนั้น คุณแฟนเดินตามมา แล้วถามผมว่าเป็นไงบ้าง...
ผมเอามือโอบไหล่คุณแฟน และกระซิบข้างๆหูว่า... “เค้าไม่รอดอ่ะ.....ที่รัก” แล้วก็เดินออกจากตรงนั้นไปพร้อมกัน แต่คุณแฟนก็เอามือมาโอบเอวผม บอกผมว่า “ ไม่เห็นเป็นไรเลย เป็นก็กินยาเนาะ ป่ะ..ไปกินข้าวดีกว่า หิวละ 555+” เอ้อดีนะ..มีคุณแฟนแบบนี้ ก็สบายไปไปอีกแบบ....
ไงล่ะ? เจ้าเพื่อนใหม่ของผม เจ๋งดีนะ..!!! ยินดีต้อนรับอย่างเป็นทางการครับ ว่าแต่เพื่อนมาตอนไหนเนี่ย!!! ผมยังไม่รู้เลย 555+ แต่ลึกๆก็คิดว่ามันคงมาอยู่ได้ซักพักละ เดี๋ยววันต่อๆไปผมจะมาเล่าให้ฟังนะครับ ว่าผมมีพฤติกรรมเสี่ยงอะไรที่ผ่านมาบ้าง (เล่าแล้วอย่าด่าแรงนะ 555+) เผื่อใครที่กำลังจะทำ หรือทำไปแล้วจะได้ระวังตัว และรีบไปตรวจกันนะครับ.....
นับจากวันนี้ผมต้องเรียนรู้ ศึกษาวิธีการดูแลตัวเอง และการใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนใหม่ในร่างกายของผม เพื่อยืดเวลาชีวิตของผมให้นานๆ (ก็แหม..ไม่อยากไปเร็วนี่นา 555+)
ไปแล้วครับ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะ..... วันนี้ขอตัวแล้วครับ
เมื่อผมต้องเรียนรู้ที่จะต้องอยู่กับเพื่อนใหม่ในร่างกายของผม....
แต่....!!!!!! คนเราเมื่อไม่เจอกับตัวเองจะไม่มีวันที่รู้สึกอะไร (ผมว่าหลายๆคนก็เป็นแบบนี้นะ..555+.)
ดังสุภาษิตที่ว่า “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” อั๊ยย่ะ..!!! ผมต้องเอามันมาใช้กับผมหรือนี่..555+
เข้าเรื่องละวันนี้และทุกๆวัน (ถ้าผมยังมีแรงอยู่) ผมจะมาบอกเล่า และแชร์ให้เพื่อนๆทุกคนรู้ว่าในแต่ละวันหลังจากที่ผมรู้ว่าผมมีเพื่อนใหม่ ในร่างกายของผม (จริงๆไม่ค่อยอยากมีเท่าไหร่) ผมทำอะไรบ้าง และอะไรที่ไม่ควรทำมันบ้าง จนกว่าวาระสุดท้ายของผมจะมาถึงแค่นั้นเอง.......
===> 22/01/2019 (วันที่ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ในร่างกายของผม..)
08.00 น. ผมลืมตาตื่นขึ้นมากดปิดเสียงนาฬิกาปลุก ที่ผมตั้งไว้ในมือถือของผม และผมก็รู้ดีว่าอีก 15 นาทีมันจะดังต่อ ผมปลุกให้คุณแฟนที่งัวเงีย และนอนอยู่ข้างๆผมลุกไปอาบน้ำก่อน (ผมให้อาบก่อนเพราะผมจะได้มีเวลางีบอีกซักอย่างน้อย 15-20 นาที ผมรู้หลายๆคนก็เป็นแบบนี้..55+) วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะวันนี้ผมกับคุณแฟนมีนัดกันว่าจะไปตรวจเลือดกัน (เมื่อวานนี้ผมแห้วเพราะคุณแฟนเบี้ยวผม) ผมนี่ไม่ค่อยอยากตรวจเท่าไหร่ แต่คุณแฟนนี่คืออยากตรวจมาก ไม่รู้จะอยากตรวจไรหนักหนา (คิดในใจนะ..คิดดังเดี๋ยวงอล..อิอิ)
09.00 น.กว่าๆ ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ และไม่วายที่จะกวนตรีนคุณแฟนที่น่ารัก เหมือนทุกวันที่เคยทำ (คือผมชอบแกล้ง ชอบกวนตรีนก่อนผมไปทำงานหรือไปข้างนอกทุกวันอ่ะ..เหมือนโรคจิตเลย..55+) วันนี้เราไปรถกันคนละคัน เพราะคิดว่าถ้าเสร็จธุระแล้วจะได้แยกย้ายกันไปทำงาน ผมก็ไม่ต้องวนไปวนมาหลายรอบ เลยแยกกันไป เราไปถึงสสจ.(สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) พอถึงก็งงๆกันหน่อยว่าห้องตรวจมันอยู่ตรงไหน เหมือนเดิมครับผู้รับหน้าที่ ถามทางไม่ใช่ใครแน่นอน... คุณแฟนผมเอง!! เดินไปเจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิงแนะนำ และชี้บอกทางเราว่าต้องไปตรงไหน
“มันทำไมลึกลับจัง อยู่ใต้บันไดด้วย” คุณแฟนพูดขึ้น
“เอ้า..ก็เขาจะเก็บเป็นความลับไง มันเลยต้องอยู่ใต้ดิน ดีเขาไม่ขุดรูอยู่ 555+” ผมไม่วายกวนตรีน
ถึงห้องใต้ดิน เรา ต้องพบกับคุณป้าหน้าห้อง เราแจ้งว่าจะมาตรวจเลือด ก่อนที่คุณป้าแกจะชี้เข้าไปด้านในสุด ไปถึงเราพบคุณป้าอีกท่าน ถามเราว่ามาจากไหน ใครแนะนำมา ผมก็ตอบไปว่าเพื่อนผมเองครับ พร้อมทั้งต่อสายมันให้คุณป้าแกคุย ก่อนคุณป้าจะจบบทสนทนากับเราว่า “เดี๋ยวมีเจ้าหน้าที่มานะ รอแป๊บนึง...”
อ้าว...นี่รออีกเหรอ โว๊ะ!! อยากตรวจแล้วเนี่ย ผมตื่นเต้น..555+
รอไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่หนุ่ม (คิดในใจเอ่อ..น่ารักดี เหมือนเคยเห็น 555+) ผมขอเรียกพี่แกว่า “พี่ต่าย”ละกันนะมาพบเราสองคน และสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเล็กน้อย ก่อนจะให้กรอกแบบรับเงินค่าเดินทาง (อิอิ..มาตรวจมีค่าเดินทางด้วย) เสร็จแล้วก็ถึงเวลาที่จะได้ตรวจละ
“เดี๋ยววัดความดัน ส่วนสูง และน้ำหนักได้เลยนะครับ” คุณหมอประจำศูนย์บอกเรา เราทำตามทุกขั้นตอน ก่อนเข้าไปห้องตรวจทีละคน คนแรกคงไม่ต้องบอกว่าใคร...55 คุณแฟนของผมเองเช่นเคย เข้าไปและก็ออกมาพร้อมกับก้อนสำลีปิดข้อพับแขนซ้าย อันเป็นสัญลักษณ์บอกว่า “ฉันเจาะเลือดแล้ว”
และแล้วก็ถึงคิวผมครับ เข้าไปห้องตรวจด้วยการสะกดความตื่นเต้นไว้ข้างใน...(อยากจะบอกว่าจริงๆแล้วหัวใจมันเต้นแรงมากๆ555+)
“สวัสดีครับ” เป็นประโยคที่ใช้ในการเริ่มสนทนาของผม และเป็นประโยคเพื่อทำให้ผมคลายความตื่นเต้น
“สวัสดีครับ หมอขอถามอะไรหน่อยนะ เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้น” คุณหมอประจำศูนย์เริ่มบทสนทนากับผม
“ครับผม” ผมตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“คุณมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ กับใคร และป้องกันโดยใส่ถุงยางอนามัยมั๊ย” คุณหมอเริ่มคำถามแรก
“เอ่อ...2 วันที่แล้วครับ กับแฟนครับ คนตะกี้ครับ ไม่ได้ใส่ครับ” ผมตอบตามที่คุณหมอถาม
“อ้าว..แล้วตะกี้น้องเขาบอกว่า 3 วันละ” คุณหมอสวนมาทันที
“อ่อ..3 วันแหล่ะครับ ผมจำไม่ได้ครับ” ผมก็ตอบคุณหมอไปแบบนั้น
“หมอถามต่อนะ.....” และคุณหมอก็ใส่คำถามเหมือนคุณครูสมัยผมเรียนมาเป็นระลอก…
ตั้งแต่คำถาม “มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงยางเสี่ยงติดมั๊ย?” จนถึง “ถ้ายุงกัดคนรับเชื้อ แล้วไปกัดคนไม่เป็นติดมั๊ย?” ผมตอบได้หมดทุกคำถาม จนคุณหมอทิ้งท้ายคำถามสุดท้ายให้ผม
“อ้าว..รู้ทุกอย่างละทำไมไม่ป้องกันล่ะครับ..” ไปต่อไม่ถูกเลยผม 555+ (คิดในใจ...ผมผิดไปแล้วครับ) แล้วคุณหมอก็ค่อยๆจิ้มเข็มลงที่ข้อพับขวาของผม (ตอนนั้นไม่มองนะ..ผมกลัวเข็ม..อิอิ) หันมาอีกทีเลือดเต็มหลอดละ เป็นอันเสร็จกระบวนการเจาะ และออกไปนั่งรอด้านนอกห้องตรวจ รอฟังผล...ต่อไป
ออกจากห้องมา คุณแฟนก็บรรเลงคำถามกับพี่ต่ายอย่างครบถ้วน เกี่ยวกับเรื่องของการใช้ชีวิตต่อไป ถ้าผลออกมาพบว่า “Yes” แถมหันมาหาผมละบอกว่า “นี่เธอจะไม่ถามไรเลยเหรอ...” ก็แหม...คุณแฟนครับ เล่นถามไปหมดแล้วผมจะเอาคำถามไหนมาถามอีกครับ ถามไปผมก็ได้ยินทุกอย่างที่พี่ต่ายตอบละ 555+
==> 20 นาทีผ่านไป (ช่วงเวลาของการได้พบเพื่อนใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น....)
“คุณ..... เข้ามาก่อนครับ” คุณหมอเรียกชื่อของคุณแฟนผม เข้าไปเป็นคนแรก เข้าไปประมาณไม่ถึง 10 นาที คุณแฟนก็ออกมาพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก และส่ายหัวเบาๆ บอกว่าไม่เจอ...... พร้อมกับบอกให้ผมเข้าไปเป็นคนถัดไป
ผมเข้าไปในห้องพร้อมกับแววตาที่กังวลมากๆ (คือไม่มีกระจกหรอก แต่คิดว่ามันคงแสดงออกชัดเจนแบบนั้น) คุณหมอก็เริ่มประโยคแรกของการแจ้งผลว่า...
“แฟนเก่าคุณต้นน้ำ น่าจะมีเชื้อนะครับ” ผมเหรอ...555+ ไม่ต้องเดาครับ ใจไปหมดละตอนนั้น แต่ไม่แสดงอาการอะไรออกมาหรอก
“หมออยากให้คุณต้นน้ำทำใจให้สบาย และเตรียมใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปนะครับ เพราะการที่รับเชื้อมา ถ้ารับการรักษา และกินยาอย่างต่อเนื่องอยู่ได้นานเลยครับ.... ไม่ต้องกังวลหรือคิดมากนะครับ” คุณหมอก็พูดต่อไป..... (คือตอนนั้นสมองมันจะมึนๆหน่อย คิดแต่ว่า เอาไงต่อดี จะเริ่มยังไง จะทำอะไร แล้วต้องดูแลตัวเองยังไงดี.....
“เดี๋ยวหมอขอให้คุณต้นน้ำ เอาใบส่งตัวนี้ไปที่โรงพยาบาลนะครับ และเดี๋ยวที่โรงพยาบาลจะตรวจอีกครั้ง แล้วก็ตรวจหาค่า CD4 เพื่อประเมินการรักษาต่อไปนะครับ” คุณหมอแนะนำและบอกวิธีการต่อไป ว่าหลังจากนี้ กับการที่ผมมีเพื่อนใหม่ ที่ไม่รู้ว่าอยู่กับผมมานานเท่าไหร่แล้วในร่างกายต้องปฏิบัติยังไงต่อไป... พร้อมกับยื่นเอกสารในซองขาว และประโยคทิ้งท้ายว่า “ข้อมูลทั้งหมดจะเป็นความลับ และขอให้คุณต้นน้ำดูแลตัวเองดีๆนะครับ โชคดีครับ”
เฮ้อ...สุดท้ายสิ่งที่ผมไม่อยากให้มันเกิดก็เกิดขึ้นจนได้นะ อยากตบหน้าตัวเองแรงๆ แล้วตื่นขึ้นมาแล้วบอกว่า นี่คือฝันไป (ขอโทษเถอะ...เรื่องจริงครับ!!)
ไงล่ะ... “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” ซึ้งเลยผม...ร้องไห้ข้างในได้มั๊ย...
ออกมาจากห้องตรวจ ยิ้มให้คุณแฟน และพี่ต่าย พร้อมกับกล่าวขอบคุณและเดินออกมาจากตรงนั้น คุณแฟนเดินตามมา แล้วถามผมว่าเป็นไงบ้าง...
ผมเอามือโอบไหล่คุณแฟน และกระซิบข้างๆหูว่า... “เค้าไม่รอดอ่ะ.....ที่รัก” แล้วก็เดินออกจากตรงนั้นไปพร้อมกัน แต่คุณแฟนก็เอามือมาโอบเอวผม บอกผมว่า “ ไม่เห็นเป็นไรเลย เป็นก็กินยาเนาะ ป่ะ..ไปกินข้าวดีกว่า หิวละ 555+” เอ้อดีนะ..มีคุณแฟนแบบนี้ ก็สบายไปไปอีกแบบ....
ไงล่ะ? เจ้าเพื่อนใหม่ของผม เจ๋งดีนะ..!!! ยินดีต้อนรับอย่างเป็นทางการครับ ว่าแต่เพื่อนมาตอนไหนเนี่ย!!! ผมยังไม่รู้เลย 555+ แต่ลึกๆก็คิดว่ามันคงมาอยู่ได้ซักพักละ เดี๋ยววันต่อๆไปผมจะมาเล่าให้ฟังนะครับ ว่าผมมีพฤติกรรมเสี่ยงอะไรที่ผ่านมาบ้าง (เล่าแล้วอย่าด่าแรงนะ 555+) เผื่อใครที่กำลังจะทำ หรือทำไปแล้วจะได้ระวังตัว และรีบไปตรวจกันนะครับ.....
นับจากวันนี้ผมต้องเรียนรู้ ศึกษาวิธีการดูแลตัวเอง และการใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนใหม่ในร่างกายของผม เพื่อยืดเวลาชีวิตของผมให้นานๆ (ก็แหม..ไม่อยากไปเร็วนี่นา 555+)
ไปแล้วครับ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะ..... วันนี้ขอตัวแล้วครับ