สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะว่านี้เป็นรีวิวแรกของเจ้าของกระทู้ รีวิวนี้จะเน้นไปที่สถานที่เที่ยว ว่าไปเที่ยวที่นี้แล้วมีอะไรให้แวะชมบ้าง การใช้ภาษาอาจจะมีผิดพลาดบ้าง ต้องขอโทษ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
จุดประสงค์ของกระทู้นี้แค่อยากจะมาแชร์สถานที่สวยๆทางธรรมชาติในกรีซที่ได้ไปเยี่ยมชม และ จขกท ได้ทำวิดิโอเกี่ยวกับที่เที่ยวที่ไปมาด้วยขอฝากด้วยนะค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=EUjk8wXY9Uo
หลายๆคนอาจจะรู้จักประเทศกรีซในมุมของน้ำทะเลสีฟ้าตัดกับบ้านสีขาว ไม่ก็ซากโบราณสถาน หรือเทพเจ้ากรีก แต่ว่าประเทศนี้มีมากกว่าในมุมที่เห็น วันนี้ จขกท ได้มีโอกาศไปเที่ยวเมืองทางด้านเหนือของกรีซ ชื่อว่า Ioannina แต่ขอเรียกภาษาไทยว่า “อิวานิน่า”
อิวานิน่า หรือ ยานนิน่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นอิไพรัส เมืองนี้ยังมีสถานที่เที่ยวที่น่าไปเยี่ยมชมในเชิงธรรมชาติมากมาย แต่ที่ จขกทได้ไปชมก็จะมี Metsovo ,ทะเลสาบPamvotis Stone forest, หมู่บ้าน Zagori ,Papingo, Mikor papingo, Monodendri,และ Monasteries of Meteora ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4วัน ในการเดินทาง
การเดินทาง จขกท ไม่มีข้อมูลมากเพราะตัวเองขับรถส่วนตัวไปบวกกับใช้ GPSนำทาง แต่ก็มีหลายวิธีที่สามารถไปได้ จะเริ่มต้นจากเอเทนส์ 1. สามารถเช่ารถยนต์ขับจากเอเทนส์ เป็นวิธีที่นักท่องเที่ยวใช่มากที่สุดเพราะสะดวกและสามารถไปได้ทุกที่ที่เราต้องการ แต่ถ้าขับรถไม่ชำนาญจะไม่แนะนำเลยเพราะแต่ละที่ที่จะไปเป็นเขาสูงชัน(บางที่เหมือนเขาพับผ้า) ถนนแขบ อีกอย่างนึงรถที่นี้จะไม่ค่อยมีเกียร์ออโต้ เพราะถนนส่วนใหญ่เป็นเขา การจอดรถบางทีก็ยังต้องจอดทางขึ้นหรือลงเขา 2.บินจากเอเทนส์ไปลงที่ อิวานิน่า 3.นั้งรถบัสจากเอเทนส์ไปลง อิวานิน่า
มาเริ่มวันแรกกันเลยค่ะ
Metsovo เมโจโว เป็นหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา อยู่ห่างจากเมือง อิวานิน่าประมาณ1 ชั่วโมง ช่วงที่ จขกท ไปได้เป็นช่วงเดือนปลายธันวา เริ่มมีหิมะตกลงบ้างแล้ว แต่วันที่ไปเป็นวันที่แดดออกดีมาก แต่ก็ยังมีหิมะให้เห็นบ้าง ในหมู่บ้านนี้จะมีร้านอาหาร กาแฟ ร้านขายของฝากมากมาย พักเหนื่อยจากเดินทางก็เริ่มเดินทางตะลุยหมู่บ้านในหุบเขา แต่ จขกท ได้ไปถึงประมาณ 4โมง ซึ่งเริ่มมืดแล้วก็เลยไม่ค่อยมีรูปสวยมาฝากให้ชม

ทางเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ระหว่างทางก็มีร้านกาแฟให้เลือกมากมาย

ยามเย็นกับวิวรอบนอกหมู่บ้าน

ร้านขายของฝาก มีให้เลือกมากมายหลายร้านด้วย

เริ่มเดินสำรวจหมู่บ้าน รอบๆก็จะมีบ้านแบบโบราณ ซึ่งจะสร้างจากหิน ทำให้บ้านคงความอุ่นได้ดี ส่วนบนเขาก็จะมีหิมะหลงเหลือให้เห็นบ้าง

ข้างหลังนั่นเรียกว่า φάτνη อ่านว่า แฟทนี้ ตามความเข้าใจของ จขกท คนกรีกเล่าว่าแฟทนี้คือคอกสัตว์ที่พระแม่มาเรียให้กำเนิดพระเยซู ซึ่งในคอกก็จะมาสัตว์ต่างๆ ที่เห็นทั่วไปก็เป็น แกะ แพะและก็ม้าโพนี่ บางที่ก็จะนำสัตว์จริงใส่เข้าไปในคอก เพื่อความสมจริง แต่แฟทนี้อันนี้เป็นรูปปั้นหมด
Pamvotis lake
วันที่2เราจะเที่ยวเกาะน้อยๆในเมือง อิวานิน่า เพราะว่าขับรถกันเหนื่อยมากจากเมื่อวาน ที่เราตั้งใจจะไปคือ ทะเลสาบ Pamvotis หรือที่เรียกทั่วไปว่า ทะเลสาบอิวานิน่า เมืองนี้จะมีเกาะเล็กๆระหว่างเมืองกับทะเลสาบ เราจะต้องนั่งเรือข้ามทะเลสาบไปเกาะกัน ซึ่งท่าเรือข้ามเกาะก็อยู่ใจกลางเมืองเลย เรือจะเริ่ม 8.00โมงเช้าถึง 22.00 ในช่วงหน้าหนาว เรือจะออกทุกๆ 30นาที แต่ทางที่ดีควรจะถามเจ้าหน้าที่อีกทีเพื่อความมั่นใจ ส่วนค่าตั๋วจะเก็บบนเรือ เที่ยวละ 2ยูโร

เดินขึ้นไปข้างบน เยี่ยมชมเกาะ บนเกาะจะมีอารามสำหรับพระในคริสเตียนออโทด๊อกซ์ให้เยี่ยมชม

ภายในอาราม Monastery of St. Nicholas

เดินไปเรื่อยๆ

เจอเป็ด เป็ดเห็นเรานึกว่ามีอาหารมาให้เลยว่ายน้ำมาหา

แสงแดดยามเย็น ตกกระทบภูเขา

ค่ำแล้ว มารอเรือกลับเข้าเมืองกัน
วันที่3ของทริปนี้เราจะไป Zagorohoria หรือหมู่บ้านzagoria
หมู่บ้าน Zagorohoria นี้เป็นหมู้บ้านที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเกี่ยวกับธรรมชาติ ภูเขา ต้นน้ำลำธาร และที่กรีซจะมีน้ำดื่มยี่ห้อนึงชื่อ Zagori ซึ่งชื่อได้มาจากหมู้บ้านนี้เอง
ในวันนี้มีหลายที่ที่เจอโดยไม่ได้คาดว่าจะเจอ เราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1ชม. กว่าๆ จากที่พัก แต่ จขกท ไม่ได้ไปโดยทางด่วน ซึ่งไม่แน่อาจจะเป็นเหตุที่ทำให้เราได้เจอกับสถานที่แปลกๆ หลายที่ก็ได้ นี่คือแผนที่คร่าวๆ เพื่อนๆจะได้นึกภาพออกว่าไปที่ไหนยังไงบ้าง

ตามแผนที่จะมี 7 ที่ ที่เราจะแวะ ขึ้นเขา ลงเขา กันจนเมารถเลย
เริ่มต้นด้วย ออกเดินทางเช้า 9โมงกว่า....ขับไปเรื่อยๆ

ระหว่างทางเจอเจ้าถิ่นกำลังออกไปหาอาหารกิน โดยมีเจ้าหมาหลายตัวคอยดูและพวกแกะ

เราแค่ผ่าน vitsa แล้วก็พักรถเพราะนั่งกันมาค่อนข้างนาน บวกกับทางขดเขี้ยวมาก เราผ่าน Monodentriกัน แต่ค่อยแวะขากลับ เลยขับขึ้นไปอีกเพราะเห็นป่ายเขียนว่า Stone forest บวกกับข้างทางที่ชวนให้หลงใหล

เจอเจ้าวัวด้วย ข้างทางจะเป็นภูเขาหินและมีต้นไม้ที่ทิ้งใบซะส่วนใหญ่

ทางเข้า Vikos–Aoös National Park ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกประเภทระบบนิเวศด้วย นับว่าเป็นที่ที่สวยมากที่นึงในทริปนี้

ใช้เวลาเดินไปไม่นานประมาณ100 เมตร ระหว่างทางช่วง 100เมตรจะมีทางเดินที่ดี แต่หลังจากนี้ก็จะเป็นหุบเหวแล้ว

หลังจากป้ายนี้จะมีทางเดินไปอีกหน่อย แต่เป็นทางเดินที่ไม่ดีเหมือนตอนทางเข้า จะเดินต่อไปก็ได้แต่มีป้ายเตือน
หลังจากเดินชมวิวเสร็จ สูดอากาศเต็มปอด เราก็พร้อมเดินทางต่อ แต่ขอแวะที่หมู่บ้าน monodentri สักนิด

ป้ายต่อไปของเราคือ Papingo และ Mikro Papingo จะเดินจากนี้ไปก็ได้ แต่ใช้เวลาเดินเท่า 6 ชั่วโมง! จขกท ขอนั่งรถไปดีกว่าค่ะ

เจอโบสถ์ในหมู่บ้านด้วย แต่เงียบมากเหมือนไม่มีคนอยู่

ทางเดินในหมู่บ้านจะทำด้วยหินหมด คนกรีกบอกว่าภูเขาหินข้างหลังก็คือ Vikos–Aoös National Park หรือ forest stoneที่เราเพิ่งไปมา
Next Stop Papigo และ Μriko papingo แต่เราที่นึงระหว่างทางโดยบังเอิญก่อนจะขึ้นเขาไปคือ voidomatis river พอขับรถไปเริ่มเห็นลำธารเล็กๆ น้ำใสๆ ต้นไม้สูงใหญ่ แต่เอากล้องออกมาถ่ายไม่ทัน เสียใจมาก ขับรถข้ามสะพานเล็กไปหาที่จอดแล้วลงไปสำรวจกัน

มีกิจกรรล่องแก่งให้ทำด้วย

ลำธารน้ำใส น้ำเย็นมาก เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายลงมา
เมื่อสำรวจเสร็จ เราก็มุ่งหน้าไป Papingo กัน

ไม่ค่อยมีอะไร เดินๆไปก็เหมือนๆกับหมู่บ้านก่อน มีร้านกาแฟให้นั้งจิบ หมู่บ้านค่อนข้างเงียบ หรือเราไปไม่ถูกที่ก็ไมไม่รู้ เลยตัดสินใจกลับ
ระหว่างทางกลับลงเขาจากPapingo เห็นคนจอดรถข้างถนนเยอะมาก แต่มองรอบๆก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ แต่ด้วยความอยากรู้เลยขอจอดแวะสัก5นาที...

ทางเข้าเล็กๆ เรียบๆ...

จะเริ่มเห็นผู้คนยืนชื่นชมกับวิวภูเขาหิน และลำธารเล็กๆ.....



คิดว่าคงไปต่อไม่ได้ ก็ขอจอดแชะรูปสักหน่อย
เดินไปแล้วก็กลับใช้เวลามากกว่าที่คิด เป็นอีกที่ที่ชอบมากที่สุดในวันนี้ ได้เจอสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ไม่มีฝีมือมนุษย์ปรุงแต่ง
จบอีกวันของทริป วันพรุ่งนี้จะเดินทางกลับเอเทนส์ แต่ว่าเราจะแวะที่นึงที่น่าสนใจมากๆ
[CR] กรีซหน้าหนาวไปทำอะไร
จุดประสงค์ของกระทู้นี้แค่อยากจะมาแชร์สถานที่สวยๆทางธรรมชาติในกรีซที่ได้ไปเยี่ยมชม และ จขกท ได้ทำวิดิโอเกี่ยวกับที่เที่ยวที่ไปมาด้วยขอฝากด้วยนะค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=EUjk8wXY9Uo
หลายๆคนอาจจะรู้จักประเทศกรีซในมุมของน้ำทะเลสีฟ้าตัดกับบ้านสีขาว ไม่ก็ซากโบราณสถาน หรือเทพเจ้ากรีก แต่ว่าประเทศนี้มีมากกว่าในมุมที่เห็น วันนี้ จขกท ได้มีโอกาศไปเที่ยวเมืองทางด้านเหนือของกรีซ ชื่อว่า Ioannina แต่ขอเรียกภาษาไทยว่า “อิวานิน่า”
อิวานิน่า หรือ ยานนิน่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นอิไพรัส เมืองนี้ยังมีสถานที่เที่ยวที่น่าไปเยี่ยมชมในเชิงธรรมชาติมากมาย แต่ที่ จขกทได้ไปชมก็จะมี Metsovo ,ทะเลสาบPamvotis Stone forest, หมู่บ้าน Zagori ,Papingo, Mikor papingo, Monodendri,และ Monasteries of Meteora ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4วัน ในการเดินทาง
การเดินทาง จขกท ไม่มีข้อมูลมากเพราะตัวเองขับรถส่วนตัวไปบวกกับใช้ GPSนำทาง แต่ก็มีหลายวิธีที่สามารถไปได้ จะเริ่มต้นจากเอเทนส์ 1. สามารถเช่ารถยนต์ขับจากเอเทนส์ เป็นวิธีที่นักท่องเที่ยวใช่มากที่สุดเพราะสะดวกและสามารถไปได้ทุกที่ที่เราต้องการ แต่ถ้าขับรถไม่ชำนาญจะไม่แนะนำเลยเพราะแต่ละที่ที่จะไปเป็นเขาสูงชัน(บางที่เหมือนเขาพับผ้า) ถนนแขบ อีกอย่างนึงรถที่นี้จะไม่ค่อยมีเกียร์ออโต้ เพราะถนนส่วนใหญ่เป็นเขา การจอดรถบางทีก็ยังต้องจอดทางขึ้นหรือลงเขา 2.บินจากเอเทนส์ไปลงที่ อิวานิน่า 3.นั้งรถบัสจากเอเทนส์ไปลง อิวานิน่า
มาเริ่มวันแรกกันเลยค่ะ
Metsovo เมโจโว เป็นหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา อยู่ห่างจากเมือง อิวานิน่าประมาณ1 ชั่วโมง ช่วงที่ จขกท ไปได้เป็นช่วงเดือนปลายธันวา เริ่มมีหิมะตกลงบ้างแล้ว แต่วันที่ไปเป็นวันที่แดดออกดีมาก แต่ก็ยังมีหิมะให้เห็นบ้าง ในหมู่บ้านนี้จะมีร้านอาหาร กาแฟ ร้านขายของฝากมากมาย พักเหนื่อยจากเดินทางก็เริ่มเดินทางตะลุยหมู่บ้านในหุบเขา แต่ จขกท ได้ไปถึงประมาณ 4โมง ซึ่งเริ่มมืดแล้วก็เลยไม่ค่อยมีรูปสวยมาฝากให้ชม
ทางเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ระหว่างทางก็มีร้านกาแฟให้เลือกมากมาย
ยามเย็นกับวิวรอบนอกหมู่บ้าน
ร้านขายของฝาก มีให้เลือกมากมายหลายร้านด้วย
เริ่มเดินสำรวจหมู่บ้าน รอบๆก็จะมีบ้านแบบโบราณ ซึ่งจะสร้างจากหิน ทำให้บ้านคงความอุ่นได้ดี ส่วนบนเขาก็จะมีหิมะหลงเหลือให้เห็นบ้าง
ข้างหลังนั่นเรียกว่า φάτνη อ่านว่า แฟทนี้ ตามความเข้าใจของ จขกท คนกรีกเล่าว่าแฟทนี้คือคอกสัตว์ที่พระแม่มาเรียให้กำเนิดพระเยซู ซึ่งในคอกก็จะมาสัตว์ต่างๆ ที่เห็นทั่วไปก็เป็น แกะ แพะและก็ม้าโพนี่ บางที่ก็จะนำสัตว์จริงใส่เข้าไปในคอก เพื่อความสมจริง แต่แฟทนี้อันนี้เป็นรูปปั้นหมด
Pamvotis lake
วันที่2เราจะเที่ยวเกาะน้อยๆในเมือง อิวานิน่า เพราะว่าขับรถกันเหนื่อยมากจากเมื่อวาน ที่เราตั้งใจจะไปคือ ทะเลสาบ Pamvotis หรือที่เรียกทั่วไปว่า ทะเลสาบอิวานิน่า เมืองนี้จะมีเกาะเล็กๆระหว่างเมืองกับทะเลสาบ เราจะต้องนั่งเรือข้ามทะเลสาบไปเกาะกัน ซึ่งท่าเรือข้ามเกาะก็อยู่ใจกลางเมืองเลย เรือจะเริ่ม 8.00โมงเช้าถึง 22.00 ในช่วงหน้าหนาว เรือจะออกทุกๆ 30นาที แต่ทางที่ดีควรจะถามเจ้าหน้าที่อีกทีเพื่อความมั่นใจ ส่วนค่าตั๋วจะเก็บบนเรือ เที่ยวละ 2ยูโร
เดินขึ้นไปข้างบน เยี่ยมชมเกาะ บนเกาะจะมีอารามสำหรับพระในคริสเตียนออโทด๊อกซ์ให้เยี่ยมชม
ภายในอาราม Monastery of St. Nicholas
เดินไปเรื่อยๆ
เจอเป็ด เป็ดเห็นเรานึกว่ามีอาหารมาให้เลยว่ายน้ำมาหา
แสงแดดยามเย็น ตกกระทบภูเขา
ค่ำแล้ว มารอเรือกลับเข้าเมืองกัน
วันที่3ของทริปนี้เราจะไป Zagorohoria หรือหมู่บ้านzagoria
หมู่บ้าน Zagorohoria นี้เป็นหมู้บ้านที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเกี่ยวกับธรรมชาติ ภูเขา ต้นน้ำลำธาร และที่กรีซจะมีน้ำดื่มยี่ห้อนึงชื่อ Zagori ซึ่งชื่อได้มาจากหมู้บ้านนี้เอง
ในวันนี้มีหลายที่ที่เจอโดยไม่ได้คาดว่าจะเจอ เราใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1ชม. กว่าๆ จากที่พัก แต่ จขกท ไม่ได้ไปโดยทางด่วน ซึ่งไม่แน่อาจจะเป็นเหตุที่ทำให้เราได้เจอกับสถานที่แปลกๆ หลายที่ก็ได้ นี่คือแผนที่คร่าวๆ เพื่อนๆจะได้นึกภาพออกว่าไปที่ไหนยังไงบ้าง
ตามแผนที่จะมี 7 ที่ ที่เราจะแวะ ขึ้นเขา ลงเขา กันจนเมารถเลย
เริ่มต้นด้วย ออกเดินทางเช้า 9โมงกว่า....ขับไปเรื่อยๆ
ระหว่างทางเจอเจ้าถิ่นกำลังออกไปหาอาหารกิน โดยมีเจ้าหมาหลายตัวคอยดูและพวกแกะ
เราแค่ผ่าน vitsa แล้วก็พักรถเพราะนั่งกันมาค่อนข้างนาน บวกกับทางขดเขี้ยวมาก เราผ่าน Monodentriกัน แต่ค่อยแวะขากลับ เลยขับขึ้นไปอีกเพราะเห็นป่ายเขียนว่า Stone forest บวกกับข้างทางที่ชวนให้หลงใหล
เจอเจ้าวัวด้วย ข้างทางจะเป็นภูเขาหินและมีต้นไม้ที่ทิ้งใบซะส่วนใหญ่
หลังจากเดินชมวิวเสร็จ สูดอากาศเต็มปอด เราก็พร้อมเดินทางต่อ แต่ขอแวะที่หมู่บ้าน monodentri สักนิด
Next Stop Papigo และ Μriko papingo แต่เราที่นึงระหว่างทางโดยบังเอิญก่อนจะขึ้นเขาไปคือ voidomatis river พอขับรถไปเริ่มเห็นลำธารเล็กๆ น้ำใสๆ ต้นไม้สูงใหญ่ แต่เอากล้องออกมาถ่ายไม่ทัน เสียใจมาก ขับรถข้ามสะพานเล็กไปหาที่จอดแล้วลงไปสำรวจกัน
มีกิจกรรล่องแก่งให้ทำด้วย
ลำธารน้ำใส น้ำเย็นมาก เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายลงมา
เมื่อสำรวจเสร็จ เราก็มุ่งหน้าไป Papingo กัน
ไม่ค่อยมีอะไร เดินๆไปก็เหมือนๆกับหมู่บ้านก่อน มีร้านกาแฟให้นั้งจิบ หมู่บ้านค่อนข้างเงียบ หรือเราไปไม่ถูกที่ก็ไมไม่รู้ เลยตัดสินใจกลับ
ระหว่างทางกลับลงเขาจากPapingo เห็นคนจอดรถข้างถนนเยอะมาก แต่มองรอบๆก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ แต่ด้วยความอยากรู้เลยขอจอดแวะสัก5นาที...
ทางเข้าเล็กๆ เรียบๆ...
จะเริ่มเห็นผู้คนยืนชื่นชมกับวิวภูเขาหิน และลำธารเล็กๆ.....
คิดว่าคงไปต่อไม่ได้ ก็ขอจอดแชะรูปสักหน่อย
เดินไปแล้วก็กลับใช้เวลามากกว่าที่คิด เป็นอีกที่ที่ชอบมากที่สุดในวันนี้ ได้เจอสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ไม่มีฝีมือมนุษย์ปรุงแต่ง
จบอีกวันของทริป วันพรุ่งนี้จะเดินทางกลับเอเทนส์ แต่ว่าเราจะแวะที่นึงที่น่าสนใจมากๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้