ปี 2562 ดูจะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงและโยกย้ายสิ่งต่าง ๆ ในวงการโทรทัศน์ไทยอีกปีหนึ่ง
เพราะนอกจากจะต้องแข่งกันนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ และสิ่งที่คล้ายคลึงกับที่มีอยู่แล้ว เรายังได้เห็นโอกาสใหม่ ๆ ที่อาจส่งผลสะเทือนความรู้สึกของคนทำและคนดูกลุ่มเดิมไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่าทีวีดิจิตอลและผู้ผลิตรายการที่จะต้องปรับตัวเพื่อสร้างรายได้ และจะกระชากเรตติ้งเอาให้ได้
"พีพีทีวี" ดูจะเป็นช่องที่มีกระแสข่าวให้เราลุ้นกันอย่างยกใหญ่ เพื่อหวังจะขึ้นเรตติ้งไปติด Top 7 ให้จนได้ ทั้งการจับดาราและผู้ประกาศหน้าเก่าเข้าสังกัด การปรับปรุงในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงรายการที่ดังมาจากช่องอนาล็อกก็ย้ายชายคามาอยู่ที่นี่ซะเพียบ นับตั้งแต่ เดอะเฟซ(เมน) เดอะวอยซ์ กิ๊กดู๋ฯ ก่อนบ่ายฯ และที่จะตามมาในอนาคต
นั่นก็ทำให้ช่องอนาล็อกรายยักษ์อย่าง "ช่อง 3" กับ "ช่อง 7" ต้องขาดรายการและผู้ผลิตคู่บุญไป รายการที่มาแทนที่ก็แค่รายการที่ทางช่องเป็นเจ้าของเวลาเอง เช่นพวกแนะนำดารา เบื้องหลังละคร หนัง/ซีรีส์จากต่างประเทศ บรรยากาศช่วงนี้จึงดูกร่อยไปถนัดตา
แต่ก็ไม่ต้องรอให้เมื่อย เพราะเร็ว ๆ นี้ ทีวีทั้ง 2 ช่องก็จะมีรายการใหม่จากผู้ผลิตเจ้าต่าง ๆ ที่น่าจะออกมาทดแทนความรู้สึกเดิม ๆ เราก็ต้องลุ้นกันว่ารายการที่มาใหม่นั้นจะกระชากใจแฟน ๆ ได้มากน้อยเพียงใด
อย่างช่อง 3 ที่ซาจากรายการแข่งขันร้องเพลงก็มาซู่กับสารพัดเกมส์โชว์ ขณะที่ช่อง 7 ก็ได้เผยรายการใหม่บ้างแล้ว โดยเฉพาะ "ลูกทุ่งไอดอล" รายการประกวดร้องเพลงแกะกล่องจากค่ายเซ้นส์
ส่วน "ช่อง 5" ที่ยังคงมุ่งมั่นกับรายการสาระน่ารู้เพื่อความมั่นคงของชาติและรายการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ก็ยังมาสู้ด้วยละครหลังข่าวอีก เร็ว ๆ นี้เราจะได้ดูผลงานชิ้นใหม่ฝีมือคนไทยถ้าไม่ล่าช้าเสียก่อน
สำหรับทีวีดิจิตอลช่องเด่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น "โมโน 29" ตอนนี้คงมีแต่หนังและซีรีส์ต่างแดนให้ดูตลอดวัน ยังไม่ค่อยมีอะไรให้คอหนังไทยได้อมยิ้ม เพราะซีรีส์ไทยที่ปาว ๆ ว่าจะฉายช่องนี้ดันไปฉายในระบบสมาชิกแล้ว
ส่วนช่อง "วัน" และ "จีเอ็มเอ็ม 25" ยังคงเด่นด้านละคร ทั้งสร้างเองบ้าง สร้างจากหนังดัง ๆ บ้าง ยืมจากนวนิยายดัง ๆ บ้าง ขณะที่รายการตลกอารมณ์ดีอย่าง "บริษัทฮาไม่จำกัด" ของช่องวันก็จะย้ายไปอยู่ในเวลาที่ลงตัวสุด ๆ คือวันเสาร์ 5 โมงเย็น
"เวิร์คพอยท์" เด่นทางวาไรตี้ เกมส์โชว์ คอนเทสต์ ส่วนเรื่องละครก็ต้องนั่งคอยกันต่อไป "ไทยรัฐทีวี" เด่นทางด้านการเกาะติดข่าว อีกไม่นานจะมีละครยาวให้ดูกัน "อมรินทร์ทีวี" ก็เช่นกัน ส่วนสถานีข่าวเรตติ้งรั้งท้ายอย่าง "สปริงนิวส์" ก็เพิ่มความน่าสนใจด้วยการแนะนำสินค้าสลับข่าวแทน
ทางด้าน "ช่อง 8" ในเครือของอาณาจักรเพลงยักษ์ใหญ่ในอดีตที่มาลงสนามทางสื่อและสินค้าบำรุงสุขภาพ เฉียบทั้งด้านข่าว ละคร ซีรีส์ต่างแดน ดูรวม ๆ ในช่วงนี้ก็ยังไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นมากนัก แต่พอช่อง 8 จะย้ายตึก คงจะมีทีเด็ดยิ่งกว่านี้ หรืออาจได้เห็นบรรดาเอเจนซี่และผู้ผลิตอิสระมาร่วมงานกับช่องมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับสถานีทีวีดิจิตอลเพียงหนึ่งในไม่กี่แห่งที่มีเวลาของตัวเอง(และผลิตเอง)แบบเต็มร้อย
โทรทัศน์อยู่คู่คนไทยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงแม้สภาพและระบบจะผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังไม่ทิ้งการต่อกรเพื่อให้ได้มาเป็นขวัญใจมหาชน หากแข่งขันกันในเรื่องเดิม ๆ ก็กระไรอยู่ แต่ถ้าแข่งกันพัฒนาด้านคุณภาพและความแปลกใหม่ในการนำเสนอ จะเป็นรูปแบบ เนื้อหาก็ดี หรือการใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เราไม่คุ้นเคย ถึงจะยังไม่เห็นเงาของความใหม่ให้ประจักษ์ เราก็ยอมทนกันต่อไป
ตราบที่วงการโทรทัศน์ไทยยังคงเป็น "เล่าเก่าในขวดใหม่" ย้ายไปย้ายมากันเป็นว่าเล่น... ขอให้ทุกช่องจงเจริญ ไปแล้วล่ะ สวัสดี.
มองทีวีปี'62...จะย้ายไปทำไม?
เพราะนอกจากจะต้องแข่งกันนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ และสิ่งที่คล้ายคลึงกับที่มีอยู่แล้ว เรายังได้เห็นโอกาสใหม่ ๆ ที่อาจส่งผลสะเทือนความรู้สึกของคนทำและคนดูกลุ่มเดิมไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่าทีวีดิจิตอลและผู้ผลิตรายการที่จะต้องปรับตัวเพื่อสร้างรายได้ และจะกระชากเรตติ้งเอาให้ได้
"พีพีทีวี" ดูจะเป็นช่องที่มีกระแสข่าวให้เราลุ้นกันอย่างยกใหญ่ เพื่อหวังจะขึ้นเรตติ้งไปติด Top 7 ให้จนได้ ทั้งการจับดาราและผู้ประกาศหน้าเก่าเข้าสังกัด การปรับปรุงในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงรายการที่ดังมาจากช่องอนาล็อกก็ย้ายชายคามาอยู่ที่นี่ซะเพียบ นับตั้งแต่ เดอะเฟซ(เมน) เดอะวอยซ์ กิ๊กดู๋ฯ ก่อนบ่ายฯ และที่จะตามมาในอนาคต
นั่นก็ทำให้ช่องอนาล็อกรายยักษ์อย่าง "ช่อง 3" กับ "ช่อง 7" ต้องขาดรายการและผู้ผลิตคู่บุญไป รายการที่มาแทนที่ก็แค่รายการที่ทางช่องเป็นเจ้าของเวลาเอง เช่นพวกแนะนำดารา เบื้องหลังละคร หนัง/ซีรีส์จากต่างประเทศ บรรยากาศช่วงนี้จึงดูกร่อยไปถนัดตา
แต่ก็ไม่ต้องรอให้เมื่อย เพราะเร็ว ๆ นี้ ทีวีทั้ง 2 ช่องก็จะมีรายการใหม่จากผู้ผลิตเจ้าต่าง ๆ ที่น่าจะออกมาทดแทนความรู้สึกเดิม ๆ เราก็ต้องลุ้นกันว่ารายการที่มาใหม่นั้นจะกระชากใจแฟน ๆ ได้มากน้อยเพียงใด
อย่างช่อง 3 ที่ซาจากรายการแข่งขันร้องเพลงก็มาซู่กับสารพัดเกมส์โชว์ ขณะที่ช่อง 7 ก็ได้เผยรายการใหม่บ้างแล้ว โดยเฉพาะ "ลูกทุ่งไอดอล" รายการประกวดร้องเพลงแกะกล่องจากค่ายเซ้นส์
ส่วน "ช่อง 5" ที่ยังคงมุ่งมั่นกับรายการสาระน่ารู้เพื่อความมั่นคงของชาติและรายการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ก็ยังมาสู้ด้วยละครหลังข่าวอีก เร็ว ๆ นี้เราจะได้ดูผลงานชิ้นใหม่ฝีมือคนไทยถ้าไม่ล่าช้าเสียก่อน
สำหรับทีวีดิจิตอลช่องเด่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น "โมโน 29" ตอนนี้คงมีแต่หนังและซีรีส์ต่างแดนให้ดูตลอดวัน ยังไม่ค่อยมีอะไรให้คอหนังไทยได้อมยิ้ม เพราะซีรีส์ไทยที่ปาว ๆ ว่าจะฉายช่องนี้ดันไปฉายในระบบสมาชิกแล้ว
ส่วนช่อง "วัน" และ "จีเอ็มเอ็ม 25" ยังคงเด่นด้านละคร ทั้งสร้างเองบ้าง สร้างจากหนังดัง ๆ บ้าง ยืมจากนวนิยายดัง ๆ บ้าง ขณะที่รายการตลกอารมณ์ดีอย่าง "บริษัทฮาไม่จำกัด" ของช่องวันก็จะย้ายไปอยู่ในเวลาที่ลงตัวสุด ๆ คือวันเสาร์ 5 โมงเย็น
"เวิร์คพอยท์" เด่นทางวาไรตี้ เกมส์โชว์ คอนเทสต์ ส่วนเรื่องละครก็ต้องนั่งคอยกันต่อไป "ไทยรัฐทีวี" เด่นทางด้านการเกาะติดข่าว อีกไม่นานจะมีละครยาวให้ดูกัน "อมรินทร์ทีวี" ก็เช่นกัน ส่วนสถานีข่าวเรตติ้งรั้งท้ายอย่าง "สปริงนิวส์" ก็เพิ่มความน่าสนใจด้วยการแนะนำสินค้าสลับข่าวแทน
ทางด้าน "ช่อง 8" ในเครือของอาณาจักรเพลงยักษ์ใหญ่ในอดีตที่มาลงสนามทางสื่อและสินค้าบำรุงสุขภาพ เฉียบทั้งด้านข่าว ละคร ซีรีส์ต่างแดน ดูรวม ๆ ในช่วงนี้ก็ยังไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นมากนัก แต่พอช่อง 8 จะย้ายตึก คงจะมีทีเด็ดยิ่งกว่านี้ หรืออาจได้เห็นบรรดาเอเจนซี่และผู้ผลิตอิสระมาร่วมงานกับช่องมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับสถานีทีวีดิจิตอลเพียงหนึ่งในไม่กี่แห่งที่มีเวลาของตัวเอง(และผลิตเอง)แบบเต็มร้อย
โทรทัศน์อยู่คู่คนไทยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถึงแม้สภาพและระบบจะผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังไม่ทิ้งการต่อกรเพื่อให้ได้มาเป็นขวัญใจมหาชน หากแข่งขันกันในเรื่องเดิม ๆ ก็กระไรอยู่ แต่ถ้าแข่งกันพัฒนาด้านคุณภาพและความแปลกใหม่ในการนำเสนอ จะเป็นรูปแบบ เนื้อหาก็ดี หรือการใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เราไม่คุ้นเคย ถึงจะยังไม่เห็นเงาของความใหม่ให้ประจักษ์ เราก็ยอมทนกันต่อไป
ตราบที่วงการโทรทัศน์ไทยยังคงเป็น "เล่าเก่าในขวดใหม่" ย้ายไปย้ายมากันเป็นว่าเล่น... ขอให้ทุกช่องจงเจริญ ไปแล้วล่ะ สวัสดี.