เราเป็นคนที่ชื่นชอบของมือสองมาก ถ้ามีโอกาส มีเวลาก็จะออกหาของมือ2มาชื่นชม
เมื่อหลายปีก่อน ที่ได้มีโอกาสไปอยู่ยุโรป เสาร์ อาทิตย์เราจะเช็คเสมอ ว่าช่วงไหนมีตลาดเปิดบ้าง ยอมตื่นเช้า ปั่นจักรยานไปขึ้นรถไฟ เพื่อที่จะเดินทางไปยังตลาดแห่งนี้ คุณลุงชาวดัซต์ ผู้ชื่นชอบและหลงใหลในแผ่นเสียง อายุ60กว่าปี คือคู่หูในการไปตลาดนัดของเรา คุณลุงเป็นสามีของพี่ผู้หญิงไทยที่เราให้ความเคารพ เมื่อถึงสถานีรถไฟแล้วก็โทรหาคุณลุงทันที อังเคิ้ลๆแอม เฮีย แวร์ อาร์ ยู
คุณลุงจะมารับเราไปตลาด ส่วนใหญ่จะขึ่มอเตอร์ไซต์คันเล็กมา เราไปถึงเวลาราวๆ8โมงเช้า ข้าวของยังตั้งได้ไม่เยอะนัก ก็อาศัยเดินวนๆรอๆกันไป ราคาสินค้าที่จำหน่าย มันช่างถูกแบบเหลือเชื่อ หลายๆชิ้นที่เราซื้อมา เราลองไปเทียบราคาตามเวป โอ้โห กำไร กำไรเห็นๆ ไม่ได้อยากซื้อมาขายต่อ แต่แค่อยากเก็บสะสม
เราหอบหิ้วของกลับบ้าน ทุกครัง จนโฮสต์มัมถามว่า ชั้นอยากรู้จริงๆ ว่าเธอจะกลับไทยยังไง
ของที่เราซื้อมา ก็จะเป็นถ้วยกาแฟเก่า จานรอง ตุ๊กตา ถาดไม้ เครื่องเงิน ชุดหวีโบราณ เครื่องทองเหลือง เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
ส่วนคุณลุง แกจะได้แผ่นเสียงโบราณกลับบ้านด้วยเสมอ แกมีชั้นลอยของบ้าน เก็บสะสมคอลเล็กชั่นของแก ทั้งห้องเต็มไปด้วยแผ่นเสียง
เมื่อครั้งที่ไปเยอรมันช่วงก่อนเข้าฤดูร้อน เราแบกของขึ้นรถไฟไปเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ฝากน้องสาวเพื่อน หิ้วกลับไทย ปรากฏว่า น้องมาเล่าทีหลัง พี่หนูถูกกักตัว 😅
เค้าถามว่า เอาของเก่ามาจากไหน
แต่สุดท้ายก็ออกมาได้ด้วยดี
ส่วนตัวเรา ยังคงออกเดินตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งไปเที่ยวที่ฝรั่งเศส มีร้านรวงมาตั้ง เปิดขายของจำนวนมาก คือมันใช่ มีความสุขสุดๆ เราเดินดูไม่รู้เบื่อ ของราคาถูกมากๆ สุดท้ายก็ได้ของติดไม้ ติดมือกลับฮอลแลนด์มา
จนถึงวันที่จะต้องเดินทางกลับ เราคัดแยกเสื้อผ้า จำนวนเยอะมาก บางส่วนมาจากตลาดมือสอง ทิ้งไว้ให้ออแพร์คนถัดไป เพราะเรากลับบ้าน อุปกรณ์ เสื้อผ้ากันหนาวคงไม่จำเป็นที่เมืองไทย แต่จนแล้วจนรอด เมื่อมาถึงสนามบิน คุณป้าแอร์โอสเตส สายการบินแห่งชาติของที่นั่น ก็ไม่อนุญาตให้เรานำกระเป๋าขึ้นเครื่อง เพราะมันใหญ่เกิน เรายืนยันว่า ตอนมาเราก็บินสายการบินนี้ ยังมาได้เลย ผลสุดท้าย คือเรารื้อกระเป๋าออก เดชะบุญมีถุงช้อปปิ้งของอิเกียอยู่ด้านใน หยิบของออกมาเรียงๆพับๆ ส่งกระเป๋าเสื้อผ้าล้อลาก ที่มีเสื้อผ้าอีกส่วนของเราที่จะเอากลับคืนโฮสต์มัมไป แล้วบอกว่าเอาไปบริจาค เราไม่เอาแล้ว เราจะเอาของเก่ากลับบ้าน 😂
โฮสต์มัมบอกว่า นางยอมรับในความมุ่งมั่นและดูท่าทางที่ไม่มีอันทุกข์ร้อนของเราเลยแม้แต่น้อย นั่งขัดสมาธิลงบนพื้นสนามบิน หยิบของเข้าออก สุดท้ายเรานำถุงอิเกียที่ใส่ของเก่าจนเต็มไปชั่ง ประมาณ10กิโลนิดๆ
คุณป้าพูดว่า ต้องปิดปากถุงด้วย ถ้าปิดไม่ได้ก็เอาไปไม่ได้ เราจับเชือกปากถุงมัดเข้าหากัน แล้วยื่นให้คุณป้าแอร์สายการบินแห่งชาติดู แกพยักหน้า พอใจ แล้วผายมือบอกให้เข้าไปด้านในได้ ส่วนมัมก็เก็บกระเป๋าเรา พร้อมกอดลา แล้วนางก็จากไป
เมื่อเข้าไปด้านในตรงบริเวณตรวจหนังสือเดินทาง เราซึ่งกระเป๋าสตางค์หาย ก่อนหน้าวันบินกลับแค่3วัน ก็ต้องเดินเข้าห้องกระจก อธิบายว่าเราทำกระเป๋าสตางค์หายที่อัมสเตอร์ดัม IND การ์ดของเราเลยหายไปด้วย และได้ไปแจ้งความไว้แล้ว คุณตำรวจก็กดๆดูในคอมพิวเตอร์ และถามว่า Will u come back to Holland later? เราตอบบบ Noooo😂 คือไม่ได้คิดอะไร ตอบไปเพราะกลัวว่าเค้าจะให้ทำอะไรยุ่งยาก เสียเวลา
หลังจากการตอบNo ในครั้งนั้น เราก็กลับไปอีกเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย สิ่งที่โหยหายุโรปที่สุด ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ที่เราออกเที่ยวแทบทุกครั้งที่มีเวลา ไม่ใช่อาหาร เราทำอาหารไทยกินเองแทบทุกวัน แต่สิ่งนั้นคือตลาดมือสอง ขายของคุณภาพดี
สุดท้ายเราก็มาเจอสิ่งที่พอจะเยียวยาความรู้สึกคิดถึงยุโรปลงได้ คือร้านเสื้อผ้า เครื่องใช้มือสอง จากญี่ปุ่น และที่สำคัญตั้งอยู่ใกล้บ้านเลย ส่วนใหญ่เราได้เสื้อผ้า ชาม แก้วน้ำน่ารักๆเครื่องประดับมาจากที่นี่
เสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นมีความน่ารักมากเลยทีเดียว แบบสวย คัตติ้งเนี้ยบ ที่สำคัญคือราคาถูกมาก
เราจะคอยส่องโปรโมชั่นจากร้าน บางครั้งร้านลดราคาเหลือแค่50-100บาท ต่อ1กก.
เราลงทุนกับเสื้อผ้าน้อยมาก แต่คิดว่าเสื้อผ้าที่เราใส่ดูดี ถูกกาลเทศะ และไม่กระทบกับเงินในกระเป๋าสตางค์ เสื้อผ้าใหม่ๆยังคงซื้อบ้าง แต่ไม่มากค่ะ ส่วนใหญ่เราใส่ไม่นาน ซักมือ ไม่ค่อยตากแดดนานๆ เสื้อผ้ายังสีสด ไม่ดูโทรม เราจะบริจาคส่งต่อทั้งหมด เพื่อเคลียร์พื้นที่ตู้เสื้อผ้า ไม่ให้มีของไม่จำเป็น อละไม่ได้ใช้อยู่ข้างใน เมื่อซื้อมาไม่แพง ทำให้ไม่เสียดาย ตัดใจง่าย และยังสามารถสนุกกับการช้อปปิ้งอยู่เสมอ ได้เสื้อผ้าที่ไม่ซ้ำซาก จำเจ สร้างความสนุกให้กับตัวเองด้วยค่ะ
เมื่อซื้อมา ได้มา ก็แช่น้ำ ซัก2รอบ ตากแดดก่อนทุกครั้ง เรื่องผื่นคัน ปัญหาสุขภาพผิว ไม่เคยเจอกับตัวเองค่ะ
อยากให้ทุกคนช้อปแบบมีสติ ทั้งเสื้อผ้า และอุปกรณ์แต่งหน้า แต่งตัว สิ่งที่หลงใหล จะได้ไม่นำพาความทุกข์ใจมาให้ภายหลัง เคยเห็นบางคนที่ใช้จ่าย ชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะตามบิวตี้ บล็อกเกอร์ ตามยูทูปเบอร์รีวิวสินค้า แบบหนักหน่วง แต่คุณอย่าลืมไปว่า เค้าได้ของมาฟรี และนั่นคืออาชีพของเขา ส่วนเราซื้อเอง ใช้เอง เพราะฉะนั้น เอาเท่าที่พอประมาณ และจำเป็นดีที่สุดค่ะ
ขอให้ทุกๆคนมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองรักเช่นกันกับเรานะคะ 😊💓
ความสุขมือสอง
เมื่อหลายปีก่อน ที่ได้มีโอกาสไปอยู่ยุโรป เสาร์ อาทิตย์เราจะเช็คเสมอ ว่าช่วงไหนมีตลาดเปิดบ้าง ยอมตื่นเช้า ปั่นจักรยานไปขึ้นรถไฟ เพื่อที่จะเดินทางไปยังตลาดแห่งนี้ คุณลุงชาวดัซต์ ผู้ชื่นชอบและหลงใหลในแผ่นเสียง อายุ60กว่าปี คือคู่หูในการไปตลาดนัดของเรา คุณลุงเป็นสามีของพี่ผู้หญิงไทยที่เราให้ความเคารพ เมื่อถึงสถานีรถไฟแล้วก็โทรหาคุณลุงทันที อังเคิ้ลๆแอม เฮีย แวร์ อาร์ ยู
คุณลุงจะมารับเราไปตลาด ส่วนใหญ่จะขึ่มอเตอร์ไซต์คันเล็กมา เราไปถึงเวลาราวๆ8โมงเช้า ข้าวของยังตั้งได้ไม่เยอะนัก ก็อาศัยเดินวนๆรอๆกันไป ราคาสินค้าที่จำหน่าย มันช่างถูกแบบเหลือเชื่อ หลายๆชิ้นที่เราซื้อมา เราลองไปเทียบราคาตามเวป โอ้โห กำไร กำไรเห็นๆ ไม่ได้อยากซื้อมาขายต่อ แต่แค่อยากเก็บสะสม
เราหอบหิ้วของกลับบ้าน ทุกครัง จนโฮสต์มัมถามว่า ชั้นอยากรู้จริงๆ ว่าเธอจะกลับไทยยังไง
ของที่เราซื้อมา ก็จะเป็นถ้วยกาแฟเก่า จานรอง ตุ๊กตา ถาดไม้ เครื่องเงิน ชุดหวีโบราณ เครื่องทองเหลือง เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
ส่วนคุณลุง แกจะได้แผ่นเสียงโบราณกลับบ้านด้วยเสมอ แกมีชั้นลอยของบ้าน เก็บสะสมคอลเล็กชั่นของแก ทั้งห้องเต็มไปด้วยแผ่นเสียง
เมื่อครั้งที่ไปเยอรมันช่วงก่อนเข้าฤดูร้อน เราแบกของขึ้นรถไฟไปเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ฝากน้องสาวเพื่อน หิ้วกลับไทย ปรากฏว่า น้องมาเล่าทีหลัง พี่หนูถูกกักตัว 😅
เค้าถามว่า เอาของเก่ามาจากไหน
แต่สุดท้ายก็ออกมาได้ด้วยดี
ส่วนตัวเรา ยังคงออกเดินตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งไปเที่ยวที่ฝรั่งเศส มีร้านรวงมาตั้ง เปิดขายของจำนวนมาก คือมันใช่ มีความสุขสุดๆ เราเดินดูไม่รู้เบื่อ ของราคาถูกมากๆ สุดท้ายก็ได้ของติดไม้ ติดมือกลับฮอลแลนด์มา
จนถึงวันที่จะต้องเดินทางกลับ เราคัดแยกเสื้อผ้า จำนวนเยอะมาก บางส่วนมาจากตลาดมือสอง ทิ้งไว้ให้ออแพร์คนถัดไป เพราะเรากลับบ้าน อุปกรณ์ เสื้อผ้ากันหนาวคงไม่จำเป็นที่เมืองไทย แต่จนแล้วจนรอด เมื่อมาถึงสนามบิน คุณป้าแอร์โอสเตส สายการบินแห่งชาติของที่นั่น ก็ไม่อนุญาตให้เรานำกระเป๋าขึ้นเครื่อง เพราะมันใหญ่เกิน เรายืนยันว่า ตอนมาเราก็บินสายการบินนี้ ยังมาได้เลย ผลสุดท้าย คือเรารื้อกระเป๋าออก เดชะบุญมีถุงช้อปปิ้งของอิเกียอยู่ด้านใน หยิบของออกมาเรียงๆพับๆ ส่งกระเป๋าเสื้อผ้าล้อลาก ที่มีเสื้อผ้าอีกส่วนของเราที่จะเอากลับคืนโฮสต์มัมไป แล้วบอกว่าเอาไปบริจาค เราไม่เอาแล้ว เราจะเอาของเก่ากลับบ้าน 😂
โฮสต์มัมบอกว่า นางยอมรับในความมุ่งมั่นและดูท่าทางที่ไม่มีอันทุกข์ร้อนของเราเลยแม้แต่น้อย นั่งขัดสมาธิลงบนพื้นสนามบิน หยิบของเข้าออก สุดท้ายเรานำถุงอิเกียที่ใส่ของเก่าจนเต็มไปชั่ง ประมาณ10กิโลนิดๆ
คุณป้าพูดว่า ต้องปิดปากถุงด้วย ถ้าปิดไม่ได้ก็เอาไปไม่ได้ เราจับเชือกปากถุงมัดเข้าหากัน แล้วยื่นให้คุณป้าแอร์สายการบินแห่งชาติดู แกพยักหน้า พอใจ แล้วผายมือบอกให้เข้าไปด้านในได้ ส่วนมัมก็เก็บกระเป๋าเรา พร้อมกอดลา แล้วนางก็จากไป
เมื่อเข้าไปด้านในตรงบริเวณตรวจหนังสือเดินทาง เราซึ่งกระเป๋าสตางค์หาย ก่อนหน้าวันบินกลับแค่3วัน ก็ต้องเดินเข้าห้องกระจก อธิบายว่าเราทำกระเป๋าสตางค์หายที่อัมสเตอร์ดัม IND การ์ดของเราเลยหายไปด้วย และได้ไปแจ้งความไว้แล้ว คุณตำรวจก็กดๆดูในคอมพิวเตอร์ และถามว่า Will u come back to Holland later? เราตอบบบ Noooo😂 คือไม่ได้คิดอะไร ตอบไปเพราะกลัวว่าเค้าจะให้ทำอะไรยุ่งยาก เสียเวลา
หลังจากการตอบNo ในครั้งนั้น เราก็กลับไปอีกเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย สิ่งที่โหยหายุโรปที่สุด ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ที่เราออกเที่ยวแทบทุกครั้งที่มีเวลา ไม่ใช่อาหาร เราทำอาหารไทยกินเองแทบทุกวัน แต่สิ่งนั้นคือตลาดมือสอง ขายของคุณภาพดี
สุดท้ายเราก็มาเจอสิ่งที่พอจะเยียวยาความรู้สึกคิดถึงยุโรปลงได้ คือร้านเสื้อผ้า เครื่องใช้มือสอง จากญี่ปุ่น และที่สำคัญตั้งอยู่ใกล้บ้านเลย ส่วนใหญ่เราได้เสื้อผ้า ชาม แก้วน้ำน่ารักๆเครื่องประดับมาจากที่นี่
เสื้อผ้าสไตล์ญี่ปุ่นมีความน่ารักมากเลยทีเดียว แบบสวย คัตติ้งเนี้ยบ ที่สำคัญคือราคาถูกมาก
เราจะคอยส่องโปรโมชั่นจากร้าน บางครั้งร้านลดราคาเหลือแค่50-100บาท ต่อ1กก.
เราลงทุนกับเสื้อผ้าน้อยมาก แต่คิดว่าเสื้อผ้าที่เราใส่ดูดี ถูกกาลเทศะ และไม่กระทบกับเงินในกระเป๋าสตางค์ เสื้อผ้าใหม่ๆยังคงซื้อบ้าง แต่ไม่มากค่ะ ส่วนใหญ่เราใส่ไม่นาน ซักมือ ไม่ค่อยตากแดดนานๆ เสื้อผ้ายังสีสด ไม่ดูโทรม เราจะบริจาคส่งต่อทั้งหมด เพื่อเคลียร์พื้นที่ตู้เสื้อผ้า ไม่ให้มีของไม่จำเป็น อละไม่ได้ใช้อยู่ข้างใน เมื่อซื้อมาไม่แพง ทำให้ไม่เสียดาย ตัดใจง่าย และยังสามารถสนุกกับการช้อปปิ้งอยู่เสมอ ได้เสื้อผ้าที่ไม่ซ้ำซาก จำเจ สร้างความสนุกให้กับตัวเองด้วยค่ะ
เมื่อซื้อมา ได้มา ก็แช่น้ำ ซัก2รอบ ตากแดดก่อนทุกครั้ง เรื่องผื่นคัน ปัญหาสุขภาพผิว ไม่เคยเจอกับตัวเองค่ะ
อยากให้ทุกคนช้อปแบบมีสติ ทั้งเสื้อผ้า และอุปกรณ์แต่งหน้า แต่งตัว สิ่งที่หลงใหล จะได้ไม่นำพาความทุกข์ใจมาให้ภายหลัง เคยเห็นบางคนที่ใช้จ่าย ชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะตามบิวตี้ บล็อกเกอร์ ตามยูทูปเบอร์รีวิวสินค้า แบบหนักหน่วง แต่คุณอย่าลืมไปว่า เค้าได้ของมาฟรี และนั่นคืออาชีพของเขา ส่วนเราซื้อเอง ใช้เอง เพราะฉะนั้น เอาเท่าที่พอประมาณ และจำเป็นดีที่สุดค่ะ
ขอให้ทุกๆคนมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองรักเช่นกันกับเรานะคะ 😊💓