
มาเก็บเกี่ยวองค์ความรู้ และมองหาความหวังจากเวทีเสวนาเกี่ยวกับงานหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ในบ้านเรากันดีกว่าครับ มาให้กำลังใจคนที่ทำหนังสือและคนที่ขายหนังสือกันครับ
วันนี้ผมมีรายละเอียดจากเวทีเสวนา Book Club ในงานหนังสืออิ้นดี้ที่งานหนังสือมาลงเอยกับงานดนตรีและศิลปะได้ไงก็ไม่รู้!
งานหนังสือสนุกไฟลุกพรึ่บ! LIT FEST 2019 เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562 ที่มิวเซียมสยาม ซึ่งเป็นเวทีแรกสุดของงานนี้เลย เนื้อหาที่พูดคุยกันผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยู่ในวงการหนังสือและบุคคลผู้ที่สนใจ ผมจึงขออนุญาตเก็บรายละเอียดที่เป็นองค์ความรู้นำมาเผยแพร่ต่อครับ
โดยท่านวิทยากรผู้ร่วมเสวนาบนเวทีมี 2 ท่านคือ
1. คุณนิวัต พุทธประสาท กรรมการสมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) หัวหน้าภารกิจ โครงการหนังสือติดดาว
2. คุณอนุรักษ์ กิจไพบูลทวี อนุกรรมการฝ่ายต่างประเทศ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) และผู้อำนวยการศูนย์ Thai Rights Center หรือ TRC
(หมายเหตุ ... สำหรับรายละเอียดจากเวทีเสวนานี้ ผมเก็บประเด็นการพูดคุยบนเวทีเพียงบางส่วนนำมาเขียนเรียบเรียงขึ้นใหม่ โดยไม่ได้เก็บทุกคำพูดของท่านวิทยากรบนเวที ดังนั้นถ้ามีรายละเอียดใดหรือข้อมูลใดที่คลาดเคลื่อนหรือผิดไปจากที่ท่านวิทยากรพูดไว้ ผมก็ต้องขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ สำหรับรูปและข้อความต่างๆ ในกระทู้นี้ ถ้าท่านใดต้องการนำไปใช้ต่อก็สามารถก๊อปปี้ไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตอีกครับ)
@ บทบาทการผลักดันการอ่าน ที่ดำเนินการโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ @
-สมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยเป็นผู้ริเริ่มการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ แต่เดิมจัดที่ถนนลูกหลวงด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากนั้นก็มีการย้ายมาจัดงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์แทน ซึ่งในครั้งแรกๆ ที่จัดงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ฯสิริกิติ์นั้นใช้พื้นที่แค่ชั้นล่างในโซน C1 เท่านั้น หลังจากนั้นงานเริ่มขยายใหญ่ขึ้น รูปแบบของการจัดงานสัปดาห์หนังสือฯ จึงขยายเต็มพื้นที่ของศูนย์ฯสิริกิติ์
-ธุรกิจหนังสือและธุรกิจสิ่งพิมพ์เติบโตขึ้นมากในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันรูปแบบของคอนเทนต์และเนื้อหาต่างๆ ปรับเข้าไปสู่รูปแบบของพื้นที่ออนไลน์แทน แต่ทางสมาชิกในสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังจัดทำหนังสือที่เป็นรูปเล่มอยู่ ซึ่งแนวโน้มของหนังสือเล่มคาดว่ายังคงไปได้อยู่ คือความรู้ที่อยู่ในรูปแบบหนังสือมันหาง่ายกว่าและน่าเชื่อถือมากกว่าการไปหาความรู้ในช่องทางออนไลน์หรือทางอินเตอร์เน็ต
-สมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยมีหน้าที่ผลักดันและส่งเสริมการอ่านให้แก่สังคมไทย ซึ่งการจัดทำ Selected Books ก็เป็นส่วนหนึ่งในผลักดันเรื่องการส่งเสริมการอ่านด้วย
-ในวงการหนังสือ ในทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับหนังสือมันจะเป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก เช่น จำนวนคนอ่านลดลง , จำนวนที่พิมพ์หนังสือลดลงอย่างต่อเนื่อง , คนไทยอ่านหนังสือน้อยลง , สำนักพิมพ์ปิดตัวลง ฯลฯ เหล่านี้เป็นข่าวที่ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จะต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้มีจำนวนผู้อ่านเพิ่มขึ้นมานั้น ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญของทุกคนที่อยู่ในวงการหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ที่จะต้องต่อสู้ไปด้วยกัน
-ปัจจุบันนี้การอ่านหนังสือโดยเฉพาะที่เป็นงานวรรณกรรมนั้น จำนวนผู้อ่านค่อนข้างลดลง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ลดลงมากเท่าที่เราคิดหรอก แต่ปัญหามันกลับกลายเป็นว่าในยุคนี้ทางสำนักพิมพ์ได้กระจายคอนเทนต์หรือหนังสือของตัวเองไปสู่ผู้อ่านได้มากน้อยขนาดไหน? หรือกระจายไปถึงผู้อ่านได้ครบถ้วนแล้วหรือยัง? หนังสือที่น่าสนใจหนังสือที่ดีทางสำนักพิมพ์ได้กระจายการรับรู้ไปสู่ผู้อ่านได้ครบหรือยัง? ซึ่งในปัจจุบันสำนักพิมพ์ต่างๆ ก็พยายามทำในจุดนี้อยู่
-การผลักดันการอ่านที่ผ่านมามีต่อเนื่องมาโดยตลอด เพียงแต่ว่าจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา จนกระทั่งมาสู่ยุคปัจจุบันนี้ ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ได้ผลักดันโครงการในการคัดเลือกหนังสือในหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อคัดสรรหรือเลือกขึ้นมาให้นักอ่านมองเห็น , รับรู้และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
-จริงๆ แล้วในประเทศไทยเรามีรางวัลที่เกี่ยวกับหนังสือรางวัลใหญ่ๆ อยู่สัก 2-3 รางวัล โดยรางวัลใหญ่ที่เราเคยได้ยินและรู้จักกันดีก็คือรางวัลซีไรต์ ที่จัดโดยสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งรางวัลซีไรต์นี้ก็มักจะถูกโจมตีว่า หนังสือเล่มที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือเล่มที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ซีไรต์ก็พยายามจะแก้ปัญหานี้อยู่เหมือนกัน โดยในช่วงปีหลังๆ เริ่มมีการประกาศ Long List , Short List ขึ้นมา เพื่อให้การพูดถึงหนังสือเล่มต่างๆ ที่เข้ารอบด้วย
-นอกจากนั้นยังมีรางวัลเซเว่นบุ๊คอะวอร์ด ที่จัดโดยบริษัทซีพี กรุ๊ป เป็นรางวัลที่มีเงินรางวัลเยอะและมีหมวดหมู่เยอะ แต่รางวัลนี้ไม่มีผลทางยอดขายของหนังสือที่ได้รับรางวัลเลย เพราะยังไม่ค่อยจะตอบโจทย์เรื่องการรับรู้ของผู้อ่านสักเท่าไหร่เลย
-ส่วนอีกหนึ่งรางวัลเป็นรางวัลหนังสือที่มีมายาวนานมาก คือรางวัลหนังสือดีเด่น ของ สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ซึ่งรางวัลนี้มีผลต่อยอดขายจากการสั่งซื้อของห้องสมุดต่างๆ ทั่วประเทศ
-ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ คิดว่ารางวัลต่างๆ ที่มีอยู่ยังไม่ตอบโจทย์ ยังมีอะไรบางอย่างที่ขาดอยู่ ดังนั้นทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จึงคิดถึงเรื่องการรีวิวหนังสือ(แนะนำหนังสือ)ขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นจึงต่อยอดมาเป็นการ Selected Books การคัดสรรหนังสือ โดยมีแนวคิดที่ว่าหนังสือที่ออกมาในแต่ละปี หนังสือที่น่าสนใจควรจะได้รับการรีวิวหรือการพูดถึง ที่ทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสถึงหนังสือซึ่งไม่เคยรับรู้มาก่อนได้ หลังจากนั้นทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ได้นำโครงการนี้ไปเสนอทางกระทรวงวัฒนธรรม จึงเกิดโครงการหนังสือติดดาวขึ้นมา

คุณนิวัต พุทธประสาท
-ในสมัยก่อนมีการรีวิวหนังสือเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในนิตยสารต่างๆ ที่มีคอลัมน์แนะนำหนังสือ พอมาถึงยุคปัจจุบันนิตยสารต่างๆ ทยอยปิดตัวไป การรีวิวหนังสือหรือการพูดถึงหนังสือจึงน้อยลงตามไปด้วย แล้วการรีวิวหนังสือก็ปรับรูปแบบไปอยู่ในออนไลน์มากขึ้น เช่นอยู่ตามเพจรีวิวหนังสือต่างๆ ซึ่งแต่ละเพจที่รีวิวหนังสือก็จะมีหนังสือที่มีสไตล์เฉพาะตัว เฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น ทำให้ยังไม่มีการรีวิวหนังสือที่เป็นภาพรวมหรือภาพใหญ่ทั้งหมด
-การรีวิวหนังสือจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนได้รู้จักหนังสือมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นการคัดสรรหนังสือขึ้นมา กลายเป็นโครงการหนังสือติดดาว ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งอาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยขยายหนทางในการอ่านให้มากขึ้น ซึ่งปีนี้ (2561) ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จัดทำขึ้นมาเป็นปีแรก
-โดยเฉพาะสำหรับตลาดหนังสือแปล ที่ผ่านมาไม่ได้รับความสนใจจากเวทีรางวัลหนังสือต่างๆ เลย แต่การมีโครงการ Selected Books การคัดสรรหนังสือขึ้นมา ทำให้หนังสือต่างๆ ที่อยู่ในท้องตลาดรวมทั้งหนังสือแปลด้วยได้รับการพูดถึง โดยเฉพาะถ้าเป็นหนังสือที่ดีและมีคุณค่าพอจะมีคณะกรรมการมาช่วยคัดกรองในส่วนที่ควรค่าแก่การนำเสนอเพื่อเผยแพร่สู่สังคม ทำให้มีรางวัลหรือผู้เกี่ยวข้องที่เริ่มหันมามองตลาดหนังสือแปลด้วย
-จริงๆ แล้วตลาดหนังสือแปลในบ้านเรามีขนาดใหญ่มาก แต่ที่ผ่านมาไม่มีองค์กรไหนทำรางวัลหรือว่าทำการคัดเลือกให้แก่หนังสือแปลเลย ดังนั้นทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จึงคิดว่าหนังสือแปลควรจะมีการคัดสรรขึ้นมาด้วย เพื่อคัดกรองให้ผู้อ่านรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มันควรค่าแก่การอ่าน ไม่อยากให้หนังสือแปลถูกมองข้ามไป
-ดังนั้นการรีวิวหนังสือจึงมีส่วนสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อของนักอ่านหน้าใหม่ได้ และเมื่อมีการ Selected Books การคัดสรรหนังสือขึ้นมา จะช่วยผลักดันทำให้สำนักพิมพ์ต่างๆ จัดทำหนังสือด้วยความพิถีพิถันมากขึ้นด้วย


จาก Selected Books สู่ตลาดลิขสิทธิ์เพื่อผลักดันหนังสือไทยโกอินเตอร์
มาเก็บเกี่ยวองค์ความรู้ และมองหาความหวังจากเวทีเสวนาเกี่ยวกับงานหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ในบ้านเรากันดีกว่าครับ มาให้กำลังใจคนที่ทำหนังสือและคนที่ขายหนังสือกันครับ
วันนี้ผมมีรายละเอียดจากเวทีเสวนา Book Club ในงานหนังสืออิ้นดี้ที่งานหนังสือมาลงเอยกับงานดนตรีและศิลปะได้ไงก็ไม่รู้! งานหนังสือสนุกไฟลุกพรึ่บ! LIT FEST 2019 เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2562 ที่มิวเซียมสยาม ซึ่งเป็นเวทีแรกสุดของงานนี้เลย เนื้อหาที่พูดคุยกันผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยู่ในวงการหนังสือและบุคคลผู้ที่สนใจ ผมจึงขออนุญาตเก็บรายละเอียดที่เป็นองค์ความรู้นำมาเผยแพร่ต่อครับ
โดยท่านวิทยากรผู้ร่วมเสวนาบนเวทีมี 2 ท่านคือ
1. คุณนิวัต พุทธประสาท กรรมการสมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) หัวหน้าภารกิจ โครงการหนังสือติดดาว
2. คุณอนุรักษ์ กิจไพบูลทวี อนุกรรมการฝ่ายต่างประเทศ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) และผู้อำนวยการศูนย์ Thai Rights Center หรือ TRC
(หมายเหตุ ... สำหรับรายละเอียดจากเวทีเสวนานี้ ผมเก็บประเด็นการพูดคุยบนเวทีเพียงบางส่วนนำมาเขียนเรียบเรียงขึ้นใหม่ โดยไม่ได้เก็บทุกคำพูดของท่านวิทยากรบนเวที ดังนั้นถ้ามีรายละเอียดใดหรือข้อมูลใดที่คลาดเคลื่อนหรือผิดไปจากที่ท่านวิทยากรพูดไว้ ผมก็ต้องขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ สำหรับรูปและข้อความต่างๆ ในกระทู้นี้ ถ้าท่านใดต้องการนำไปใช้ต่อก็สามารถก๊อปปี้ไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตอีกครับ)
@ บทบาทการผลักดันการอ่าน ที่ดำเนินการโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ @
-สมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยเป็นผู้ริเริ่มการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ แต่เดิมจัดที่ถนนลูกหลวงด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากนั้นก็มีการย้ายมาจัดงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์แทน ซึ่งในครั้งแรกๆ ที่จัดงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ฯสิริกิติ์นั้นใช้พื้นที่แค่ชั้นล่างในโซน C1 เท่านั้น หลังจากนั้นงานเริ่มขยายใหญ่ขึ้น รูปแบบของการจัดงานสัปดาห์หนังสือฯ จึงขยายเต็มพื้นที่ของศูนย์ฯสิริกิติ์
-ธุรกิจหนังสือและธุรกิจสิ่งพิมพ์เติบโตขึ้นมากในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันรูปแบบของคอนเทนต์และเนื้อหาต่างๆ ปรับเข้าไปสู่รูปแบบของพื้นที่ออนไลน์แทน แต่ทางสมาชิกในสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังจัดทำหนังสือที่เป็นรูปเล่มอยู่ ซึ่งแนวโน้มของหนังสือเล่มคาดว่ายังคงไปได้อยู่ คือความรู้ที่อยู่ในรูปแบบหนังสือมันหาง่ายกว่าและน่าเชื่อถือมากกว่าการไปหาความรู้ในช่องทางออนไลน์หรือทางอินเตอร์เน็ต
-สมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยมีหน้าที่ผลักดันและส่งเสริมการอ่านให้แก่สังคมไทย ซึ่งการจัดทำ Selected Books ก็เป็นส่วนหนึ่งในผลักดันเรื่องการส่งเสริมการอ่านด้วย
-ในวงการหนังสือ ในทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับหนังสือมันจะเป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก เช่น จำนวนคนอ่านลดลง , จำนวนที่พิมพ์หนังสือลดลงอย่างต่อเนื่อง , คนไทยอ่านหนังสือน้อยลง , สำนักพิมพ์ปิดตัวลง ฯลฯ เหล่านี้เป็นข่าวที่ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จะต้องเผชิญอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้มีจำนวนผู้อ่านเพิ่มขึ้นมานั้น ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญของทุกคนที่อยู่ในวงการหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ที่จะต้องต่อสู้ไปด้วยกัน
-ปัจจุบันนี้การอ่านหนังสือโดยเฉพาะที่เป็นงานวรรณกรรมนั้น จำนวนผู้อ่านค่อนข้างลดลง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ลดลงมากเท่าที่เราคิดหรอก แต่ปัญหามันกลับกลายเป็นว่าในยุคนี้ทางสำนักพิมพ์ได้กระจายคอนเทนต์หรือหนังสือของตัวเองไปสู่ผู้อ่านได้มากน้อยขนาดไหน? หรือกระจายไปถึงผู้อ่านได้ครบถ้วนแล้วหรือยัง? หนังสือที่น่าสนใจหนังสือที่ดีทางสำนักพิมพ์ได้กระจายการรับรู้ไปสู่ผู้อ่านได้ครบหรือยัง? ซึ่งในปัจจุบันสำนักพิมพ์ต่างๆ ก็พยายามทำในจุดนี้อยู่
-การผลักดันการอ่านที่ผ่านมามีต่อเนื่องมาโดยตลอด เพียงแต่ว่าจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา จนกระทั่งมาสู่ยุคปัจจุบันนี้ ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ได้ผลักดันโครงการในการคัดเลือกหนังสือในหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อคัดสรรหรือเลือกขึ้นมาให้นักอ่านมองเห็น , รับรู้และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
-จริงๆ แล้วในประเทศไทยเรามีรางวัลที่เกี่ยวกับหนังสือรางวัลใหญ่ๆ อยู่สัก 2-3 รางวัล โดยรางวัลใหญ่ที่เราเคยได้ยินและรู้จักกันดีก็คือรางวัลซีไรต์ ที่จัดโดยสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งรางวัลซีไรต์นี้ก็มักจะถูกโจมตีว่า หนังสือเล่มที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือเล่มที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ซีไรต์ก็พยายามจะแก้ปัญหานี้อยู่เหมือนกัน โดยในช่วงปีหลังๆ เริ่มมีการประกาศ Long List , Short List ขึ้นมา เพื่อให้การพูดถึงหนังสือเล่มต่างๆ ที่เข้ารอบด้วย
-นอกจากนั้นยังมีรางวัลเซเว่นบุ๊คอะวอร์ด ที่จัดโดยบริษัทซีพี กรุ๊ป เป็นรางวัลที่มีเงินรางวัลเยอะและมีหมวดหมู่เยอะ แต่รางวัลนี้ไม่มีผลทางยอดขายของหนังสือที่ได้รับรางวัลเลย เพราะยังไม่ค่อยจะตอบโจทย์เรื่องการรับรู้ของผู้อ่านสักเท่าไหร่เลย
-ส่วนอีกหนึ่งรางวัลเป็นรางวัลหนังสือที่มีมายาวนานมาก คือรางวัลหนังสือดีเด่น ของ สพฐ. (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ซึ่งรางวัลนี้มีผลต่อยอดขายจากการสั่งซื้อของห้องสมุดต่างๆ ทั่วประเทศ
-ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ คิดว่ารางวัลต่างๆ ที่มีอยู่ยังไม่ตอบโจทย์ ยังมีอะไรบางอย่างที่ขาดอยู่ ดังนั้นทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จึงคิดถึงเรื่องการรีวิวหนังสือ(แนะนำหนังสือ)ขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นจึงต่อยอดมาเป็นการ Selected Books การคัดสรรหนังสือ โดยมีแนวคิดที่ว่าหนังสือที่ออกมาในแต่ละปี หนังสือที่น่าสนใจควรจะได้รับการรีวิวหรือการพูดถึง ที่ทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสถึงหนังสือซึ่งไม่เคยรับรู้มาก่อนได้ หลังจากนั้นทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ได้นำโครงการนี้ไปเสนอทางกระทรวงวัฒนธรรม จึงเกิดโครงการหนังสือติดดาวขึ้นมา
-ในสมัยก่อนมีการรีวิวหนังสือเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในนิตยสารต่างๆ ที่มีคอลัมน์แนะนำหนังสือ พอมาถึงยุคปัจจุบันนิตยสารต่างๆ ทยอยปิดตัวไป การรีวิวหนังสือหรือการพูดถึงหนังสือจึงน้อยลงตามไปด้วย แล้วการรีวิวหนังสือก็ปรับรูปแบบไปอยู่ในออนไลน์มากขึ้น เช่นอยู่ตามเพจรีวิวหนังสือต่างๆ ซึ่งแต่ละเพจที่รีวิวหนังสือก็จะมีหนังสือที่มีสไตล์เฉพาะตัว เฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น ทำให้ยังไม่มีการรีวิวหนังสือที่เป็นภาพรวมหรือภาพใหญ่ทั้งหมด
-การรีวิวหนังสือจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนได้รู้จักหนังสือมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นการคัดสรรหนังสือขึ้นมา กลายเป็นโครงการหนังสือติดดาว ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งอาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยขยายหนทางในการอ่านให้มากขึ้น ซึ่งปีนี้ (2561) ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จัดทำขึ้นมาเป็นปีแรก
-โดยเฉพาะสำหรับตลาดหนังสือแปล ที่ผ่านมาไม่ได้รับความสนใจจากเวทีรางวัลหนังสือต่างๆ เลย แต่การมีโครงการ Selected Books การคัดสรรหนังสือขึ้นมา ทำให้หนังสือต่างๆ ที่อยู่ในท้องตลาดรวมทั้งหนังสือแปลด้วยได้รับการพูดถึง โดยเฉพาะถ้าเป็นหนังสือที่ดีและมีคุณค่าพอจะมีคณะกรรมการมาช่วยคัดกรองในส่วนที่ควรค่าแก่การนำเสนอเพื่อเผยแพร่สู่สังคม ทำให้มีรางวัลหรือผู้เกี่ยวข้องที่เริ่มหันมามองตลาดหนังสือแปลด้วย
-จริงๆ แล้วตลาดหนังสือแปลในบ้านเรามีขนาดใหญ่มาก แต่ที่ผ่านมาไม่มีองค์กรไหนทำรางวัลหรือว่าทำการคัดเลือกให้แก่หนังสือแปลเลย ดังนั้นทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จึงคิดว่าหนังสือแปลควรจะมีการคัดสรรขึ้นมาด้วย เพื่อคัดกรองให้ผู้อ่านรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มันควรค่าแก่การอ่าน ไม่อยากให้หนังสือแปลถูกมองข้ามไป
-ดังนั้นการรีวิวหนังสือจึงมีส่วนสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อของนักอ่านหน้าใหม่ได้ และเมื่อมีการ Selected Books การคัดสรรหนังสือขึ้นมา จะช่วยผลักดันทำให้สำนักพิมพ์ต่างๆ จัดทำหนังสือด้วยความพิถีพิถันมากขึ้นด้วย