ลือว่า ... ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน จะไม่ทัน ... ก็เพราะ

การรถไฟแห่งประเทศไทยกำลังจะทำให้คนไทยทั้งประเทศได้รอเก้ออีกครั้ง ...  กับความฝันว่า "ไทยกำลังจะมีรถไฟความเร็วสูงสายแรก"

จากกรณีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ทำให้ต้องมีการเจรจาเพิ่มเติมอีก ทำให้อาจจะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเซ็นสัญญาภายในวันที่ 31 มกราคม 2562 ตามกำหนดเดิมที่ได้ตั้งไว้ไม่ทัน และก็คงต้องเลื่อนการประกาศ และการก่อสร้างออกไปอย่างไม่มีกำหนด

หากใครได้ตามข่าวเรื่องการประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเส้นนี้ จะพบว่า เงื่อนไขที่อยู่ในเอกสารเชิญชวนเอกชน ระบุไว้ว่า


หากมีการระบุรายละเอียดเช่นนี้ ก็ย่อมหมายความว่า ซองที่ 4 จะไม่มีผลต่อการตัดสินผู้ชนะการประมูลในครั้งนี้ ก็เหลือเพียงแต่ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการเจรจาต่อรองได้เมื่อไหร่ ก็จะสามารถประกาศผู้ชนะการคัดเลือกได้ทันที

หรือว่าทางซีพี จะเสนออะไรไม่เข้าตาคณะกรรมการของการรถไฟฯ หรือเปล่า จากข้อเสนอทั้ง 11 ข้อในซองที่ 4 ผ่านเพียง 3 ข้อ ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพให้โครงการ หรือซีพีจะแอบเอาข้อเสนอพิเศษอะไรมายัดไว้ จนถึงขั้นที่รฟท. ไม่สามารถตัดสินใจได้เลยเชียวหรือ

ข้อมูลหลุดออกมา 1 ข้อที่น่าสนใจก็คือ ซีพีขอขยายไฮสปีดถึงระยอง

แถมข้อมูลรายละเอียดในการประมูลโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและเอกชน (Public Private Partnership) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "PPP" นั้น ข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ ของผู้เข้าร่วมประมูลก็ไม่ควรจะมีการแพ่งพราย หลุดออกมาสู่สาธารณะ หรือที่เข้าใจว่าเป็นช่วง Silent Period กำลังจะเป็นแบบทดสอบสำคัญของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้จัดการประมูลครั้งนี้อีกครั้ง ทุกครั้งที่มีการประชุม ข้อมูลลับจากในห้องประชุมก็มักจะหลุดออกมาถึงหูนักข่าวทุกครั้ง แถมหาคนปล่อยข่าวก็ไม่เคยได้

ก่อนหน้านี้ก็  เร่งหาตัวคนปล่อยข่าวมั่วประมูล “ไฮสปีดเทรน” ข้อมูลมั่วหลุดมาครั้งล่ะ ก็ยังหาคนปล่อยข่าวไม่ได้ คราวนี้ก็ยังมีข้อมูลการพิจารณาเงื่อนไขในการประมูลหลุดออกมาอีก ซึ่งถือว่าเป็นความผิดทางอาญา และยังผิดเงื่อนไข TOR ด้วย

หากเป็นการทำธุรกิจ เมื่อยังไม่จบการเจรจา ผู้เข้าร่วมประมูลทุกรายยังมีโอกาสเป็นผู้ชนะ รวมทั้งเป็นมารยาทของคณะกรรมการผู้พิจารณาในการที่จะปกปิดเงื่อนไขของผู้ประมูล

ซึ่งานนี้ก็คงต้องดูกันต่อไปยาวๆ ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานแรกของรัฐบาล ที่กำลังขับเคลื่อนกลไกที่เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่สำคัญอย่างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่มีนักวิชาการหลายท่านเคยกล่าวไว้ว่า " เป็นกระดูกสันหลังที่สำคัญของ EEC "

หากโครงการนี้ไม่เกิด แล้วโครงการอื่นๆ ในอีอีซี จะเป็นเช่นไร

หมายเหตุ คนไทยอย่างพวกเราก็ได้แค่เฝ้าดูว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งควรจะเป็นงานหลักของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพลังงาน การสื่อสาร หรือการคมนาคม แต่รัฐบาลกลับไม่เคยลงมือทำเองเลย ต้องให้เอกชนเข้ามารับความเสี่ยงแทน

หรือว่า รัฐบาลกำลังกลัว เลยไม่กล้าที่จะเสี่ยง เพราะไม่สามารถยืนยันโครงการได้เลยว่า จะเจ๊งหรือไม่เจ๊ง และคงไม่มีรัฐบาลไหนอยากจะเอากระดูกมาแขวนคอ เพราะเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล โครงการอีอีซีนี้ก็อาจจะถูกดอง หรือถึงขั้นที่ถูกยกเลิกไปเลยก็ได้

เพราะลงทุนในรัฐบาลนี้ กว่าจะออกดอก แตกผลก็ต้องรออย่างน้อยอีก 5 ปี 10 ปี เมื่อถึงตอนนั้นจะมีใครการันตีได้ว่าพรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล

เอวัง ... ก็มีด้วยประการฉะนี้ ... แล !!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่