มุมมองจากสิ่งที่ผมเห็นต่อทีมฟุตบอลไทย
1.ขาดแคลนศูนย์หน้าตัวจบสกอร์คมๆ - ถ้าให้พูดกันตรงๆในตอนนี้ก็คือไม่ว่าจะแมทช์ไหน ครั้งไหน หรือครั้งต่อๆไป หันซ้าย หันขวา ก็ยังคงจิ้มชื่อ “มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา” วันยังค่ำ เพราะไม่รู้จะหาใครแล้วที่คุ้นหน้าคุ้นตา คุ้นหู เท่าคนนี้ ผมมองว่ามุ้ยณ.ตอนนี้แค่กินบุญเก่าเท่านั้น กับความเก่งในอดีตที่ผ่านมา ถ้าดูฟอร์มจริงๆแล้วดูเฉยๆมาก โอกาสหวังประตู 50:50 เซนต์การทำประตูไม่มีความกระหาย คล่องแคล่ว ไหวพริบอะไรมากเท่าไร ศุภชัย ถือว่าเป็นตัวแทนศูนย์หน้าทดแทนที่ดีในตอนนี้ครับ น้องเค้าเรี่ยวแรงยังดี มุมมองไหวพริบค่อนข้างโอเค แต่ถ้าให้ระยะยาวทีมชาติควรมีตัวเลือกศูนย์หน้าเก่งๆให้เยอะกว่านี้ครับ ซึ่งมันก็เป็นไปได้ยากเพราะลีคไทยนั้นแต่ละทีมก็จ้างแต่ตัวต่างชาติมาเล่นแทนคนไทยแทบจะทั้งนั้น ทำให้ทรัพยากรของเราน้อยไปโดยปริยาย หาตัวเลือกแทบไม่มี รับชะตากรรมไป
2.”เมสซี่ เจ” ชนาธิป นั้นยังไงก็เล่นดีวันยังค่ำ ความทุ่มเทไม่ต้องพูดถึง เบสิคต่างๆนาๆผมว่ามันเลยระดับรุ่นพี่ๆในทีมแทบจะทุกคนด้วยซ้ำไป แต่พอมาดูฟอร์มการเล่นกับทีมชาติไทยด้วยกันเองแล้ว ดูแล้วโอกาสทำเกมส์น้อย จนบางครั้งทำทำให้คิดไปว่าทำไมเล่นกับทีมชาติตัวองเล่นไม่ค่อยดีฟระ!! ไม่ค่อยไหลลื่นเหมือนกับเล่นที่สโมสรญี่ปุ่น ก็เพราะเข้าใจว่าคนอื่นๆในทีมนั้นจังหวะมันไม่ทันหรือไม่เอื้อให้กับน้องเจ เท่ากับคนญี่ปุ่นที่เล่นบอลกันไว เคลื่อนที่กันตลอด ไหลลื่น ซึ่งเข้าทางเจที่ชอบขยันวิ่งไม่มีหมด แต่พอกับทีมไทยเราดูได้เลยว่าแต่ละคนนั้นพอได้บอลแล้วส่วนใหญ่มักจะแต่งบอลก่อนที่จะออกจากเท้าก่อนแทบจะทั้งนั้น ทำให้จังหวะมันไม่ทันการเคลื่อนที่ไปรอของเจที่เป็นตัวเพลย์เมคเกอร์ของทีม
จะให้สรุปง่ายๆก็คือต่อให้มีตัวเก่งๆ เบสิคดีๆ แต่ถ้ามันมีน้อยมันก็คงช่วยทีมอะไรไม่ได้มาก หรืออาจทำให้ดูง่อยไปในบัดดล เพราะเพื่อนร่วมทีมก็ยังคงเล่นอยู่ในระดับเดิม สไตล์เดิม ต่อบอลกันแบบเดิมๆตามไม่ทัน อ่านเกมส์ไม่ทันคนที่เล่นบอลในอีกระดับแบบเจ หนทางปรับปรุงก็คือหวังว่าในอนาคตคนของเราจะได้ออกไปพัฒนาทักษะ ไหวพริบกับลีคต่างชาติในระดับที่สูงกว่าอาเซียนให้เยอะขึ้น เพื่อที่จะได้ไปในรูปแบบที่ดีกว่าเดิม
3.ยังหาโค้ชที่เข้ากับทีมไม่ได้ซักที สิ่งนี้ก็ยังคงต้องเฟ้นหากันต่อไปให้เหมาะกับรูปแบบการเล่นของทีมไทยมากที่สุด ซึ่งเท่าที่ผ่านมาเราคงเหมาะกับสไตล์แนวๆนี้แหละที่เล่นต่อบอลทำเกมส์บุกโต้ แทนที่จะเน้นการฟอร์มทีมตั้งรับตามรูปเกมส์ของโค้ชไมโลคนก่อน แต่ข้อเสียของการเล่นสไตล์บุกของเราก็คือจังหวะโดนสวนกลับ กองหลัง รวมถึงการฟอร์มทีมในจังหวะตั้งรับมันอ่อนยวบ ไม่ผสานกันซักเท่าไหร่ทำให้เสียประตูได้แบบ 50:50 อย่างที่เห็นเลย รวมถึงการเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่โค้ชก็ยังไม่เก่งพอซึ่งดูได้จากที่เปลี่ยนตัวเอา “ศุภชัย”ออกแล้วเอา “ชนานันท์” เข้า ดูเหมือนว่าตัวใหม่ที่ลงไปแทบจะไม่มีตัวตนในเกมส์ดีเท่ากับคนเดิมเลย ยืนตำแหน่งหรือหาตำแหน่งเอาบอลแทบไม่ได้ เหมือนเล่นกัน 10 คนอ่ะ ก็หาโค้ชที่เข้าใจทีมกันต่อไปครับ
ก็คร่าวๆแค่นี้หละครับ ระยะหลังๆมานี่ทำไมทีมชาติไทยยิ่งเล่นก็เหมือนวนอยู่กับที่ เหมือนพายเรือในอ่าง เริ่มจะดีๆก็แป้กฟุ้บกลับลงมาตามเดิม กลับกันทีมอาเซียนกลับสวนทางเราซะงั้น มันเป็นเพราะอะไร เพราะลีคในไทยเราซบเซาไม่ค่อยบูมเท่ากับอดีตหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ยังไงก็ลุ้นก็เชียร์ต่อไปครับ บอลไทยแข่งเมื่อไรก็ตามเชียร์เมื่อนั้นดูเพื่อความสนุก มีแพ้มีชนะ แต่สิ่งสำคัญอยากให้ทีมพัฒนาไปในทางที่ดีกว่านี้ครับ สู้ๆไทยแลนด์
สิ่งที่เห็นจากทีมชาติไทยจากนัดล่าสุด
1.ขาดแคลนศูนย์หน้าตัวจบสกอร์คมๆ - ถ้าให้พูดกันตรงๆในตอนนี้ก็คือไม่ว่าจะแมทช์ไหน ครั้งไหน หรือครั้งต่อๆไป หันซ้าย หันขวา ก็ยังคงจิ้มชื่อ “มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา” วันยังค่ำ เพราะไม่รู้จะหาใครแล้วที่คุ้นหน้าคุ้นตา คุ้นหู เท่าคนนี้ ผมมองว่ามุ้ยณ.ตอนนี้แค่กินบุญเก่าเท่านั้น กับความเก่งในอดีตที่ผ่านมา ถ้าดูฟอร์มจริงๆแล้วดูเฉยๆมาก โอกาสหวังประตู 50:50 เซนต์การทำประตูไม่มีความกระหาย คล่องแคล่ว ไหวพริบอะไรมากเท่าไร ศุภชัย ถือว่าเป็นตัวแทนศูนย์หน้าทดแทนที่ดีในตอนนี้ครับ น้องเค้าเรี่ยวแรงยังดี มุมมองไหวพริบค่อนข้างโอเค แต่ถ้าให้ระยะยาวทีมชาติควรมีตัวเลือกศูนย์หน้าเก่งๆให้เยอะกว่านี้ครับ ซึ่งมันก็เป็นไปได้ยากเพราะลีคไทยนั้นแต่ละทีมก็จ้างแต่ตัวต่างชาติมาเล่นแทนคนไทยแทบจะทั้งนั้น ทำให้ทรัพยากรของเราน้อยไปโดยปริยาย หาตัวเลือกแทบไม่มี รับชะตากรรมไป
2.”เมสซี่ เจ” ชนาธิป นั้นยังไงก็เล่นดีวันยังค่ำ ความทุ่มเทไม่ต้องพูดถึง เบสิคต่างๆนาๆผมว่ามันเลยระดับรุ่นพี่ๆในทีมแทบจะทุกคนด้วยซ้ำไป แต่พอมาดูฟอร์มการเล่นกับทีมชาติไทยด้วยกันเองแล้ว ดูแล้วโอกาสทำเกมส์น้อย จนบางครั้งทำทำให้คิดไปว่าทำไมเล่นกับทีมชาติตัวองเล่นไม่ค่อยดีฟระ!! ไม่ค่อยไหลลื่นเหมือนกับเล่นที่สโมสรญี่ปุ่น ก็เพราะเข้าใจว่าคนอื่นๆในทีมนั้นจังหวะมันไม่ทันหรือไม่เอื้อให้กับน้องเจ เท่ากับคนญี่ปุ่นที่เล่นบอลกันไว เคลื่อนที่กันตลอด ไหลลื่น ซึ่งเข้าทางเจที่ชอบขยันวิ่งไม่มีหมด แต่พอกับทีมไทยเราดูได้เลยว่าแต่ละคนนั้นพอได้บอลแล้วส่วนใหญ่มักจะแต่งบอลก่อนที่จะออกจากเท้าก่อนแทบจะทั้งนั้น ทำให้จังหวะมันไม่ทันการเคลื่อนที่ไปรอของเจที่เป็นตัวเพลย์เมคเกอร์ของทีม
จะให้สรุปง่ายๆก็คือต่อให้มีตัวเก่งๆ เบสิคดีๆ แต่ถ้ามันมีน้อยมันก็คงช่วยทีมอะไรไม่ได้มาก หรืออาจทำให้ดูง่อยไปในบัดดล เพราะเพื่อนร่วมทีมก็ยังคงเล่นอยู่ในระดับเดิม สไตล์เดิม ต่อบอลกันแบบเดิมๆตามไม่ทัน อ่านเกมส์ไม่ทันคนที่เล่นบอลในอีกระดับแบบเจ หนทางปรับปรุงก็คือหวังว่าในอนาคตคนของเราจะได้ออกไปพัฒนาทักษะ ไหวพริบกับลีคต่างชาติในระดับที่สูงกว่าอาเซียนให้เยอะขึ้น เพื่อที่จะได้ไปในรูปแบบที่ดีกว่าเดิม
3.ยังหาโค้ชที่เข้ากับทีมไม่ได้ซักที สิ่งนี้ก็ยังคงต้องเฟ้นหากันต่อไปให้เหมาะกับรูปแบบการเล่นของทีมไทยมากที่สุด ซึ่งเท่าที่ผ่านมาเราคงเหมาะกับสไตล์แนวๆนี้แหละที่เล่นต่อบอลทำเกมส์บุกโต้ แทนที่จะเน้นการฟอร์มทีมตั้งรับตามรูปเกมส์ของโค้ชไมโลคนก่อน แต่ข้อเสียของการเล่นสไตล์บุกของเราก็คือจังหวะโดนสวนกลับ กองหลัง รวมถึงการฟอร์มทีมในจังหวะตั้งรับมันอ่อนยวบ ไม่ผสานกันซักเท่าไหร่ทำให้เสียประตูได้แบบ 50:50 อย่างที่เห็นเลย รวมถึงการเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่โค้ชก็ยังไม่เก่งพอซึ่งดูได้จากที่เปลี่ยนตัวเอา “ศุภชัย”ออกแล้วเอา “ชนานันท์” เข้า ดูเหมือนว่าตัวใหม่ที่ลงไปแทบจะไม่มีตัวตนในเกมส์ดีเท่ากับคนเดิมเลย ยืนตำแหน่งหรือหาตำแหน่งเอาบอลแทบไม่ได้ เหมือนเล่นกัน 10 คนอ่ะ ก็หาโค้ชที่เข้าใจทีมกันต่อไปครับ
ก็คร่าวๆแค่นี้หละครับ ระยะหลังๆมานี่ทำไมทีมชาติไทยยิ่งเล่นก็เหมือนวนอยู่กับที่ เหมือนพายเรือในอ่าง เริ่มจะดีๆก็แป้กฟุ้บกลับลงมาตามเดิม กลับกันทีมอาเซียนกลับสวนทางเราซะงั้น มันเป็นเพราะอะไร เพราะลีคในไทยเราซบเซาไม่ค่อยบูมเท่ากับอดีตหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ยังไงก็ลุ้นก็เชียร์ต่อไปครับ บอลไทยแข่งเมื่อไรก็ตามเชียร์เมื่อนั้นดูเพื่อความสนุก มีแพ้มีชนะ แต่สิ่งสำคัญอยากให้ทีมพัฒนาไปในทางที่ดีกว่านี้ครับ สู้ๆไทยแลนด์