ให้กำลังใจ และขอบคุณโค้ชโต่ย โค้ชโชค
ที่ช่วยกันพาทีมทำผลงานผ่านเข้ารอบได้ แม้เมื่อวานจะแพ้จีนและตกรอบไปก็ตาม
ก็ต้องยอมรับว่า ทีมงานได้ทำงานได้ตามเป้าหมายแล้ว พาทีมมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่า โอเคแล้ว กับวิกฤตปัญหามากมายในนัดแรก
แต่สุดท้ายการทำงานในนัดสุดท้าย ก็ยังคงต้องมีการวิจารณ์กันในผลงานด้วยเหตุและผล
ส่วนตัวตอนแรกยอมรับว่า โค้ชโต่ยและโค้ชโชค มีแนวโน้มที่จะน่าได้รับสัญญาคุมทีมถาวรได้ จากผลงานในสองนัดที่ผ่านมา
แต่นัดเมื่อวานนี้ น่าจะเป็นการบ่งบอกว่า โค้ชยังไม่พร้อมจริง ๆ
- ส่วนตัวโอเค กับการจัดทีม เฉลิมพงษ์ โค้ชไม่มีทางเลือกจริง ๆ ต้องส่งลงมา
เป็นที่นักเตะเองที่ไม่ดีพอ จริง ๆ ก็ไม่ควรติดมาด้วยซ้ำ กับฟอร์มที่ผ่านมาของเฉลิมพงษ์
- การเปลี่ยนตัว ใจเด็ด ออก ก็เห็นด้วยว่า ควรเอาออก ก่อนจะโดนใบแดง
เพราะกรรมการเตือนเจ้าอาร์มโดยตรงแล้ว ฟาล์วอีกทีโดนแดงแน่ ๆ
ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า อาร์ม สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แน่
แต่บางครั้งการเล่นอาจเกิดความผิดพลาดในการเข้าบอล แย่งโหม่ง หรือปะทะกันในเกมได้
ก็อาจเป็นผลเสียหายหนักกับทีมได้ การเปลี่ยนออกนี้เหมาะสมแล้ว
เพียงแต่ตัวที่เปลี่ยนลงมา ชนานันท์ เอง ที่ไม่ดีพอ
โค้ชคงไม่คาดคิดว่า นักเตะจะเล่นแย่ขนาดนั้น
โค้ช คาดหวังว่า เด็กลงมาจะเล่นได้ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นดั่งที่ตั้งใจ ก็ต้องรับผลนั้นไป
อาจมีบ้างที่จุดนี้ เป็นสิ่งที่โค้ชต้องรับผิดชอบร่วมกันกับนักเตะ กับการเลือกใช้ ชนานันท์ ในเกมแบบนี้ ซึ่งเป็นนักบอลที่ช้า และเล่นเกมรับได้แย่มาก
อีกทั้งยังแทบไม่ได้ลงมาสัมผัสเกมด้วย การส่งลงไปในเกมที่กดดันมาก ๆ แบบนี้ ก็ถือว่าเสี่ยงสุด ๆ จริง ๆ
สุดท้ายกลายเป็นเด็กสติแตก อาการตื่นสนามทะลัก จากที่คิดว่าจะมาช่วยทีม กลายเป็นสร้างผลกระทบกับทีมโดยตรง
แต่จุดที่ผมมองใหญ่ ๆ เลย ที่ทำให้ความคิดเห็นของผมประเมินว่า โค้ช คงยังไม่เหมาะกับการคุมทีมถาวร
คือ การปล่อยโควต้าเปลี่ยนตัวอีก 1 คน ทิ้งไปโดยไม่ใช้มัน
มันสะท้อนอะไร ๆ หลาย ๆ อย่างเลย ถึงรายละเอียด ความละเอียดในการวางแผน การทำงาน
การแก้เกมของโค้ช การปรับเปลี่ยนเทคติกขณะที่ทีมเสียเปรียบ
เหมือนหมดกึ๋น ไม่รู้จะแก้เกมอย่างไร
ปล่อยนักเตะในสนามแก้เกมกันเอง เล่นแบบเดิม ๆ โดยกดแบบเดิม ๆ
เปลี่ยนตัวตามตำแหน่งเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีเทคติกอะไรใหม่ ๆ หรือเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นเลย
มันก็พอเข้าใจได้ว่านี่เป็นทีมที่โค้ชไม่ได้เลิกเองโดยตรง มีทรัพยากรจำกัด
แต่โค้ชที่ดี ที่เก่ง ที่ยอดเยี่ยมต้องสามารถที่จะพยายามใช้ทรัพยากรจำกัดเท่าที่มีได้แน่
จุดนี้ ทำให้ผมมองว่า โค้ชโต่ย แม้จะมีฝีมือ (ทำผลงานรอบแรกได้ดีเกินคาด) แต่ยังคงขาดรายละเอียดในเชิงลึก
รวมถึงเทคติกในการแก้เกม ที่เป็นปัญหาโค้ชไทยหลาย ๆ คน
การทิ้งโอกาสเปลี่ยนตัว 1 คนไป เป็นจุดใหญ่ ที่ทำให้ผมคิดว่า โค้ช ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะได้คุมทีมถาวร
หวังว่าหลังจากนี้ โค้ชที่ได้ประสบการณ์มากมายในการคุมทีมครั้งนี้ และกำลังจะเข้าอบรมโปรไลเซนต์ จะเก็บเกี่ยวความรู้
เพื่อนำมาพัฒนาตัวเอง และนำมาเอาความรู้และประสบการณ์มาใช้ในการคุมทีมในอนาคต
และเมื่อโอกาสใหม่มาถึง อาจเป็นเวลาของโค้ชจริง ๆ
ขอบคุณโค้ชโต่ยที่ทำผลงานได้ตามเป้า (เกินคาด) แต่การทำทีมถาวรคิดว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของโค้ช
ที่ช่วยกันพาทีมทำผลงานผ่านเข้ารอบได้ แม้เมื่อวานจะแพ้จีนและตกรอบไปก็ตาม
ก็ต้องยอมรับว่า ทีมงานได้ทำงานได้ตามเป้าหมายแล้ว พาทีมมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่า โอเคแล้ว กับวิกฤตปัญหามากมายในนัดแรก
แต่สุดท้ายการทำงานในนัดสุดท้าย ก็ยังคงต้องมีการวิจารณ์กันในผลงานด้วยเหตุและผล
ส่วนตัวตอนแรกยอมรับว่า โค้ชโต่ยและโค้ชโชค มีแนวโน้มที่จะน่าได้รับสัญญาคุมทีมถาวรได้ จากผลงานในสองนัดที่ผ่านมา
แต่นัดเมื่อวานนี้ น่าจะเป็นการบ่งบอกว่า โค้ชยังไม่พร้อมจริง ๆ
- ส่วนตัวโอเค กับการจัดทีม เฉลิมพงษ์ โค้ชไม่มีทางเลือกจริง ๆ ต้องส่งลงมา
เป็นที่นักเตะเองที่ไม่ดีพอ จริง ๆ ก็ไม่ควรติดมาด้วยซ้ำ กับฟอร์มที่ผ่านมาของเฉลิมพงษ์
- การเปลี่ยนตัว ใจเด็ด ออก ก็เห็นด้วยว่า ควรเอาออก ก่อนจะโดนใบแดง
เพราะกรรมการเตือนเจ้าอาร์มโดยตรงแล้ว ฟาล์วอีกทีโดนแดงแน่ ๆ
ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า อาร์ม สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แน่
แต่บางครั้งการเล่นอาจเกิดความผิดพลาดในการเข้าบอล แย่งโหม่ง หรือปะทะกันในเกมได้
ก็อาจเป็นผลเสียหายหนักกับทีมได้ การเปลี่ยนออกนี้เหมาะสมแล้ว
เพียงแต่ตัวที่เปลี่ยนลงมา ชนานันท์ เอง ที่ไม่ดีพอ
โค้ชคงไม่คาดคิดว่า นักเตะจะเล่นแย่ขนาดนั้น
โค้ช คาดหวังว่า เด็กลงมาจะเล่นได้ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นดั่งที่ตั้งใจ ก็ต้องรับผลนั้นไป
อาจมีบ้างที่จุดนี้ เป็นสิ่งที่โค้ชต้องรับผิดชอบร่วมกันกับนักเตะ กับการเลือกใช้ ชนานันท์ ในเกมแบบนี้ ซึ่งเป็นนักบอลที่ช้า และเล่นเกมรับได้แย่มาก
อีกทั้งยังแทบไม่ได้ลงมาสัมผัสเกมด้วย การส่งลงไปในเกมที่กดดันมาก ๆ แบบนี้ ก็ถือว่าเสี่ยงสุด ๆ จริง ๆ
สุดท้ายกลายเป็นเด็กสติแตก อาการตื่นสนามทะลัก จากที่คิดว่าจะมาช่วยทีม กลายเป็นสร้างผลกระทบกับทีมโดยตรง
แต่จุดที่ผมมองใหญ่ ๆ เลย ที่ทำให้ความคิดเห็นของผมประเมินว่า โค้ช คงยังไม่เหมาะกับการคุมทีมถาวร
คือ การปล่อยโควต้าเปลี่ยนตัวอีก 1 คน ทิ้งไปโดยไม่ใช้มัน
มันสะท้อนอะไร ๆ หลาย ๆ อย่างเลย ถึงรายละเอียด ความละเอียดในการวางแผน การทำงาน
การแก้เกมของโค้ช การปรับเปลี่ยนเทคติกขณะที่ทีมเสียเปรียบ
เหมือนหมดกึ๋น ไม่รู้จะแก้เกมอย่างไร
ปล่อยนักเตะในสนามแก้เกมกันเอง เล่นแบบเดิม ๆ โดยกดแบบเดิม ๆ
เปลี่ยนตัวตามตำแหน่งเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีเทคติกอะไรใหม่ ๆ หรือเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นเลย
มันก็พอเข้าใจได้ว่านี่เป็นทีมที่โค้ชไม่ได้เลิกเองโดยตรง มีทรัพยากรจำกัด
แต่โค้ชที่ดี ที่เก่ง ที่ยอดเยี่ยมต้องสามารถที่จะพยายามใช้ทรัพยากรจำกัดเท่าที่มีได้แน่
จุดนี้ ทำให้ผมมองว่า โค้ชโต่ย แม้จะมีฝีมือ (ทำผลงานรอบแรกได้ดีเกินคาด) แต่ยังคงขาดรายละเอียดในเชิงลึก
รวมถึงเทคติกในการแก้เกม ที่เป็นปัญหาโค้ชไทยหลาย ๆ คน
การทิ้งโอกาสเปลี่ยนตัว 1 คนไป เป็นจุดใหญ่ ที่ทำให้ผมคิดว่า โค้ช ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะได้คุมทีมถาวร
หวังว่าหลังจากนี้ โค้ชที่ได้ประสบการณ์มากมายในการคุมทีมครั้งนี้ และกำลังจะเข้าอบรมโปรไลเซนต์ จะเก็บเกี่ยวความรู้
เพื่อนำมาพัฒนาตัวเอง และนำมาเอาความรู้และประสบการณ์มาใช้ในการคุมทีมในอนาคต
และเมื่อโอกาสใหม่มาถึง อาจเป็นเวลาของโค้ชจริง ๆ