หนังตัวเต็งหลายเรื่องอย่าง Boyhood (2014), The Revenant (2015), La La Land (2016)และ Three Billboards Outside Ebbing, Missouri (2017) ที่เคยเป็นตัวเก็งที่จะคว้ารางวัลออสการสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมต่างก็เคยเจอกระแสลบทำให้กรรมการโหวตให้หนังเรื่องอื่นได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปแทน หนึ่งในตัวเต็งปีนี้อย่าง Green Book ที่แฟนหนังชาวไทยและทั่วโลกชอบกันมาก ล่าสุดคว้ารางวัล PGAและก่อนหน้านี้ก็คว้าลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ตลกและมิวสืคัลยอดเยี่ยม ก็เจอกับเขาเช่นกัน แต่น่าจะเจอหนักกว่าหลายเรื่องที่ผ่านมา

Green Book มี backlash เยอะมาก ถึงจะชนะ PGA ก็เถอะ แต่โอกาสชนะออสการ์ไม่ได้สดใสเท่าที่ควร
- Viggo Mortensen เผลอพูด N-word ตอนให้สัมภาษณ์ซึ่งคำนี้ถือว่าเป็นคำพูดเหยียดคนผิวสี เจ้าตัวก็ได้ออกมาขอโทษในภายหลัง
- Nick Vallelonga ลูกชายของ Tony ตัวละครผิวขาวเอกของเรื่องและคนเขียนบทและโปรดิวเซอร์ของเรื่อง ออกมาให้สัมภาษณ์กับNBC ว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาเรื่องจริงทั้งหมด
- Maurice Shirley น้องชายแท้ๆของ Don Shirley ตัวละครหลักผิวสีของเรื่อง ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ชอบหนังเอามากๆ หนังทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก (“full of lie”) บอกว่าDon ไม่ได้ห่างจากครอบครัวชาวผิวสี บอกว่าคนระดับDonเคยกินไก่ทอดมาก่อนแน่นอน แถมยังบอกว่าDon ไม่เคยสนิทกับคนขับรถของเขาเลยที่เขารู้มา เพราะDonเปลี่ยนคนขับรถค่อนข้างบ่อย แถมบอกว่าDonไม่น่าจะสนิทกับTonyถึงขั้นระดับเป็นเพื่อนกันแบบในหนัง นอกจากนี้เขายังบอว่าไม่เคยได้รับการติดต่อหรือขออนุญาติอะไรจากผู้สร้างหนังเลย มารู้เอาตอนหนังสร้างแล้ว แถมบอกว่าเมื่อประมาณ 30 ปีก่อนก็มีการมาขอสร้างหนังเรื่องนี้แล้ว แต่ครอบครัวเขาก็ได้ปฐิเสธไปแล้ว
- Mahershala Ali ออกมาขอโทษ Mauriceและครอบครัวของ Don Shirley ว่าเขาไม่รู้มาก่อนว่าDonยังมีครอบครัวเหลืออยู่ ถ้าเขารู้ว่า Don ยังมีคนในครอบครัวอยู่หรือสามารถติดต่อได้ เขาคงติดต่อหาครอบครัวของ Donไปแล้ว แล้วกล่าวขอโทษอย่างสุดซึ้งและบอกว่าเขาได้แสดงหนังตามบทที่มีอยู่อย่างสุดความสามารถ
- มีข่าวเรื่อง Peter Farrelly ผู้กำกับของเรื่อง ว่าเคยโชว์อวัยวะเพศชายต่อหน้านักแสดงสาว Cameron Diaz ตอนแสดงเรื่อง There’s Something About Mary (1998) ในวันแรกของการเจอกันของทั้งคู่ โดย Peter ได้ออกมากล่าวขอโทษและบอกว่ามันเป็นมุกตลก ที่ไม่ตั้งใจจะให้เธอเห็นและเขามันโง่เองและตอนนั้นที่ทำอะไรแบบนั้น
- มีข่าวเรื่อง Nick Vallelonga เคยโพสทวีตสนับสนุนทรัมป์เรื่องมุสลิม โดยการด่าและเหยียดมุสลิม เจ้าตัวได้ออกมาขอโทษว่าได้เรียนรู้ความผิดพลาดนั้นแล้ว ยังขอโทษถึง Mahershala Ali นักแสดงนำของเรื่องที่เป็นชาวมุสลิมด้วย
- นอกจากนี้เอง แล้วตัวหนังที่ Overwhelming, Cliche, Old-fashion หรือ Feel-Good เกินไป ทำให้ backlash จากนักวิจารณ์ว่านี้เป็นหนัง White Saviorหรือพวกหนังคนขาวที่พยายามทำตัวกอบกู้โลกอีกแล้ว ส่งผลให้คำวิจารณ์ของหนังใน RTและMetracritic ไม่สูงมาก
- แต่ท้ายที่สุด หนังอาจจะถูกเลือกเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็ได้ ด้วยกฏการโหวตของออสการ์ที่ให้เรียงระดับหนังตามความชอบ ทำให้หนังอย่าง Green Bookที่เป็นหนังแนวFeel-Good ดูง่าย ที่คนดูทั่วไปส่วนใหญ่น่าจะชอบกัน ทำให้หนังน่าจะการโหวตในอันดับสูงๆกว่ามากกว่าอันดับต่ำ แต่เรื่อง backlash เหล่านั้นจะทำอะไรความชอบหนังเรื่องนี้ของคนเหล่านั้นได้หรือไม่ ต่อรอดูกันวันงานออสการ์จริงๆ เพราะอันนี้ก็ตอบเองไม่ได้
- หนังจำเป็นจะต้องเข้าชิงสาขาเทคนิคอย่างใดๆอย่างหนึ่ง และสาขาที่จำเป็นต้องเข้าชิงคือสาขาตัดต่อหนัง เพราะในรอบ 37 ปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเพียงเรื่องเดียวที่ไม่ได้เข้าชิงสาขาตัดต่อหนังยอดเยี่ยมคือ Birdman (2014) ที่แทบจะไม่ได้ตัดเลยเพราะถ่ายเป็นlong-takeเกือบทั้งเรื่อง แถมในรอบ 90 ปีที่ผ่านมามีเพียงแค่ 10 เรื่องเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นช่วงปีแรกๆ
- ส่วนตัวเชียร์ The Favourite ของ Yorgos Lanthimos ที่เอาเรื่องราวราชวงศ์มาเล่าแบบตลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน กับบทที่ยอดเยี่ยม พลังหญิงจากสามนักแสดงหลักทั้ง 3 คนอย่าง Stone, Weisz และ Colmanก็ยอดเยี่ยมมาก แถมคอสตูมราชวงศ์และโปรดัคชั่นส์ที่ใช้เป็นสีดำแทนที่จะเป็นสีสันแบบเรื่องอื่นๆ แต่คิดว่าคงไม่ได้ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแน่ ส่วนตัวคิดว่า Roma น่าจะได้ออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ส่วนตัวก็ชอบ แต่ไม่ได้ชอบมาก แต่น่าจะชนะเพราะพลังการสร้างสรรค์งานของ Alfonso Cuarón แบบที่ The Shape of Water (2017) ชนะแบบปีที่แล้ว
กระแสต่อต้านของ Green Book ต่อการเป็นหนังภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
Green Book มี backlash เยอะมาก ถึงจะชนะ PGA ก็เถอะ แต่โอกาสชนะออสการ์ไม่ได้สดใสเท่าที่ควร
- Viggo Mortensen เผลอพูด N-word ตอนให้สัมภาษณ์ซึ่งคำนี้ถือว่าเป็นคำพูดเหยียดคนผิวสี เจ้าตัวก็ได้ออกมาขอโทษในภายหลัง
- Nick Vallelonga ลูกชายของ Tony ตัวละครผิวขาวเอกของเรื่องและคนเขียนบทและโปรดิวเซอร์ของเรื่อง ออกมาให้สัมภาษณ์กับNBC ว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาเรื่องจริงทั้งหมด
- Maurice Shirley น้องชายแท้ๆของ Don Shirley ตัวละครหลักผิวสีของเรื่อง ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่ชอบหนังเอามากๆ หนังทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก (“full of lie”) บอกว่าDon ไม่ได้ห่างจากครอบครัวชาวผิวสี บอกว่าคนระดับDonเคยกินไก่ทอดมาก่อนแน่นอน แถมยังบอกว่าDon ไม่เคยสนิทกับคนขับรถของเขาเลยที่เขารู้มา เพราะDonเปลี่ยนคนขับรถค่อนข้างบ่อย แถมบอกว่าDonไม่น่าจะสนิทกับTonyถึงขั้นระดับเป็นเพื่อนกันแบบในหนัง นอกจากนี้เขายังบอว่าไม่เคยได้รับการติดต่อหรือขออนุญาติอะไรจากผู้สร้างหนังเลย มารู้เอาตอนหนังสร้างแล้ว แถมบอกว่าเมื่อประมาณ 30 ปีก่อนก็มีการมาขอสร้างหนังเรื่องนี้แล้ว แต่ครอบครัวเขาก็ได้ปฐิเสธไปแล้ว
- Mahershala Ali ออกมาขอโทษ Mauriceและครอบครัวของ Don Shirley ว่าเขาไม่รู้มาก่อนว่าDonยังมีครอบครัวเหลืออยู่ ถ้าเขารู้ว่า Don ยังมีคนในครอบครัวอยู่หรือสามารถติดต่อได้ เขาคงติดต่อหาครอบครัวของ Donไปแล้ว แล้วกล่าวขอโทษอย่างสุดซึ้งและบอกว่าเขาได้แสดงหนังตามบทที่มีอยู่อย่างสุดความสามารถ
- มีข่าวเรื่อง Peter Farrelly ผู้กำกับของเรื่อง ว่าเคยโชว์อวัยวะเพศชายต่อหน้านักแสดงสาว Cameron Diaz ตอนแสดงเรื่อง There’s Something About Mary (1998) ในวันแรกของการเจอกันของทั้งคู่ โดย Peter ได้ออกมากล่าวขอโทษและบอกว่ามันเป็นมุกตลก ที่ไม่ตั้งใจจะให้เธอเห็นและเขามันโง่เองและตอนนั้นที่ทำอะไรแบบนั้น
- มีข่าวเรื่อง Nick Vallelonga เคยโพสทวีตสนับสนุนทรัมป์เรื่องมุสลิม โดยการด่าและเหยียดมุสลิม เจ้าตัวได้ออกมาขอโทษว่าได้เรียนรู้ความผิดพลาดนั้นแล้ว ยังขอโทษถึง Mahershala Ali นักแสดงนำของเรื่องที่เป็นชาวมุสลิมด้วย
- นอกจากนี้เอง แล้วตัวหนังที่ Overwhelming, Cliche, Old-fashion หรือ Feel-Good เกินไป ทำให้ backlash จากนักวิจารณ์ว่านี้เป็นหนัง White Saviorหรือพวกหนังคนขาวที่พยายามทำตัวกอบกู้โลกอีกแล้ว ส่งผลให้คำวิจารณ์ของหนังใน RTและMetracritic ไม่สูงมาก
- แต่ท้ายที่สุด หนังอาจจะถูกเลือกเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็ได้ ด้วยกฏการโหวตของออสการ์ที่ให้เรียงระดับหนังตามความชอบ ทำให้หนังอย่าง Green Bookที่เป็นหนังแนวFeel-Good ดูง่าย ที่คนดูทั่วไปส่วนใหญ่น่าจะชอบกัน ทำให้หนังน่าจะการโหวตในอันดับสูงๆกว่ามากกว่าอันดับต่ำ แต่เรื่อง backlash เหล่านั้นจะทำอะไรความชอบหนังเรื่องนี้ของคนเหล่านั้นได้หรือไม่ ต่อรอดูกันวันงานออสการ์จริงๆ เพราะอันนี้ก็ตอบเองไม่ได้
- หนังจำเป็นจะต้องเข้าชิงสาขาเทคนิคอย่างใดๆอย่างหนึ่ง และสาขาที่จำเป็นต้องเข้าชิงคือสาขาตัดต่อหนัง เพราะในรอบ 37 ปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเพียงเรื่องเดียวที่ไม่ได้เข้าชิงสาขาตัดต่อหนังยอดเยี่ยมคือ Birdman (2014) ที่แทบจะไม่ได้ตัดเลยเพราะถ่ายเป็นlong-takeเกือบทั้งเรื่อง แถมในรอบ 90 ปีที่ผ่านมามีเพียงแค่ 10 เรื่องเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นช่วงปีแรกๆ
- ส่วนตัวเชียร์ The Favourite ของ Yorgos Lanthimos ที่เอาเรื่องราวราชวงศ์มาเล่าแบบตลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน กับบทที่ยอดเยี่ยม พลังหญิงจากสามนักแสดงหลักทั้ง 3 คนอย่าง Stone, Weisz และ Colmanก็ยอดเยี่ยมมาก แถมคอสตูมราชวงศ์และโปรดัคชั่นส์ที่ใช้เป็นสีดำแทนที่จะเป็นสีสันแบบเรื่องอื่นๆ แต่คิดว่าคงไม่ได้ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแน่ ส่วนตัวคิดว่า Roma น่าจะได้ออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ส่วนตัวก็ชอบ แต่ไม่ได้ชอบมาก แต่น่าจะชนะเพราะพลังการสร้างสรรค์งานของ Alfonso Cuarón แบบที่ The Shape of Water (2017) ชนะแบบปีที่แล้ว