งานพระราชทานเพลิงหลวงพ่อคูณไม่เป็นไปตามพินัยกรรมของท่านหรือเปล่าคะ
ในปลายเดือนที่จะถึงนี้จะมีพิธีพระราชทางเพลิงสังขารหลวงพ่อคูณขึ้น พร้อมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆที่บริจาคร่างกายให้คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ก่อนอื่นขอยพินัยกรรมหลวงพ่อคูณมาให้ดูก่อนนะคะ (อ้างอิงจาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.thairath.co.th/content/1462786)
------------------------------------------------------------------------
“อาตมาหลวงพ่อคูณ อายุ 77 ปี ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ขอทำพินัยกรรมกำหนดการ เผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพของอาตมา ภายหลังที่อาตมาถึงมรณภาพลง
1. ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมรณภาพลง เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นมอบให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป
2. พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน ตั้งแต่ถึงวันมรณภาพลง
3. การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว
ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกศ และพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่คณะแพทยศาสตร์เห็นสมควรและเหมาะสม โดยทำพิธีเผาให้เสร็จสิ้นที่ จ.ขอนแก่น
4. เมื่อดำเนินตามข้อ 3 เสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
5. ค่าใช้จ่ายและเงินอื่นใดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามนัย ข้อ 2, 3 และ 4 ให้ดำเนินการ ดังนี้
5.1 ค่าใช้จ่ายในการจัดงานและบำเพ็ญกุศลศพทั้งหมด ให้นำเงินที่อาตมาบริจาคให้แก่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อปี 2536 เป็นเงินเริ่มต้นในการดำเนินการจัดงานศพ ถ้าไม่เพียงพอให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดลองจ่ายไปก่อน
5.2 ในการจัดการและบำเพ็ญกุศลศพ ตามนัยข้อ 5.1 หากมีเงินเหลือหรือมีผู้บริจาคสมทบ ให้คืนเงินที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดลองจ่ายไปก่อนให้เสร็จสิ้น
5.3 หากมีเงินเหลืออยู่อีกหลังจากดำเนินการตามนัย ข้อ 5.1 และข้อ 5.2 แล้ว ให้มอบแก่กองทุนพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฎ์ (หลวงปู่เทสก์)
เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธประจำหอผู้ป่วยหอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือให้ดำเนินการอย่างอื่นตามที่อาตมา หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เห็นสมควร โดยอาตมาจะแสดงความประสงค์ให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมแนบไว้ให้ทราบต่อไป
หากไม่ดำเนินการให้ถือตามความในตอนต้นเท่านั้น
6. ให้นายอำเภอด่านขุนทด ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันเป็นผู้จัดการศพ มีอำนาจดำเนินการให้เป็นไปตามพินัยกรรมนี้
7. ให้ยกเลิกพินัยกรรม ฉบับวันที่ 15 กันยายน 2536 หรือฉบับอื่นใดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และให้ยึดถือพินัยกรรมฉบับนี้แทน
8. พินัยกรรมฉบับนี้ ต้นฉบับเก็บรักษาไว้ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้มีการทำสำเนาไว้อีก 3 ชุด เก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมานอ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และนายอำเภอด่านขุนทด แห่งละ 1 ฉบับ ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2543.”
------------------------------------------------------------------------
จากพินัยกรรม อยากเน้นที่ข้อ 3 และข้อ 5 ซึ่งหลวงพ่อคูณได้เน้นย้ำไว้ว่า”ให้จัดงานแบบเรียบง่าย” และ
“ให้กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ณาปนสถานวัดหนองแวง หรือวัดอื่นใดตามที่คณะแพทย์เห็นเหมาะสม” และ “ค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมดให้นำเงินที่ท่านบริจาคไว้มาใช้”
ทีนี้ งานพระราชทานเพลิงสังขารหลวงพ่อคูณที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนนี้ มีลักษณะดังนี้
1.จัดงาน ณ พุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น โดยจะมีการสร้างเมรุลอยชั่วคราวสำหรับเป็นณาปนสถานของหลวงพ่อคูณ ได้รับการออกแบบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2.ลักษณะของเมรุสูงประมาณ 22เมตร ประดับด้วยสัตว์ต่างๆจากเขาพระสุเมรุ และนกหัสดีลิงค์ที่ประกอบด้วยเมรุลอยได้ถูกสร้างให้มีกลไกเคลื่อนไหวต่างๆได้ เช่น หันศรีษะ ม้วนงวง กระพริบตา มีเสียงร้อง เป็นต้น
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้“โดยได้ออกแบบเป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลังซึ่งจินตนาการถึงสวรรค์ บนฐานแปดเหลี่ยม สูง 22.6 เมตร และฐานเมรุกว้าง 16 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมประดับประดาด้วยสรรพสัตว์ต่างๆ จากเขาพระสุเมรุ เพื่อจำลองเขาพระสุเมรุตามคติในพระพุทธศาสนา โดยออกแบบใหม่ทั้งหมดให้มีรูปทรงและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยแสดงถึงอัตลักษณ์ความโดดเด่นของชาวอีสาน เพื่อให้ผลงานออกมาวิจิตรงดงามที่สุดสมกับเป็นสถาบันที่เป็นศูนย์รวมทางความคิด สติปัญญา และการศึกษาของภาคอีสาน นอกจากขนาดที่ใหญ่และความงดงามที่สุดของเมรุลอย นกหัสดีลิงค์ที่ประกอบเมรุลอยนี้ยังจะถูกสร้างให้มีกลไกในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ได้ อาทิ หันศีรษะ ม้วนงวง กระพริบตา กระดิกหู และมีเสียงร้อง เพื่อประกอบพิธีการในวันพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ตามตำนานนกหัสดีลิงค์เป็นสัตว์หิมพานชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ มีกำลังมหาศาล ลำตัวเป็นนกมีปีกและหาง แต่ส่วนหัวเหมือนช้างมีงวงและงา”
(อ้างอิงจาก https://news.mthai.com/general-news/614739.html)
3.หลังทำพิธีเสร็จจะมีการสร้างเจดีย์ครอบบริเวณเมรุลอยไว้เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานให้ศิษยานุศิษย์แวะมาสักการะ โดยลักษณะจะเป็นเจดีย์ทรงบัวเหลี่ยม สูง 32 เมตร ภายในจัดแสดงรูปเหมือน ชีวประวัติ และเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อคูณ ซึ่งจะถือเป็นแลนมาร์คที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งเนื่องจากอยู่ใกล้โรงพยาบาลศรีนครินทร์แห่งที่ 2 ที่จะก่อสร้างในอนาคต
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลังจากพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ พระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) สถานที่ตรงนี้จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และได้มีการวางแผนก่อสร้างเป็นอนุสรณ์สถานครอบไว้ โดยรูปแบบทางสถาปัตยกรรม จะเป็นรูปแบบกึ่งประเพณีประยุกต์ เรียบง่าย สมถะ สันโดษ แบบสถาปัตยกรรมอีสาน สอดคล้องกันทั้งกลุ่มอาคารโดยการใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ บรรยากาศภายในใช้แสงเป็นสัญลักษณ์แห่งนิพพาน เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงคุณงามความดีให้ศิษยานุศิษย์สามารถเข้าสักการะได้” “การออกแบบจะสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบอิสานรูปเจดีย์ทรงบัวเหลี่ยมคล้ายองค์พระธาตุพนม สูง 32
เมตร เน้นสีขาว ภายในจัดแสดงรูปเหมือน ชีวประวัติ และเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อ ส่วนแนวคิดการออกแบบเช่นเดียวกับเมรุลอยคือ เน้นความเรียบง่าย แบบอิสานบริสุทธิ์ เพื่อรำลึกถึงบุคคลสำคัญ ไม่มีการตกแต่งที่ฟุ้งเฟ้อ ในอนาคตจะถือเป็นแลนมาร์คที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งเพราะตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของศูนย์การแพทย์แห่งที่ 2 โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คาดว่า การก่อสร้างจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือนจึงแล้วเสร็จ”
(อ้างอิงจาก https://www.talknewsonline.com/8994
https://www.77kaoded.com/content/31079)
4.ในพิธีสวดอภิธรรมนั้น สำหรับหลวงพ่อคูณจะมีการเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณมาที่ศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก และมีการสวดอภิธรรมในวันที่ 22-27 มกราคม 2561 โดยมีการสวดทั้งหมด 4 รอบ รอบหนึ่งสามารถมีเจ้าภาพได้ 11 คณะ คณะละ 30,000 บาท
เทียบกับพิธีสวดอภิธรรมครูใหญ่ปีก่อนๆ จะจัดขึ้นที่ศาลา 25 ปี ด้านหลังคณะแพทย์ สวดอภิธรรม 1 คืน ใช้เวลารวมทั้งพิธี 3 วัน
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้“โดยมีกำหนดการงานเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. ที่เป็นการเคลื่อนสรีระสังขารของหลวงพ่อคูณจากคณะแพทยศาสตร์ มาที่ ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก จากนั้นในวันที่ 22-27 ม.ค. เป็นพิธีสวดพระอภิธรรม จัดขึ้น 4 รอบ ในรอบวัน ประกอบด้วย รอบเวลา 10.00, 14.00,17.00 และ 19.00 น. โดยพระพิธีธรรม 10 รูป และในเวลา 11.00 น.จะเป็นพิธีถวายภัตราหารเพล แด่พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ และพระภิกษุสามเณร ที่มาร่วมงาน ขณะที่ในเวลา 17.30 น. จะเป็นการแสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ โดยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์”
(อ้างอิงจาก https://news.mthai.com/general-news/697624.html)
(อ้างอิงจาก https://sites.google.com/kku.ac.th/reservforpray )
ภาพจำลองเมรุลายชั่วคราว
[img]http://img.in.th/images/46d68cb3b8800f1220854fbc5265951b.jpg[/img]
[img]http://img.in.th/images/47a1a0632143e9715710ef0fffc5ebd7.jpg[/img]
ภาพจำลองสถานุสรณ์หลังทำพิธีเสร็จ
[img]http://img.in.th/images/7118ef0f927c3bc71cf3b672192518e8.jpg[/img]
[img]http://img.in.th/images/c7c1a28cde9ac0f1bb16655331a1ed1a.jpg[/img]
[img]http://img.in.th/images/c92d26e145cefb867db3cbfb64ec2b07.jpg[/img]
ภาพการก่อสร้างปัจจุบัน
[img]http://img.in.th/images/482e2cfdbe6bc6125cd9cb4f30af0177.jpg[/img]
[img]http://img.in.th/images/c04fa7e039cbd93876cf8c4f6e5d4513.jpg[/img]
เมื่อย้อนกลับไปดูคำสั่งเสียในพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณแล้วจึงอยากทราบความเห็นว่า
1. ทางคณะได้จัดงานให้”เรียบง่าย”เป็นไปตามความต้องการของท่านหรือไม่
2. ทางคณะได้กระทำพิธีกับสังขารหลวงพ่อคูณเหมือนอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆหรือไม่
3. จากพินัยกรรมข้อ 5 ค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมด ให้ใช้เงินที่หลวงพ่อคูณบริจาคไว้ให้คณะแพทย์ในปี 2536 อยากทราบว่าเงินนั้นมีจำนวนเท่าไร พอกับค่าใช้จ่ายการจัดงานครั้งนี้หรือไม่ ถ้าไม่พอคณะฯนำงบมาจากส่วนใด ขัดกับพินัยกรรมของท่านหรือไม่
4. จากพินัยกรรมหลวงพ่อคูณต้องการให้นำอัฐิทั้งหมดไปลอยอังคาร ทางผู้จัดคิดว่าหลวงพ่อคูณมีจุดประสงค์อย่างไร และการสร้างเจดีย์เพื่อเป็นที่ระลึกหลังจากเสร็จงานมีความเหมาะสมตามเจตนารมณ์หลวงพ่อคูณหรือไม่
ในเรื่องของการย้ายสถานที่จัดงานดิฉันเข้าใจได้ว่าเป็นการรองรับคนจำนวนมากที่จะมาเข้าร่วมงาน แต่ไม่ทราบถึงความจำเป็นที่ต้องทำเมรุลอยให้ใหญ่โตและความจำเป็นที่ต้องสร้างสถานณุสรณ์หลังเสร็จงาน เพราะคิดว่าหลวงพ่อคูณโดยลักษณะนิสัยท่านเองท่านคงไม่ต้องการความใหญ่โตแบบนี้หรอกค่ะ และอยากทราบว่านี่เป็นพิธีกรรมทางพุทธศาสนาที่ควรจะเป็นหรือเปล่าคะ ล่าสุดมีการหาตัวทายาทนางสีดาทำพิธีฆ่านกหัสดีลิงค์ตามตำนานเพื่อส่งหลวงพ่อคูณไปสวรรค์ด้วยค่ะ
ขอออกตัวก่อนว่าดิฉันไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งกับทางคณะและทางลูกศิษย์ที่มีข่าวแย่งชิงร่างของท่านก่อนหน้านี้ ดิฉันเป็นแค่หนึ่งในหลายๆคนที่ไปสักการะหลวงพ่อคูณบ่อยๆตามโอกาส ชอบฟังคำสอนชองท่าน เคารพและนับถือท่านมากๆ และอยากให้ปฏิบัติตามความต้องการจริงๆของหลวงพ่อค่ะ
ดิฉันกลับรู้สึกดีใจในตอนแรกที่ร่างหลวงเป็นอยู่ในความดูและของคณะแพทย์เพราะไม่ต้องการให้ใครนำท่านไปใช้หาผลประโยชน์
งานพระราชทานเพลิงหลวงพ่อคูณไม่เป็นไปตามพินัยกรรมของท่านหรือเปล่าคะ
ในปลายเดือนที่จะถึงนี้จะมีพิธีพระราชทางเพลิงสังขารหลวงพ่อคูณขึ้น พร้อมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆที่บริจาคร่างกายให้คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ก่อนอื่นขอยพินัยกรรมหลวงพ่อคูณมาให้ดูก่อนนะคะ (อ้างอิงจาก[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
“อาตมาหลวงพ่อคูณ อายุ 77 ปี ถิ่นพำนักวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ขอทำพินัยกรรมกำหนดการ เผื่อถึงการมรณภาพ เกี่ยวกับเรื่องการจัดงานศพของอาตมา ภายหลังที่อาตมาถึงมรณภาพลง
1. ศพของอาตมา ให้มอบแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่นภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมรณภาพลง เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นมอบให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์ของภาคต่อไป
2. พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน ตั้งแต่ถึงวันมรณภาพลง
3. การจัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว ให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ และห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกศ และพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษเป็นการเฉพาะ โดยให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปีร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นใดที่คณะแพทยศาสตร์เห็นสมควรและเหมาะสม โดยทำพิธีเผาให้เสร็จสิ้นที่ จ.ขอนแก่น
4. เมื่อดำเนินตามข้อ 3 เสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่าน และเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
5. ค่าใช้จ่ายและเงินอื่นใดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามนัย ข้อ 2, 3 และ 4 ให้ดำเนินการ ดังนี้
5.1 ค่าใช้จ่ายในการจัดงานและบำเพ็ญกุศลศพทั้งหมด ให้นำเงินที่อาตมาบริจาคให้แก่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อปี 2536 เป็นเงินเริ่มต้นในการดำเนินการจัดงานศพ ถ้าไม่เพียงพอให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดลองจ่ายไปก่อน
5.2 ในการจัดการและบำเพ็ญกุศลศพ ตามนัยข้อ 5.1 หากมีเงินเหลือหรือมีผู้บริจาคสมทบ ให้คืนเงินที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทดลองจ่ายไปก่อนให้เสร็จสิ้น
5.3 หากมีเงินเหลืออยู่อีกหลังจากดำเนินการตามนัย ข้อ 5.1 และข้อ 5.2 แล้ว ให้มอบแก่กองทุนพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฎ์ (หลวงปู่เทสก์)
เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธประจำหอผู้ป่วยหอสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือให้ดำเนินการอย่างอื่นตามที่อาตมา หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เห็นสมควร โดยอาตมาจะแสดงความประสงค์ให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมแนบไว้ให้ทราบต่อไป หากไม่ดำเนินการให้ถือตามความในตอนต้นเท่านั้น
6. ให้นายอำเภอด่านขุนทด ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันเป็นผู้จัดการศพ มีอำนาจดำเนินการให้เป็นไปตามพินัยกรรมนี้
7. ให้ยกเลิกพินัยกรรม ฉบับวันที่ 15 กันยายน 2536 หรือฉบับอื่นใดที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และให้ยึดถือพินัยกรรมฉบับนี้แทน
8. พินัยกรรมฉบับนี้ ต้นฉบับเก็บรักษาไว้ที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และได้มีการทำสำเนาไว้อีก 3 ชุด เก็บรักษาไว้ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมานอ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ศึกษาธิการอำเภอด่านขุนทด และนายอำเภอด่านขุนทด แห่งละ 1 ฉบับ ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2543.”
จากพินัยกรรม อยากเน้นที่ข้อ 3 และข้อ 5 ซึ่งหลวงพ่อคูณได้เน้นย้ำไว้ว่า”ให้จัดงานแบบเรียบง่าย” และ
“ให้กระทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ณาปนสถานวัดหนองแวง หรือวัดอื่นใดตามที่คณะแพทย์เห็นเหมาะสม” และ “ค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมดให้นำเงินที่ท่านบริจาคไว้มาใช้”
ทีนี้ งานพระราชทานเพลิงสังขารหลวงพ่อคูณที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนนี้ มีลักษณะดังนี้
1.จัดงาน ณ พุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น โดยจะมีการสร้างเมรุลอยชั่วคราวสำหรับเป็นณาปนสถานของหลวงพ่อคูณ ได้รับการออกแบบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2.ลักษณะของเมรุสูงประมาณ 22เมตร ประดับด้วยสัตว์ต่างๆจากเขาพระสุเมรุ และนกหัสดีลิงค์ที่ประกอบด้วยเมรุลอยได้ถูกสร้างให้มีกลไกเคลื่อนไหวต่างๆได้ เช่น หันศรีษะ ม้วนงวง กระพริบตา มีเสียงร้อง เป็นต้น
อ้างอิง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3.หลังทำพิธีเสร็จจะมีการสร้างเจดีย์ครอบบริเวณเมรุลอยไว้เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานให้ศิษยานุศิษย์แวะมาสักการะ โดยลักษณะจะเป็นเจดีย์ทรงบัวเหลี่ยม สูง 32 เมตร ภายในจัดแสดงรูปเหมือน ชีวประวัติ และเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อคูณ ซึ่งจะถือเป็นแลนมาร์คที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งเนื่องจากอยู่ใกล้โรงพยาบาลศรีนครินทร์แห่งที่ 2 ที่จะก่อสร้างในอนาคต
อ้างอิง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4.ในพิธีสวดอภิธรรมนั้น สำหรับหลวงพ่อคูณจะมีการเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณมาที่ศูนย์ประชุมกาญจนาภิเษก และมีการสวดอภิธรรมในวันที่ 22-27 มกราคม 2561 โดยมีการสวดทั้งหมด 4 รอบ รอบหนึ่งสามารถมีเจ้าภาพได้ 11 คณะ คณะละ 30,000 บาท
เทียบกับพิธีสวดอภิธรรมครูใหญ่ปีก่อนๆ จะจัดขึ้นที่ศาลา 25 ปี ด้านหลังคณะแพทย์ สวดอภิธรรม 1 คืน ใช้เวลารวมทั้งพิธี 3 วัน
อ้างอิง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ภาพจำลองเมรุลายชั่วคราว
[img]http://img.in.th/images/46d68cb3b8800f1220854fbc5265951b.jpg[/img]
[img]http://img.in.th/images/47a1a0632143e9715710ef0fffc5ebd7.jpg[/img]
ภาพจำลองสถานุสรณ์หลังทำพิธีเสร็จ
[img]http://img.in.th/images/7118ef0f927c3bc71cf3b672192518e8.jpg[/img]
[img]http://img.in.th/images/c7c1a28cde9ac0f1bb16655331a1ed1a.jpg[/img]
[img]http://img.in.th/images/c92d26e145cefb867db3cbfb64ec2b07.jpg[/img]
ภาพการก่อสร้างปัจจุบัน
[img]http://img.in.th/images/482e2cfdbe6bc6125cd9cb4f30af0177.jpg[/img]
[img]http://img.in.th/images/c04fa7e039cbd93876cf8c4f6e5d4513.jpg[/img]
เมื่อย้อนกลับไปดูคำสั่งเสียในพินัยกรรมของหลวงพ่อคูณแล้วจึงอยากทราบความเห็นว่า
1. ทางคณะได้จัดงานให้”เรียบง่าย”เป็นไปตามความต้องการของท่านหรือไม่
2. ทางคณะได้กระทำพิธีกับสังขารหลวงพ่อคูณเหมือนอาจารย์ใหญ่ท่านอื่นๆหรือไม่
3. จากพินัยกรรมข้อ 5 ค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมด ให้ใช้เงินที่หลวงพ่อคูณบริจาคไว้ให้คณะแพทย์ในปี 2536 อยากทราบว่าเงินนั้นมีจำนวนเท่าไร พอกับค่าใช้จ่ายการจัดงานครั้งนี้หรือไม่ ถ้าไม่พอคณะฯนำงบมาจากส่วนใด ขัดกับพินัยกรรมของท่านหรือไม่
4. จากพินัยกรรมหลวงพ่อคูณต้องการให้นำอัฐิทั้งหมดไปลอยอังคาร ทางผู้จัดคิดว่าหลวงพ่อคูณมีจุดประสงค์อย่างไร และการสร้างเจดีย์เพื่อเป็นที่ระลึกหลังจากเสร็จงานมีความเหมาะสมตามเจตนารมณ์หลวงพ่อคูณหรือไม่
ในเรื่องของการย้ายสถานที่จัดงานดิฉันเข้าใจได้ว่าเป็นการรองรับคนจำนวนมากที่จะมาเข้าร่วมงาน แต่ไม่ทราบถึงความจำเป็นที่ต้องทำเมรุลอยให้ใหญ่โตและความจำเป็นที่ต้องสร้างสถานณุสรณ์หลังเสร็จงาน เพราะคิดว่าหลวงพ่อคูณโดยลักษณะนิสัยท่านเองท่านคงไม่ต้องการความใหญ่โตแบบนี้หรอกค่ะ และอยากทราบว่านี่เป็นพิธีกรรมทางพุทธศาสนาที่ควรจะเป็นหรือเปล่าคะ ล่าสุดมีการหาตัวทายาทนางสีดาทำพิธีฆ่านกหัสดีลิงค์ตามตำนานเพื่อส่งหลวงพ่อคูณไปสวรรค์ด้วยค่ะ
ขอออกตัวก่อนว่าดิฉันไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งกับทางคณะและทางลูกศิษย์ที่มีข่าวแย่งชิงร่างของท่านก่อนหน้านี้ ดิฉันเป็นแค่หนึ่งในหลายๆคนที่ไปสักการะหลวงพ่อคูณบ่อยๆตามโอกาส ชอบฟังคำสอนชองท่าน เคารพและนับถือท่านมากๆ และอยากให้ปฏิบัติตามความต้องการจริงๆของหลวงพ่อค่ะ
ดิฉันกลับรู้สึกดีใจในตอนแรกที่ร่างหลวงเป็นอยู่ในความดูและของคณะแพทย์เพราะไม่ต้องการให้ใครนำท่านไปใช้หาผลประโยชน์