EP1.. ผมเป็น.SME.นักกู้..

จำได้เลย​ ตอนอายุ​ 25... ช๊อคซีนีม่าต้องลาออกจากงานที่กำลังไปได้ดี​ เพื่อกลับมาทำงานทางบ้านเพื่อรอรับหน้าเจ้าหนี้​ ทั้งจาก​ ธนาคาร​ ซัพพลายเออร์​ และกรมสรรพากร.....    มีวันนึงถูกทวงหนี้จนน้ำตาซึม... จนถึงจุดที่ว่า..ไม่เป็นไร..ถึงทุกอย่างจะหมดไปแต่อย่างน้อยยังเหลือชีวิตที่ไม่มีใคนเอาจากเราไปได้..

ปัญหาเดินมาถึงจุดที่.. เป็นทั้งหนี้ซัพพลายเออร์​  เป็นทั้งหนี้ธนาคาร​ เป็นทั้งหนี้กรมสรรพากร​  เป็นทั้งหนี้บัตรเครดิต​   เป็นทั้งหนี้เวินกู้ส่วนบุคคล​  เป็นทั้งหนี้การขายเช็ค   เป็นทั้งหนี้ญาติมิตร... นอกจากมีปัญหาทางด้านการเงินแล้ว.. มันยังสะท้อนถึงปัญหาความสามารถในด้านการแข่งขัน​ ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด​  การผลิต​ และการบริหาร.....

เคยคิดเลยว่า.. หนี้ทั้งหมดคงเป็นเงินอนาคตที่เราเอามาใช้ในการเติบโตและได้รับการศึกษาที่ดี... ถึงแม้ในตอนนั้นคิดเลยว่าทำไมมันจะมหาศาลอลังการอะไรขนาดนี้

เมื่อเรามาเริ่มต้นจากกองซาก.. และการติดลบ... มีเพียงส่วนบวกเดียวเท่านั้น​ คือลูกค้าเก่า​ บางคนไม่ได้ซื้อขายกันมานานแล้ว​  ลูกค้ารายใหญ่เหลือเพียงหนึ่งรายที่ครองยอดการสั่งซื้อของเราไว้​ 80%...ซึ่งในทางกลับกัน​ก็ทำให้เราต้องทำการลดราคาลงไปอย่างมาก...  สิ่งที่ทำให่เป็นจุดเปลี่ยนคงเริ่มจากการที่เราเริ่มนำเข้าสินค้ากึ่งสำเร็จรูปเข้ามาจากประเทศจีน..

บ้าน​ โรงงาน​ ที่มีอยู่​ เพียงรอวันขายทอดตลาดเท่านั้น​  สิ่งที่พอจะทำได้คือพยายามยืดเวลาให้ทอดยาวออกไปมากที่สุด..

ตอนนั้นจำเป็นต้องใช้แหล่งเงินทุน​ จากการขอเก็บเงินล่วงหน้าจากลูกค้า​  แหล่งเงินจากการแลกเช็ค...  

อย่างไรก็ดี​ แหล่งเงินที่มีต้นทุนถูกที่สุดคือแหล่งเงินจากธนาคารพาณิชย์... เราจึงทำการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่โดยมีเราเป็นกรรมการ... เป็นบริษัทที่ใช้ทรัพย์สินเก่าที่รอการขายทอดตลาด...

ผ่านไป​ 2 ปี.. ทางบริษัท​ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคารได้เป็นครั้งแรก​  ซึ่งโดยทั่วไปต้องใช้เวลา​ 3 ปี​ สำหรับธนาคารอื่น... สินเชื่อที่เข้าถึงครั้งแรกนั้น​ เป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน.. โดยรับเป็นเงินก้อนและทยอยจ่ายคืนทุกเดือนเป็นเวลา​ 12​เดือน... ถึงแม้จะมีดอกเบี้ย​ ประมาณ​15% ต่อปี.. แต่ถือว่ายังถูกกว่าการขายลดเช็คโดยทั่วไป...    

หลังจากผ่าน​ 3 ปีแรกอันลำบากไปแล้ว.. ก็สามารถเข้าสู่เงินกู้​ ได้เพิ่มมากขึ้น​ ซึ่งทุกอันเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน​  ทั้งในแบบ​ Term Loan.และ​ สินเชื่อเพื่อการนำเข้า.... และยังมีสินเชื่ออีกประเภทคือ​ สินเชื่อ​ Factoring... โดยการนำสำเนาใบส่งสินค้าไปกู้เงินโดยทำการโิอนสิทธิ์การรับชำระไปให้ผู้ให้กู้....

เวลาที่ยื้อในการใช้ทรัพย์สินเพื่อรอการขายทอดตลาดใกล้เข้ามา... ทางเราต้องมีการเตรียมตัวเอาไว้.. โดยเริ่มทำการหาที่ดินเพื่อเตรียมสร้างโรงงานเอาไว้ก่อน... ตอนนั้นทางคนจัดสรรการขายที่ดินคงมีการร่วมมือกับธนาคารเอาไว้แล้ว... ทางบริษัทจึงสามารถกู้ซื้อที่ดินเปล่าได้... หลังจากนั้นอีก​ 1 ปี​ ก็ทำการกู้เพื่อสร้างโรงงานส่วนหนึ่งบนที่ดินที่ซื้อไว้...

รวมเวลาทั้งหมด​  ใช้เวลาไปประมาณ​ 5 ปี​ โดยอาจเป็นโชคดีหรือเปล่า.. เพราะตอนนั้นทรัพย์ที่ใช้อยู่ก็ได้ทำการขายทอดตลาดไปพอดี... จึงขอผู้ซื้อทรัพย์ได้.ขอเวลาย้าย​ 3 เดือน​ ซึ่งเค้าโอเค...

ช่วงแรก​เริ่มในการก่อตั้งธุรกิจนั้น​ สำคัญมากคือลูกค้า​ และการบริหารทางด้านการเงิน... จากประสพการณ์ที่ผ่านมานั้น.. อยากนำเสนอสิ่งที่เคยอยากได้ตอนนั้น​ คือ..

1.) อยากให้มี​ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในช่วง​ 2-3​ ปีแรกสำหรับ​ SME.เพราะช่วงแรกของการสร้างกิจการนั้น​  กระแสเงินสดเป็นสิ่งสำคัญ...    และอยากให่พิจารณา​ การยืดเวลาชำระ​ ภพ.30​(ส่วนต่างระหว่างภาษีซื้อและขาย)​ โดยอาจมีเครดิตเป็น​ 60​วัน...  นั่นเพราะ​ สำหรับ​ SME.นั้น​  เมื่อขายสินค้ามีการเปิดบิล​ กว่าจะได้รับชำระจริงนั้น​ ต้องรออีกหลายเดือน

2.) ปกติ​ ทางธนาคารจะให้นิติบุคคล​ กู้เงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับประกอบการ​ในรูป​ Term​Loan. โดยมีการผ่อนชำระ​ 5-7 ปี.​  ซึ่งระยะเวลาการผ่อนที่สั้นนั้น​   ทำให้กระแสเงินสดต้องถูกดึงออกไปเพื่อทำการผ่อนชำระทุกเดือนเป็นจำนวนมาก​   หากสามารถปรับการผ่อนชำระเป็น​ 10 ปี​  ยอดการผ่อนชำระต่อเดือนจะลดลงมาก..

..................
วันหลังมาเล่าต่อว่า​ หลังจากนั้น​ เมื่อธุรกิจเริ่มขยายตัวแล้ว​  สิ่งต่อไปอะไรคืออุปสรรค​ และ​อยากให้มีการปรับระบบอะไรเพิ่มเติม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่