ตื่นมาก็สายแล้ว แต่ก็ยังอยากเที่ยวอยู่นะ อยากจิบกาแฟยามบ่ายในสวนมะพร้าวอันร่มรื่น เลยค้นหาสวนมะพร้าวชื่อดังของจังหวัดฉะเชิงเทรา Search ใน Google ได้ร้านนี้มา เลยปักหมุดที่ร้านนี้เลย "ร้านกาแฟสวนลุงแดง" อำเภอบางคล้า ฉะเชิงเทรา ซึ่งก็เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วว่าเมืองฉะเชิงเทราขึ้นชื่อเรื่องมะพร้าวน้ำหอม และที่นี่ก็อยู่ไม่ไกลจากสมุทรปราการเลยนะ

วันเดย์ทริปของทริปนี้ เราจะขี่มอไซต์ไปจิบกาแฟกัน ออกจากบ้านราวๆ 11 โมงเช้า แฮ้ๆ กะว่าจะไปกินข้าวเที่ยงที่นู้นเลยไง เรามาทางสมุทรปราการเลยใช้ถนนสุขุมวิทสายเก่า (ทางหลวงหมายเลข 314) และไปเลี้ยวขวาตรงสามแยก (ถนนเลี่ยงเมืองฉะเชิงเทรา) สวนมะพร้าวลุงแดงจะอยู่ใกล้กับตลาดมะม่วงบางคล้า มีป้ายบอกตลอดทาง ไม่ต้องกลัวหลง


สวนมะพร้าวลุงแดง เป็นทั้งสวนมะพร้าวและร้านกาแฟขนาดเล็กที่ทำเองกันในครอบครัว เพิ่งเริ่มเปิดเมื่อปีที่แล้ว 2018 และปัจจุบันก็ยังเปิดให้บริการอยู่ และเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น ส่วนสวนมะพร้าวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน


วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2562 ที่ผ่านมานี่เอง แฮ้ๆ (รีวิวช้าไปหน่อยต้องขออภัย) คนเยอะมาก แทบจะไม่มีที่นั่งเลย ต้องรอเกือบยี่สิบนาที ไปช่วงเที่ยงๆ สภาพอากาศวันนั้นค่อนข้างร้อนอบอ้าว ไม่มีแดดก็จริง ดีนะฝนไม่ตก ท้องฟ้าออกครึ้มๆ

สำหรับร้านนี้เปิดให้บริการทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00 น. ถึง 18.00 น. (ปิดวันจันทร์ถึงวันศุกร์) นะจ๊ะ


ไปดูบรรยากาศร้านกัน

บรรยากาศร้านน่านั่ง ร้านอยู่ในสวนมะพร้าว มีโซนด้านหน้าร้านนิดหน่อย ไม่มีห้องแอร์  


อีกโซนนึงเป็นโซนร่องสวนมะพร้าว เป็นแบบโต๊ะนั่งและแบบปูเสื่อ






มีชิงช้าต้นไม้


ห้ามส่งเสียงดังนะ มีรังแตนด้วย


มีเรือให้พายเล่นชมสวน (คนละไม่เกิน 30 นาที)


ยังไม่ได้หาที่นั่งกันเลย แค่เดินไป Survey รอบสวนก่อนหนึ่งรอบ เผื่อจะมีที่นั่งว่าง แต่ไม่มีเลย เลยกลับมาสั่งอาหารและเครื่องดื่มรอ




คือมุมถ่ายรูปเยอะดี มานั่งเล่นที่นี่ก็เหมือนได้มานั่งเล่นผ่อนคลายในสวนหลังบ้านของเราเลยล่ะ เหมาะสำหรับมานั่งชิลเอนหลังและแชะภาพเก๋ๆ




ไปสั่งอาหารและเครื่องดื่มรอกันดีกว่า




เดินเข้าไปสั่งอาหารกันเล่ย


รายการอาหาร - เมนูแนะนำของทางร้านก็จะเป็น กุ้งย่าง ราคา 420.- บาทต่อกิโล กุ้งตัวโตๆ น่ากินๆ


และรายการเครื่องดื่ม


เราจะต้องเขียนออเดอร์อาหารและเครื่องดื่มเอง (หยิบจากหน้าเค้าน์เตอร์ได้เลย) จากนั้นยื่นให้กับพนักงานรับออเดอร์






พนักงานก็จะยื่นบัตรคิวตามรายการที่เราสั่งออเดอร์ไป เราสั่งผัดไทยกุ้งสดกับข้าวผัดกระเพรากุ้งยอดมะพร้าว เราได้คิวอาหาร คิวที่ 124


และคิวเครื่องดื่ม คิวที่ 193


ผ่านไป 15 นาที อาหารทำเสร็จก่อนเครื่องดื่ม พอดีหาที่นั่งได้ เป็นโซนในสวนแบบม้านั่งยาว ห้อยขา สักพักมีเรียกคิวเครื่องดื่ม จึงไปรับเครื่องดื่มมา


มาดูรสชาติอาหารและเครื่องดื่มกันดีกว่า

โกโก้มะพร้าว แก้วละ 50.- บาท โกโก้ผสมมะพร้าว ค่อนข้างเข้มไปทางโกโก้รสชาติถือว่าดี มีเนื้อมะพร้าวให้ 1 ชิ้น


ชาเขียวมะพร้าว แก้วละ 50.- บาท สำหรับตัวเราเองนะ ไม่โดนใจ ไม่ถูกใจ บอกรสชาติไม่ถูก ไม่หวานและไม่อ่อนชาเขียว แต่ก็ยังไม่รู้สึกถึงคำว่าน้ำมะพร้าวอยู่ดี แก้วนี้ไม่โอเคร แต่มีเนื้อมะพร้าวให้ 1 ชิ้นเหมือนกันทุกแก้ว






ข้าวผัดกระเพรากุ้งสดยอดมะพร้าว จานละ 50.- บาท ถามว่าแพงมั๊ย ก็ว่าไม่นะเมื่อเทียบกับรสชาติ คือ ผัดออกมาได้ดี มีกุ้ง 4 ตัว ยอดมะพร้าวอ่อนใช้ได้ ภาพรวมคือเมนูนี้ผ่านค่ะ อร่อยมาก


ผัดไทยกุ้งสด จานละ 50.- บาท อยากจะร้องโอ้ว มันเป็นผัดไทยสูตรโบราณเลยก็ว่าได้ คืออร่อยแบบไม่ต้องปรุงอะ จัดได้ว่าเป็นเมนูแนะนำสำหรับเราเลยแหละ ใครไปที่นี่ต้องสั่งเมนูนี้นะจ๊ะ


ไส้กรอกทอด 3 ชิ้น 10.- บาท จัดไป 20.- บาท จิ้มกับน้ำจิ้มก็อร่อยดีนะ กรุบๆ กรอบๆ เป็นเมนูทานเล่นที่ง่ายและสบายมากๆ รสชาติแบบไส้กรอกทั่วไป


ร้านบรรยากาศดี ชิวกับการทานข้าวไปอีก






แต่ก่อนหน้านี้ ได้ไปสั่งเมนูส้มตำที่ซุ้มบริเวณหน้าทางเข้าก่อนเข้าถึงตัวร้าน


สั่งส้มตำปูปลาร้าไป 1 จาน ส่วนไส้กรอกทอดก็สามารถหยิบใส่ถ้วยโฟมเล็กได้เลย ส้มตำได้คิวที่ 42 เลยชำระเงินก่อนเลย จากนั้นรอไป 15 นาที ไปนั่งทานข้าวและถ่ายรูปไปพลางๆ ก่อนเดินไปถามอีก (รอบที่ 2) เหลืออีกกี่คิว? นานมั๊ย? เค้าบอกว่าเดี๋ยวตำให้เลย โฮ...มีแบบนี้ด้วยหรอ แล้วที่รอมาล่ะคืออะไร นานมาก...กอไก่ล้านตัว รอจนทานข้าวและน้ำจนเสร็จแล้ว ส้มตำเพิ่งจะเสร็จ น้องเลยบอกว่า จะไปเสริฟให้ที่โต๊ะ เราก็โอเคร แต่ก็ยังไม่มาสักที น้องบอกว่า หาโต๊ะไม่เจอ เราเลยเดินไปหาเอง พอดีทานข้าวกันเสร็จแล้ว


เลยเดินมาเก็บภาชนะเสียเลย (จุดคืนภาชนะ)


ช่วงนั้นบ่ายสามโมงละ คนเริ่มน้อยลง เลยเปลี่ยนที่นั่ง ไปนั่งอีกฝั่งหนึ่ง เป็นที่นั่งแบบปูเสื่อ มีโต๊ะพับให้ 1 ตัว


นั่งใต้ต้นมะพร้าวซะเลย เลยได้ถ่ายรูปกับผลมะพร้าวโดยปริยาย ได้นั่งสองมุมสองสไตล์ มีเปลให้นอนใต้ต้นมะพร้าวด้วย


ส้มตำปูปลาร้า จานละ 50.- บาทเช่นกัน ปลาร้าเค้าดีนะ ตำใช้ได้ เผ็ดมาก แต่ถือว่าอร่อย แต่รอนานไปหน่อย รอบหน้าไม่สั่งแล้วซุ้มส้มตำ

นอกจากนี้ยังมีร้านขายของเล็กๆ พวกน้ำพริกกะปิ น้ำส้มคั้นสด


การบริการเรียกได้ว่าบริการตัวเองตั้งแต่เดินเข้าร้านเลยก็ว่าได้ เขียนออเดอร์ รับออเดอร์ เก็บภาชนะเอง คือพนง. เสริฟและพนง. เก็บโต๊ะไม่มีให้จร้า ก็ถือว่าดีอีกรูปแบบหนึ่ง คือทุกคนร่วมด้วยช่วยกันเก็บ

อีกนิดสำหรับใครที่จะไปเที่ยวชมสวนลุงแดงและจิปกาแฟ ทางร้านแจ้งมาว่า จะเปิดให้บริการไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นี้ หลังจากนี้ทางสวนลุงแดงจะปิดปรับปรุงพื้นที่สวนมะพร้าว และจะเปิดให้บริการอีกทีในเดือนพฤศจิกายน 2562 ปลายปีนี้ ใครที่ยังไม่ได้ไป ต้องรีบไปกันนะจ๊ะ ไม่งั้นรอปลายปีเลยนะ

สุดท้ายภาพรวมของร้านนี้และที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟน่านั่งของจังหวัดฉะเชิงเทราเลยก็ว่าได้ ราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่แพงเลย แต่รอนานไปนิดสำหรับซุ้มส้มตำ ประทับใจลุงแดงนะ ที่เปิดร้านกาแฟในสวนมะพร้าวได้เยี่ยมและดึงดูดลูกค้าได้มากขนาดนี้


[ข้อมูลเพิ่มเติม]
ที่อยู่ :: 14/1 หมู่ 6 ต.สาวชะโงก, อ.บางคล้า ฉะเชิงเทรา
Facebook :: สวนลุงแดงมะพร้าวน้ำหอม
เบอร์โทรศัพท์ :: 081-861-8470
พิกัด :: https://goo.gl/maps/TjQZb4nTUT32

เวลายังเหลือ ไปไหว้พระกันมั๊ย?

ทางสวนมะพร้าวแนะนำให้ไปไหว้พระขอพระหลวงพ่อเหลือ ณ วัดสาวชะโงก ขอพรในเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงาน เราจึงรีบขี่มอไซต์จากสวนไปวัดเพียง 3 กิโลกว่าๆ ก็ถึงวัดแล้ว วัดสาวชะโงกอยู่ในหมู่บ้านสาวชะโงกเลยจร้า


วัดติดริมแม่น้ำบางปะกงเลย บรรยากาศดีมาก


และวัดนี้ก็มีตำนาน


ฝ่ายครอบครัวเจ้าสาวรู้สึกดีใจที่มีขบวนขันหมากจัดมาใหญ่โต ด้วยเจ้าสาวอยากเห็นหน้าเจ้าบ่าว จึงได้ชะโงกหน้าออกทางหน้าต่างออกมาดูและได้เกิดอุบัติเหตุทำให้เจ้าสาวพลัดตกจากเรือนไทยลงมาเสียชีวิต

เหตุการณ์นี้ทำให้พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวเสียใจอย่างยิ่ง จึงได้ทำการถวายที่ดิน 6 ไร่ ในการสร้างวัด เพื่อเป็นอนุสรณ์และอุทิศส่วนกถศลให้แก่ลูกของตนและตั้งชื่อว่า 'วัดสาวชะโงก' ตั้งแต่นั้นมา

ทั้งนี้วัดสาวชะโงกมีพื้นที่ใช้สอยกว้างพอสมควร ติดริมแม่น้ำบางปะกง ทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวสามารถแวะมากราบสักการะหลวงพ่อเหลือภายในวิหาร รอยพระพุทธบาทจำลอง พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุที่บรรจุในผนังได้


สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปเล็กๆ กันสักหน่อย
** ระยะทางไปกลับ 160 กม. ค่าน้ำมันมอไซต์ 100.- บาท
** ค่ากาแฟ 2 แก้ว (โกโก้มะพร้าว+ชาเขียวมะพร้าว) 100.- บาท
** ค่าอาหารมื้อเที่ยง (ผัดไทย+ข้าวผัดกระเพรายอดมะพร้าว) 100.- บาท
** ส้มตำ+ไส้กรอกทอด 90.- บาท
** ไม่รวมค่าทำบุญนะคะ
ชิวๆ ไป 390.- บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะกับร้านกาแฟในสวนมะพร้าว สดชื่นและอิ่มบุญกันมากเลยทีเดียวใช่มั๊ยละค่ะ สำหรับทริปนี้ลากันไปก่อน ขอบคุณสำหรับการติดตามและรับชมนะคะ