เรื่องราวนี้เป็นเหตุการณ์ที่ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ มิรู้ลืม
ในวัยเด็กของวัยก่อนวัยรุ่น ยุค90 (พวกเจ้าของกระทู้) จะโตมากับเกมแฟมิลี่ เล่นคอนทร้า ปั่นBMX ไอติมโฟโมสต์ หรือเกมตู้หยอดเหรียญ จีบกันผ่านเพจเจอร์ ฟังเพลงเทปคาสเซ็ต นอนค้างบ้านเพื่อน(เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมาก) เวลาจะร้องเพลงตามต้องแกะปกมาอ่านร้องเพลง
ยุคที่มีบัตรจีบ บัตรinsert
จะโทรศัพท์ทีนึงต้องเดินออกมาโทรหน้าหมู่บ้าน (โทรที่บ้านเดี๋ยวผู้ใหญ่แอบฟัง)โทรผ่านตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ ใครโทรนานโดนเคาะตู้(เป็นอันรู้กัน)
กบเคโระดังมาก(มันดังได้ไงตัวประหลาด) ช่วงเวลานั้นเวลามีเพื่อนมันจะสนิทกันมากในช่วงเวลานั้น
พอผ่านวัยรอยต่อมา ก็เป็นวัยรุ่นกัน ต่างคนก็จะมีหน้าที่ๆแตกต่างกันออกไป เพื่อนเจ้าของกระทู้เปิดร้านขายเสื้อผ้าวัยรุ่น ที่สวนจตุจักร
ซึ่งกำไรดีมาก(ไม่บอกหรอกว่าทำไมดี) ส่วนเจ้าของกระทู้ก็มีงานอันเป็น (อดิเรกลาภ) บ้านยายที่เมืองนนท์เปิดบ่อน (อ๊ะอ๊ะ!!! บ่อนไพ่ตองตีตั๋วถูกกฏหมาย)
เคยเห็นมั้ย ที่เค้าจะมีไม้ก้านยาวๆตรงปลายเป็นฟองน้ำ แล้วก็เขี่ยๆไพ่ที่เป็นแท่งๆกระดาษ เราเล่นไม่เป็นแต่แจกเป็น สร้างรายได้อย่างงดงามในเวลานั้น
เราคิดว่า คนเล่นในวงนั้น ปัจจุบันคงไปเกิดใหม่กันเยอะแล้ว เพราะเป็นไพ่ที่คนแก่ชอบเล่น เล่นยันกัปตันขับเครื่องบินวัยเกษียนเลย
ช่วงนั้นเด็กบอร์ดนิยมกันมาก (sketch board) น่าจะเริ่มเป็นช่วงกลางหรือช่วงปลายยุคอัลเทอเนทีฟ
แต่เราเลือกที่จะปั่นจักรยานเสือภูเขา ซึ่งสมัยนั้นมีตัวเลือกไม่เยอะ ราคามันสูงจัง แต่เพื่อความแตกต่าง เราต้องจัดเต็ม สเป็คเกียร์
ต้องชิมาโน่ เกรดค่อนไปทางสูง รถไม่มีโช๊ค เล่นแนวdirt ไฟครบ มีทั้งไฟต่ำไฟสูง เบาะมีก้านโช๊ค(ลิเกมากโดนร้านหลอกแต่งให้เสียตังค์)
เราชอบการปั่นในสวนมากๆมันสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ!!! ปั่นผ่านทางสวนผ่านต้นไม้ที่ชาวสวนเค้าปลูก และเสือภูเขามันเหมาะมากเลย ช่วงเวลานั้นเราขาดการติดต่อจากโลกภายนอกมาก ใส่วอลค์แมนและปั่นจักรยานในสวนทุกวันเลย(สวนชาวบ้านเค้าเข้าไปในที่เค้าตื่นเต้นดี) ยกเว้นเสาร์อาทิตย์ เพราะทำงาน(อดิเรก) เนื่องจากขาดการติดต่อจากโลกภายนอก เพื่อนซี้เจ้าของกระทู้ที่เปิดร้านที่สวนจตุจักร เพจมา(ติ๊ดๆๆๆ) เราปั่นผ่านตู้โทรศัพท์โทรบอกมันว่า ปั่นเสือภูเขาอยู่ มันสนใจ และรีบบึ่งรถเฟียต125สเปเชียลสีดำผลิตโปแลนด์ โหลดเท่ห์คันโปรดของมันมาทันที !!!
เมื่อมาเจอกันที่บ้านงาน(อดิเรก) มันก็มาลูบๆคลำๆเสือภูเขาของเรา แล้วลองปั่นซ้ายขวายกล้อ เฮ้ยคุณ(พวกเราสุภาพกันมาก) เท่ห์ว่ะเจ๋งดี พาไปซื้อหน่อย
หลังจากว้นนั้นเรามักนัดปั่นกัน แต่ พอเวลาผ่านไป ความตื่นเต้นเรื่มลดน้อยลงไป เพราะฉนั้นพวกเราจึงต้องup level เปลี่ยนไปเป็น extreme!!!
เรื่มเปลี่ยนมาปั่นในสวนตอนกลางคืนสามทุ่มขึ้นไป ยิ่งวันไหนฝนตกฟ้าผ่า ลมแรงๆยิ่งสนุก ลักษณะของสวนที่เมืองนนท์ ทางสวนจะแคบๆเป็นทางเดินผ่านร่องสวน หรือเป็นอิฐสีขาวเหลี่ยมๆยาวๆ เรียงกันเป็นทาง หรือบางช่วงก็เป็นดินไปเลย
เราจะปั่นกันผ่านต้นผลไม้จำพวก กระท้อน ทุเรียน น้อยหน่า มังคุด ละมุด ไม่มีลำใย
ทางที่แสงไฟสีขาวจากหลอดฮาโลเจ้น สาดส่องไปบางทีก็กระทบกับตาแวววาว ของสัตว์กลางคืน บรรยากาศรอบตัว จะมีแต่เสียงของล้อกระทบเหยียบใบไม้หรือท่อนไม้ผุๆ เสียงนกกลางคืน เสียงแมลงและเสียงฟรีล้อจักรยาน..........
เมื่อผม ปั่นเสือภูเขาไปเจอ ผี!!!(วัดปราสาท)
ในวัยเด็กของวัยก่อนวัยรุ่น ยุค90 (พวกเจ้าของกระทู้) จะโตมากับเกมแฟมิลี่ เล่นคอนทร้า ปั่นBMX ไอติมโฟโมสต์ หรือเกมตู้หยอดเหรียญ จีบกันผ่านเพจเจอร์ ฟังเพลงเทปคาสเซ็ต นอนค้างบ้านเพื่อน(เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมาก) เวลาจะร้องเพลงตามต้องแกะปกมาอ่านร้องเพลง
ยุคที่มีบัตรจีบ บัตรinsert
จะโทรศัพท์ทีนึงต้องเดินออกมาโทรหน้าหมู่บ้าน (โทรที่บ้านเดี๋ยวผู้ใหญ่แอบฟัง)โทรผ่านตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ ใครโทรนานโดนเคาะตู้(เป็นอันรู้กัน)
กบเคโระดังมาก(มันดังได้ไงตัวประหลาด) ช่วงเวลานั้นเวลามีเพื่อนมันจะสนิทกันมากในช่วงเวลานั้น
พอผ่านวัยรอยต่อมา ก็เป็นวัยรุ่นกัน ต่างคนก็จะมีหน้าที่ๆแตกต่างกันออกไป เพื่อนเจ้าของกระทู้เปิดร้านขายเสื้อผ้าวัยรุ่น ที่สวนจตุจักร
ซึ่งกำไรดีมาก(ไม่บอกหรอกว่าทำไมดี) ส่วนเจ้าของกระทู้ก็มีงานอันเป็น (อดิเรกลาภ) บ้านยายที่เมืองนนท์เปิดบ่อน (อ๊ะอ๊ะ!!! บ่อนไพ่ตองตีตั๋วถูกกฏหมาย)
เคยเห็นมั้ย ที่เค้าจะมีไม้ก้านยาวๆตรงปลายเป็นฟองน้ำ แล้วก็เขี่ยๆไพ่ที่เป็นแท่งๆกระดาษ เราเล่นไม่เป็นแต่แจกเป็น สร้างรายได้อย่างงดงามในเวลานั้น
เราคิดว่า คนเล่นในวงนั้น ปัจจุบันคงไปเกิดใหม่กันเยอะแล้ว เพราะเป็นไพ่ที่คนแก่ชอบเล่น เล่นยันกัปตันขับเครื่องบินวัยเกษียนเลย
ช่วงนั้นเด็กบอร์ดนิยมกันมาก (sketch board) น่าจะเริ่มเป็นช่วงกลางหรือช่วงปลายยุคอัลเทอเนทีฟ
แต่เราเลือกที่จะปั่นจักรยานเสือภูเขา ซึ่งสมัยนั้นมีตัวเลือกไม่เยอะ ราคามันสูงจัง แต่เพื่อความแตกต่าง เราต้องจัดเต็ม สเป็คเกียร์
ต้องชิมาโน่ เกรดค่อนไปทางสูง รถไม่มีโช๊ค เล่นแนวdirt ไฟครบ มีทั้งไฟต่ำไฟสูง เบาะมีก้านโช๊ค(ลิเกมากโดนร้านหลอกแต่งให้เสียตังค์)
เราชอบการปั่นในสวนมากๆมันสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ!!! ปั่นผ่านทางสวนผ่านต้นไม้ที่ชาวสวนเค้าปลูก และเสือภูเขามันเหมาะมากเลย ช่วงเวลานั้นเราขาดการติดต่อจากโลกภายนอกมาก ใส่วอลค์แมนและปั่นจักรยานในสวนทุกวันเลย(สวนชาวบ้านเค้าเข้าไปในที่เค้าตื่นเต้นดี) ยกเว้นเสาร์อาทิตย์ เพราะทำงาน(อดิเรก) เนื่องจากขาดการติดต่อจากโลกภายนอก เพื่อนซี้เจ้าของกระทู้ที่เปิดร้านที่สวนจตุจักร เพจมา(ติ๊ดๆๆๆ) เราปั่นผ่านตู้โทรศัพท์โทรบอกมันว่า ปั่นเสือภูเขาอยู่ มันสนใจ และรีบบึ่งรถเฟียต125สเปเชียลสีดำผลิตโปแลนด์ โหลดเท่ห์คันโปรดของมันมาทันที !!!
เมื่อมาเจอกันที่บ้านงาน(อดิเรก) มันก็มาลูบๆคลำๆเสือภูเขาของเรา แล้วลองปั่นซ้ายขวายกล้อ เฮ้ยคุณ(พวกเราสุภาพกันมาก) เท่ห์ว่ะเจ๋งดี พาไปซื้อหน่อย
หลังจากว้นนั้นเรามักนัดปั่นกัน แต่ พอเวลาผ่านไป ความตื่นเต้นเรื่มลดน้อยลงไป เพราะฉนั้นพวกเราจึงต้องup level เปลี่ยนไปเป็น extreme!!!
เรื่มเปลี่ยนมาปั่นในสวนตอนกลางคืนสามทุ่มขึ้นไป ยิ่งวันไหนฝนตกฟ้าผ่า ลมแรงๆยิ่งสนุก ลักษณะของสวนที่เมืองนนท์ ทางสวนจะแคบๆเป็นทางเดินผ่านร่องสวน หรือเป็นอิฐสีขาวเหลี่ยมๆยาวๆ เรียงกันเป็นทาง หรือบางช่วงก็เป็นดินไปเลย
เราจะปั่นกันผ่านต้นผลไม้จำพวก กระท้อน ทุเรียน น้อยหน่า มังคุด ละมุด ไม่มีลำใย
ทางที่แสงไฟสีขาวจากหลอดฮาโลเจ้น สาดส่องไปบางทีก็กระทบกับตาแวววาว ของสัตว์กลางคืน บรรยากาศรอบตัว จะมีแต่เสียงของล้อกระทบเหยียบใบไม้หรือท่อนไม้ผุๆ เสียงนกกลางคืน เสียงแมลงและเสียงฟรีล้อจักรยาน..........