บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : DDD แนะนำเ ถือ ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท
คาดกำไรสุทธิ 4Q18 หดต่อเนื่อง แต่จะเริ่มฟื้นตัวได้ใน 1Q19
เราคาดผลประกอบการ 4Q18 ชะลอตัวกว่าที่เราคาดการณ์เดิม คาดขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 1.1 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิใน 4Q17 ที่ 98 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 3Q18 ซึ่งอยู่ที่ 0.67 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์เดิม ส่งผลจาก 1) รายได้ที่ชะลอตัวลงอยู่ที่ 257 ล้านบาท (-38.4%YoY, +3.1%QoQ) โดยเรามองว่ารายได้ในประเทศที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากรายได้จาก Traditional trade market ซึ่งมีผลกระทบจากการปิดตลาดค้าส่งใหญ่ที่ดอนเมือง, การกระจายสินค้าของ Sino Pacific ที่ยังไม่ครอบคลุม และรายได้จาก King Power ที่ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ปรับตัวลดลง -12%YoY ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนเป็นลูกค้าสำคัญของ DDD 2) Gross profit margin ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 61% (4Q17 = 67%, 3Q18 = 61%) จากต้นทุนการผลิตต่อชิ้นที่สูงขึ้น และการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า โดยทาง DDD ได้นำสินค้ากลุ่ม Slow moving ไปจัด promotion และ 3) SG & A to total sales ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 64.8% จากค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ, ค่า production และค่าสื่อโฆษณาของผลิตภัณฑ์ใหม่
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 และ 2019
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2018-19 ลง 24% และ 38% อยู่ที่ 173และ 221 ล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนผลประกอบการ 4Q18 ที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดการณ์เดิม โดยเราปรับ Gross profit margin ในระยะยาวลง และค่าใช้จ่ายในการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการรุกทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสะท้อนความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง สำหรับปี 2019 เรามองว่าผลประกอบการ DDD จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จาก 1)รายได้ในประเทศที่ขยายตัว +15% YoY จากเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นหลังการเลือกตั้ง ส่งผลให้การบริโภคในประเทศที่ขยายตัว เราคาดว่ารายได้จาก Traditional trade จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลัง DDD ปรับกลยุทธ์ใหม่ และนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวโดยรัฐบาลได้ขยาย VoA ถึงวันที่ 30 เม.ย. 2)รายได้ต่างประเทศขยายตัวโดดเด่น +29% จากการได้ Local distributor เพิ่มเป็น 2 รายที่จีน คาดช่วยเพิ่มรายได้ในตลาดจีนทั้ง Mainstream และ CBEC เรายังมองว่าสินค้าที่เป็น packaging เก่าก่อนได้ CFDA ทาง Distributor ได้มีการเคลียร์สต๊อกสินค้าไปเรียบร้อยแล้ว คาดเริ่มกลับมาสั่งสินค้าใหม่ใน 1Q19 นอกเหนือจากนี้ เราคาดสัดส่วนรายได้จากฟิลิปปินส์จะเริ่มขยายตัวมากขึ้น เรามองว่าฟิลิปปินส์เป็นตลาดรองจากจีนสำหรับ DDD
คงคำแนะนำเป็น “ถือ” ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท
เราคงคำแนะนำ “ถือ” และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 19.00 บาท (เดิม 36.00 บาท) เราปรับวิธี Valuation จาก DCF มาเป็น PER (อิง PER 27x) เนื่องจากรายได้ของ DDD มีความผันผวนสูง และอุตสาหกรรมมีการแข่งขันรุนแรงส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวลดลงในระยะยาว เรายังมองว่า DDD ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวของผลประกอบการ ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำเพียง “ถือ” จนกว่าเราจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ปัจจุบัน DDD เทรดอยู่ที่ PER 25.9x ถือว่ายังคงไม่น่าสนใจในระยะสั้น เรามองว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวลดลงจากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q18 ที่หดตัว เราแนะนำให้ switch มาเป็น BEAUTY (ซื้อ/ 10.30 บาท) ซึ่งเป็น Top pick กลุ่มเครื่องสำอาง เนื่องจากปัจจุบัน BEAUTY เทรดที่ PER 15.6xต่ำสุดในกลุ่ม และมี Dividend yield ถึง 6%
จำได้ว่า1ปี ก่อนตอนเข้ามาใหม่ๆ ให้เป้า 120 บาท ผ่านมาก็หั่นเป้าลง เรื่อยๆ จนตอนนี้เหลือ 19 บาท

(เครดิตรูปในอดีต 1 ปีที่แล้ว)
หุ้น DDD คาดผลประกอบการ 4Q18 ขาดทุน ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท บล.เคทีบี (ประเทศไทย)
คาดกำไรสุทธิ 4Q18 หดต่อเนื่อง แต่จะเริ่มฟื้นตัวได้ใน 1Q19
เราคาดผลประกอบการ 4Q18 ชะลอตัวกว่าที่เราคาดการณ์เดิม คาดขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 1.1 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิใน 4Q17 ที่ 98 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 3Q18 ซึ่งอยู่ที่ 0.67 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์เดิม ส่งผลจาก 1) รายได้ที่ชะลอตัวลงอยู่ที่ 257 ล้านบาท (-38.4%YoY, +3.1%QoQ) โดยเรามองว่ารายได้ในประเทศที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากรายได้จาก Traditional trade market ซึ่งมีผลกระทบจากการปิดตลาดค้าส่งใหญ่ที่ดอนเมือง, การกระจายสินค้าของ Sino Pacific ที่ยังไม่ครอบคลุม และรายได้จาก King Power ที่ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ปรับตัวลดลง -12%YoY ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนเป็นลูกค้าสำคัญของ DDD 2) Gross profit margin ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 61% (4Q17 = 67%, 3Q18 = 61%) จากต้นทุนการผลิตต่อชิ้นที่สูงขึ้น และการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า โดยทาง DDD ได้นำสินค้ากลุ่ม Slow moving ไปจัด promotion และ 3) SG & A to total sales ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 64.8% จากค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ, ค่า production และค่าสื่อโฆษณาของผลิตภัณฑ์ใหม่
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2018 และ 2019
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2018-19 ลง 24% และ 38% อยู่ที่ 173และ 221 ล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนผลประกอบการ 4Q18 ที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดการณ์เดิม โดยเราปรับ Gross profit margin ในระยะยาวลง และค่าใช้จ่ายในการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการรุกทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสะท้อนความสามารถในการทำกำไรที่ลดลง สำหรับปี 2019 เรามองว่าผลประกอบการ DDD จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จาก 1)รายได้ในประเทศที่ขยายตัว +15% YoY จากเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นหลังการเลือกตั้ง ส่งผลให้การบริโภคในประเทศที่ขยายตัว เราคาดว่ารายได้จาก Traditional trade จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลัง DDD ปรับกลยุทธ์ใหม่ และนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวโดยรัฐบาลได้ขยาย VoA ถึงวันที่ 30 เม.ย. 2)รายได้ต่างประเทศขยายตัวโดดเด่น +29% จากการได้ Local distributor เพิ่มเป็น 2 รายที่จีน คาดช่วยเพิ่มรายได้ในตลาดจีนทั้ง Mainstream และ CBEC เรายังมองว่าสินค้าที่เป็น packaging เก่าก่อนได้ CFDA ทาง Distributor ได้มีการเคลียร์สต๊อกสินค้าไปเรียบร้อยแล้ว คาดเริ่มกลับมาสั่งสินค้าใหม่ใน 1Q19 นอกเหนือจากนี้ เราคาดสัดส่วนรายได้จากฟิลิปปินส์จะเริ่มขยายตัวมากขึ้น เรามองว่าฟิลิปปินส์เป็นตลาดรองจากจีนสำหรับ DDD
คงคำแนะนำเป็น “ถือ” ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท
เราคงคำแนะนำ “ถือ” และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 19.00 บาท (เดิม 36.00 บาท) เราปรับวิธี Valuation จาก DCF มาเป็น PER (อิง PER 27x) เนื่องจากรายได้ของ DDD มีความผันผวนสูง และอุตสาหกรรมมีการแข่งขันรุนแรงส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวลดลงในระยะยาว เรายังมองว่า DDD ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวของผลประกอบการ ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำเพียง “ถือ” จนกว่าเราจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ปัจจุบัน DDD เทรดอยู่ที่ PER 25.9x ถือว่ายังคงไม่น่าสนใจในระยะสั้น เรามองว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวลดลงจากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q18 ที่หดตัว เราแนะนำให้ switch มาเป็น BEAUTY (ซื้อ/ 10.30 บาท) ซึ่งเป็น Top pick กลุ่มเครื่องสำอาง เนื่องจากปัจจุบัน BEAUTY เทรดที่ PER 15.6xต่ำสุดในกลุ่ม และมี Dividend yield ถึง 6%
จำได้ว่า1ปี ก่อนตอนเข้ามาใหม่ๆ ให้เป้า 120 บาท ผ่านมาก็หั่นเป้าลง เรื่อยๆ จนตอนนี้เหลือ 19 บาท
(เครดิตรูปในอดีต 1 ปีที่แล้ว)