เห็นหลายคนพูดแบบนี้ แต่ส่วนตัว คิดว่าอฟชเดินมาถูกทางแล้วครับ
"พวกวงไอดอลนี้ไม่น่ารับเด็กเขมรมาเลย รับมาคนประเทศเราก็ไม่เห็นจะนิยม รับมาเพื่ออะไร ไม่ได้ดูถูกเด็กอะไรหรอกนะ แต่กลัวจะพูดภาษารู้เรื่องหรือเปล่า จะสื่อสารกับแฟนๆได้ยังไง อีกอย่างพวกแอนตี้บ้านเรามันร้ายด้วย วันก่อนก็มีดราม่า คนประเทศเค้าเห็นพวกเกรียนบ้านเราพูดไม่ดีนิดหน่อยก็หาว่าเราเหยียดกันทั้งชาติจนกลายเป็นประเด็นtrendingไปซะแล้วทั้งๆที่คนประเทศเราทั่วไปก็ไม่ได้มีความคิดเห็นเหยียดอะไร แต่หลังจากเหตุการณ์เนี่ยก็เริ่มรู้สึกไม่ดีต่อประเทศพวกนี้เลย คราวหน้าไม่ต้องเอามาดีกว่าคนจากประเทศแถบเนี้ยะ เอามาก็มีแต่ดราม่า"
เอาคำว่า "เด็กเขมร" ออกแล้วเปลี่ยนเป็น "ลิซ่า" "แบมแบม" "สร" "นิชคุณ" แล้วอ่านใหม่อีกรอบสิครับ มันต่างกันไม่มากหรอก
ขอบอกก่อนครับว่านี่ไม่ใช่กระทู้ปั่น แค่อยากจะแบ่งความคิดเห็น ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรครับ แต่จะขอบคุณมากๆถ้าให้เวลาอ่านหน่อย
EDIT: สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่าน ก็ตามความเห็นข้างล่างและครับ: "สรุปให้นะ เงิน และ คุ้มที่จะเสี่ยง"
ถึงแม้หลายคนจะบอกว่าความคิดเห็นแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เท่าที่ดูแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Poll ทางพันธุ์ทิพย์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ โหวตความเห็นส่วนมากจะไปทางไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน ที่จริงผมก็จิตตกนิดหน่อย ไม่ได้คิดว่าคนไทยมีความรู้สึกไม่ตอบรับเพื่อนบ้านซะขนาดนี้ ผมเข้าใจนะครับว่าหลายคนไม่เห็นด้วยไม่ได้มาจากความรู้สึกเหยียด แต่เพราะว่าเป็นห่วงเรื่องกระแสดราม่าที่จะตามมา กลัวน้องโดนลูกหลงเข้าไปด้วย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นๆต่างๆนานา
ผมเข้าใจและยอมรับทั้งหมดนี้เลยครับแต่ก็ยังอยากจะขอให้ทุกคนลองเปิดใจนิดหน่อยคิดถึงว่าทำไมมันอาจเป็นสิ่งที่ดีก็ได้
พูดตามตรง ผมเห็นด้วยกับการที่จะขยายตลาดแบบนี้ครับ ผมอยากเห็นวงการบันเทิงไทยขยายตัว สามารถสร้างคอนเท็นท์ส่งออกทั่วโลกได้เหมือนที่เกาหลีทำอยู่ตอนนี้ ผมอยากเห็นBNKไปไกลกว่านี้ สิบกว่าปีก่อนหน้านี้ วงการบันเทิงเกาหลีไม่ได้บูมแบบนี้ ที่ส่งออกได้จริงๆก็คงมี BoAคนเดียวแหละมั้ง แต่หลังจากนั้นรัฐบาลเกาหลีปรับยุธศาสตร์ ตั้งเป้าให้วัฒนธรรมการบันเทิงเกาหลีนั้นเป็นวงการระดับโลก ประชากรเกาหลีใต้มีแค่50ล้านคนเพราะฉะนั้นเกาหลีจะว่างแต่หากินในประเทศแบบจีนหรือญี่ปุ่นไม่ได้ สรุปแล้วเค้าพยายามพัฒนามาเรื่อยๆจนตอนนี้ทุกคนต้องยอมรับว่าวงการบันเทิงเกาหลีได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในตลาดเอเชียอย่างเต็มตัว ถ้า10ปีก่อนหน้านี้เกาหลีแค่คิดจะกินอยู่ในประเทศตัวเอง ไม่ได้คิดจะเปิดวงการบันเทิงเขาให้เจาะตลาดโลก เด็กไทยสมัยนี้คงจะไม่หวีด Blackpink GOT7 BTS แบบทุกวันนี่หรอกครับ
ผมอยากจะเห็นวงการบันเทิงไทยทำอย่างนั้นมั่งครับ ถ้าวงการบันเทิงเราไประดับโลกแบบนั้นได้ มันไม่ได้ดีแค่สำหรับวงการบันเทิงนะครับ มันดีกับทั้งชาติเลย เพราะวัฒนธรรมไทยมันจะสื่ออยู่ลงในคอนเท็นท์ไทย อาหารไทยจะเป็นที่นิยม แฟชั่นเครื่องสำอางไทยก็จะเป็นที่นิยมเหมือนกัน นักท่องเที่ยวจะมาเมืองไทยมากขึ้น คนต่างชาติก็จะหวีดคนไทยเหมือนวัยรุ่นหลายชาติตอนนี้ชอบหวีดหนุ่มสาวเกาหลีทั่วไป เวลาคนไทยจะไปไหนก็จะได้รับความเคารพ มันดีหมดแหละครับ
"แล้วทำไมต้องเอาคนต่างชาติมาละ"
ก็ดูที่ Blackpink กับ GOT7 เป็นตัวอย่างสิครับ ลิซ่ากับแบมแบมไม่ถือว่าเป็นที่นิยมในเกาหลีเลยถ้าเทียบกับเมมคนอื่นในวง แต่พอมาเมืองไทยเท่านั้นแหละ กลายเป็น Face of the Group ไปเลย คนกรี๊ดดังห้างแตกปิดถนนได้ การเอาคนของประเทศนั้นมามันเวิร์คจริงๆครับ การที่จะเอาเด็กของเขามาคนนึงแลกกับตลาดอีก 10-15ล้านคนเนี่ย มันรีเทิร์นดีกว่า50คนไปตก70ล้านคนมากเลยนะครับ การที่ได้เงินต่างชาติมาเนี่ยมันอาจช่วยให้อฟช.ทำงานได้ดีขึ้นด้วย จะมีงบทำMVสูงขึ้น จัดอีเว้นท์ได้อลังการขึ้น ต่างๆนานา
จะสื่อสารกันยังไงถ้าพูดภาษาไทยไม่ได้
ตอนนี้เห็นคนพม่าลาวเขมรพูดภาษาไทยคล่องปรื๋อทั่วประเทศ ทำไมถึงจะคิดว่าน้องๆจะเรียนกันไม่ได้ละครับ ยิ่งประเทศเพื่อนบ้านนี่ยิ่งเรียนไทยได้เร็วมาก แล้วผมก็คิดว่าอฟช.คงจะเลือกคนที่มีทักษะภาษาไทยบ้างแล้วล่ะครับ แล้วถึงมาว่าตอนแรกพูดภาษาไทยไม่ได้เนี่ย ถ้าเด็กน่ารักมันก็แทบจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย มันจะกลายเป็นจุดน่ารักไปซะอีก ดูจิยอนดิ
"แต่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเกาหลีมันไม่เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเพื่อนบ้าน"
ก็ดู Twice หรือ Iz*One สิครับ มีเมมญี่ปุ่นสามคนทั้งคู่ เกาหลีกับญี่ปุ่นเกลียดกันมากกว่าประเทศCLMอีกนะครับ แต่ถึงแม้อย่างนั้น Twice ก็ถือว่าเป็นวงที่ได้รับความนิยมสูงสุดวงนึงในญี่ปุ่นและก็ถือว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติในเกาหลีเลย
มันไม่ใช่อุปสรรคที่ข้ามไม่ได้ครับ ถ้าจะมองใกล้ตัวหน่อยก็ดูวง Rose Quartz ที่มีทั้งเมมไทยเมมพม่า คนไทยที่ชอบแอนตี้เห็นพม่าเป็นศัตรูก็ไม่เห็นจะว่าอะไรเลย หลายคนกลัวว่าเรื่องการแต่งกลายกระโปรงสั้นอะไรของBNKจะกลายเป็นประเด็นนี่คงยังไม่ได้ดู Rose Quartz สินะครับ วงนี้แต่งสั้นกว่า BNK มากกกกกก หลายคนนึกว่าพม่าน่าจะเเคร์เรื่องพวกนี้มากกว่าคนไทยแต่ที่ไหนได้ Rose Quartz ดังพลุแตกที่พม่าไปแล้ว เป็นที่นิยมมากเลย
"เดี๋ยวยังไงมันก็มีดราม่ามาแหละ"
ครับ ฟันธงเลยครับ มันต้องมีแน่นอน แต่ถึงไม่มีเมมเพื่อนบ้านมันก็จะมีดราม่าอยู่ดีนั่นแหละ แต่ถึงแม้จะมีดราม่าคนส่วนมากก็ไม่ได้งี่เง่าเหมือนพวกที่ชอบดราม่ากันครับ Twice ก็เคยมีดราม่าการเมือง แต่แล้ววงก็ยังเป็นที่นิยมในสองประเทศอยู่ดี Tzuyu ก็เคยมีดราม่าจีนไต้หวัน มันก็ยังเดินต่อได้ ถ้าจะดูใกล้บ้าน วงพี่สาวอินโด JKT มีเมมมาเลเซียคนนึงชื่อ เซลีน ตอน SEA Games 2017 ที่มาเลย์เป็นเจ้าภาพแล้วพิมพ์ธงอินโดออกมากลับหัวกลับหางทำให้คนอินโดดราม่าแอนตี้มาเลย์ขึ้นมาจนน้องต้องออกมาทวิต "ขอโทษ"เอง หลังจากนั้นคนอินโดก็เริ่มทวิต "เรารักเธอนะเซลีน"ไม่ได้มาแอนตี้อะไรใส่น้อง อันดับน้องคนนี้ในงานเลือกตั้งก็ค่อนข้างดี ติดท็อป20ตลอด
"ประเทศแถบนี้ไม่มีเงิน จะทำไปทำไม"
ถึงแม้คนจนจะเยอะแต่ประเทศแถบนี้มีคนรวยล้นฟ้าอยู่เยอะเหมือนกันครับ เดินพารากอนนี้จะเห็นบ่อยมากเศรษฐีพม่าลาวเขมร ระบบ48 มันเป็นมันนี่เกมครับ มันไม่ต้องมีความนิยมวงกว้างก็ได้ มันแค่ต้องมีเสี่ยที่ยอมจ่ายหนักบ้าง วงพี่ทั้ง AKB และ JKT ถึงยังรอดมาได้ทุกวันนี้ทั้งที่ความนิยมตก
"แต่การที่มีเด็กต่างชาติมามันจะแย่งตำแหน่งคนไทย"
ตอนงานเลือกตั้งโลกก็มีคนญี่ปุ่นหลายคนที่พูดแบบนี้ครับ แต่ในที่สุดการที่มีเด็กไทยสองคนติดในร้อยคนมันไม่ได้สร้างอิมแพคท์อะไรมากต่อวงเขาหรอกครับ ในทางกลับกันอาจสร้างกระแสให้เป็นที่สนใจมากขึ้นด้วยซ้ำ ผมเชื่อว่าตำแหน่งที่จะให้เด็กเพื่อนบ้านนี่เค้ากำหนดไว้แล้ว เช่น1คนต่อประเทศอะไรแบบนี้ อฟช.ไม่ได้โง่หรอกครับ
ผมว่าคงจะมีไม่เกินชาติละสองคน ประเทศเล็กๆอย่างลาวอาจจะมีแค่คนเดียวด้วยซ้ำ แล้วผมเชื่อว่ามันไม่ได้ไปแย่งอะไรกับเด็กไทยเพราะอฟช.คงจะกำหนดไว้แล้วว่ารุ่น3จะมีเด็กไทย15คนอะไรแบบเนี้ยะ ถ้าไม่มีเพื่อนบ้านอีก3คนก็ไม่ได้แปลว่าโควต้าเด็กไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น18คน เพราะ3คนนี่เขาอาจจะสร้างตำแหน่งมาเพื่อเจาะตลาดโดยเฉพาะ มันอาจฟังดูไม่แฟร์แต่ว่ามันมีเหตุมีผลทางการธุรกิจครับ
อีกอย่างถ้าสมมุติเอาเด็กต่างชาติมาแล้วปังมากๆกลัวว่าคนไทยต้องมาแข่งกับต่างชาติเนี่ย มันไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงนะครับ พื้นฐานของระบบ48คือการแข่งขันอยู่แล้ว การแข่งขันมันทำให้ทุกคนยกระดับขึ้น คนไทยต้องไม่กลัวการแข่งขันครับ ถ้าจะเอาเด็กต่างชาติมาเราต้องหวังว่าจะปังครับ ไม่งั้นจะเอามาทำไม
ท้ายสุดสมมุติมีเด็กต่างชาติที่คุณไม่ชอบติดเข้ามา มันก็ไม่ได้ไปเอฟเฟกต์ชีวิตอะไรของคุณนี่ครับ ก็แค่ไม่ต้องไปสนใจก็แค่นั้น ตอนนี้มีเด็ก51คน ผมเชื่อว่าคนส่วนมากก็ไม่ได้ไปสนใจทั้งหมด51คนหรอกครับ อย่างมากก็คงจะ4-5คน ที่เหลือก็เลยไปก็แค่นั้น
อะ เขียนซะยาว เมื่อยและ ก็แค่เนี้ยะแหละครับ หวัดดีครับ
จะรับมาทำไม มีแต่จะดราม่าเปล่าๆ
"พวกวงไอดอลนี้ไม่น่ารับเด็กเขมรมาเลย รับมาคนประเทศเราก็ไม่เห็นจะนิยม รับมาเพื่ออะไร ไม่ได้ดูถูกเด็กอะไรหรอกนะ แต่กลัวจะพูดภาษารู้เรื่องหรือเปล่า จะสื่อสารกับแฟนๆได้ยังไง อีกอย่างพวกแอนตี้บ้านเรามันร้ายด้วย วันก่อนก็มีดราม่า คนประเทศเค้าเห็นพวกเกรียนบ้านเราพูดไม่ดีนิดหน่อยก็หาว่าเราเหยียดกันทั้งชาติจนกลายเป็นประเด็นtrendingไปซะแล้วทั้งๆที่คนประเทศเราทั่วไปก็ไม่ได้มีความคิดเห็นเหยียดอะไร แต่หลังจากเหตุการณ์เนี่ยก็เริ่มรู้สึกไม่ดีต่อประเทศพวกนี้เลย คราวหน้าไม่ต้องเอามาดีกว่าคนจากประเทศแถบเนี้ยะ เอามาก็มีแต่ดราม่า"
เอาคำว่า "เด็กเขมร" ออกแล้วเปลี่ยนเป็น "ลิซ่า" "แบมแบม" "สร" "นิชคุณ" แล้วอ่านใหม่อีกรอบสิครับ มันต่างกันไม่มากหรอก
ขอบอกก่อนครับว่านี่ไม่ใช่กระทู้ปั่น แค่อยากจะแบ่งความคิดเห็น ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรครับ แต่จะขอบคุณมากๆถ้าให้เวลาอ่านหน่อย
EDIT: สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่าน ก็ตามความเห็นข้างล่างและครับ: "สรุปให้นะ เงิน และ คุ้มที่จะเสี่ยง"
ถึงแม้หลายคนจะบอกว่าความคิดเห็นแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เท่าที่ดูแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Poll ทางพันธุ์ทิพย์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ โหวตความเห็นส่วนมากจะไปทางไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน ที่จริงผมก็จิตตกนิดหน่อย ไม่ได้คิดว่าคนไทยมีความรู้สึกไม่ตอบรับเพื่อนบ้านซะขนาดนี้ ผมเข้าใจนะครับว่าหลายคนไม่เห็นด้วยไม่ได้มาจากความรู้สึกเหยียด แต่เพราะว่าเป็นห่วงเรื่องกระแสดราม่าที่จะตามมา กลัวน้องโดนลูกหลงเข้าไปด้วย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นๆต่างๆนานา
ผมเข้าใจและยอมรับทั้งหมดนี้เลยครับแต่ก็ยังอยากจะขอให้ทุกคนลองเปิดใจนิดหน่อยคิดถึงว่าทำไมมันอาจเป็นสิ่งที่ดีก็ได้
พูดตามตรง ผมเห็นด้วยกับการที่จะขยายตลาดแบบนี้ครับ ผมอยากเห็นวงการบันเทิงไทยขยายตัว สามารถสร้างคอนเท็นท์ส่งออกทั่วโลกได้เหมือนที่เกาหลีทำอยู่ตอนนี้ ผมอยากเห็นBNKไปไกลกว่านี้ สิบกว่าปีก่อนหน้านี้ วงการบันเทิงเกาหลีไม่ได้บูมแบบนี้ ที่ส่งออกได้จริงๆก็คงมี BoAคนเดียวแหละมั้ง แต่หลังจากนั้นรัฐบาลเกาหลีปรับยุธศาสตร์ ตั้งเป้าให้วัฒนธรรมการบันเทิงเกาหลีนั้นเป็นวงการระดับโลก ประชากรเกาหลีใต้มีแค่50ล้านคนเพราะฉะนั้นเกาหลีจะว่างแต่หากินในประเทศแบบจีนหรือญี่ปุ่นไม่ได้ สรุปแล้วเค้าพยายามพัฒนามาเรื่อยๆจนตอนนี้ทุกคนต้องยอมรับว่าวงการบันเทิงเกาหลีได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในตลาดเอเชียอย่างเต็มตัว ถ้า10ปีก่อนหน้านี้เกาหลีแค่คิดจะกินอยู่ในประเทศตัวเอง ไม่ได้คิดจะเปิดวงการบันเทิงเขาให้เจาะตลาดโลก เด็กไทยสมัยนี้คงจะไม่หวีด Blackpink GOT7 BTS แบบทุกวันนี่หรอกครับ
ผมอยากจะเห็นวงการบันเทิงไทยทำอย่างนั้นมั่งครับ ถ้าวงการบันเทิงเราไประดับโลกแบบนั้นได้ มันไม่ได้ดีแค่สำหรับวงการบันเทิงนะครับ มันดีกับทั้งชาติเลย เพราะวัฒนธรรมไทยมันจะสื่ออยู่ลงในคอนเท็นท์ไทย อาหารไทยจะเป็นที่นิยม แฟชั่นเครื่องสำอางไทยก็จะเป็นที่นิยมเหมือนกัน นักท่องเที่ยวจะมาเมืองไทยมากขึ้น คนต่างชาติก็จะหวีดคนไทยเหมือนวัยรุ่นหลายชาติตอนนี้ชอบหวีดหนุ่มสาวเกาหลีทั่วไป เวลาคนไทยจะไปไหนก็จะได้รับความเคารพ มันดีหมดแหละครับ
"แล้วทำไมต้องเอาคนต่างชาติมาละ"
ก็ดูที่ Blackpink กับ GOT7 เป็นตัวอย่างสิครับ ลิซ่ากับแบมแบมไม่ถือว่าเป็นที่นิยมในเกาหลีเลยถ้าเทียบกับเมมคนอื่นในวง แต่พอมาเมืองไทยเท่านั้นแหละ กลายเป็น Face of the Group ไปเลย คนกรี๊ดดังห้างแตกปิดถนนได้ การเอาคนของประเทศนั้นมามันเวิร์คจริงๆครับ การที่จะเอาเด็กของเขามาคนนึงแลกกับตลาดอีก 10-15ล้านคนเนี่ย มันรีเทิร์นดีกว่า50คนไปตก70ล้านคนมากเลยนะครับ การที่ได้เงินต่างชาติมาเนี่ยมันอาจช่วยให้อฟช.ทำงานได้ดีขึ้นด้วย จะมีงบทำMVสูงขึ้น จัดอีเว้นท์ได้อลังการขึ้น ต่างๆนานา
จะสื่อสารกันยังไงถ้าพูดภาษาไทยไม่ได้
ตอนนี้เห็นคนพม่าลาวเขมรพูดภาษาไทยคล่องปรื๋อทั่วประเทศ ทำไมถึงจะคิดว่าน้องๆจะเรียนกันไม่ได้ละครับ ยิ่งประเทศเพื่อนบ้านนี่ยิ่งเรียนไทยได้เร็วมาก แล้วผมก็คิดว่าอฟช.คงจะเลือกคนที่มีทักษะภาษาไทยบ้างแล้วล่ะครับ แล้วถึงมาว่าตอนแรกพูดภาษาไทยไม่ได้เนี่ย ถ้าเด็กน่ารักมันก็แทบจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย มันจะกลายเป็นจุดน่ารักไปซะอีก ดูจิยอนดิ
"แต่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเกาหลีมันไม่เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเพื่อนบ้าน"
ก็ดู Twice หรือ Iz*One สิครับ มีเมมญี่ปุ่นสามคนทั้งคู่ เกาหลีกับญี่ปุ่นเกลียดกันมากกว่าประเทศCLMอีกนะครับ แต่ถึงแม้อย่างนั้น Twice ก็ถือว่าเป็นวงที่ได้รับความนิยมสูงสุดวงนึงในญี่ปุ่นและก็ถือว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติในเกาหลีเลย
มันไม่ใช่อุปสรรคที่ข้ามไม่ได้ครับ ถ้าจะมองใกล้ตัวหน่อยก็ดูวง Rose Quartz ที่มีทั้งเมมไทยเมมพม่า คนไทยที่ชอบแอนตี้เห็นพม่าเป็นศัตรูก็ไม่เห็นจะว่าอะไรเลย หลายคนกลัวว่าเรื่องการแต่งกลายกระโปรงสั้นอะไรของBNKจะกลายเป็นประเด็นนี่คงยังไม่ได้ดู Rose Quartz สินะครับ วงนี้แต่งสั้นกว่า BNK มากกกกกก หลายคนนึกว่าพม่าน่าจะเเคร์เรื่องพวกนี้มากกว่าคนไทยแต่ที่ไหนได้ Rose Quartz ดังพลุแตกที่พม่าไปแล้ว เป็นที่นิยมมากเลย
"เดี๋ยวยังไงมันก็มีดราม่ามาแหละ"
ครับ ฟันธงเลยครับ มันต้องมีแน่นอน แต่ถึงไม่มีเมมเพื่อนบ้านมันก็จะมีดราม่าอยู่ดีนั่นแหละ แต่ถึงแม้จะมีดราม่าคนส่วนมากก็ไม่ได้งี่เง่าเหมือนพวกที่ชอบดราม่ากันครับ Twice ก็เคยมีดราม่าการเมือง แต่แล้ววงก็ยังเป็นที่นิยมในสองประเทศอยู่ดี Tzuyu ก็เคยมีดราม่าจีนไต้หวัน มันก็ยังเดินต่อได้ ถ้าจะดูใกล้บ้าน วงพี่สาวอินโด JKT มีเมมมาเลเซียคนนึงชื่อ เซลีน ตอน SEA Games 2017 ที่มาเลย์เป็นเจ้าภาพแล้วพิมพ์ธงอินโดออกมากลับหัวกลับหางทำให้คนอินโดดราม่าแอนตี้มาเลย์ขึ้นมาจนน้องต้องออกมาทวิต "ขอโทษ"เอง หลังจากนั้นคนอินโดก็เริ่มทวิต "เรารักเธอนะเซลีน"ไม่ได้มาแอนตี้อะไรใส่น้อง อันดับน้องคนนี้ในงานเลือกตั้งก็ค่อนข้างดี ติดท็อป20ตลอด
"ประเทศแถบนี้ไม่มีเงิน จะทำไปทำไม"
ถึงแม้คนจนจะเยอะแต่ประเทศแถบนี้มีคนรวยล้นฟ้าอยู่เยอะเหมือนกันครับ เดินพารากอนนี้จะเห็นบ่อยมากเศรษฐีพม่าลาวเขมร ระบบ48 มันเป็นมันนี่เกมครับ มันไม่ต้องมีความนิยมวงกว้างก็ได้ มันแค่ต้องมีเสี่ยที่ยอมจ่ายหนักบ้าง วงพี่ทั้ง AKB และ JKT ถึงยังรอดมาได้ทุกวันนี้ทั้งที่ความนิยมตก
"แต่การที่มีเด็กต่างชาติมามันจะแย่งตำแหน่งคนไทย"
ตอนงานเลือกตั้งโลกก็มีคนญี่ปุ่นหลายคนที่พูดแบบนี้ครับ แต่ในที่สุดการที่มีเด็กไทยสองคนติดในร้อยคนมันไม่ได้สร้างอิมแพคท์อะไรมากต่อวงเขาหรอกครับ ในทางกลับกันอาจสร้างกระแสให้เป็นที่สนใจมากขึ้นด้วยซ้ำ ผมเชื่อว่าตำแหน่งที่จะให้เด็กเพื่อนบ้านนี่เค้ากำหนดไว้แล้ว เช่น1คนต่อประเทศอะไรแบบนี้ อฟช.ไม่ได้โง่หรอกครับ
ผมว่าคงจะมีไม่เกินชาติละสองคน ประเทศเล็กๆอย่างลาวอาจจะมีแค่คนเดียวด้วยซ้ำ แล้วผมเชื่อว่ามันไม่ได้ไปแย่งอะไรกับเด็กไทยเพราะอฟช.คงจะกำหนดไว้แล้วว่ารุ่น3จะมีเด็กไทย15คนอะไรแบบเนี้ยะ ถ้าไม่มีเพื่อนบ้านอีก3คนก็ไม่ได้แปลว่าโควต้าเด็กไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น18คน เพราะ3คนนี่เขาอาจจะสร้างตำแหน่งมาเพื่อเจาะตลาดโดยเฉพาะ มันอาจฟังดูไม่แฟร์แต่ว่ามันมีเหตุมีผลทางการธุรกิจครับ
อีกอย่างถ้าสมมุติเอาเด็กต่างชาติมาแล้วปังมากๆกลัวว่าคนไทยต้องมาแข่งกับต่างชาติเนี่ย มันไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงนะครับ พื้นฐานของระบบ48คือการแข่งขันอยู่แล้ว การแข่งขันมันทำให้ทุกคนยกระดับขึ้น คนไทยต้องไม่กลัวการแข่งขันครับ ถ้าจะเอาเด็กต่างชาติมาเราต้องหวังว่าจะปังครับ ไม่งั้นจะเอามาทำไม
ท้ายสุดสมมุติมีเด็กต่างชาติที่คุณไม่ชอบติดเข้ามา มันก็ไม่ได้ไปเอฟเฟกต์ชีวิตอะไรของคุณนี่ครับ ก็แค่ไม่ต้องไปสนใจก็แค่นั้น ตอนนี้มีเด็ก51คน ผมเชื่อว่าคนส่วนมากก็ไม่ได้ไปสนใจทั้งหมด51คนหรอกครับ อย่างมากก็คงจะ4-5คน ที่เหลือก็เลยไปก็แค่นั้น
อะ เขียนซะยาว เมื่อยและ ก็แค่เนี้ยะแหละครับ หวัดดีครับ