▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่น
เที่ยวต่างประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
นักท่องเที่ยว
[CR] :::เที่ยวญี่ปุ่น 13 วัน 6 เมืองด้วยตนเอง ตามแบบฉบับของคนไม่เคยไปญี่ปุ่น :::
ส่วนเรืองค่าใช้จ่ายทั้งทริปตามภาพด้านล่างเลยครับ ราคานี้สำหรับ 2 คนรวมทุกอย่าง ยกเว้นค่าตั๋วเครื่องบินครับ
ประกันการดินทางผมเลือกซื้อกับ Allianz Ayudhya ครับ ราคา 1040 บาท สำหรับ 13 วันครับ
เมืองที่จะไปในครั้งนี้ได้แก่
1. Tokyo
2. Kawakuchiko
3. Kamakura
4. Nikko
5. Hakodate
6. Sapporo
7. Otaru
หลังจากที่อ่านไกด์บุคมาสักระยะหนึ่งผมก็เริ่มวางแผนเที่ยว จองโรงแรมใช้เวลาอยู่นานเป็นเดือนเหมือนกัน ซึ่งโรงแรมที่ผมจองไปนั้นก็มาจากหลายเจ้า เช่น Agoda, Booking เป็นต้นหน้าตาของแผนเที่ยวก็จะประมาณนี้ครับ
ก่อนการเดินทางประมาณ 1 เดือนครึ่งผมเริ่มจอง JR Pass ซึ่งผมวางแผนว่าจะเที่ยวจากโตเกี่ยวไปฮอกไกโด ผมก็เลยเลือกซื้อ JR East South Hokkaido Pass 6 days Flexible ครับ สามารถเลือกใช้ได้ 6 วันไม่ต่อเนื่อง ผมเลือกซื้อ JR Pass จาก Klook หน้าตาก็จะเป็นแบบในภาพ โดยสามารถนำ Voucher ที่ส่งมาทางไปรษณีย์นี้ไปแลกตั๋วของจริงได้ที่สนามบินตอนไปถึงครับ
เรื่องการเดินทางอีกเรื่องที่จะต้องจัดการคือ ตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินแบบ 72 ชั่วโมง ซึ่งก็ซื้อจาก Klook เช่นเดียวกัน ผมได้ในราคาลดแล้วเหลือ 240 บาท โดยสามาราถนำ Voucher นี้ไปแลกตอนไปถึงที่ Counter ของ HIS ที่สนามบินนาริตะเช่นเดียวกันครับ
เรื่องการสื่อสารก็สำคัญไม่แพ้กันครับ ซึ่งผมเลือกซื้อ Sim2fly ของ AIS จาก Klook ซึ่งลดแล้วเหลือราคา 140 บาท จาก 399 ครับ ซึ่งสามารถรับซิมที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือที่สยามเซ็นเตอร์ได้ครับ
สำหรับรูทที่บินก็ออกจาก BKK-KUL-NRT ครับ
สิ่งสำคัญๆ ที่จะต้องเตรียมก็ครบแล้วล่ะครับ ซึ่งที่เหลือก็คือการเตรียมของใช้ส่วนตัว และเตรียมตัวให้พร้อม
เมื่อวันเดินทางมาถึงก็เริ่มเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งผมเลือกที่จะไปไวหน่อย เพราะว่าจะได้มีเวลาเดินสำรวจเลาจน์นานๆ หน่อยครับ
เมื่อบินกับสายการบินในเครือ One World สามารถเลือกใช้ Premiun Lounge หรือ เลาจน์ของ Qatar Airways หรือ Cathay Pacific ก็น่าสนใจ ครั้งก่อนผมใช้เลานจ์ของ Cathay ไปแล้ว รอบนี้ของไปใช้บริการของ Qatar ดูนะครับข้างในเรียบ หรู และคนไม่เยอะเท่ากับ Premiun Lounge และ Cathay Pacific มีความเป็นส่วนตัวตามแบบฉบับของตะวันออกกลาง ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบมากๆ พนักงานก็บริการดี คิดว่าจะต้องกลับไปใช้บริการอีกแน่ๆ ครับ
จากสุวรรณภูมิไป KUL บินด้วย 737-800 ครับ บนเครื่องผมสั่ง Seafood ไป ผมใช้บริการ MH บ่อยๆ ก็เลยไม่ค่อยตื่นเต้นกับอาหารบนเครื่องครับ
ซึ่งพอไปถึงที่ KUL มีเวลาเปลี่ยนเครื่องนานพอสมควร ซึ่งถือได้ว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีพอสมควร ส่วนตัวผมเองก็กินจนพุงกางเลยทีเดียว และแล้วก็ถึงเวลาที่จะใช้บริการด้วย Japan Airlines แล้ว เครื่องบินออกจาก KUL ประมาณสี่ทุ่ม ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ดีเลย ผมประทับใจสายการบินนี้ตั้งแต่ก้าวเท้าขึ้นบนเครื่องเลย ต้อนรับตามแบบฉบับของญี่ปุ่น รู้สึกว่าถึงญี่ปุ่นตั้งแต่อยู่บนแผ่นดินมาเลเชีย ซึ่งอาหาร Seafood ผมได้สั่งไว้ตั้งแต่ก่อนการเดินางจะเริ่มแล้วครับ
ส่วนเที่ยวบนนี้ใช้เครื่องบินแบบ 787-900 ครับ ที่นั่งถูกจัดแบบ 1-2-1 ถือว่าสบาย เป็นส่วนตัวใช้ได้เลยล่ะครับ ซึ่งบนที่นั่นจะมีหูฟัง ผ้าห่ม ชุดคิทวางไว้อยู่บนที่นั่งอยู่แล้วครับ ที่สำคัญชุดนอนสามารถขอได้ด้วยนะครับ
ระหว่างที่พักผ่อนอยู่บนเครื่อง ลูกเรือก็เดินสำรวจทั้งคืน ประทับใจตรงที่เดินแบบไม่รบกวนผู้โดยสาร คือเดินช้าๆ มองซ้ายทีขวาที ซึ่งจะไม่หยุดถามว่าต้องการอะไรเพิ่มหรือไม่จนกว่าเราจะเรียกครับ เยี่ยมเลย และก่อนถึงนาริตะ ผมให้ลูกเรือมาปลุกเพื่อทานอาหารเช้าครับ
ถึงสนามบินนาริตะ ที่โตเกียวประมาณตีห้าเกือบๆ หกโมงเช้า ซึ่งช่วงปีใหม่อากาศหนาวเอาการเลย โชคดีที่เตรียมตัวไปพร้อมมากๆ พอไปถึงแต่ก็ยังไม่ได้ไปไหนเพราะว่าต้องรอแลกตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดิน และ JR JR Pass ครับ จากนั้นก็เริ่มเปิดใช้ JR pass วันแรกโดยใช้บริการ Narita Express หรือ NEX เพื่อเดินทางไปยังชินจูกุ และต่อรสบัสที่จองไว้เพื่อที่จะไปคาวากูชิโกครับ สำหรับแผนที่ที่จะไปขึ้นรถบัสก็ตามนี้เลยครับ
ตามแผนของผมจะเดินทางไปที่คาวากูชิโก จองรถบัสไว้ตอนเที่ยง คิดว่าจะมาจากสนามบินสรุปผมตกรถบัสครับ ทำให้ได้รถบัสเที่ยว 16.00 น. ถ้าเพื่อนๆ จะเดินทางมาที่นี่ จะให้ทันชัวร์ๆ ก็เผื่อเวลาด้วยนะครับ กว่าจะถึงที่คาวากูชิโก ก็มืดแล้วครับ
มาที่นี่ผมพักที่ K's House Fuji View ที่พักที่นี่ และเจ้าหน้าที่น่ารักมากๆ ครับ ห้องพักของผมสามารถเห็นวิวฟูจิได้เลย ตอนที่เช็คอินนั้นเจ้าหน้าที่จะแนะนำร้านอาการ ซูปเปอร์มาเก็ตให้พร้อมเลยครับ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ถ้าอยากพักโรงแรม และได้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านให้พักที่นี่นะ ที่สำคัญที่นี่มีจักรยานให้เช่าด้วยนะครับ
วิวจากที่พักครับ
ตื่นเช้ามารีบไปดูฟูจิด้วยความตื่นเต้น ตื่นมาตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เพื่อที่จะปั่นจักรยานจากที่โรงแรมไปที่เจดีย์แดง ซึ่งใช้เวลาปั่นประมาณ 30-40 นาทีรวมเวลาถ่ายรูปไปด้วยแล้วครับ โดยวิวใกล้ๆ ที่พักก็จะประมาณนี้ครับ
ถ้าจะไปที่เจดีย์แดงให้ไปแต่เช้านิดนึง ตอนที่ผมไปถึงประมาณ เกือบ 7 โมงเช้า คนยังไม่มี แต่ว่าแปดโมงก็เริ่มมีคนทะยอยขึ้นมาแล้วล่ะ วิวสวยเลยทีเดียว และสามรถเดินขึ้นไปด้านบน เพื่อจะมองฟูจิผ่านทิวสนได้ด้วยนะครับ
แล้วจะมาต่อนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้