[Mary Poppins Return] 54 ปีผ่านไป 'แมรี่ ป๊อปปิ้นส์' กลับมาแล้ว!


ย้อนกลับไปเมื่อปี 1964 ภาพยนตร์มิวสิคัลแฟนตาซีเรื่อง Mary Poppins ได้สร้างความประทับใจให้กับเด็กๆในยุคนั้น ด้วยเรื่องราวของหญิงสาวมหัศจรรย์นาม "แมรี่ ป๊อปปิ้นส์" ที่ลอยลงมาจากฟ้าด้วยร่มคันใหญ่ เพื่อรับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับหนูน้อยครอบครัวแบงค์สองพี่น้องคือไมเคิลกับเจน

หลังจากผ่านไปกว่าห้าสิบปี ในที่สุด "แมรี่ ป๊อปปิ้นส์" ก็ได้หวนคืนสู่จอภาพยนตร์อีกครั้งในปลายปี 2018 ด้วยภาคต่อที่มีชื่อว่า Mary Poppins Returns โดยเรื่องราวในภาคนี้เกิดขึ้นหลังจากภาคแรกถึง 25 ปี ซึ่งบัดนี้ไมเคิลกับเจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และไมเคิลก็มีลูกน้อยถึง 3 คน

ในขณะที่ครอบครัวแบงค์สกำลังเผชิญปัญหาที่แก้ไม่ตก แมรี่ ป๊อปปิ้นส์ก็หวนกลับมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกๆของไมเคิล เพื่อชักนำครอบครัวแบงค์สไปสู่เส้นทางแห่งความสุขที่แสนมหัศจรรย์อีกครั้ง

เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ภาพยนตร์เรื่อง Mary Poppins Returns (2018) มีองค์ประกอบใดบ้างที่เป็น reference หรือ easter egg โยงไปยังภาพยนตร์ภาคต้นตำรับ ซึ่งน่าจะช่วยให้เราสนุกสนานกับโลกของแมรี่ป๊อปปิ้นส์มากยิ่งขึ้น


แน่นอนว่า องค์ประกอบแรกของภาพยนตร์ชุด Mary Poppins ที่ควรพูดถึงก็คือตัวพี่เลี้ยงมหัศจรรย์ "แมรี่ ป๊อปปิ้นส์" นั่นเอง โดยในภาคต้นตำรับพี่เลี้ยงสาวคนนี้รับบทโดย "จูลี แอนดรูวส์" ส่วนในภาคใหม่รับบทโดย "เอมิลี่ บลันท์"

สำหรับคาแรกเตอร์ของแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ทั้งสองภาคถือว่าแตกต่างกันพอสมควร โดยในเวอร์ชั่นของจูลีนั้น เธอเป็นแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ที่ค่อนข้างอ่อนโยน ใจดี และสุขุมเรียบร้อย ส่วนเวอร์ชั่นของเอมิลี่ แม้ยังใจดีเหมือนเดิม แต่เธอจะดูดุกว่าเล็กน้อย ทั้งยังขี้เล่นมากกว่า และมีเหวี่ยงๆบ้างในบางที (แต่เวอร์ชั่นของเอมิลี่ใกล้เคียงกับฉบับนิยายมากกว่านะ)

ส่วนแอกเซสซอรี่ที่แสดงถึงความเป็นแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ในภาคใหม่นั้นยังคงเหมือนกับภาคต้นฉบับ อันได้แก่ หมวก, ร่มด้ามหัวนกแก้วพูดได้ และกระเป๋าสี่มิติที่มีข้าวของมากมายบรรจุอยู่


ในภาคต้นตำรับ ครอบครัวครัวแบงค์สที่แมรี่ ป๊อปปิ้นส์มาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กมีสมาชิกอยู่ 4 คน ได้แก่ "จอร์จ" คนพ่อ, "วินิเฟรด" คนแม่ และเด็กน้อยจอมแก่นสองพี่น้องคือ "เจน" กับ "ไมเคิล"

ส่วนในภาคใหม่ สมาชิกครอบครัวแบงค์สมีทั้งหมด 5 คน ได้แก่ สองพี่น้องเจนกับไมเคิลที่โตเป็นผู้ใหญ่ และลูกๆทั้ง 3 คนของไมเคิลกับภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว คือ "แอนนาเบล", "จอห์น" และ "จอร์จี้"

สำหรับบทบาทของสมาชิกครอบครัวแบงค์สใน Mary Poppins Returns (2018) เรียกได้ว่าถอดแบบออกมาจาก Mary Poppins (1964) เลยทีเดียว ตั้งแต่ไมเคิลที่เป็นคุณพ่อจอมซีเรียสผู้แบกรับปัญหาของบ้านเหมือนกับจอร์จ ส่วนเจนก็มีบุคลิกร่าเริงคล้ายๆวินิเฟรด แถมยังเจริญรอยเป็นนักรณรงค์ตามแม่ด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือลูกๆของไมเคิลที่คอยสร้างสีสันและความอลเวง เหมือนตัวไมเคิลกับเจนในวัยเด็กนั่นเอง


นอกจากตัวแมรี่ ป๊อปปิ้นส์กับสมาชิกครอบครัวแบงค์สแล้ว อีกตัวละครหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องก็คือชายหนุ่มอารมณ์ดีที่ออกมาสร้างสีสันอยู่บ่อยครั้ง สำหรับภาคต้นตำรับชายหนุ่มคนนั้นคือ "เบิร์ต" คนทำความสะอาดปล่องไฟผู้รักในเสียงเพลง ส่วนในภาคใหม่ก็คือ "แจ๊ค" ที่เล่าว่าเคยเป็นลูกมือของเบิร์ตมาก่อน และปัจจุบันทำงานเป็นคนจุดตะเกียงไฟ

ในช่วงต้นของ Mary Poppins Returns (2018) ที่แม่รี่ ป๊อปปิ้นส์พบกับแจ๊คนั้น เธอได้ถามถึงเบิร์ตว่าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งแจ๊คตอบว่า ปัจจุบันเบิร์ตกำลังออกเดินทางท่องโลกอยู่

หลังจากดู Mary Poppins Returns จนตลอดเรื่อง เราจะเห็นว่าแจ๊คนั้นเป็นตัวแทนของเบิร์ตโดยแท้จริง โดยเฉพาะฉากที่แจ๊คและเพื่อนๆคนจุดไฟโชว์สเต็ปแดนซ์ในฉากเพลง Trip a Little Light Fantastic ก็ชัดเจนว่าอ้างอิงไปยังฉากเพลง Step in Time ของเบิร์ตนั่นเอง


อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทั้ง Mary Poppins (1964) และ Mary Poppins Returns (2018) มีเหมือนกันคือความปั่นป่วนอลเวงที่เกี่ยวพันกับธนาคาร Fidelity Fiduciary Bank ซึ่งมาพร้อมกับผู้อำนวยการธนาคารจอมละโมบ คือ "มิสเตอร์ดอว์ส" ในภาคต้นตำรับ และ "วิลกินส์" ในภาคใหม่

เกร็ดที่น่าสนใจคือ ในภาคต้นตำรับมีมิสเตอร์ดอว์สอยู่ 2 คน ได้แก่ Mr. Dawes Sr. คนพ่อกับ Mr. Dawes Jr. คนลูก โดยมิสเตอร์ดอว์สคนพ่อนั้นรับบทโดย "ดิก แวน ไดค์" (นักแสดงที่รับบทเป็นเบิร์ต) ด้วยการเมคอัพใบหน้าให้แก่ชรา และพอมาในภาคใหม่ ดิก แวน ไดค์ในวัย 93 ปีก็กลับมารับบทมิสเตอร์ดอว์สคนลูกในวัยชราแทน!

นอกจากนี้ ดิก แวน ไดค์ยังเป็นนักแสดงเพียงคนเดียวจาก Mary Poppins (1964) ที่กลับมาแสดงอีกครั้งในภาคใหม่ด้วย


อีกตัวละครหนึ่งจากภาคต้นตำรับที่ยังคงมีบทบาทในภาคใหม่ก็คือคุณแม่บ้าน "เอลเอน" ซึ่งปัจจุบันเธอก็แก่ตัวลงมากแล้ว (แถมขี้บ่นมากขึ้น)


ในภาพยนตร์ทั้งสองภาค อีกตัวละครที่มีบทบาทคล้ายคลึงกันก็คือญาติจอมเพี้ยนที่ออกมาสร้างสีสันในเรื่องอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งในภาคต้นตำรับคือ "ลุงอัลเบิร์ต" ชายแก่ผู้เปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน (ที่มากเกินไป) ส่วนในภาคใหม่ก็คือ "ท็อปซี่" ลูกพี่ลูกน้องของแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ผู้ซ่อมแซมได้ทุกอย่าง

บทบาทของลุงอัลเบิร์ตกับท็อปซี่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ตรงที่ทั้งสองต่างเป็นคนที่แมรี่ ป๊อปปิ้นส์พาเด็กๆไปพบ และเด็กๆก็ได้สนุกสนานไปกับบทเพลงและพฤติกรรมพิลึกๆของพวกเขา นอกจากนี้ทั้งสองยังมีปัญหาทุกข์ใจเหมือนกันซะอีก โดยลุงอัลเบิร์ตต้องทุกข์ทรมานจากอาการตัวลอยเมื่อหัวเราะ (และปัญหาคือเขาดันหัวเราะไม่ยอมหยุด) ส่วนท็อปซี่นั้นเป็นทุกข์จากโลกที่กลับหัวกลับหางในวันพุธที่สองของเดือน

ปล. ท็อปซี่นั้นเป็นแค่ชื่อเล่นสั้นๆ ส่วนชื่อเต็มของเธอคือ "ทาเทียน่า แอนทานาเซีย คอสสิโตริ ท็อปโปเทรโปลอฟสกี้" (Tatiana Antanasia Cositori Topotrepolovsky)


อีกหนึ่งตัวละครใน Mary Poppins Returns (2018) ที่อิงมาจาก Mary Poppins (1964) ก็คือหญิงชราที่ถูกเรียกชื่อด้วยบทบาทที่เธอทำ โดยในภาคแรกคือ "คุณยายนก" คนขายอาหารนกหน้าโบสถ์ ส่วนในภาคใหม่ก็คือ "คุณยายลูกโป่ง" คนขายลูกโป่งมหัศจรรย์ในตอนท้ายของเรื่องนั่นเอง

นอกจากนี้ ในตอนเปิดเรื่องของ Mary Poppins Returns เราจะแอบเห็นคุณยายนกอยู่หน้าโบสถ์ด้วย ซึ่งก็ถือเป็น easter egg เล็กๆที่ถ้าไม่สังเกตก็คงไม่ทันเห็น


ตัวละครสมทบที่มีบทบาทไม่มากนัก แต่พอออกมาทีไรก็เรียกรอยยิ้มให้เราได้เสมอก็คือเพื่อนบ้านของครอบครัวแบงค์สที่บอกเวลาด้วยการยิงปืนใหญ่ "นายพลบูม" กับ "คุณบินนาเคิล" นั่นเอง ซึ่งใน Mary Poppins (1964) เบิร์ตถึงกับกล่าวเยินยอนายพลบูมว่า "โลกทั้งใบต้องอิงเวลาจากกรีนนิช แต่กรีนนิชน่ะอิงเวลาจากท่านนายพล!" เลยเชียว

ส่วนใน Mary Poppins Returns (2018) แม้จะแก่ตัวลง แต่คู่หูคู่ฮาคู่นี้ก็ยังคงมีบทบาทอยู่เหมือนเดิม (แต่เวลาของท่านนายพลดูจะช้าลงไปนิดนึง)


ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นความเกี่ยวโยงเพียงบางส่วนระหว่างภาพยนตร์ในจักรวาลของ Mary Poppins ทั้งสองภาค ความจริงแล้ว Mary Poppins Returns (2018) ยังมีการอ้างอิงองค์ประกอบอีกหลายอย่างจาก Mary Poppins (1964) แถมยังมีอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ตั้งแต่วัตถุสิ่งของ, เพลง, บรรยากาศ, สถานที่ ไปจนถึงการดำเนินเรื่อง

ใครที่ชม Mary Poppins Returns (2018) มาแล้วก็น่าจะหาโอกาสย้อนกลับไปชมภาคต้นตำรับดูสักครั้งนะครับ และสำหรับคนที่เคยชม Mary Poppins (1964) มาก่อนก็ไม่ควรพลาดโอกาสชมภาคต่อเพื่อรำลึกความหลังเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ Mary Poppins ไม่ใช่ภาพยนตร์สำหรับเด็กเท่านั้น หากแต่เป็นหนังครอบครัวที่ทุกคนสามารถรับชมด้วยความสนุกสนาน บทเพลงและความแฟนตาซีของแมรี่ ป๊อปปิ้นส์ช่วยปลดเราออกจากพันธนาการของเหตุผลแบบผู้ใหญ่ และปล่อยตัวเองให้ลื่นไหลไปกับความมหัศจรรย์เสมือนเมื่อครั้งยังเด็ก แถมยังสอดแทรกคำสอนที่เรียบง่าย แต่ก็ชวนให้ขบคิดอีกด้วย

หากได้ชมทั้งสองภาคแล้ว ลองดูซิว่าคุณเห็นอะไรซ่อนอยู่บ้าง!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่