(แปล) QnA อดีตเด็กฝึกหญิงค่าย SM ent.

ถาม-ตอบ จากอดีต Trainee SM ent.

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดีค่ะทุกคน กระทู้ของฉันได้รับการยืนยันแล้วค่ะว่าเป็นความจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันได้ส่งหลักฐานทั้งหมดไปให้กับทางเว็ปไซต์ตรวจสอบเพื่อความมั่นใจแล้ว และฉันหวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะคะหากฉันจะไม่โชว์หลักฐานใดๆในที่นี้
ฉันตื่นเต้นมากเลยค่ะสำหรับการตั้งกระทู้ถาม-ตอบแบบนี้ จึงได้ลองเขียนข้อมูลต่างๆที่คิดว่าพวกคุณน่าจะอยากรู้มาให้ด้วย เพื่อเลี่ยงปัญหาการถามคำถามซ้ำๆนะคะ

เกี่ยวกับตัวฉัน :
    ฉันเป็นชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ เกิดปี1997 เริ่มเข้าเทรนตั้งแต่ปี2015จนถึงปี2017 ฉันรัก K-pop มาก่อนที่จะเข้าร่วมการฝึกหัด และตอนนี้ก็ยังคงชอบอยู่ค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณมากจริงๆสำหรับประสบการณ์ที่ได้รับ

เป็นเด็กเทรนได้ยังไง? :
    ฉันไปเที่ยวที่โซลในช่วงวันหยุดตอนปี2015 และได้ไปร่วมการออดิชั่นรายสัปดาห์ของSM ซึ่งฉันเองก็ได้วางแผนมาแล้วว่าจะไปที่ SM’s COEX ด้วย เพราะในตอนนั้นฉันค่อนข้างชอบEXOค่ะ ฉันได้รับข้อเสนอจากทางค่ายหลังจากการออดิชั่นประมาณ 1 เดือนค่ะ  ในตอนนั้นพ่อของฉันต่อต้านมันอย่างรุนแรง แต่ฉันก็ดื้อ จนในที่สุดพ่อก็เห็นด้วยและฉันก็ได้บินไปที่เกาหลีค่ะ (สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ค่ะ)

ทำไมถึงออก? :
    พูดตามตรงนะ สาเหตุที่ฉันออกมาเพราะไลฟ์สไตล์มันไม่ใช่สำหรับฉันเลยค่ะ ที่ฉันอยากเป็นไอดอลมากๆ ก็เพราะตอนนั้นฉันยังเด็กมาก และเป็นเพราะในตอนนั้นฉันก็ชอบk-popเอามากๆ ฉันอยากแต่งตัวสวยๆ และที่สำคัญคือฉันอยากรวยค่ะ ฉันเคยคิดว่ามันเป็นโอกาสง่ายๆที่จะทำให้ฉันได้กุญแจไปสู่สิ่งที่ตัวเองต้องการ ซึ่งมันค่อนข้างจริง แต่มันไม่มีอะไรที่ง่ายเลย

    ฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของฉันเลย คนที่นั่นไม่ได้ทำอะไรไม่ดีใส่ฉันนะคะ แต่เป็นฉันเองที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้คบหาสมาคมกับใคร ฉันเป็นคนที่มาใหม่ ในขณะที่บางกลุ่มอยู่ด้วยกันมากว่า5ปีแล้ว ทุกคนหมกหมุ่นกับการฝึกฝนมากแม้จะอยู่นอกเหนือตารางฝึกซ้อมของเราก็ตาม ฉันไม่เคยได้สนิทกับใครเลย เป็นเพราะอุปสรรคทางภาษาและทักษะการเข้าสังคมของตัวฉันเอง และฉันรู้สึกว่างเปล่ามาก ที่นั่นไม่ค่อยมีเด็กฝึกผู้หญิงที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ถึงแม้ว่าจะมีเด็กฝึกอยู่มากมายก็ตาม และยิ่งหลังจากการเดบิวต์ของNCT ความกดดันก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกคนรู้ดีว่า อีกไม่นานก็ถึงเวลาเดบิวต์ของ GGวงใหม่แล้ว

ฉันเตี้ยค่ะ (153cm) ฉันเต้นได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก และมีปัญหาเรื่องผิวหนังเวลาที่รู้สึกเครียดค่ะ ฉันปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมไม่ค่อยได้และไม่ค่อยมีความสนใจเกี่ยวกับมันเท่าไหร่นัก เทรนนี่ส่วนใหญ่เกิดหลังปี2000 และอยู่ที่บริษัทมากกว่า5ปี ฉันมาทีหลัง แต่พวกเขาคาดหวังว่าฉันจะต้องพยายามมากกว่าคนอื่นเป็น2เท่าเพื่อตามให้ทัน มันสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเลยระหว่างความตั้งใจของฉันและเด็กฝึกคนอื่นๆ

เทียบกับคนอื่นแล้ว ถึงแม้จะอายุมากกว่า แต่ฉันไม่ค่อยมีพลังและความแข็งแรงสักเท่าไหร่ หลังจากผ่านไปได้ไม่กี่เดือน ฉันเลิกบังคับตัวเองให้ฝึกนอกตารางแบบที่คนอื่นทำ ฉันว่าทุกคนรวมถึงตัวฉันเองรู้สึกได้ว่า ฉันไม่สามารถทำได้ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ แต่ไม่มีใครว่าอะไรฉัน สองสามเดือนก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุดลง ฉันบอกกับผู้ดูแลว่าฉันอยากกลับบ้าน และรู้สึกขอบคุณมากๆสำหรับทุกสิ่ง พวกเขาเข้าใจและให้การสนับสนุนฉัน ฉันมั่นใจว่าพวกเขารู้อยู่แล้ว(เพราะเขาไม่แม้แต่พยายามจะขอให้ฉันต่อสัญญาด้วยซ้ำ 5555555/*อันนี้เขาพิมพ์ hahaเองนะคะ ไม่ใช่คนแปล TT*) ฉันหยุดเข้าร่วมกิจกรรมตามตารางฝึกซ้อม และออกจากหอก่อนที่จะหมดสัญญาประมาณหนึ่งเดือน แต่พวกเขาคงรู้อยู่แล้ว และก็ไม่ได้ไล่ตามหรือทำอะไรฉันเลย

อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะฉันมีอดีตที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก ไม่ใช่แบบติดยาหรือเล่นการพนันอะไรหรอกนะ แต่ตอนนั้นฉันเป็นเพียงแค่เด็กที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต ฉันได้พูดเรื่องที่น่าละอายใจ เช่น เรื่องเกี่ยวกับเพศสภาพ และการเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งฉันไม่ได้ตั้งใจ เพราะตอนนั้นฉันอายุแค่12-15เท่านั้น และคิดว่ามันเจ๋งดีที่จะพูดอะไรแบบนี้ ฉันช่างโง่เขลา และฉันรู้สึกละอายใจต่อมันมากจริงๆ หลังจากที่เคยมีเหตุการณ์หลอกลวงของเทรนนี่คนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน(สำหรับคนที่ทราบเรื่อง กรุณาอย่าเอ่ยชื่อออกมานะคะ) ทางค่ายได้เข้มงวดกับกฎระเบียบมากขึ้น พวกเขาให้ความสำคัญต่อเรื่องของทัศนะคติ และเรื่องราวในอดีตของเทรนนี่มากขึ้น พวกเขาเข้าถึงอดีตในอินเทอร์เน็ตของฉันไม่ค่อยได้เพราะปัญหาด้านภาษา และฉันก็บอกกับพวกเขาว่า แม้แต่ตัวฉันเองก็ไม่สามารถกู้คืนมันได้แล้ว และพวกเขาก็ยังเชื่อใจฉัน ผู้คนเติบโตขึ้น แต่ฉันรู้ดีว่าสักวันหนึ่งอดีตของฉันมันจะกลับมาทำร้ายตัวฉันเองเมื่อมันถูกเปิดเผยออกมา และฉันยังคงรู้สึกผิดกับมันอยู่เสมอ (พวกคุณจะต่อว่าฉันก็ได้ แต่ฉันไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว นอกจากโทษการกระทำของตัวเอง)

ฉันเสียใจหรือเปล่าที่มาเป็นเทรนนี่? :
    ไม่มีทาง สิ่งที่ฉันเสียใจที่สุดคือการที่ไม่ได้พยายามมากพอ ลึกๆฉันหวังจะได้อยู่ต่อแม้จะเป็นเพียงความหวังที่เบาบางเท่านั้น ตอนนี้ฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วค่ะ และฉันเพิ่งจะเข้าใจว่าชีวิตมันยากขนาดไหน เรียนรู้เรื่องการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมว่ามันควรจะเป็นยังไงโดยเฉพาะในประเทศของฉัน ครั้งหนึ่งฉันเคยคิดจะใช้ประโยช์จากคำว่า’อดีตเด็กฝึกหัดSM’เพื่อที่จะเป็นคนดังในไอจี หรือแม้แต่คิดว่าจะเป็นดังในประเทศของตัวเอง มันโง่ฉันรู้ดี แต่ฉันเพิ่งจะเข้าใจว่าโลกนี้มันยากขนาดไหน และใช่ การเป็นเด็กฝึกหัดเองก็ยากกว่าที่คุณจะจินตนาการถึงเช่นเดียวกัน (แทบจะไม่ได้นอน/บาดเจ็บ/ดิ้นรนตลอดเวลา) แต่ถ้าฉันได้เดบิวต์ และสามารถทำเงินได้หลายล้านจนใช้ได้ถึงรุ่นหลาน จากการทำงานหนักเพียงแค่7ปี ฉันว่ามันก็คุ้มมากนะ
    
ต่อไปนี้คือคำถามที่ฉันจะไม่ขอตอบนะคะ :
    1. ฉันจะไม่ขอตอบอะไรที่เจาะจงถึงตัวบุคคลโดยเฉพาะ เช่น รู้จักเทรนนี่ที่ชื่อXXXรึเปล่า นิสัยเขาเป็นยังไง
    2. ฉันไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับไอดอลที่เดบิวต์ไปแล้ว กรุณาอย่าถามอะไรแปลกๆ เช่น กลิ่นของเฉินวงEXOเป็นยังไง หรือจอยวง RVV มีบุคลิกยังไงหลังกล้อง
    3. คำถามที่เกี่ยวกับความเกลียดชัง



Q n A

*** หมายเหตุ ***
    ทุกคนคะ ฉันเห็นหลายคนถามถึงประสบการณ์ของฉันเกี่ยวกับคำติชมจากเหล่าศิลปิน ฉันขอย้ำอีกครั้งนะคะว่าฉันไม่ใช่เด็กฝึกหัดที่โดดเด่นเลย ฉันเป็นเด็กใหม่ที่เข้ามาในตอนที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว พวกเขามองฉันเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง ที่ยังต้องสะสมประสบการณ์อีกหลายปี ฉันมั่นใจเลยว่าพวกที่ใกล้จะเดบิวต์ต้องทำในสิ่งที่ยากกว่าฉันมากแน่ๆ และฉันเองก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับพวกเขา เพราะตารางการฝึกซ้อมของเขาพิเศษกว่าของคนอื่นๆ
    ฉันขอโทษหากทำให้พวกคุณสับสน แต่ฉันแค่ไม่อยากจะพูดอะไรที่ดูเป็นการโกหกหรืออะไรที่ไม่เป็นความจริง
    
Q : ขั้นตอนการออดิชั่นเป็นยังไงบ้าง และอะไรคือสิ่งที่คุณคิดว่าคุณทำถูกแล้วถึงได้มีโอกาสเข้าไปเป็นเด็กฝึก?
A : - Line up 2ชั่วโมงก่อนจะเปิดทำการ พวกเขาจะให้บัตรคิวกับคุณ เขียนใบสมัครแล้วรอในแถว เมื่อถึงเวลาก็จะต้องเข้าไปกับเด็กคนอื่นรวม5คนตามลำดับ ทุกคนได้ร้องในเวลาสั้นๆ ประมาณ10-15วินาทีเท่านั้น ในแถวฉันมีเด็กที่ถูกสั่งให้หยุดด้วย  คุณต้องมองที่กล้องตอนแสดงนะ กรรมการในห้องจะพูดภาษาเกาหลี เพราะฉะนั้นเรียนสักนิดก่อนไปก็ดีค่ะ เขาบอกว่าถ้าผ่านก็จะได้รับเมลล์ตอบกลับ ในเมลล์ที่ได้กลับมา เป็นการเรียกพบอีกครั้ง ซึ่งฉันได้บอกกับพวกเขาไปว่า ฉันไม่สามารถไปได้หากมันเป็นเพียงการออดิชั่นเพิ่มเติมเท่านั้น  เพราะตั๋วเครื่องบินในตอนนั้นแพงมากๆ พวกเขาจึงตอบเมลล์กลับมา เพื่อขอให้ฉันส่งวิดีโอร้องเพลง และภาพโปรไฟล์ในลักษณะต่างๆกลับไป หลังจากส่งไปไม่นาน เขาก็ตอบกลับมาอีกครั้งพร้อมเสนอสัญญาระยะสั้นให้
     - ในตอนนั้นฉันคิดว่าฉันร้องเพลงได้ดีนะ ฉันเลือกเพลงที่เหมาะกับเสียงตัวของเอง รู้สึกว่าคนเกาหลีจะชอบเพลงแบบ Mellow songs ถ้าเสียงของคุณเหมาะกับมัน คุณอาจจะโชคดีก็ได้! มันเป็นเรื่องจริงที่SMให้ความสำคัญเรื่องหน้าตา ฉันเองก็รู้สึกขอบคุณอะไรก็ตามที่น่าดึงดูดของตัวเอง เชื่อเถอะว่ามันช่วยจริงๆ

Q : คุณบอกว่าไปโรงเรียนสอนภาษามา ภาษาเกาหลีของคุณดีแค่ไหนตลอดการฝึก2ปีของคุณ
A : ในช่วงพีคสุดๆ ฉันสามารถอ่านหนังสือเกาหลี และดูซีรี่ย์ได้โดยไม่มีซับ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้แล้วนะ แต่ก็ยังพอเข้าใจอยู่บ้าง

Q : ในฐานะคนSEA มีการแบ่งแยกระหว่างพวกเด็กฝึกหรือเปล่า?
A : มันเป็นประเด็นที่ฉันอยากพูดพอดี มันมักจะมีประเด็นจากพวกเว็ปที่แปลมา อย่างพวกที่แปลมาจากเว็ป pann ที่คนคอมเมนต์ส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ(10-15ขวบ)     เมื่อก่อนตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันเองก็เคยพูดเหยียดและสิ่งไม่ดีมากมายเพราะคิดว่ามันเจ๋ง ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกเสียใจและหวังว่าเด็กพวกนั้นเองก็จะรู้สึกเช่นกันเมื่อพวกเขาโตขึ้นในอนาคต และใช่ คนเกาหลีหลายคนจะดูถูกพวกพวกSEA เพราะพวกเขาไม่ค่อยรู้อะไรมากไปกว่า เรื่องความยากจน/สลัม แต่พวกเขาไม่ได้ปองร้ายหรืออะไรหรอกนะ มันเป็นเพราะพวกเขารู้ว่าตัวเองมีคุณภาพมากกว่าต่างหากล่ะ ในประสบการณ์ของฉันเองนะ แม้แต่ในประเทศตัวเอง ฉันว่าพวกเอเชียด้วยกัน จะปฏิบัติกับเราดีกว่าพวกฝรั่งผิวขาวนะ ถึงเกาหลีกับเอเชียอื่นๆไม่ได้รวมกันแต่พวกเขาให้เกียรติกันนะถึงจะมีความแตกต่างอยู่บ้างก็เถอะ
-    ตอนเป็นเด็กฝึก ฉันไม่มีประสบการณ์แบ่งแยกอะไรนะ มันก็มีบ้างที่ฉันโดนปฏิบัติแตกต่างออกไป แต่เพราะฉันเป็นชาวต่างชาติต่างหาก ไม่ได้แบ่งแยกเพราะดูถูกที่ฉันเป็นSEA คนเกาหลีที่โตในต่างประเทศก็มีประสบการณ์แบบเดียวกัน

Q : ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่หลังจากออกจากSM
A : ฉันกลับมาเรียนต่อ และกำลังจะจบเร็วๆนี้ ตอนนี้กำลังเตรียมหางานอยู่ค่ะ

Q: ฉันสนใจเกี่ยวกับเรื่องสัญญา ถ้าไม่มีหนี้สำหรับเด็กฝึก เงื่อนไขสัญญาเป็นยังไง เช่น ระยะเวลา เรื่องที่พัก การเดท
A : ถ้าคุณยังอยู่ในวัยเรียน ค่ายจะจ่ายด้านการศึกษาให้คุณในระดับม.ต้นและม.ปลาย แต่ในกรณีของฉัน พวกเขาจ่ายค่าเรียนภาษาเกาหลีให้สำหรับการเรียนในช่วงเช้า คุณจะไม่ต้องจ่ายอะไรเลยถ้าอยู่จนครบตามสัญญา แต่ถ้าคุณออกก่อนจะหมดสัญญา คุณก็จะต้องคืนเงินทั้งหมดที่ค่ายเคยจ่ายให้ จริงๆแล้วหนี้ทั้งหมดจะถูกจ่ายคืนให้จากคุณเดบิวต์ แต่ถ้าพูดกันตามตรง แค่โฆษณาไม่กี่ตัวกับเพลงฮิตสักเพลงก็สามารถจ่ายคืนให้คุณได้แล้ว ไม่มีข้อกำหนดชัดเจนเรื่องการห้ามเดท แต่ทุกคนก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า มันคงปลอดภัยกว่าถ้าไม่มี

Q : คุณรู้อะไรเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์ GG วงใหม่บ้างไหม?
A : ฉันก็เดาพอๆกับทุกคนในอินเทอร์เนตนั่นแหละค่ะ พวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับ the next SNSD (หมายถึงความยิ่งใหญ่นะ)

Q : มีเทรนนี่หญิงทั้งหมดกี่คน? แผน SM new GG เป็นยังไง?
A : เทรนนี่ชายเยอะกว่าเทรนนี่หญิง เหมือนจะมีผู้หญิงอยู่ประมาณ30-40คน มันเยอะมากถ้าเทียบกับสัดส่วนคนที่จะได้เดบิวต์จริงๆ ส่วนGGวงใหม่เหมือนจะมีการคอนเฟิร์มสมาชิกตั้งแต่ปี2017 นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงออกมา เพราะฉันอาจจะต้องรออีก5ปีถึงจะได้เดบิวต์ แต่ก้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงล่าช้าออกไป อาจจะเป็นเพราะมีหนึ่งในสมาชิกตัดสินใจออกจากค่าย

Q: ฟังดูเหมือนว่าแม้คุณจะเป็นเทรนนี่ปลายแถว เขาก็ยังจะเก็บคุณไว้และก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะถูกขอให้ออกแม้จะยังไม่หมดสัญญา ถ้าเป็นความจริง มันเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน และพวกเขาเคยทำมันกับพวกเด็กฝึกปลายแถวจริงๆหรือเปล่า?
A : ฉันไม่คิดว่าเขาจะคัดเด็กออกนะ นอกเสียจากว่าจะมีพฤติกรรมที่รุนแรงจริงๆ พวกเขาจะรอจนหมดสัญญาแต่จะไม่ยื่นข้อเสนอขอต่อสัญญากับคุณอีก มันมีการประเมินผลแต่เราไม่ได้รับรู้ผลหรอกว่าพวกเขาให้คะแนนเรายังไง ซึ่งฉันว่ามันงี่เง่ามาก เพราะพวกเด็กจะไปรู้ได้ไงละว่าเราควรแก้ไขอะไร ในเมื่อไม่มีใครบอกเรา?

Q : คุณมีโอกาสจะเจอเพื่อนที่มาจากประเทศเดียวกันนอกเหนือจากในค่ายบ้างมั้ย?
A : ฉันไม่มีเวลาหรอกค่ะ และแทบจะไม่มีคนจากประเทศเดียวกันกับฉันในเกาหลีเลยด้วยซ้ำ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่