### ไมค์ ฟีแลน...การเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ###

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังไม่ได้ขยับเข้าหาใครจริงจังในช่วงตลาดหน้าหนาวนี้ แต่ดูเหมือนการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของเขาจะเกิดขึ้น

เรียบร้อยแล้ว  ผมกำลังหมายถึง หนุ่มใหญ่วัย 56 ปีที่ชื่อ ไมค์ ฟีแลน ครับ

                        เขาคือคนแรกที่ โซลชา นึกถึง หลังได้รับมอบหมายงานใหญ่ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังหมดยุค โชเซ่ มูรินโญ่ ในการฟอร์มทีมงานใน

ภารกิจกอบกู้สโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด อันเป็นที่รัก

                     ฟีแลน คือใคร?   เขามีอดีตเป็นนักเตะ ยูไนเต็ด ในตำแหน่งฟูลแบ๊ก และกองกลางนะครับ โดยลงสนามให้ "ปีศาจแดง"

ในลีกทั้งสิ้น 102 นัด

                        หลังแขวนสตั๊ดแล้ว ฟีแลน ก็ปักหลักอยู่กับสโมสรต่อในบทบาทผู้ช่วยโค้ชทีมสำรองในช่วงระหว่างปี 1999-2001 ก่อนขึ้นมานั่งเก้าอี้

โค้ชทีมชุดใหญ่ช่วงปี 2001-2008 โดยรับหน้าที่กุนซือทีมสำรองด้วยในปี 2002

                        กระทั่งได้รับความไว้วางใจให้ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2008-2013


                        ตอนที่รู้ว่า สโมสรติดต่อให้หวนกลับไปทำงานเมื่อปลายปี เขากำลังง่วนกับการเป็นโค้ชให้ทีม โอ๊คฮิลล์ รุ่น ยู-12 ปีอยู่เลย

         งานสุดท้ายของ ฟีแลน ก่อนหน้านี้ที่เราพอจะทราบคือการเป็นผู้จัดการทีม ฮัลล์ ในซีซั่น 2016-17 รวมถึงการนั่งเก้าอี้กุนซือชั่วคราวให้ นอริช ด้วย

         ระหว่างที่ออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อดีตมือขวา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังเคยตระเวณไปรับงานผู้อำนวยการลูกหนังให้สโมสร

   เซนทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส ในออสเตรเลียด้วยนะครับ

                กระนั้น แม้ตัวจะอยู่ที่อื่น แต่หัวใจของเขาฝังไว้ที่ "โรงละครแห่งความฝัน"  

               ก่อนหน้านี้ เวลาที่ ยูไนเต็ด จัดอีเว้นต์สำคัญๆ อาทิเกมเกียรติยศของ ไมเคิ่ล คาร์ริค รวมถึงแมตช์รำลึกถึง เลียม มิลเลอร์ ผู้ล่วงลับ

   ไม่มีเลยแม้แต่ครั้งเดียวที่ ฟีแลน จะไม่มาปรากฏตัว


                 ขนาดตอนที่ มิโน่ ไรโอล่า ซูเปอร์เอเย่นต์ตัวแสบเปิดศึกกับ พอล สโคลส์ เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน ฟีแลน ยังเคยทวิตออกตัวจวก

"ไอ้อ้วนอิตาเลี่ยน" ให้อดีตดาวเตะ "ปีศาจแดง" จนโลกโซเชี่ยลระอุเลย

                 สายสัมพันธ์ของเขากับสโมสรยังมัดแน่นมาก      ดังนั้น เมื่อโอกาสมาถึง เขาจึงคว้าหมับอย่างไม่รอรี ก่อนตัดสินใจเดินหน้าสู่

    แมนเชสเตอร์ ทันทีในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยไม่ลืมยื่นซองขาวลาออกจาก  งานสอนที่วิทยาลัย เบิร์นลี่ย์

               ฟีแลน เลยได้กลายเป็นหนึ่งในทีมงาน "อะเวนเจอร์" ชุดกอบกู้โลกของ โซลชา ร่วมกับ คาร์ริค และ คีแรน แม็คเคนน่า

        สิริรวมอายุทีมงานชุดนี้อาจจะแค่ 114 ปี ซึ่งดูไม่ได้เก๋านักเมื่อเทียบกับของสโมสรอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก แต่ก็ถือว่าทีมงานโค้ชชุดนี้น่าจับตาทีเดียว

             เฉพาะอย่างยิ่งกับ ฟีแลน ที่จัดป็นโค้ชที่โชกโชนประสบการณ์คนหนึ่งของวงการ และได้เรียนรู้อะไรมากมายจาก "เฟอร์กี้" ในฐานะมือขวาผู้รู้ใจ

  ทั้งคู่สนิทสนมกันมากนะครับ

           ถึงขั้นที่ "ป๋า" เคยฝากฝังงานกับ เดวิด มอยส์ ให้ตอนวางมือ แต่อดีตกุนซือ เอฟเวอร์ตัน ดันส่ายหน้า   พร้อมยืนยันขอใช้คนของตน

จนทีมงาน เฟอร์กูสัน ต้องแตกกระสานซ่านเซ็นไปคนละทิศคนละทางทั้ง ฟีแลน, เรเน่ มิวเลนสทีน, เอริก สตีล (ผู้ปลุกปล้ำ ดาบิด เด เคอา)

, โทนี่ สตรั๊ดวิค, ร็อบ สไวร์, วอร์เรน จอยซ์, ไบรอัน แม็คแคลร์, พอล แม็คกินเนส และ ดีเร็ค แลงก์ลี่ย์

               กระนั้น โซลชา รู้ดีว่า ฟีแลน สามารถช่วยงานอะไรเขาได้บ้างในฐานะมือขวา


             เขาสัมผัสได้ว่า โค้ชคนนี้มีเลือด "ปีศาจแดง" เข้มข้น และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อสโมสรเหมือนกับตัวเขาเอง    ที่สำคัญที่สุดคือ ทั้งคู่สำเหนียก

    ถึงวิถีของ ยูไนเต็ด เป็นอย่างดี

              ปรัชญาข้อหนึ่งที่ ฟีแลน ซึมซับมาจาก "เฟอร์กี้" คือ ทีมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องไม่ลงสนามเพียงเพื่อเอาผลเสมอ    เขาพยายามปรับ

ทัศนคติให้นักเตะ "ปีศาจแดง" ให้ตระหนักถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่การซ้อม

             โซลชา จะปล่อยให้ ฟีแลน มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการคุมทีมซ้อม เหมือนสมัยที่ "ป๋า" เป็นกุนซือเด๊ะๆ เลยนะครับ

         ว่ากันว่า วิธีของเขา เป็นที่ชื่นชอบมากในหมู่ผู้เล่น ยูไนเต็ด ตลอดห้าปีที่ ฟีแลน เป็นผู้ช่วย "เฟอร์กี้"

     เขาจะให้นักเตะวิ่งซอยเท้าโดยมีบอลอยู่กับตัวและต่อสู้กับด่านรับ โดยในหัวต้องคิดถึงแค่ 3 สิ่งคือ ประตู, ประตู และประตู!


               เซสชั่นนี้ อาจกินเวลาเนิ่นนานถึง 45 นาทีเลยทีเดียว     เขายังจะเน้นการเล่นลิงชิงบอล ด้วยเพื่อเสริมในเรื่องการออกบอลให้ไว

ให้แม่นยำ ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญของระบบการเล่นแบบเปิดเกมรุก

                จากนั้นก่อนลงสนามจริงราว 24 ชั่วโมง ฟีแลน จะมานั่งชำแหละคู่แข่งให้เด็กๆ ฟัง โดยชี้ให้เห็นถึงผู้เล่นตัวอันตราย และจุดแข็งโป้ก

              กลยุทธ์การซ้อมให้ทีมรุก และทีมรับของ ฟีแลน ได้รับการตอบสนองอย่างดีโดยแข้ง ยูไนเต็ด ที่รู้สึกถึงความเป็นอิสระมากกว่าเดิม โดยเฉพาะ

   การเล่นเกมบุก     ยืนยันได้จากผลงานชนะรวด 6 นัดทุกรายการจนทำให้ โซลชา จารึกชื่อเป็นกุนซือประวัติศาสตร์ของสโมสรไปเรียบร้อย

   หลังสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการบุกเชือดไก่ตายบนปากโอ่ง เวมบลีย์ 1-0


                 เกมรุกของ ยูไนเต็ด ดีขึ้นกว่าในยุคของ มูรินโญ่ ชัดเจน โดยภายใต้การนำของ โซลชา นับเฉพาะในลีกเพียวๆ ปรากฏว่า หวดไปเกินหนึ่งใน

   สามของประตูที่ทำได้ทั้งหมดซีซั่นนี้ (15 จาก 44 ลูก)     ขณะที่เกมรับ คลีนชีตที่เคยเป็นสิ่งที่หาได้ยากในฤดูกาลนี้ ก็เริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว

                 ครับ, มันจำเป็นต้องใช้เวลา หลังจากที่ชุดความคิดของนักเตะ ถูกปรับให้ไปในแนวทางที่อาจสวนทางกับขนบสโมสร จาก มอยส์,

   หลุยส์ ฟาน กัล รวมถึง มูรินโญ่

               แต่ที่ผ่านมา ถือว่า ทีม "อะเวนเจอร์" ของ โซลชา ทำได้ไม่เลวเลย

       กรอบความคิดที่เคยถูกจำกัดให้คิดถึงแค่เรื่องเกมรับ กำลังค่อยๆ ถูกทลายโดยปรัชญาแบบ ยูไนเต็ด ที่ ฟีแลน ขนกลับมาปลูกฝังให้เด็กๆ อีกครั้ง

    รวมถึงการไม่ยอมจำนนกระทั่งเสียงนกหวีดสุดท้าย

            สารภาพว่า สิ่งที่ผมในฐานะแฟนผีคนหนึ่งชอบที่สุดนอกเหนือไปจากผลงาน และรูปแบบการเล่นที่ดีขึ้น คือความเป็นปึกแผ่น

  ที่เราสามารถสัมผัสได้จริง

            ฟีแลน มักลุกขึ้นมาตะโกนสั่งการนักเตะ เคียงข้าง โซลชา เสมอๆ


              เวลายิงประตูได้ คุณก็จะเห็น โซลชา หันไปแปะไม้แปะมือแล้วกอดกันกลมกับ ฟีแลน โดยมี แม็คเคนน่า และ คาร์ริค ร่วมด้วย
    
  มันคือภาพที่บ่งบอกว่า ยูไนเต็ด เป็น ยูไนเต็ด จริงๆ

               ไม่มีใครคิดคนเดียว ทำคนเดียว โดดเด่นคนเดียว แต่ทุกคนร่วมด้วยช่วยกัน ด้วยเป้าหมายเดียว คือเพื่อสโมสรอันเป็นที่รัก

    และหากมีวันที่ โซลชา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด แบบเต็มตัว จะไม่ใช่แค่ตัวเขาเองที่มีความสุขที่สุดแน่ๆ

               ผู้ชายที่ชื่อ ไมค์ ฟีแลน คงจะแฮ็ปปี้ไม่แพ้กัน...

ที่มาบทความ :simsport.com
ผู้เขียน บทความ : เปาผี

    *** บทความนี้ เขียนจากใจแฟนบอลผู้ขายวิญญาณให้ปีศาจแดง ขออนุญาติ นำมาถ่ายทอดต่อครับผม ^^ ***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่