โป๊ะแตก เหมือนฟ้าผ่ากลางหัว เมื่อแฟนมาสารภาพว่า มีกิ๊กเป็นตัวเป็นตนมากว่า 3 ปี

ผมเป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนนึง ที่ใช้ชีวิตไม่เคยโลดโผน ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม และมีโลกส่วนตัวสูงค่อนข้างมาก ผมคบกับแฟนที่เป็นผู้ชายเหมือนกันมาตั้งแต่ผมอายุ 23 ปี จนตอนนี้อีกไม่นานก็จะผ่านหลักสี่ เราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานาน ผ่านอะไรกันมาก็มาก ตั้งแต่อยู่ห้องเช่าจนได้มีโอกาสมาซื้อทาวเฮาส์เล็กๆ อยู่ด้วยกัน ทุกอย่างก็ปกติดีครับ แฟนผมอายุมากกว่าผม 12 ปี และเป็นผู้ใหญ่ที่คอยดูแลผมมาตั้งแต่คบกัน ผมรู้สึกได้ถึงความรักและความห่วงใยที่มาจากความจริงใจไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ ช่วงหลังๆ 1 - 2 ปีมานี้ผมก็สังเกตว่าพี่เค้าผิดปกติไปเล็กน้อย คือเวลาที่เค้าเล่นมือถือแล้วผมเดินไปใกล้ๆ จะเอาเอี้ยวตัวหลบหรือปิดหน้าจอ แต่ก็คิดว่า เรื่องโทรศัพท์มือถือมันเป็นเรื่องส่วนตัว ก็ทีพี่เค้าก็ไม่เคยมายุ่งกับโทรศัพท์ผมเหมือนกัน และความผิดปกติที่ว่าเวลาผมโทรไปบางครั้ง จะพูดจาตะกุกตะกัก เคยมั้ยเวลาแฟนหรือเพื่อนสนิทคุณตอบอะไรที่ไม่ชัดถ้อยชัดคำ หรือติดขัดจนเราเอะใจว่า มันไม่ใช่แระ คือเป็นแบบนี้บ่อยๆ แต่ผมก็ปล่อยผ่าน เพราะไม่อย่างจะเซ้าซี้ ..... เวลาผ่านไปด้วยความสุข การมีปัญหาทะเลาะงอนกันถือว่าน้อยมาก และทุกครั้งที่เคืองไม่พูดกันก็ไม่เกิน 3 วัน เราทั้งคู่มีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกัน นี่คงเป็นสาเหตุที่คบกันได้มานานขนาดนี้ เราชอบไปเที่ยววัด ทำบุญ บางทีชวนกันไปปฏิบัติธรรม ชอบเที่ยวธรรมชาติ ไม่เคยชวนกันไปเที่ยวกลางคืน ดื่มเหล้า ไม่เคยแม้จะคิด...แต่ผมเป็นคนที่ใช้ชีวิตไม่บาลานซ์ ในชีวิตผมไม่ชอบสุงสิงกับใคร แม้กระทั่งเพื่อนสมัยมัธยม ป.ตรี ป.โท ผมคุยปฏิสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย ไม่เคยพบปะนัดกินข้าว จนทุกคนรู้ดีในจุดนี้ว่าไม่ต้องไปชวนมัน และผมก็ไม่ได้รู้สึกขาดอะไร ก็เพราะ...ผมมีแฟนที่คอยอยู่เคียงข้างมาตลอด คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม คือ แม่ และแฟนเท่าน้น พี่น้องและคนอื่นๆ ในชีวิตผม ล้วนแต่เป็นองค์ประกอบรอง ไม่ว่าจะมีเรื่องดีใจ ทุกข์ใจ หรือเจ็บปวดแค่ไหน พี่เค้า (แฟนผม) ก็อยู่เคียงข้างเสมอมา......
แต่วันนึง ผมอาบน้ำเสร็จอย่างสบายใจเหมือนทุกวัน เดินเข้ามาในห้อง พี่เค้านั่งอยู่บนเตียงหน้าเครียด พร้อมกับบอกว่า "พี่ขอคุยด้วยหน่อย" การใช้คำพูดที่ค่อนข้างเป็นทางการนี้ทำเอาผมตกใจนิดหน่อย แต่คิดว่าไม่มีอะไร เพราะที่ผ่านมา มันไม่เคยมี...แล้วพี่เค้าก็บอกว่า "พี่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง พี่เรียบเรียงไม่ถูก"...." คือมีผู้ชายคนนึง ใครก็ไม่รู้ ทักไลน์พี่มา เค้าบอกว่าคุณ (หมายถึงผม) มีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจนะ แล้วเค้ารู้ว่าคุณไปทำอะไรที่ไหน" สิ่งนั้น ไม่ต้องคิดเยอะ มันก็คือ หมายถึงผมแอบไปมีกิ๊ก ผมก็ตกใจ เพราะมันไม่เคยมี มันไม่มีอะไรในก่อไผ่ นอกจากมากสุดคือมีทักมาจีบใน IG แล้วเราก็คุยๆไปขำๆ ไม่เคยคิดจะนัดเจอ ไม่เคยคิดจะยกระดับ แล้วพี่เค้าก็พูดต่อว่า "พี่ก็ไม่แน่ใจ ไม่เคยคิดว่ามันจะจริงหรอก แต่ในใจก็เชื่อ 50/50 เพราะมันมีรูปถ่าย" ผมก็เลยถามว่ารูปถ่ายอะไร เอามาให้ดูสิ พี่เค้าก็บอกว่าไม่เคยเห็น แต่มันก็ขู่ว่ามีคลิปนะ แล้วพี่เค้า....ก็ตกหลุมพราง ก็การไปหาผู้ชายคนนั้น เพื่อจะขอรับเรื่องราวที่กุขึ้นว่าผมไปมีกิ๊ก....ที่สำคัญที่สุด พี่เค้าบอกว่า มันส่งรูปเข้าโทรศัพท์มีกระทั่งรูปถ่ายบ้านที่เราอยุ่ด้วยกัน รถที่เราสองคนขับ รู้ว่าผมชื่อเล่นอะไร ชื่อจริงและนามสกุล รู้ว่าทำงานที่ไหน รู้ว่าบ้านแม่อยู่ที่ไหน รู้กระทั่งว่าเราสองคนขับรถออกจากบ้านเวลาไหน...สิ่งเหล่านี้มันคงทำให้พี่เค้าหลงเชื่อ (จากสิ่งที่พี่เค้าบอกเล่าให้ผมฟัง) และจากการที่พี่เค้าตกหลุมพรางไปหามันครั้งแรก ก็ตามมาด้วยครั้งที่ 2 3 4......จนเป็นการบังขับข่มขู่ว่าถ้าไม่ไปหามันอีก มันจะเอาข้อมูลที่เราทั้งคู่เป็นเกย์ไปแฉที่ทำงานของเราทั้งคู่ จะเอาเอกสารพิมพ์แล้วไปโปรยที่หน้าบ้านประจานว่าเป็นเกย์ จะอย่างนู้นจะอย่างนี้สารพัด คือถึงตอนนี้ มันบอกว่า มันรักของมัน คือมันรักแฟนผม..........................มาถึงขั้นนี้....ผมงงหนักมาก คืออะไรยังไง เพราะความอยากรู้ข้อมูลของผมว่าผมไปมีกิ๊ก ทำให้พี่เค้าไปหามันแล้วคุยกัน จนกลายเป็นสัมพันธ์ลับๆ แบบเต็มใจ "หรือไม่" อันนี้ผมไม่รู้ และที่พี่เค้าย้ำหนักมากก็คือ ที่ยอมโดนบีบบังคับให้ไปหา ทำนุ้นทำนี่ ก็เพราะ....แคร์ความรู้สึกของผม... ไม่อยากให้ความลับที่เป็นเกย์ถูกเปิดโปงในที่ทำงาน ทั้งในหมู่ญาติให้ได้อับอาย จนถึงประโยคเด็ดว่าที่มันพูดว่า อาจต้องตายกันไปข้างนึง.............นี่ถึงขนาดจะเอาชีวิตกันเลย.............................ที่อึ้งที่สุดก็คือ...............เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานกว่า 3 ปี.............3 ปีที่พี่เค้าไปหาผู้ชายคนนั้นเพื่อตามล่าหาข้อมูล (ตามคำกล่าวอ้างของพี่เค้า) จนพัฒนากลายเป็นกิ๊ก และผู้ชายคนนั้นเรียกพี่เค้าว่า "แฟน" อย่างเต็มปากเต็มคำ และพี่เค้าก็ย้ำหลังจากเล่าจบว่า ที่ผ่านมา ยอมเพราะไม่อยากให้ผมเสียใจ และอยากประคับประคองชีวิตคู่ของเรา........T T
........ความอ่อนต่อโลกของผมทั้งที่อายุไม่น้อยแล้ว แต่ประสบการณ์เหล่านี้ มันไม่เคย มันเคยเสียใจกับปัญหาแบบนี้มาก่อน ผมทวงถามถึงว่ามัน จะจบยังไง พี่เค้าก็ไม่ได้ตอบอะไรที่ชัดเจนมากนัก แค่บอกว่าจะหยุด......แต่ผมก็แน่ใจว่ามันจะเป็นยังไงต่อ
ทุกวันนี้ผมย้ายมาอยู่บ้านแม่ได้สักพักนึงแล้ว ผมเสียใจและรู้สึกอึ้งจุกอกกับเหตุการณ์ทั้งหมด มันเหมือนฝันแต่มันคือเรื่องจริงที่ผมต้องเจอ....
ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้....ผมโกรธ แต่ก็เกลียดไม่ลง....เพื่อนๆ คิดว่าหลังจากนี้ ถ้าปัญหาได้รับการแก้ไขไม่ทางใดก็ทางนึงแล้ว.....ผมควรให้อภัยและกลับไปเริ่มต้นชีวิตกับแฟนได้อีกครั้งมั้ย...............T T
ขอโทษที่เล่าไม่เก่งครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่