ตั้งเเต่จำความได้เราก็อยู่กับเเม่ 2 คนเท่านั้น
เราไม่เคยเห็นหน้าพ่อของตัวเองด้วยซ้ำ
เเต่เราก็รู้สึกว่าชีวิตเราโชคดีกว่าคนอื่นมาก
ที่เรายังมีเเม่อยู่ข้างๆ เราไม่เคยทำให้เเม่ผิดหวัง
อะไรเลย เราเป็นเด็กค่อนข้างหัวดี ตอนประถม
ถึงม.1 เราได้เกรด 4.00 มาโดยตลอด
เราเป็นเด็กที่ชอบทั้งกิจกรรมเเละการเรียน
เราเคยเปิดหมวกเพื่อช่วยเเม่ทำงานด้วยนะ
เเต่ตั้งเเต่เด็กเลย เราเห็นเเม่ไม่สบายเเละเข้า
โรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ เราก็ชินกับสภาพเเบบนี้
พอตั้งเเต่เราขึ้น ป.5 เเม่เราก็เริ่มมีอาการป่วย
รุนเเรงมากขึ้น เเกผอม เดินไม่ได้ เเต่ยังสามารถ
พูดได้ตามประสาคนปกติ เเกเข้าโรงพยาบาล
เราเองก็เเอบเป็นห่วง หลังเลิกเรียนเราก็จะไป
โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเเม่ เเม่เราก็อาการดีขึ้น
เราก็ดีใจอยู่บ้าง เราก็เลยซื้อข้าวต้มให้เเกกิน
เราป้อนให้เเก เราไม่คิดว่านั้นจะเป็นการดูเเลเเก
ครั้งสุดท้าย พอรุ่งเช้า เราก็เรียนตามปกติ พอถึง
ช่วงเที่ยงก็มีญาติมาหาเรา เราก็รู้สึกไม่ค่อยดี
เพราะเห็นญาติเราใส่ชุดสีดำ ญาติเเกก็บอกว่า
"ทำใจดีๆนะ เเม่ไปสบายเเล้วลูก" ในใจเราก็คิด
ว่านี้มันเรื่องล้อเล่นหรือเปล่า เค้าเเกล้งเรามั้ย
เราจุกตรงกลางหน้าอก อยากจะร้องเเต่ก็ร้อง
ออกมาไม่ออก เพราะเเต่เกิดมาเราก็อยู่กับเเม่
สองคนเท่านั้น เรารู้สึกหวิวๆ เมื่อต้องไปร่วมงาน
ศพ เเละเราก็คิดในใจเราว่า "เรามีเวรมีกรรม
อะไรหรอ ถึงต้องทำกับเราเเบบนี้ ทำไมต้อง
ลิขิตให้เราต้องมาเจอเรื่องเเบบนี้" หลังจากนั้น
น้ำตาเราก็ไหล เเต่เรากลั้นไว้ เเล้วบอกญาติว่า
ขอตัวไปห้องน้ำ เเล้วพอถึงห้องน้ำ น้ำตาก็เเตก
ออกมา เราเข้าไปร้องในห้องน้ำ เกิบชั่วโมงได้
ญาติก็ถามไปทำอะไรมาทำไมไปนานจัง คือใน
งานศพก็มีญาติพี่น้อง เเล้วก็คนรู้จักของเเม่
เข้ามาร่วมงาน ทุกคนก็สงสารเรากันหมด
ตลอดทั้งงานเราไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นเลย
เราจะเเอบร้องในห้องน้ำ หลังวัด หรือกลับบ้าน
ไปก็จะเเอบร้องไห้ในห้องนอน พอถึงวัน
ฌาปนกิจเปิดโรงออกมา เราเห็นหน้าเเม่เป็น
ครั้งสุดท้าย เราอยากร้องออกมา เเต่เเม่เราเคย
สอนว่าอย่าร้องไห้ให้ใครเห็น ต้องเข้มเเข็งนะ
เราก็เชื่อฟังคำเเม่ จากนั้นในฐานะที่เราไม่มี
ผู้ปกครองเหลืออยู่เเล้ว ญาติจึงรับเลี้ยงเรา
ในใจเราก็รู้สึกดีนะ เเต่พออยู่ไปๆเราก็รู้สึก
อึดอัดมาก เราอยู่เเล้วไม่มีความสุขเลย เเล้วเรา
ก็เป็นคนพูดน้อยอยู่เเล้วด้วย ทำให้มันอึดอัดเข้า
ไปอีก เเต่ทำไงได้ เราเป็นเด็กม.2 อนาคตอีก
ยาวไกลเราก็ต้องอดทน ความอดทนของเรา
เหมือนจะทำให้เราเก็บกด เรานอนร้องไห้ทุกคืน
เหมือนเป็นโรคซึมเศร้า เราเบื่อกับชีวิตมาก
เราเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย เเต่เราก็คิดในใจว่า
เราจะยอมเเพ้กับโชคชะตาเเบบนี้หรอ เราเคย
สัญญากับเเม่เอาไว้เเล้วหนิ ว่าเราจะเป็นหมอให้
เเม่ภูมิใจ เราจึงตั้งใจเรียนมาก เเต่ด้วยความที่
เรารู้สึกอึดอัดเวลาอยู่บ้าน เราไม่ค่อยพูดด้วย
มันจึงเเย่ไปใหญ่ เราอยู่กับญาติครบ 1 ปี ญาติ
เราก็เรียกไปคุยว่า "อึดอัดใช่มั้ยหละ งั้นก็ไปอยู่
โรงเรียนประจำ" เเต่โรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียน
กีฬาเราก็ไม่มั่นใจว่าด้านวิชาการเค้าดีไหม
เพราะเราอยากเป็นหมอ เราไม่อยากเป็นนัก
กีฬา เราก็รู้สึกว่ากังวลกับอนาคตตัวเอง เพราะ
เราไม่ค่อยเก่งทางด้านกีฬา ออกเเนวเด็กวิชา
การมากกว่า เรากังวลจนเรานอนไม่หลับ เครียด
จนไม่สบาย เเต่ญาติก็ไม่เหลี่ยวเเล เหมือนตอน
ดูเเลลูกของตัวเองเลย เราจึงไปรพ.ด้วยตัวเรา
เอง เราอาเจียนทั้งคืน จนมีเลือดออกมา
คุณหมอก็ให้นอนพักรพ. ให้น้ำเกลือ เราใช้
เงินเก็บของตัวเองในการจ่ายค่ารักษา เราก็
อาการดีขึ้นมาบ้าง เลยกลับบ้าน เค้าก็ไม่ถาม
เราเลยสักคำว่าไปไหนมา ทำไมลารร. เค้ากลับ
ปิดประตูเเรงๆใส่เรา ในใจเราก็คิดว่าทำไมชีวิต
เราเกิดมาอาภัพเเบบนี้ เราเครียดมากกับการ
ไปรร.ประจำซึ่งเป็นรร.กีฬาด้วย เรากลัวว่า
เราจะเรียนไม่ไหว เราไม่เคยเจอสภาพเเวดล้อม
เเบบเด็กประจำ เรากังวลกับอนาคตตัวเอง
เราอยู่เเค่ม.3 ย้ายไปเรียนเรียนประจำก็ ม.4 พอ
ดี เราอยากสอบเค้าเตรียม กับมหิดลมาก เเต่ไม่
มีใครสนับสนุน เราเลยคิดว่าจะไปทำงานเอง
ย้ายไปอยู่หอคนเดียว เก็บตังเรียน รับงาน
เพื่อไปใช้ชีวิตในทางของเราเอง อนาคตที่เรา
เห็นมันมืดมาก มองทางออกไม่เห็น
เราเหนื่อย เเต่ก็ต้องเดินต่อ เรามาเพื่อขอระบาย
เเละขอคำเเนะนำจากใครที่มีประสบการณ์ใน
ด้านนี้มาก่อน
ทำไมชีวิตถึงอาภัพเเบบนี้
เราไม่เคยเห็นหน้าพ่อของตัวเองด้วยซ้ำ
เเต่เราก็รู้สึกว่าชีวิตเราโชคดีกว่าคนอื่นมาก
ที่เรายังมีเเม่อยู่ข้างๆ เราไม่เคยทำให้เเม่ผิดหวัง
อะไรเลย เราเป็นเด็กค่อนข้างหัวดี ตอนประถม
ถึงม.1 เราได้เกรด 4.00 มาโดยตลอด
เราเป็นเด็กที่ชอบทั้งกิจกรรมเเละการเรียน
เราเคยเปิดหมวกเพื่อช่วยเเม่ทำงานด้วยนะ
เเต่ตั้งเเต่เด็กเลย เราเห็นเเม่ไม่สบายเเละเข้า
โรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ เราก็ชินกับสภาพเเบบนี้
พอตั้งเเต่เราขึ้น ป.5 เเม่เราก็เริ่มมีอาการป่วย
รุนเเรงมากขึ้น เเกผอม เดินไม่ได้ เเต่ยังสามารถ
พูดได้ตามประสาคนปกติ เเกเข้าโรงพยาบาล
เราเองก็เเอบเป็นห่วง หลังเลิกเรียนเราก็จะไป
โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเเม่ เเม่เราก็อาการดีขึ้น
เราก็ดีใจอยู่บ้าง เราก็เลยซื้อข้าวต้มให้เเกกิน
เราป้อนให้เเก เราไม่คิดว่านั้นจะเป็นการดูเเลเเก
ครั้งสุดท้าย พอรุ่งเช้า เราก็เรียนตามปกติ พอถึง
ช่วงเที่ยงก็มีญาติมาหาเรา เราก็รู้สึกไม่ค่อยดี
เพราะเห็นญาติเราใส่ชุดสีดำ ญาติเเกก็บอกว่า
"ทำใจดีๆนะ เเม่ไปสบายเเล้วลูก" ในใจเราก็คิด
ว่านี้มันเรื่องล้อเล่นหรือเปล่า เค้าเเกล้งเรามั้ย
เราจุกตรงกลางหน้าอก อยากจะร้องเเต่ก็ร้อง
ออกมาไม่ออก เพราะเเต่เกิดมาเราก็อยู่กับเเม่
สองคนเท่านั้น เรารู้สึกหวิวๆ เมื่อต้องไปร่วมงาน
ศพ เเละเราก็คิดในใจเราว่า "เรามีเวรมีกรรม
อะไรหรอ ถึงต้องทำกับเราเเบบนี้ ทำไมต้อง
ลิขิตให้เราต้องมาเจอเรื่องเเบบนี้" หลังจากนั้น
น้ำตาเราก็ไหล เเต่เรากลั้นไว้ เเล้วบอกญาติว่า
ขอตัวไปห้องน้ำ เเล้วพอถึงห้องน้ำ น้ำตาก็เเตก
ออกมา เราเข้าไปร้องในห้องน้ำ เกิบชั่วโมงได้
ญาติก็ถามไปทำอะไรมาทำไมไปนานจัง คือใน
งานศพก็มีญาติพี่น้อง เเล้วก็คนรู้จักของเเม่
เข้ามาร่วมงาน ทุกคนก็สงสารเรากันหมด
ตลอดทั้งงานเราไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นเลย
เราจะเเอบร้องในห้องน้ำ หลังวัด หรือกลับบ้าน
ไปก็จะเเอบร้องไห้ในห้องนอน พอถึงวัน
ฌาปนกิจเปิดโรงออกมา เราเห็นหน้าเเม่เป็น
ครั้งสุดท้าย เราอยากร้องออกมา เเต่เเม่เราเคย
สอนว่าอย่าร้องไห้ให้ใครเห็น ต้องเข้มเเข็งนะ
เราก็เชื่อฟังคำเเม่ จากนั้นในฐานะที่เราไม่มี
ผู้ปกครองเหลืออยู่เเล้ว ญาติจึงรับเลี้ยงเรา
ในใจเราก็รู้สึกดีนะ เเต่พออยู่ไปๆเราก็รู้สึก
อึดอัดมาก เราอยู่เเล้วไม่มีความสุขเลย เเล้วเรา
ก็เป็นคนพูดน้อยอยู่เเล้วด้วย ทำให้มันอึดอัดเข้า
ไปอีก เเต่ทำไงได้ เราเป็นเด็กม.2 อนาคตอีก
ยาวไกลเราก็ต้องอดทน ความอดทนของเรา
เหมือนจะทำให้เราเก็บกด เรานอนร้องไห้ทุกคืน
เหมือนเป็นโรคซึมเศร้า เราเบื่อกับชีวิตมาก
เราเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย เเต่เราก็คิดในใจว่า
เราจะยอมเเพ้กับโชคชะตาเเบบนี้หรอ เราเคย
สัญญากับเเม่เอาไว้เเล้วหนิ ว่าเราจะเป็นหมอให้
เเม่ภูมิใจ เราจึงตั้งใจเรียนมาก เเต่ด้วยความที่
เรารู้สึกอึดอัดเวลาอยู่บ้าน เราไม่ค่อยพูดด้วย
มันจึงเเย่ไปใหญ่ เราอยู่กับญาติครบ 1 ปี ญาติ
เราก็เรียกไปคุยว่า "อึดอัดใช่มั้ยหละ งั้นก็ไปอยู่
โรงเรียนประจำ" เเต่โรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียน
กีฬาเราก็ไม่มั่นใจว่าด้านวิชาการเค้าดีไหม
เพราะเราอยากเป็นหมอ เราไม่อยากเป็นนัก
กีฬา เราก็รู้สึกว่ากังวลกับอนาคตตัวเอง เพราะ
เราไม่ค่อยเก่งทางด้านกีฬา ออกเเนวเด็กวิชา
การมากกว่า เรากังวลจนเรานอนไม่หลับ เครียด
จนไม่สบาย เเต่ญาติก็ไม่เหลี่ยวเเล เหมือนตอน
ดูเเลลูกของตัวเองเลย เราจึงไปรพ.ด้วยตัวเรา
เอง เราอาเจียนทั้งคืน จนมีเลือดออกมา
คุณหมอก็ให้นอนพักรพ. ให้น้ำเกลือ เราใช้
เงินเก็บของตัวเองในการจ่ายค่ารักษา เราก็
อาการดีขึ้นมาบ้าง เลยกลับบ้าน เค้าก็ไม่ถาม
เราเลยสักคำว่าไปไหนมา ทำไมลารร. เค้ากลับ
ปิดประตูเเรงๆใส่เรา ในใจเราก็คิดว่าทำไมชีวิต
เราเกิดมาอาภัพเเบบนี้ เราเครียดมากกับการ
ไปรร.ประจำซึ่งเป็นรร.กีฬาด้วย เรากลัวว่า
เราจะเรียนไม่ไหว เราไม่เคยเจอสภาพเเวดล้อม
เเบบเด็กประจำ เรากังวลกับอนาคตตัวเอง
เราอยู่เเค่ม.3 ย้ายไปเรียนเรียนประจำก็ ม.4 พอ
ดี เราอยากสอบเค้าเตรียม กับมหิดลมาก เเต่ไม่
มีใครสนับสนุน เราเลยคิดว่าจะไปทำงานเอง
ย้ายไปอยู่หอคนเดียว เก็บตังเรียน รับงาน
เพื่อไปใช้ชีวิตในทางของเราเอง อนาคตที่เรา
เห็นมันมืดมาก มองทางออกไม่เห็น
เราเหนื่อย เเต่ก็ต้องเดินต่อ เรามาเพื่อขอระบาย
เเละขอคำเเนะนำจากใครที่มีประสบการณ์ใน
ด้านนี้มาก่อน