บทเรียนที่ 2 ไม่ควรเทรดด้วยเชื่อ งมงาย และมโนไปเองครับ

กระทู้สนทนา
หลังจากวันแรกเป็นการละลายพฤติกรรม และเปิดใจมองดูมายเซตแย่ๆ ของตัวเอง

วันที่สองของการพูดคุยและเรียนรู้ยังเป็นการละลายพฤติกรรมต่อเนื่องจากเมื่อวาน ดิสคัสกันเรื่องล้างมายเซตแย่ๆ ที่ฝังอยู่ และการมองภาพให้กว้างขึ้น ลดความยุกยิกลง

- เวลาที่เรามองดูกราฟ - ภาพรวมของตลาดนั้น แล้วอ่านรับรู้ข่าวตามสื่อต่างๆ  ผมมักจะมีอารมณ์ร่วม ความเชื่อผิดๆ และงมงาย เข้ามาในหัวสมอง ทำให้เกิดไบแอสไปในทางที่ผิด การแยกแยะข่าวที่ได้รับรู้มานั้นมีผลต่อการลงทุนมาก เนื่องจากการอ่านข่าว - บทความที่ดีนั้น ช่วยให้เราสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นได้ แต่ถ้าเราไม่แยกแยะว่า อันไหนมีประโยชน์ อันไหนเป็นการชี้นำ ทำให้เราหลงเชื่อไปในทางที่ผิด งมงาย ไม่อิงกับความเป็นจริง ซึ่งผมก็พบว่า ตัวเองนั้นชอบเสพย์ข่าวโดยไม่กลั่นกรอง ทำให้การเทรดนั้นมีอารมณ์ร่วม และบ่อยครั้งมโนไปเอง

- เวลาเรามองดูกราฟนั้น ควรมีเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ ไว้ช่วยให้เราเห็นแนวโน้มของกราฟ ความชัน ความน่าจะเป็น และการกระจายของกราฟที่ผิดปกติ สิ่งเหล่านี้คือ ข้อเท็จจริงที่ช่วยให้เรามองเทรนด์และภาพรวมของกราฟได้อย่างถูกต้อง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเทรดถูกทางให้มากขึ้นได้ครับ

- หลังจากเรียนจบวันที่สอง ผมได้กลับมาทบทวนบทเรียน และตัวเองอยู่ 1-2 วัน พบว่า ในอดีตการที่ผมใช้ชีวิต เรียน ทำงาน และเทรดหุ้นนั้น ผ่านมาได้ด้วยการท่องจำซะส่วนใหญ่ ไม่ได้ใช้ความเข้าใจในสิ่งต่างที่เรียนรู้มาเลย แถมยังหยุมหยิมยุกยิกกับเรื่องเล็กน้อยจนมองไม่เห็นภาพรวมต่างๆ คงต้องพยายามล้างสิ่งแย่ๆ มายด์เซตแย่ๆ ออกให้ได้ เพื่อที่จะอยู่รอดในตลาดหุ้นให้ได้ในระยะยาวครับ

ปล. ผ่านมาสองวัน พบว่า การฝึกดูกราฟนั้นค่อบๆ ดีขึ้นครับ ไม่มะโนไปเอง มองเทรนภาพเล็ก และใหญ่ได้ดีขึ้นครับ

เพี้ยนmbpt
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่