จากเกมถุงมือ รักในรอยหยัก ก่องก๊อง edition

กระทู้คำถาม
ผมยืนนิ่งกลางถนนยางมะตอยชำรุด แล้วโบกมือให้กับรถกระบะ
โดยที่ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร จนกระทั่งรถหายลับไปกับทางโค้ง
เหลือเพียงผมกับเพิงมุงจาก และถนนโดดเดี่ยวกลางดงป่า
ที่ซึ่งทิวเขาซับซ้อนที่ล้อมรอบ ไม่ได้ช่วยให้ความกระจ่างกับผมเลย
ว่าผมเป็นใครและมาทำอะไรที่นี่ สิ่งเดียวที่รู้คือผมต้องเดินทางต่อไป

เมื่อนึกถึงคำว่าเดินทาง อยู่ดีๆใบหน้าของหญิงสาวที่คุ้นเคยแต่ไม่รู้จัก
ก็ผุดขึ้นมายิ้มเศร้าให้ผมในความคิด และพูดอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้ยิน
ผมพยายามยื้อกลุ่มก้อนความจำนั้นอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่เธอจะหายไปเพราะเสียงแตรรถ
ผมเดินหลบมาที่ข้างถนนกางแขนโบกมือด้วยความเคยชินที่ไม่เข้าใจ
คนขับหน้าหนวดจอดรถมองผมอยู่ครู่หนึ่ง และจากไปด้วยดวงตาเฉยชา

ผมยืนรับแสงแดดและสายลม มองรถที่พึ่งผ่านไปแล้วตัดสินใจเข้ามาในเพิง
และเอนตัวลงบนแคร่ไม้ไผ่  ในความเงียบงันผมเริ่มดำดิ่งลงไปในความคิด
เพื่อตามหาเธออีกครั้งด้วยคีย์เวิร์ดการเดินทาง เธอออกมาพูดโดยไม่มีเสียงอีกครั้ง
แต่คราวนี้เมื่อเธอพูดจบ ผมพึ่งรู้ตัวว่าเธอยืนอยู่บนทุ่งหญ้า ไม่สิเราต่างหาก
เราจับมือกันเดินเล่นในบรรยากาศที่มีแต่ความสุข ผมแกล้งดึงแขนเธอเข้ามา
แล้วกอดเธอไว้ เรามองตากันและกัน ผมจูบเธอด้วยความรักหรืออะไรก็ไม่แน่ใจ
แต่นาทีนี้ใครจะไปสนล่ะ

ความเป็นจริงที่โหดร้ายกระชากผมกลับมาด้วยเสียงลมที่พัดแรง
ความรู้สึกของผมที่ติดอยู่ระหว่างความฝันกับความจริงถูกบดขยี้เป็นผุยผง
และกระจายหายไปกลางอวกาศด้วยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของความสุดโต่งทั้งสองขั้ว
เธอเป็นใคร ผมถามคุ้นเคยในตัวด้วยความมืดบอดแห่งความทรงจำ
และดูเหมือนความเงียบจะเป็นคำตอบ

ผมกำลังนึกถึงสถานที่ที่เราอยู่ด้วยกัน ทุ่งหญ้าสีทองไกลสุดตา
ที่ซึ่งแผ่นดิน สายลม ท้องฟ้า และเมฆหมอกมาบรรจบกัน
ที่ซึ่งผู้คนชอบมาดูพระอาทิตย์ขึ้นและตก แสงจันทร์แสงดาวที่ไหนๆก็ไม่สวยเท่าที่นี่
และในยามทิวา ผืนผ้าใบของพระเจ้าก็เต็มไปด้วยงานศิลปะที่ไม่หลับไหล

ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใครแต่ผมรู้ว่าผมรักเธอ สารเคมีหลากนิยามในสมองบอกผมเช่นนั้น
เป็นไปได้หรือที่เราจะรักใครสักคนโดยปราศจากเหตุผล
แม้กระทั่งหนึ่งในนิยามของคนส่วนมากที่ว่าความรักคือความเข้าใจ
แต่ผมรักไปแล้วแบบไม่เข้าใจ ไม่รู้จัก ไม่อาจสัมผัส หรือนี่คือความมหัศจรรย์ของชีวิต
ผมดึงสติกลับมาและเดินออกมาจากเพิง

ข้างนอก เมฆสีเข้มเกาะกลุ่มกัน แต่ไม่อาจปิดบังความสดใสของท้องฟ้าได้หมด
ต้นไม้ในป่าโปร่งกำลังเต้นรำจากการเชื้อเชิญของแรงลม
บนถนนมีรถเก๋งคันหนึ่งกำลังมาทางนี้ ผมทบทวนถึงชื่อของสถานที่ที่เราเคยอยู่ด้วยกัน
และรถคันนั้นก็เข้ามาใกล้แล้วชะลอรถจนกระทั่งจอดสนิทโดยที่ผมไม่ต้องโบก
ถ้ามีใครสักคนมองลงมาจากข้างบนก็จะเห็นว่า
ชายคนหนึ่งขึ้นรถไปนั่งข้างคนขับและรถก็ออกตัวแล่นไปตามทางจนหายลับไป

และมีโดรนสี่ใบพัดบินตามไปห่างๆ

ชายหน้าหนวดดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง
กดจอยุกยิกแล้วเอาแนบหู "เขาขึ้นรถเอปซีลอนแล้วครับ"
เสียงทรงอำนาจจากปลายสาย "ฉันเห็นแล้วแกมม่า เอปซีลอนไว้ใจได้ใช่ไหม"
"ไว้ใจได้แน่นอนครับ เชื่อมือเขาได้" แกมม่าหันไปมองทีมงานของเขา
"นี่ถ้าร่างทดลองทำสำเร็จ เขาจะมีมูลค่าที่ประเมินไม่ได้เชียวนะ เข้าใจเรื่องนี้ใช่ไหม"
"เข้าใจครับ ถ้าการปลูกถ่ายสมองได้ผล ทีมของเราเตรียมพร้อมแล้วครับ"
"ดีมาก แกมม่า เลิกติดต่อ"

แกมม่าพยักหน้าให้กับคนที่ควบคุมโดรน ก่อนจะเดินไปขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่ใกล้ๆ

=======

แก้ไขจากฉบับเดิมในเกมถุงมือครับ กรุณาสับละเอียดด้วยครับ [เดินไปขึ้นเขียง] ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่