หลังจากมีหนัง Concept ห้ามโน่นห้ามนี่ออกมาให้ดูและลุ้นกันไปหลายเรื่องแล้ว ไม่ว่าจะห้ามพูด ห้ามหายใจ หรือห้ามขยับ ไม่งั้นจะตาย ก็มาถึงหนังที่ Netflix จับ concept ห้ามเห็นออกมาบ้าง โดยงานนี้ได้ Sandra Bullock มารับบทนำของเรื่อง ซึ่งตัวอย่างหนังก็ตัดออกมาได้น่าสนใจดี และอีกอย่างดูเป็นหนังที่ Netflix จะดันโปรโมทสุดๆ

หนังบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพลังลึกลับที่ทำลายล้างประชากรโลก สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้คือหากใครมองเห็นสิ่งลึกลับนี้ ต้องตาย! ในขณะที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน มาลอรี ได้พบกับความรัก ความหวัง และการเริ่มต้นครั้งใหม่ เธอตัดสินใจพาลูกทั้งสองหนีสิ่งลึกลับไปตามแม่น้ำที่เชี่ยวกราก เพื่อไปยังสถานที่แห่งเดียวที่เหลืออยู่ และเชื่อว่าเป็นที่ที่ปลอดภัย โดยทั้งหมดต้องเดินทางฝ่าฟันอันตรายเป็นเวลาถึง 2 วัน และต้องปิดตาไว้ตลอดเพื่อความอยู่รอด

หนังเล่าเรื่องราวตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เป็นการบอกเล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้น แต่หนังไม่ได้บอกว่าจริงๆ แล้วต้นเหตุของสิ่งที่มันกำลังไล่ล่าตัวละครอยู่มันคืออะไร แต่กลับบอกถึงสถานการณ์ที่ตัวละครแต่ละตัวคิดและหวาดระแวง ซึ่งมันอาจจะไม่ได้น่ากลัวหรือระทึกอะไรมากมาย แต่มันกลับทำให้เราคอยช่วยลุ้นไปกับตัวละครเหล่านั้นให้ผ่านไปได้ด้วยดี

หนังไม่ได้บอกที่มาที่ไปของตัวละคร โดยเฉพาะตัวละครหลักอย่าง มาลอรี แต่หนังจะแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากที่ตัวละครต้องเผชิญและตัดสินใจ ซึ่งแต่ละสถานการณ์จะบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของจิตใจตัวละครอย่าง มาลอรี ได้เป็นอย่างดี โดยมีการเอาเรื่องราวดราม่าของตัวละครบางตัวเข้ามาแทรกในหนังด้วย ความกดดันอะไรหลายๆ อย่างทำให้ตัวละครต้องตัดสินใจ และเรื่องของมุมมองการปิดตาที่ทำให้คนดูคดว่า ถ้าเป็นเราอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เราคงสติแตกไปแล้ว ตรงจุดนี้หนังทำได้กดดันและน่าตื่นเต้นพอตัว

สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือ การที่หนังบอกถึงวินาศภัยที่กำลังเกิดกับโลกใบนี้ แต่หนังไม่ได้โชว์ถึงเรื่องราวเหล่านั้นเลย มีแค่บางฉากที่บอกว่าภัยกำลังคุกคาม แต่ไม่ได้แสดงให้เห็นชัดเจน ทำให้ concept หนังที่วางไว้มันเลยค่อนข้างเบาไปเยอะจนแทบจะลืมนึกถึงจุดนี้ไปเลย ซึ่งน่าเสียดายมากถ้าหากมีฉากที่บอกถึงหายนะที่มันจะเกิด น่าจะได้ตื่นเต้นและลุ้นมากกว่านี้

หนังสรุปบทส่งท้ายได้ดี กล่องนก Bird Box ที่นางเอกเฝ้าหวงและห่วงมากกว่าลูกคืออะไร ก็พลิกกลับมาขมวดปมได้แบบโอเคเลย ไม่ได้สักแต่ใส่เข้ามาแล้วก็ลืมเลือนไปกับกาลเวลา สุดท้ายถามว่าหนังดีกว่าหนัง “ห้ามทำ” เรื่องอื่นมั๊ย ต้องบอกว่าอาจจะไม่ได้ระทึกขนาดนั้น แต่หนังมันมีอะไรให้ติดตามอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เพียงแต่อาจจะไม่ได้มีอะไรออกมาทำให้ระทึกสะดุ้งตื่นเต้นอะไรมากนัก แต่ก็ดีพอให้พูดได้ว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่รู้สึกได้ว่า เมื่อหนัง “ห้าม” แล้วตัวละครต้องทำตาม ไม่ใช่การไม่ทำตามแบบโง่ๆ ไร้เหตุผล

ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai