1. ความจริงนางไม่มีตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลียนะ จนบัดนี้ใน twitter ยังไม่มีคนโชว์หลักฐานภาพถ่ายตั๋วเครื่องบินเลย ถึงแม้จะมีวีซ่าท่องเที่ยว ทั้งนี้เพราะการขอวีซ่าออส online ไม่จำเป็นต้องแสดงตั๋วเครื่องบิน
ดังนั้นหมายความว่า นางจะเข้าไทยแล้วค่อยหาทางไปออสต่อ ไม่ใช่อยู่เฉพาะ transit zone จึงต้องขอวีซ่า on arrival ซึ่งคนซาอุจะเข้าไทยต้องขอ แล้วอยู่ได้ 15 วัน แต่ต้องแสดงตั๋วเครื่องบินขาออกจากไทย ซึ่งนางไม่มีอีกเช่นกัน งานนี้นางผิดเต็มๆ
ซึ่งก็สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ ตม.ไทย ที่บอกว่านางไม่มีเอกสารเดินทางต่อ ต้องการพักไทย 2-3 วันก่อนไปหาเพื่อนต่างชาติ (เดาว่าคงรู้จักทางเน็ท) และคงค่อยคิดหาทางไปออสต่อ
ข้อนี้เป็นประเด็นหลักมากๆ แต่คนไม่สนใจ แต่กลับเชื่อคำกล่าวอ้างของนางฝ่ายเดียว ซึ่งบอกว่ากำลังหา second flight ตอนแรกนางบอกแค่ว่าหนีจากซาอุหรือคูเวตมาไทย แต่ยังไม่บอกว่า
flying to australua ซึ่งคำกล่าวเหล่านี้ถูกกำกับโดยนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านอิสลามมีการเปลี่ยนไปมาตลอด
2. คนไทยที่ต้องการซ้ำเติมทางการไทยบอกว่า ไทยยึดพาสปอร์ต ทั้งที่จากคำทวีตนางบอกว่าเจ้าหน้าที่ซาอุหรือคูเวตเป็นคนยึด แต่ผมว่าอาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกหก อย่างที่บอกคำทวีตนางเชื่อไม่ได้ เพราะนางไม่ใช่ innocent girl แต่ประเด็นนี้ไม่สำคัญเพราะถึงไม่ยึดพาสปอร์ตก็ผิดอยู่ดี เพราะไม่มีเอกสารเดินทางว่าจะออกจากไทยเมื่อไร
3. ทางการไทยให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ทั้งการให้ที่พักในโรงแรม การให้โอกาสเจอ unhcr ถึงแม้อาจล่าช้าไปบ้าง เพราะมีการปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ถ้าเป็นที่อื่นคงกักตัวในสนามบินอย่างคนไทยเจอที่เกาหลี ถ้าผีน้อยไทยอ้างว่า ถูกพ่อแม่บังคับขายตัว จะได้ลี้ภัยไหมครับ
4. นางอ้างว่ามีปัญหากับครอบครัว กลับไปจะโดนฆ่า ซึ่งไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ครอบครัวนางมีหน้าตาทางสังคม แค่ซ่อนนางไว้ในบ้าน ก็ไม่มีใครรู้ ออกไปข้างนอก ก็ปิดหน้าหมด ใครจะรู้ ซาอุก็เน้นเศรษฐกิจ ถ้าระดับบนทำเรื่องไม่ดี ก็อาจมีผลเสียต่อเศรษฐกิจได้ แค่นี้ไม่ใช่คดีหมิ่นราชวงศ์ ทางครอบครัวก็บอกว่านางมีปัญหาสมาธิสั้น ถ้ามองต่อไปในอนาคต ตรงนี้น่ากลัวมากนะครับ เพราะคนไข้โรคนี้อยู่ตัวคนเดียว มีปัญหาเรื่องการเรียนการทำงาน ที่น่ากลัวจะมีปัญหาการควบคุมตัวเอง impulse control ไม่ดี ซึ่งเสี่ยงต่อการติดยา ติดพนัน และสังคมในออสเตรเลียก็ไม่สวยงามเท่าไร มีด้านมืด ยิ่งเด็กที่ไม่เคยออกมานอกบ้าน แถมดูเหมือนมีปัญหาในการคบเพื่อนด้วย ดูแล้วน่ากลัว ถึงต่อต้านประเพณีอิสลาม ก็ไม่ควรแสดงออก online ให้สังคมรู้ขนาดนี้ รอไปประเทศที่ 3 ชัวร์ค่อยทำก็ได้ ขนาดยังอยู่ไทย ได้รับการรับรองเป็นผู้ลี้ภัย นางยังถ่ายเซลฟี่ตัวเองเลียนแบบเพื่อนตัวเอง คือ ใส่เสื้อแหวกให้เห็นร่องอกตรงกลางเห็นด้านในของเต้า คงกะเลียนแบบ mariah carey แต่ขอโทษคนละระดับ มารายห์ดูแพง ไฮโซ ของนางดู cheap มาก ถ้าเป็นพ่อแม่คนไทยเจอก็คงอึ้งนะ ถ้าแต่งโชว์เนินอกด้านบน ไม่โชว์เต้า ยังดูโอเคมีราคากว่า
สิ่งที่คนเชื่อเป็นสิ่งที่เพื่อนนางทางเน็ทกำกับให้นางทวีตทั้งนั้น เพื่อทำลายซาอุ อิสลาม ลามมาไทยด้วย
ฝรั่งบางคนยังบอกให้นางวิ่งหนีจากสนามบินมาสถานทูตยุโรป ขอความช่วยเหลือ ไม่รู้ใช่อะไรคิด
แต่ตอนนี้ก็มีคนออสเตรเลียด่านางนักข่าวสร้างกระแสแล้ว ทั้งที่ออสเตรเลียยังมีปัญหาค่ายผู้ลี้ภัยหรือค่ายกักกัน ทั้ง on shore และ off shore detention camp ซึ่งรอคนที่อยู่ออสมาเพิ่มดีกว่า แต่ที่ off shore ที่เกาะนาอูรู หลายปีที่ผ่านมา เขาว่าเหมือนค่ายกักกันสมัยสงครามโลก แร้นแค้นมาก เด็กฆ่าตัวตายกันเยอะ เรื่องนโยบายการจัดการผู้ลี้ภัยในยุโรป ผมว่าน่าจะดีกว่านะ มีการสอนภาษา จัดหางาน ให้เงิน แต่นั่นมันในอดีตสมัยสงครามยูโกสลาเวียที่ยังมีพื้นที่และตลาดแรงงานรองรับ ปัจจุบันไม่ทราบว่าเป็นไง ทั้งซีเรีย หรือพวกแอฟริกาเหนือ ได้ยินว่าออกมาเดินตามถนน ทำไมไม่ให้อยู่เป็นระเบียบในค่าย
จากกรณีข่าวสาวซาอุอายุ 18 โดนกักตัวที่สนามบิน ทำไมคนฟังความจากนางข้างเดียวครับ
ดังนั้นหมายความว่า นางจะเข้าไทยแล้วค่อยหาทางไปออสต่อ ไม่ใช่อยู่เฉพาะ transit zone จึงต้องขอวีซ่า on arrival ซึ่งคนซาอุจะเข้าไทยต้องขอ แล้วอยู่ได้ 15 วัน แต่ต้องแสดงตั๋วเครื่องบินขาออกจากไทย ซึ่งนางไม่มีอีกเช่นกัน งานนี้นางผิดเต็มๆ
ซึ่งก็สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ ตม.ไทย ที่บอกว่านางไม่มีเอกสารเดินทางต่อ ต้องการพักไทย 2-3 วันก่อนไปหาเพื่อนต่างชาติ (เดาว่าคงรู้จักทางเน็ท) และคงค่อยคิดหาทางไปออสต่อ
ข้อนี้เป็นประเด็นหลักมากๆ แต่คนไม่สนใจ แต่กลับเชื่อคำกล่าวอ้างของนางฝ่ายเดียว ซึ่งบอกว่ากำลังหา second flight ตอนแรกนางบอกแค่ว่าหนีจากซาอุหรือคูเวตมาไทย แต่ยังไม่บอกว่า
flying to australua ซึ่งคำกล่าวเหล่านี้ถูกกำกับโดยนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านอิสลามมีการเปลี่ยนไปมาตลอด
2. คนไทยที่ต้องการซ้ำเติมทางการไทยบอกว่า ไทยยึดพาสปอร์ต ทั้งที่จากคำทวีตนางบอกว่าเจ้าหน้าที่ซาอุหรือคูเวตเป็นคนยึด แต่ผมว่าอาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกหก อย่างที่บอกคำทวีตนางเชื่อไม่ได้ เพราะนางไม่ใช่ innocent girl แต่ประเด็นนี้ไม่สำคัญเพราะถึงไม่ยึดพาสปอร์ตก็ผิดอยู่ดี เพราะไม่มีเอกสารเดินทางว่าจะออกจากไทยเมื่อไร
3. ทางการไทยให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ทั้งการให้ที่พักในโรงแรม การให้โอกาสเจอ unhcr ถึงแม้อาจล่าช้าไปบ้าง เพราะมีการปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ถ้าเป็นที่อื่นคงกักตัวในสนามบินอย่างคนไทยเจอที่เกาหลี ถ้าผีน้อยไทยอ้างว่า ถูกพ่อแม่บังคับขายตัว จะได้ลี้ภัยไหมครับ
4. นางอ้างว่ามีปัญหากับครอบครัว กลับไปจะโดนฆ่า ซึ่งไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ครอบครัวนางมีหน้าตาทางสังคม แค่ซ่อนนางไว้ในบ้าน ก็ไม่มีใครรู้ ออกไปข้างนอก ก็ปิดหน้าหมด ใครจะรู้ ซาอุก็เน้นเศรษฐกิจ ถ้าระดับบนทำเรื่องไม่ดี ก็อาจมีผลเสียต่อเศรษฐกิจได้ แค่นี้ไม่ใช่คดีหมิ่นราชวงศ์ ทางครอบครัวก็บอกว่านางมีปัญหาสมาธิสั้น ถ้ามองต่อไปในอนาคต ตรงนี้น่ากลัวมากนะครับ เพราะคนไข้โรคนี้อยู่ตัวคนเดียว มีปัญหาเรื่องการเรียนการทำงาน ที่น่ากลัวจะมีปัญหาการควบคุมตัวเอง impulse control ไม่ดี ซึ่งเสี่ยงต่อการติดยา ติดพนัน และสังคมในออสเตรเลียก็ไม่สวยงามเท่าไร มีด้านมืด ยิ่งเด็กที่ไม่เคยออกมานอกบ้าน แถมดูเหมือนมีปัญหาในการคบเพื่อนด้วย ดูแล้วน่ากลัว ถึงต่อต้านประเพณีอิสลาม ก็ไม่ควรแสดงออก online ให้สังคมรู้ขนาดนี้ รอไปประเทศที่ 3 ชัวร์ค่อยทำก็ได้ ขนาดยังอยู่ไทย ได้รับการรับรองเป็นผู้ลี้ภัย นางยังถ่ายเซลฟี่ตัวเองเลียนแบบเพื่อนตัวเอง คือ ใส่เสื้อแหวกให้เห็นร่องอกตรงกลางเห็นด้านในของเต้า คงกะเลียนแบบ mariah carey แต่ขอโทษคนละระดับ มารายห์ดูแพง ไฮโซ ของนางดู cheap มาก ถ้าเป็นพ่อแม่คนไทยเจอก็คงอึ้งนะ ถ้าแต่งโชว์เนินอกด้านบน ไม่โชว์เต้า ยังดูโอเคมีราคากว่า
สิ่งที่คนเชื่อเป็นสิ่งที่เพื่อนนางทางเน็ทกำกับให้นางทวีตทั้งนั้น เพื่อทำลายซาอุ อิสลาม ลามมาไทยด้วย
ฝรั่งบางคนยังบอกให้นางวิ่งหนีจากสนามบินมาสถานทูตยุโรป ขอความช่วยเหลือ ไม่รู้ใช่อะไรคิด
แต่ตอนนี้ก็มีคนออสเตรเลียด่านางนักข่าวสร้างกระแสแล้ว ทั้งที่ออสเตรเลียยังมีปัญหาค่ายผู้ลี้ภัยหรือค่ายกักกัน ทั้ง on shore และ off shore detention camp ซึ่งรอคนที่อยู่ออสมาเพิ่มดีกว่า แต่ที่ off shore ที่เกาะนาอูรู หลายปีที่ผ่านมา เขาว่าเหมือนค่ายกักกันสมัยสงครามโลก แร้นแค้นมาก เด็กฆ่าตัวตายกันเยอะ เรื่องนโยบายการจัดการผู้ลี้ภัยในยุโรป ผมว่าน่าจะดีกว่านะ มีการสอนภาษา จัดหางาน ให้เงิน แต่นั่นมันในอดีตสมัยสงครามยูโกสลาเวียที่ยังมีพื้นที่และตลาดแรงงานรองรับ ปัจจุบันไม่ทราบว่าเป็นไง ทั้งซีเรีย หรือพวกแอฟริกาเหนือ ได้ยินว่าออกมาเดินตามถนน ทำไมไม่ให้อยู่เป็นระเบียบในค่าย