[CR] รีวิว เที่ยว@กระบี่ ไม่มีเบื่อ... 2018

กระทู้รีวิว

เที่ยวไทย เที่ยวเชิงอนุรักษ์ บันทึกนักเดินทาง โรงแรมรีสอร์ท สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ

มีโอกาสกลับไปเยือนกระบี่อีกครั้งเนื่องจากได้ตั๋ว TG ราคาน่าคบ มา ไม่พลาดสิคะ ไปกันสามคนอลเวง เช่ารถขับ อยากไปไหนเปิด google map จิ้ม ๆ แป๊บเดียวก็ถึง 555

DAY 1

ไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ ออกจากบ้านตี 5 ไปถึงสนามบิน เกือบ 6 โมง หาอะไรรองท้องก่อน เครื่องออก 8.00 น.ค่ะ มีฝนตกลงมาด้วย โชคดีที่ถึงสนามบินเรียบร้อย

บนเครื่องมีทีวี มีเกมส์ให้เล่น อาหารให้พร้อม นั่งกันไปก็ไม่เบื่อดีค่ะ

ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ก็ถึงสนามบินกระบี่ค่ะ ไปถึงประมาณ 9.20 น. ฟ้าใสแดดเปรี้ยง เยี่ยมเลยค่ะ

ระหว่างรอกระเป๋า พ่อลูก ก็แชทคุยกัน

รับกระเป๋าเรียบร้อยก็ไปกันต่อเลยค่ะ

เดินไปหารถเช่าที่จองไว้ ต้องไปอาคาร 1 นะคะ จองผ่าน Thai rent a car มีน้ำดื่มแจกฟรีให้ด้วย
ราคาการจองอยู่ที่ 1402 บาท ( 3 วัน) ซื้อประกันเพิ่มอีก 428 บาท (เคยไม่ซื้อประกันแล้วจอดรถไว้ กลับมาอีกทีรถเป็นรอยขูดยาว เสียตังค์ไปอีก 5,000 จำเลยค่ะ) มีการรูดกันวงเงินไว้ 5,000 บาท พอเอารถไปคืนเค้าก็จะคืนเงินให้ค่ะ

ในเอกสารการจองแจ้งว่าได้ รุ่น Mitsubishi Mirage แต่วันจริงไม่มีรถ เค้าเลยเปลี่ยนเป็น Nissan ALMERA ให้แทน เดินไปตรวจรับรถ ถ่ายรูปรอยไว้ให้หมดนะคะ เผื่อมีปัญหา

พร้อมแล้วก็ลุยกันเลยค่ะ

จุดหมายแรก คือ Hub Cafe เห็นคนรีวิว กันเยอะ เลยต้องตามมาซะหน่อย

คนในร้านเยอะเชียวค่ะ โชคดีมีโต๊ะว่าง เหลือ 1 โต๊ะพอดี

ที่นี่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มนะคะ เราสั่งแต่เครื่องดื่มค่ะ

น้ำแตงโมปั่น มีแตงโมชิ้นเบ้อเร่อ มาด้วย

อิ่มแล้ว ก็เข้าที่พักค่ะ เราพักที่ @ทับแขก ซันเซ็ท บีช รีสอร์ท อยู่ที่ ต.หนองทะเล อ.เมือง กระบี่

ภายในห้องค่ะ

มีอุปกรณ์พื้นฐานให้ครบ

ภายในห้องน้ำค่ะ

มีระเบียงหน้าห้องให้นั่งเล่น

ออกจากห้องมองลงไป เห็นทะเล แว้บ ๆ

เดินเล่นถ่ายรูปใน รีสอร์ท วนไปค่ะ

ฟ้าครึ้ม ๆ บ่ายสี่โมงแล้ว ได้เวลาไป คลองหรูด หรือ คลองรูด อันนี้ก็ตามรีวิวมาเหมือนกัน เห็นน้ำใสแจ๋ว เค้าบอกอยู่หนองทะเล ก็เลยปักหมุดไปหนองทะเล สรุปไปผิดที่ค่ะ เลยต้องวนรถออกมาใหม่ ไม่ไกลกันมาก ในที่สุดก็มาถึงจนได้

ติดต่อสอบถาม กันเรียบร้อย ที่นี่เค้ามีให้เช่าเรือคายัค พายเอง 200 บาท (ไม่จำกัดเวลา) แต่ถ้าเราพายไม่เป็นก็ จ้างฝีผาย ซึ่งก็เป็นพี่ ๆ ในชุมชนแถวนั้น เค้าจะพายให้ คิดราคา 200 บาท เราเลยตกลงให้พี่เค้าพายให้ดีกว่า พร้อมเรือ 2 ลำ จ่ายไป 800 บาท ค่ะ มีเสื้อชูชีพให้ใส่ เพื่อความปลอดภัย พร้อมแล้วก็ลุยค่ะ

เสร็จแล้วก็เตรียมตัวลงเรือกันเพื่อพายเข้าไปยัง คลองน้ำใส

มีตอไม้อยู่ใต้น้ำ ต้องพายไปตามทุ่นสีขาว ของเราเรือติด 2 ตอ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของพี่ๆ ก็หลุดออกมาได้

ระหว่างทางก็จะมีกล้วยไม้ป่าให้ชม ไปเรื่อย ๆ

พี่เค้าพาเราเข้าไปด้านในสุด เป็นจุดที่มีน้ำผุดขึ้นมา ถ้าเราเคาะเรือ หรือปรบมือเสียงดังน้ำจะผุดขึ้นมาตามจังหวะ

ยิ่งเข้าไปด้านใน น้ำยิ่งเย็น จุดนี้เราสามารถลงเล่นน้ำได้ตามสบาย พอดีเราไม่ได้เตรียมตัวไปเปียก เลยได้แค่ผ่านชม

อ้อยอิ่งกันอยู่สักพัก ก็กลับออกมาก่อนจะค่ำ ฟ้าครึ้ม ๆ มีฝนโปรยลงมาเบา ๆ แบบไม่เปียก

ก่อนขึ้นจากเรือ พี่เค้าก็อาสาถ่ายรูปให้ ใจดีจริง ๆ ค่ะ

ภาพอาจไม่สวยเท่าตาที่เห็นจริง อยากให้ลองไปสัมผัสสักครั้ง นะคะ ประทับใจจริง ๆค่ะ ธรรมชาติงดงามเสมอ

ขึ้นจากเรือ ก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี เราไปกินแถวท่าเรือสวนเจ้าฟ้ามีร้านอาหารอยู่ริมน้ำ หลายร้านให้เลือกชิม ระหว่างเดินเที่ยว มีคนเดินมาขายทัวร์เขาขนาบน้ำ แบบเช่าเหมาลำเป็นเรือหางยาว 500 บาท น่าสนใจ เก็บไว้เป็นโปรแกรมสำหรับวันพรุ่งนี้

DAY 2
ผ่านร้านนี้เมื่อวาน เห็นรถจอดหน้าร้านเยอะมาก ทนไม่ไหวเลยต้องขอแวะหน่อย ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ค่ะ
ร้านนี้ชื่อ The Tree House Cafe เมื่อก่อนเปิดเป็นร้านอาหาร แต่ขายไม่ค่อยดี เจ้าของเลยลงทุน Renovate แปลงโฉม ใหม่ คราวนี้ลูกค้าเพียบเลยค่ะ

เข้าไปในร้านร่มรื่น มีสะพานให้เดินบนยอดไม้ ที่นั่งให้เลือกมากมาย ด้านหลังมีลำธาร อากาศเย็นสบายมากค่ะ

กลับมานั่งห้องแอร์ เราสั่งน้ำส้มเม่ามาชิม ขอบแก้วมีพริกเกลือ ด้วย อร่อยดีค่ะ เปรี้ยว ๆ เผ็ด เบาๆ ฟินไปอีกแบบ
เมนูนี้ชื่อไทยว่า น้ำส้มเม่า-โซดา-พริกเกลือ ชื่ออังกฤษนางชื่อ Spiced MAO

บรรยากาศภายในห้องแอร์

นั่งชิลกันสัก พัก นัดน้องที่ขายทัวร์เขาขนาบน้ำไว้ 11.30 น. ขึ้นเรือที่ท่าเจ้าฟ้านะคะ น้องมาคอยอยู่ละ ไปถึงเที่ยงเลยให้พาไปทานข้าวก่อนที่ร้านขนาบน้ำวิวซีฟู๊ด เป็นร้านอาหารฮาลาล มุสลิมทานได้สบายเลยค่ะ