คำเตือน : บทความโดยเด็กหงส์ 🕊️

ความพ่ายแพ้ติดต่อกัน::

หลังจากที่แพ้หมาป่ามาเมื่อต้นสัปดาห์ ก็เป็นอันว่าปีนี้เราเริ่มต้นปีอย่างเท่ห์ๆ ด้วยการแพ้รวด และก็เป็นการตกรอบบอลถ้วยในประเทศทั้งหมดด้วยการลงเตะแค่นัดเดียว ซึ่งมันก็เหมือนการตกรอบแรกดีๆนี่เอง 🤣




ย้อนกลับไปที่ความพ่ายแพ้ในเกมแรกของปีต่อแมนซิตี้ อย่างที่ได้กล่าวไปในบทความก่อนหน้านี้ว่าลิเวอร์พูลโชคดีที่มาพลาดท่าแพ้ ในช่วงที่ยังแพ้ได้ มิหนำซ้ำก็ยังเป็นการแพ้ให้กับยอดทีมอย่างแมนซิตี้ ด้วยรูปเกมและทรงบอลที่ยังพอสูสี และไม่ได้ย่ำแย่ถึงกับสู้ไม่ได้ซะทีเดียว แต่แน่นอนว่ามันคงทำให้สภาพจิตใจของนักเตะเรือใบกลับมาฮึกเหิมอีกครั้ง ซึ่งเค้าก็ตอกย้ำด้วยการโชว์เกมบุกในเกมที่ใช้ทีมผสมไล่ถล่มสมันน้อยไปถึง 9-0  ซึ่งนับจากนาทีนั้นไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรือใบลำนี้จะมีการแล่นหลงเกาะแบบช่วงท้ายปีก่อนอีกซักรอบหรือเปล่า 😅😅

ส่วนในเกมล่าสุดที่เราตกรอบเอฟเอคัพนั้น ต้องยอมรับว่าลิเวอร์พูลไม่ได้อยากทิ้งถ้วยนี้เลย เพราะถึงแม้ว่าจะจัดทัพด้วยทีมที่ประกอบไปด้วยตัวหลักในชุดใหญ่แค่ 3 ราย (ซากิรี่, ฟาบินโญ่, ลอฟเรน) คลอปก็แสดงให้เห็นว่า ยังต้องการอยู่ในถ้วยใบนี้ ด้วยการตัดสินใจส่งซาลาห์และเฟอร์มิโน่มาในช่วงท้ายเกม แต่ก็สายเกินไปที่จะทำอะไรทีมที่แข็งแกร่งอย่างวูลฟ์ได้ 😢 แต่ถ้ายังสงสัยกันว่าเมื่อคลอปตั้งใจจริงจังกับถ้วยนี้แล้วทำไมถึงไม่ยอมส่งตัวหลักพวกนี้ลงไปตั้งแต่ต้นเกมเลยล่ะ แฟนบอลหงส์แดงส่วนใหญ่ก็คงจะทราบคำตอบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นเพราะขุมกำลังเชิงลึกของหงส์แดงยังไม่เพียงพอต่อการ "ลุยแหลก" ในทุกๆรายการ ดังนั้นการใช้ตัวเลือกที่อ่อนลงมา แต่ได้ความ "เต็มที่" กลับมาทดแทนมันย่อมดีกว่าการใช้ตัวหลักซึ่งจะต้องเสี่ยงกับความล้าและอาการบาดเจ็บ  และจากการตัดสินใจดังกล่าวก็ทำให้หงส์แดงต้องร่วงตกรอบไปด้วยฟอร์มที่ (เค้าว่า) ไม่เอาไหนอย่างที่เห็นกัน แต่นั่นก็เป็นการเล่นอย่างเต็มที่แล้วนะ เพราะด้วยข้อจำกัดทางด้านคุณภาพ มันก็แสดงผลออกมาได้เท่านี้ล่ะฮะ 😓

ดังนั้นเราก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเต็มภาคภูมิ เพราะทุกคนทำเต็มที่ตามขุมกำลังที่มี มันไม่มีใครมานั่งดีใจหรอกฮะกับการที่ทีมรักต้องกระเด็นตกรอบ เพียงแต่เมื่อมองถึงสิ่งดีๆ ในสิ่งที่แย่ๆ เราก็จะเห็นได้ว่า เรามีเกมที่โฟกัสน้อยหลง เท่ากับว่าเราบีบเป้าหมายที่มีให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง



กำลังใจของทีม::

ทุกๆความพ่ายแพ้ มันส่งผลไม่ดีต่อกำลังใจและความมั่นใจอยู่แล้ว แต่อย่าลืมไปว่าคลอปพักนักเตะหลักแทบทั้งหมดไว้แล้ว ดังนั้นผลกระทบทางด้านจิตใจ มันก็อาจจะคงมีอยู่ในนักเตะที่ลงสนามเกมล่าสุด และก็อาจกระเทือนมายังทีมงานที่เหลือบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่ก็ไม่น่าหวั่นใจอะไรมากมาย 🤔

เพราะถ้ามองให้ชัด การแพ้เกมแรกมันคือการแพ้แชมป์เก่าที่เป็นถึงเต็ง 1 ถ้วย UCL ส่วนเกมต่อมาก็เป็นเกมที่ใช้กำลังสำรองเล่นอย่างเต็มที่เท่านั้น ดังนั้นเส้นทางหลักที่เราใช้ตัวหลักลุยอยู่มันก็จะมีแค่บาดแผลจากเกมที่พ่ายแชมป์เก่าคงอยู่เท่านั้น ซึ่งในจุดนี้ค่อนข้างโชคดีที่มันทิ้งเวลาจากการพ่ายแพ้เกมนั้นมานานพอสมควร คลอปน่าจะเยียวยา และทำการเรียกความมั่นใจมาให้กับลูกทีมได้แล้ว ที่พูดแบบนี้เพราะด้วยความที่คลอปแสดง Passion ออกอย่างชัดเจนเสมอในทุกๆการแข่งขัน ดังนั้นด้วยประสบการณ์ตอนทำเสือเหลืองให้เป็นแชมป์ ก็จึงเข้าใจได้ว่า มันไม่ใช่เรื่องยากที่คลอปจะหาวิธีปฏิบัติกับลูกทีมให้มีกำลังใจกลับมาดังเดิม



 
ขุมกำลังที่น่าหวั่นใจ::

ถ้าติดตามข่าวลิเวอร์พูลอยู่ตลอด ก็พอจะทราบได้ว่า โจเอล มาติปนั้นมีแววว่าจะกลับมาลงสนามได้เร็ว ส่วนโกเมสก็ยังเป็นไปตามแพลน ดังนั้นถึงแม้ว่ากองหลังระดับโลกของเราจะเจ็บแบบงงๆในเกมที่ผ่านมา มันก็จะทำให้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ "เกือบวิกฤติ" ไปอย่างมากแค่ 2 สัปดาห์ เพราะตราบใดที่ฟานไดจ์ยังเป็นมนุษย์เหล็ก เราก็สามารถ auto upgrade คู่ขาของเค้าได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีข้อแม้ 🤗




ซึ่งคาดว่าผู้โชคดีรายนั้นคงไม่พ้นฟาบินโญ่ที่เพิ่งได้ลงซ้อมกับตำแหน่งใหม่ในเกมที่ผ่านมา และไม่ใช่แค่ตำแหน่งนี้เท่านั้นที่พ่อค้ายารายนี้จะได้ลงเล่น ยังมีแบ็คขวาอีกอันที่พี่เค้าเคยเล่นได้ดี ซึ่งการจากไปของไคลน์ก็คงเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้พี่เค้าได้เล่นในหลากหลายตำแหน่งเพื่อสืบทอดตำนานรองกัปตันจอมจับฉ่ายอย่างเจมส์ มิลเนอร์

ส่วนกำลังรบด้านอื่นๆนอกจากกองหลัง ก็ยังมองไม่เห็นว่าคลอปจะอยากดึงใครเข้ามาเติม เพราะด้วยความที่ 3 ประสานลงตัว บวกกับกำลังเสริมอย่างชากิรี่ และตัวรองๆอย่างพี่ยุง พี่ลัลล้า น้องเกอิต้า ถ้ามองที่ชื่อและคุณภาพ มันก็ยังพอให้อุ่นใจได้นิดนึง ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วแฟนหงส์หลายๆคนอาจจะหนักไปทางร้อนใจมากกว่า 😂 เพราะไอ่ชื่อดีๆที่ว่านั้น เล่นกันออกทะเลแบบกู่ไม่กลับกันไปหมดละฮะ 

แต่ยังไงก็เหอะ เชื่ออยู่อย่างนึงว่า คลอปคงมีใครในใจอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่เผยไต๋ออกมาเท่านั้นเอง เพราะดีลล่าสุดอย่างฟาบินโญ่พี่แกก็ซุ่มเงียบและก็ซื้อมาแบบฟ้าผ่าชนิดที่แฟนบอลหลายคนงงตาแตก ดังนั้นเราทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์!! เอ๊ยยยสุข ก็ยังคงแอบหวังได้ว่าคลอปคงมีใจให้กับใครซักคน (คนคนนั้นเป็นอาซาร์ผู้น้องได้มั้ย ถูกและน่าจะดีนะฮะ)

ส่วนออฟชั่นในการดึงบรรดาดาวรุ่งกลับมาช่วยทีมนั้น ปิดทิ้งไปได้เลย เพราะขนาดซีเนียร์อย่างไคลน์ยังโดนให้ยืมแถมไปกับค่าตัว 19 ล้านของพี่กี้ใจไม่ด้านพอ นับประสาอะไรกับการดึงเด็กกลับมาให้ซี้ม่องเท่ง ตูดด้านในม้านั่งสำรองกันล่ะ เพราะถ้ามองกันที่ความเป็นจริงดาวรุ่งที่ฟอร์มฮอตอย่างแฮรี่นั้น เล่นได้โดดเด่นกับลีครอง ซึ่งกระดูกบอลมันเทียบไม่ได้กับลีคสูงสุด ดังนั้นปล่อยให้เค้าได้ไปเกิดกับทีมของพี่แฟรงค์ยาวๆไปดีกว่า ได้โชว์ของอย่างเต็มที่ปีหน้าฟ้าใหม่กลับมาค่อยมาว่ากันใหม่ว่าจะมีโอกาสมากน้อยเพียงใด 

ก็สรุปได้ว่าด้านขุมกำลังนั้น เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีการเสริมเพิ่มเติมในเดือนนี้ นอกเสียจากว่ามาติปหรือโกเมสดันทะลึ่งมาเจ็บซ้ำเข้าไปอีก ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นทางเลือกที่เป็นไปได้ของคลอปคงเป็นการยืมนักเตะซะมากกว่าฮะ

  

ก้าวต่อไปอีกครั้ง::

สำหรับเกมถัดไปในการไปเยือนทีมกลางๆอย่างไบรท์ตัน มันดูเหมือนว่าจะเป็นเกมที่ไม่ยากลำบากนัก แต่เชื่อเถอะว่าด้วยความที่พ่ายแพ้มาสองนัดติดมันคงทำให้นักเตะมีโอกาสเกร็งอยู่บ้างเช่นกัน แต่ก็คาดว่าด้วยความนิ่งของหงส์แดงในฤดูกาลนี้ ก็น่าจะทำให้เกมนี้ผ่านไปด้วยดีได้นะฮะ  เพราะถ้าได้ 3 แต้มในเกมนี้ มันจะเป็นแต้มที่ใหญ่มาก เพราะด้วยโอกาสลงเตะก่อนทีมลุ้นแชมป์ทีมอื่นๆ มันมีโอกาสที่จะฉีกช่องว่างของคะแนนให้ห่างออกไป และเทความกดดันออกจากตัวไปได้  ดังนั้นเกมนี้มันอาจเป็น Mile stone ใหม่ที่หงส์แดงเพิ่งเจอในฤดูกาลนี้ ก็คือการฟื้นตัวกลับมาให้ได้อย่างรวดเร็ว ... นอกจากแต้มที่ได้ กำลังใจก็กลับมา ที่สำคัญโมเมนตัมมันจะตกมาอยู่กับเราอีกครั้ง และด้วยความโชคดีจากเกมที่น้อยลงเพราะทะลึ่งร่วงบอลถ้วยอย่างรวดเร็ว มันก็จะทำให้เราน่าจะมีขุมกำลังที่เพียงพอในการลุ้นบนเส้นทางสายหลักอย่างมั่นคงอีกครั้งหนึ่ง




มันก็มีแค่นี้ล่ะฮะสำหรับทีมฟุตบอลทีมนึง เสมอ ชนะ แพ้ แพ้  เอ๊ยยย!!! พอแล้ว 😂🤣 ใช่ฮะมีแค่นี้จริงๆ ลุก ล้ม คลาน กระโดด วิ่ง มองเป้าให้ชัด มองทางให้ดี และก็เดินระวังๆ สักวันมันจะถึงเป้าหมายอย่างแน่นอน แต่วันที่หวังไว้นั้น ก็ขอให้เป็นฤดูกาลนี้ละกัน ในรอบ 28 ปี ไม่มีปีไหนที่ขุมกำลังของทีมจะพร้อมไปกว่านี้แล้ว ระยะทางยังอีกยาวไกล แต่รับรองว่าถ้าเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง เดี๋ยวมันก็จะใกล้ ใกล้จนเข้าถึงได้ในเร็ววัน  โชคดีที่วันนี้เราเดินไปข้างหน้าโดยมี Passion ในหัวใจ ซึ่งมันก็ถ่ายทอดมาโดยตรงจากผู้นำ ไปยังลูกทีมและลามมาถึงแฟนบอล 

อยากให้คลอปเป็นผู้นำพาความสำเร็จกลับมาสู่แอนฟิลด์  ไม่ว่าจะเป็นปีนี้หรือปีไหนก็ยังต้องการให้เค้าเป็นคนแรกของเราฮะ 🥰

เก็บตัวเก็บใจ ลุ้นกันเกมต่อเกม และหวังว่าวันนึง คลอปจะเป็นคนเปิด sing ให้ผม 😘😚 และแฟนหงส์ทุกๆ คนนะฮะ

ปล. เนื่องจากเกมล่าสุด สังขารไม่ไหวไม่ได้มาลุ้น เลยไม่มีคำชมหรือคำบ่นให้กับนักเตะของเรา วันนี้ก็เลยมาไม่ค่อยยาวนะฮะ  แล้วมาลุ้นตาตั้งกันในวันที่เยือนไบรท์ตันกันฮะ บาย...🥰