มกราคม 2532 บริษัท "เจเอสแอล" ได้ถือกำเนิดรายการโทรทัศน์แนวตลก ออกอากาศในช่วงวันอาทิตย์ โดยให้ชื่อรายการนี้ว่า "ยุทธการขยับเหงือก"
จากวันนั้นทำให้ผู้ที่เคยชมรายการนี้คุ้นเคยกับเหล่าพิธีกรที่ใช้เปลืองที่สุดแถมยังเรียกขึ้นต้นพวกเขาว่า "เสนา" ส่วนผู้หญิงให้เรียกว่า "เลขา"
จุดเด่นของรายการคือการเชิญดาราทั่วฟ้าเมืองไทยซึ่งมีผลงานที่กำลังฮิตหรือฮอตมาร่วมรายการ และมีการแสดงละครสั้น ๆ เพื่อสร้างความสนุกสนานเฮฮาต่อหน้าผู้ชม
โดยช่วงท้ายจะมีการไขปมด้วยการกลั่นแกล้งและหักหลังเพื่อเอาคืน ซึ่งดาราหรือพิธีกรกันเองล้วนต้องผ่านจุดนี้ไปให้รอด รายการจึงจบลงด้วยความระรื่น นี่คือเอกลักษณ์ของความไร้สาระที่ไม่ไร้สาระตามแบบฉบับของรายการ
ด้วยความนิยมอย่างมากล้นต่อรายการนี้ ทางรายการยังได้มีการจัดคอนเสิร์ตครั้งใหญ่เอาใจแฟนรายการที่อยากจะรับชมโชว์และมุขตลกที่มีบางตอนไม่สามารถแพร่ภาพทางโทรทัศน์ซึ่งมีข้อจำกัดในการนำเสนอได้ จึงเกิด "หัวหกก้นขวิด" ขึ้นมา ซึ่งประสบผลสำเร็จมาแล้วทุกครั้ง
จนกระทั่งปลายปี 2540 รายการยุทธการขยับเหงือกได้ประกาศยุติการออกอากาศ สร้างความอาลัยและความคิดถึงของผู้ชมรายการเป็นอย่างมาก แม้รายการจะไม่ไปต่อ แต่ทว่านั่นคือจุดเล็ก ๆ ของเหล่าเสนาและเลขาที่ยังได้ผลิดอกออกผลอันยิ่งใหญ่ของแต่ละคนในเวลาถัดมาจวบถึงทุกวันนี้
หลายคนยังคงวนเวียนในวงการบันเทิง ถึงขั้นมีอาณาจักรเป็นของตัวเอง บ้างกลายเป็นพิธีกรระดับคุณภาพที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจยิ่งนัก บ้างเป็นนักกีฬาคว้าเหรียญมานักต่อนัก บ้างได้ออกเพลงใหม่ บ้างอยู่เบื้องหลังจนมีลูกหล่อหรือสวย บ้างหายหน้าหายตาจากวงการไป
สิ่งเหล่านั้นน่าจะเป็นเหตุที่แฟนรายการบางคนมีความคิดขึ้นมาว่า...ถ้าหากเหล่าพิธีกรทั้ง 12 ชีวิตมีความพร้อมหรือพอมีเวลาไปช่วยงานเพื่อคนที่เคยสนิทสนม ก็อยากให้มีการรวมตัวกันอีกสักครั้ง
30 ปีแล้วที่ยังคิดถึงรายการนี้ ก็ไม่แน่ว่าในอีกไม่ช้า เราคงจะมีโอกาสได้ดูการโชว์ตัวของเหล่าพิธีกรทั้งหมดพร้อมกันในรูปแบบคอนเสิร์ต เพื่อให้รายการ "ยุทธการขยับเหงือก" และคอนเสิร์ต "หัวหกก้นขวิด" จะเป็นที่ประทับใจอย่างสุดซึ้งไม่มีวันลืม ถ้าการรวมตัวในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย...ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ฉันจึงขอเรียนเชิญให้แฟนรายการที่อยู่ทางนี้ได้ร่วมเสนอด้วยกัน จะตั้งชื่อคอนเสิร์ตนี้ว่าอะไรดี จัดแสดงที่ไหน ใครจะมาเป็นแขกรับเชิญ หรืออะไรที่คุณอยากจะเห็นบ้าง ก็บอกมาด้วยนะ สวัสดี.
(ภาพปกนิตยสาร ชีวิตชีวา ฉบับที่ 69, 1 พฤศจิกายน 2538)
อยากเห็นเหล่าเสนายุทธการขยับเหงือกทั้งหมดกลับมารวมตัวบนเวทีคอนเสิร์ต...ขอหนึ่งเสียง!
จากวันนั้นทำให้ผู้ที่เคยชมรายการนี้คุ้นเคยกับเหล่าพิธีกรที่ใช้เปลืองที่สุดแถมยังเรียกขึ้นต้นพวกเขาว่า "เสนา" ส่วนผู้หญิงให้เรียกว่า "เลขา"
จุดเด่นของรายการคือการเชิญดาราทั่วฟ้าเมืองไทยซึ่งมีผลงานที่กำลังฮิตหรือฮอตมาร่วมรายการ และมีการแสดงละครสั้น ๆ เพื่อสร้างความสนุกสนานเฮฮาต่อหน้าผู้ชม
โดยช่วงท้ายจะมีการไขปมด้วยการกลั่นแกล้งและหักหลังเพื่อเอาคืน ซึ่งดาราหรือพิธีกรกันเองล้วนต้องผ่านจุดนี้ไปให้รอด รายการจึงจบลงด้วยความระรื่น นี่คือเอกลักษณ์ของความไร้สาระที่ไม่ไร้สาระตามแบบฉบับของรายการ
ด้วยความนิยมอย่างมากล้นต่อรายการนี้ ทางรายการยังได้มีการจัดคอนเสิร์ตครั้งใหญ่เอาใจแฟนรายการที่อยากจะรับชมโชว์และมุขตลกที่มีบางตอนไม่สามารถแพร่ภาพทางโทรทัศน์ซึ่งมีข้อจำกัดในการนำเสนอได้ จึงเกิด "หัวหกก้นขวิด" ขึ้นมา ซึ่งประสบผลสำเร็จมาแล้วทุกครั้ง
จนกระทั่งปลายปี 2540 รายการยุทธการขยับเหงือกได้ประกาศยุติการออกอากาศ สร้างความอาลัยและความคิดถึงของผู้ชมรายการเป็นอย่างมาก แม้รายการจะไม่ไปต่อ แต่ทว่านั่นคือจุดเล็ก ๆ ของเหล่าเสนาและเลขาที่ยังได้ผลิดอกออกผลอันยิ่งใหญ่ของแต่ละคนในเวลาถัดมาจวบถึงทุกวันนี้
หลายคนยังคงวนเวียนในวงการบันเทิง ถึงขั้นมีอาณาจักรเป็นของตัวเอง บ้างกลายเป็นพิธีกรระดับคุณภาพที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจยิ่งนัก บ้างเป็นนักกีฬาคว้าเหรียญมานักต่อนัก บ้างได้ออกเพลงใหม่ บ้างอยู่เบื้องหลังจนมีลูกหล่อหรือสวย บ้างหายหน้าหายตาจากวงการไป
สิ่งเหล่านั้นน่าจะเป็นเหตุที่แฟนรายการบางคนมีความคิดขึ้นมาว่า...ถ้าหากเหล่าพิธีกรทั้ง 12 ชีวิตมีความพร้อมหรือพอมีเวลาไปช่วยงานเพื่อคนที่เคยสนิทสนม ก็อยากให้มีการรวมตัวกันอีกสักครั้ง
30 ปีแล้วที่ยังคิดถึงรายการนี้ ก็ไม่แน่ว่าในอีกไม่ช้า เราคงจะมีโอกาสได้ดูการโชว์ตัวของเหล่าพิธีกรทั้งหมดพร้อมกันในรูปแบบคอนเสิร์ต เพื่อให้รายการ "ยุทธการขยับเหงือก" และคอนเสิร์ต "หัวหกก้นขวิด" จะเป็นที่ประทับใจอย่างสุดซึ้งไม่มีวันลืม ถ้าการรวมตัวในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย...ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ฉันจึงขอเรียนเชิญให้แฟนรายการที่อยู่ทางนี้ได้ร่วมเสนอด้วยกัน จะตั้งชื่อคอนเสิร์ตนี้ว่าอะไรดี จัดแสดงที่ไหน ใครจะมาเป็นแขกรับเชิญ หรืออะไรที่คุณอยากจะเห็นบ้าง ก็บอกมาด้วยนะ สวัสดี.