ถ้าคุณเข้าใจการเมืองของฟุตบอลไทย จะไม่มีคำถามนี้เลย
เพราะสโมสรไทยแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งอย่างเห็นได้ชัด

ฟุตบอลไทยโชคดีตรงที่รอดจากความด้านขั้นสุดของยุคก่อนมาได้ด้วย FIFA
ทำให้การเลือกตั้งครั้งนั้นได้รีเซทสมาคมฟุตบอลใหม่

สมยศเองเป็นแค่ตุ๊กตาของขั้วอำนาจฝั่งกลุ่มชลบุรี บุรีรัมย์
ที่มี Power พอที่จะต่อกรกับอำนาจของสมาคมเก่าได้
อย่าลืมว่าก่อนหน้านั้น ชลบุรี เคยส่งโค้ชเฮง อรรถนพ แม้แต่คุณพินิจ เชียร์ไทยยังเคยลงเลือกตั้ง
แต่ด้วยระบบสิทธิการเลือกตั้งทั้งสโมสรผี หรือสัดส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ผิดปกติ ทำให้ยังไง ก็ไม่มีใครล้มได้

นาทีนี้พูดตามตรงสมยศออกได้ครับ ฝั่งชลบุรี บุรีรัมย์ และ King Power ก็ต้องหาคนใหม่มาแทนลงเลือกตั้ง
สู้กับกลุ่มอนาจเก่าเมืองทอง บีอีซี โอสถสภา และกรมพละ เป็นต้น

ถามว่าการที่คุณคิดว่าใครสักคนจะขี่ม้าขาว เพียบพร้อมคุณสมบัติเดินมาหาเสียง
โดยไม่มี Back Up จากอำนาจอะไร แล้วสโมสรจะเอาด้วย แทบจะเป็นไไม่ได้เลย

ประเด็นสำคัญคือ ตราบเท่าที่สมยศ หรือขั้วอำนาจจากบุรีรัมย์ ชลบุรี และ King Power ไม่แตกคอ และบริหารภาพรวมฟุตบอลไทยได้ดี สโมสรต่างๆ พอใจ ไม่มีเรื่องการทุจริต การเปลี่ยนหัวเรือนายกสมาคม ก็ไม่มีผลอะไรต่อฟุตบอลทีมชาติไทยเท่าไหร่หรอกครับ

เชื่อลึกๆ ว่า Back Up สมยศเองก็อยากเห็นทีมชาติผลงานออกมาดีเช่นกัน
ความผิดพลาดที่สุดคือการคัดเลือกโค้ชที่ผ่านๆ มา
ถ้าเข้าใจว่าทำไมโค้ชเฮงต้องออกไปทำแต่เยาวชน ก็น่าจะทราบว่า Back Up เขาก็ร้อนเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน