หนึ่งในเมืองที่ลิสต์ไว้ว่าครั้งนึงในชีวิตต้องมาให้ได้ “พุกาม” เคยนั่งเล่นพันทิพแล้วเห็นรูปทะเลเจดีย์ไหมคะ นึกภาพว่าถ้าได้ไปอยู่ตรงนั้น ยืนรอพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า แล้วค่อยๆเห็นยอดเจดีย์โผล่มาจากความมืดที่ละองค์ๆ จนพระอาทิตย์ขึ้นเต็มดวง แล้วพบว่ามีเจดีย์ที่อยู่ตรงหน้ามากมาย จนแทบจะนับไม่ไหว ถ้าเคย อย่ารอช้า อ่านกะทู้นี้แล้วจองตั๋วไปเมียนมากันเลย
ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27-31 ธันวาคม 2018 ใช้เวลาวางแพลนและจองตั๋วตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นครั้งแรกที่หว่านล้อมพ่อแม่ให้ไปเที่ยวนอกประเทศไทยได้สำเร็จ ด้วยเหตุผลว่าจะพาพ่อไปสักการะเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุประจำปีนักษัตรปีมะเมีย ที่พ่อเกิด แต่จริงๆคือลูกอยากพ่วงขอไปพุกามด้วย แต่ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เลยแวะไปมัณฑะเลย์ด้วยแล้วกัน
แพลนการเดินทาง :
5 วัน 4 คืน (นอนบนรถ 2 คืน นอนโรงแรม 2 คืน)
-27 ธ.ค. เที่ยวย่างกุ้งทั้งวัน – นั่งรถตอนกลางคืนไปมัณฑะเลย์
-28 ธ.ค. เที่ยวมัณฑะเลย์ทั้งวัน – นอนค้างที่ 79 Living Hotel ห้องละ 600 กว่าบาท จองผ่าน agoda (ห้องพักดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ อาหารโอเค มีรูฟท้อปบาร์)
-29 ธ.ค. เที่ยวมัณฑะเลย์ช่วงเช้า แล้วนั่งรถไปพุกามใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง เที่ยวพุกามได้ 2-3 ที่ – นอนค้างที่ Innwa Motel ห้องละ 900 กว่าบาท บริการดี ห้องโอเค อาหารไม่ค่อยโอเค สามารถฝากของออกไปเที่ยว แล้วกลับมาอาบน้ำ ก่อนนั่งรถกลับย่างกุ้งได้โดยไม่เสียเงิน)
ที่พักที่พุกาม แนะนำให้พักแถบ nyaung u เพราะว่าจะใกล้กับ พุกามเก่า (Old bagan) ที่มีเจดีย์เยอะๆ มากกว่าแถบพุกามใหม่ (New bagan)
-30 ธ.ค. เที่ยวพุกามทั้งวัน – นั่งรถตอนกลางคืนไปย่างกุ้ง
-31 ธ.ค. เที่ยวย่างกุ้งช่วงเช้า แล้วกลับไทย
เงิน :
คิดแบบง่ายๆว่า 1,000 Ks (จ๊าด) = 20 บาท
หรือเอาแบบละเอียดให้โหลดแอพ XE currency สามารถเทียบเงินบาทไทย-จ๊าด-ดอลล่า ได้ทีเดียวเลย
ค่าใช้จ่ายก่อนไปมี -ค่าตั๋วเครื่องบินไป/กลับ ดอนเมือง-ย่างกุ้ง = 2,600 บาท
-โรงแรม 2 คืน ประมาณ 2,000 บาท / 4 คน
-ค่ารถบัส VIP ของ E-lite (ซื้อที่พม่า โทรให้มารับที่โรงแรมได้)
ย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์ = 22,300 Ks = 465 บาท
และพุกาม-ย่างกุ้ง = 22,800 Ks = 476 บาท
-รถมินิบัส OK express (จองผ่านเวป myanmarbusticket.com ตัดบัตรเครดิต ให้มารับที่โรงแรมได้)
มัณฑะเลย์-พุกาม = 10.32 US = 340 บาท
ค่าใช้จ่ายที่เหลือ มีค่าเข้าสถานที่ ค่ากิน ค่าทำบุญ และซื้อของ
ให้แลกเงินไทยเป็นดอลล่า ตอนแลกให้บอกพนักงานว่าขอแบงค์ใหม่ ไม่ยับ จะไปเมียนมา
จากนั้นแลกเป็นเงินจ๊าด ที่สนามบิน
สรุป ทั้งทริปใช้ไปประมาณคนละ 13,000 บาท (ไม่รวมค่าไกด์ และรถ 3 วัน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนแรกทริปนี้กะว่าจะไปแบบเรื่อยๆ แบคแพคกันไป จ้างรถแท็กซี่เหมาเที่ยว เอาแพลนให้เขาดู แล้วให้เขาตีราคามา แต่วันจริงมีการเปลี่ยนแพลน คนรู้จักที่ย่างกุ้งช่วยจองรถ 7 ที่นั่งพร้อมคนขับชาวเมียนมา (บริการดีมากๆ เวลาลงไปเที่ยวเสร็จ จะกลับขึ้นรถ แค่มองเห็นรถเจอ ประตูก็จะเปิดทันที) พาเที่ยวตั้งแต่มัณฑะเลย์ จนไปถึงพุกาม + ไกด์ชาวเมียนมาให้ (เคยอยู่ไทย พูดไทยได้ ฟังรู้เรื่อง ดูแลดี ให้ความรู้เยอะมาก ทั้งประวัติแต่ละที่ ฟังแล้วอินกับสถานที่นั้นๆมากขึ้นมากๆ แล้วก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศเมียนมา ทำให้เปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับประเทศเขาไปเลย ช่วยสั่งอาหารให้เราสามารถกินได้ อยากจะไปที่ไหนก็ให้พี่จัดให้ได้ ตอนไปพุกาม มีเวลาเที่ยว 1 วัน พี่ก็พาไปได้เยอะมาก ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะได้เยอะขนาดนี้ บอกพี่ว่าพอแล้วก็ได้ๆกลับกันเลย แต่พี่ก็บอกไม่เป็นไรๆ ไปที่นี่ก่อนๆ คือตั้งใจพาไปมากๆ มีบางวัดที่มีจิตรกรรมฝาผนัง พี่ก็ค่อยๆพาดู วิเคราะห์ภาพกัน คือดีมากๆ ประทับใจ)
จากที่คิดว่าจะไปเที่ยวกันเองแบบสุ่มๆไป กลับได้เที่ยวแบบสบายมาก ก็อยากแนะนำว่าถ้าใครไม่อยากเที่ยวเอง ไม่อยากเสียเวลากับการดูแผนที่ หาที่จอด ก็จ้างไกด์ กับรถรับจ้างได้นะคะ ก็ต้องขอบคุณพี่ๆที่ย่างกุ้ง ที่ช่วยจัดการให้ทริปนี้สมบูรณ์มากๆ เป็นทริปที่ประทับใจ ได้ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับประเทศเมียนมา และได้รับสิ่งดีๆมากมาย ส่วนเรื่องราคาทั้งไกด์และรถ ไม่ทราบราคานะคะ เนื่องจากพี่ที่จ้างให้เป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ แต่สามารถแนะนำพี่ไกด์ให้ได้
อาหาร :
เป็นสิ่งที่กังวลมากที่สุด ก่อนไปอ่านกะทู้เยอะมาก ส่วนใหญ่บอกว่าอาหารค่อนข้างไม่ถูกปาก พอไปจริงๆก็ไม่ขนาดนั้น พี่ที่อยู่ที่นั่นบอกว่า เข้าร้านถูกก็อร่อยไปเลย ถ้าผิดก็... ไปเลย ที่เมียนมามีร้านอาหารคล้ายๆข้าวแกงบ้านเราเยอะมาก แต่ที่นี่เรียกร้านน้ำชา มองไปข้างทางต้องเจอตลอด คนที่นี่ไม่ค่อยกินน้ำเย็นกัน ส่วนใหญ่กินน้ำชาร้อน
ราคาอาหารไม่แพงเลย ค่าครองชีพเขาไม่สูง กินร้านดีๆมื้อนึงไม่เกิน 1 พันบาทไทย ต่อ 5 คน แบบอิ่ม ยิ่งถ้าร้านน้ำชาสั่งมาเต็มโต๊ะ ไม่เกิน 300 บาทไทย
อื่นๆ :
การเข้าวัดทุกที่ต้องถอดรองเท้า บางที่ต้องเสียเงินฝากรองเท้า แนะนำว่าให้พกถุงไปใส่รองเท้า หรือถอดทิ้งไว้ในรถตั้งแต่ลานจอด ไม่ต้องกลัวสกปรก เพราะว่าสกปรกแน่ๆ ตอนแรกพกทิชชู่เปียกไปคิดว่าจะเช็ด แต่เอาเข้าจริงไม่ได้ใช้เลย ถอดรองเท้าแทบทุกที่ๆไป เพราะว่าไปวัดทุกที่ 55555 เลยล้างเท้าทีเดียวตอนเย็นดีกว่า
ขอเล่าจากสิ่งที่ได้พบเจอมา + ความรู้ที่ได้จากพี่ไกด์ ผิดถูกยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ
Day 1
1.ย่างกุ้ง เป็นเมืองที่รถ ติด มาก นึกว่าอยู่กรุงเทพ รถมีทั้งแบบพวงมาลัยซ้าย และขวา แต่เวลาขับจะอยู่เลนขวา มีการบีบแตรทุกสถานการณ์ จนงงว่า เตือนหรือด่า (ถ้าอยู่เมืองไทยนี่มีเรื่องแน่ๆ) ข้ามถนนก็ข้ามยากมาก เหมือนต้องวัดใจว่าจะชนมั้ย บางทีคิดว่าข้ามได้แน่ๆ แต่อยู่ๆรถก็พุ่งมาด้วยความเร็ว
ช่วงเวลาที่ไป เป็นช่วงเวลาที่เกือบทุกสถานที่ในย่างกุ้งกำลังบูรณะอยู่
1.1 เจดีย์ชเวดากอง Shwedagon Pagoda : ค่าเข้า 10,000 Ks
ควรไปช่วงเช้า ไม่ก็เย็นไปเลย ไม่งั้นจะร้อน ต้องขึ้นลิฟท์ขึ้นไป ผู้หญิงหรือชายถ้าใส่ขาสั้น,กางเกงพอดีตัว ต้องยืมผ้าถุงมาใส่ (มัดจำเงินไว้) ขึ้นไปก็ตะลึงในความใหญ่ ใหญ่มาก คิดว่าถ้ามาตอนบูรณะเสร็จต้องตะลึงในความเหลืองอร่ามด้วยแน่ๆ พอไหว้องค์เจดีย์เสร็จก็ไหว้พระ เทพ และสัตว์ประจำวันเกิดต่อ จากนั้นรดน้ำพระประจำวันเกิด ต่อด้วยเทพ และสัตว์ จำนวนตามอายุ+1 เสร็จก็เดินดูรอบๆ มีส่วนย่อยๆอีกหลายที่เลย ที่นี่ใหญ่มาก
1.2 ร้านน้ำชา
มื้อแรกที่กินสั่งอาหารคล้ายๆข้าวซอย เป็นเส้นเหนียวๆคล้ายๆเส้นเล็ก+ขนมจีน ใส่ลูกชิ้นชุบแป้งทอด ในน้ำที่คล้ายๆน้ำข้าวซอย ค่อนข้างเลี่ยนมาก แต่ติดใจน้ำชา เป็นชาร้อน รสชาติคล้ายชาลิปตันแบบถุง ชงใส่นม หอม อร่อย ติดใจกันทุกคนจนต้องซื้อกลับบ้าน
1.3 พระเจดีย์สุเล Sule Pagoda : 4,000 Ks
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง ใกล้ๆมีตึกราชการ และหลักกิโลเมตรที่ 0
1.4 เจดีย์โบตะตาว Botahtaung Pagoda /เทพทันใจ (นัตโยโบยี)/เทพกระซิบ เมี๊ยนานหน่วย : 6,000 Ks
ช่วงที่ไปกำลังบูรณะอยู่ เลยได้แค่ไหว้ด้านนอก มองกระจกเข้าไปจะเห็นพระธาตุอยู่ ใกล้ๆกันสามารถขอพรกับเทพทันใจ หรือเทพกระซิบ เราขอพรกับเทพทันใจ โดยขอได้เพียงขอเดียว ต้องคิดดีๆก่อนว่าจะขอว่าอะไร ม้วนแบงค์ 2 ใบ สอดไปในมือท่าน เอาหน้าผากแตะนิ้ว แล้วขอพร เสร็จก็ลูบไม้เท้าท่านสามครั้ง
1.5 วัดเจ้าทัตจี หรือพระตาหวาน Chauk Htat Kyi Pagoda
อีกครั้ง.. ที่มีการบูรณะ เข้าไปก็ตะลึงในความใหญ่ ท่านองค์ใหญ่มาก ดูรูปแล้วเฉยๆ แต่พอมาเห็นของจริงแล้ว ใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะเลย ตาท่านก็หวานจริงๆ ขนาดมองผ่านนั่งร้านยังสวย ถ้าบูรณะเสร็จต้องสวยมากแน่ๆ
1.6 วัดงาทัตจี หรือพระนั่งสมาธิ Nga Htat Kyi Pagoda
อยู่ไม่ไกลจากพระนอน ต้องข้ามถนนมาอีกฝั่ง ท่านองค์ใหญ่เช่นกัน ข้างหลังเป็นไม้แกะสลัก สวยมาก
1.7 ร้านอาหาร
ได้กินเมนูใหม่ ก๋วยเตี๋ยวรัฐฉานแห้ง อร่อย มากกกก ตอนแรกอิ่มมาก ไม่หิว แต่พอกินคำแรก รู้ตัวอีกทีก็หมดชามไปแล้ว เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติอธิบายไม่ถูก แต่ถูกปาก ไม่มัน เลยตั้งใจว่าจะกินแต่ก๋วยเตี๋ยวฉานทั้งทริป
1.8 ไปท่ารถบัส
จองรถกับบริษัท E-lite ควรเผื่อเวลาเดินทางมาท่ารถดีๆ เพราะ รถ ติด มาก ตอนกลางคืนเปิดไฟสูงเกือบทุกคัน ท่ารถวุ่นวายมาก มีหลายบริษัท หลายซอยยิบย่อย เผื่อเวลาเยอะๆหน่อย รถก็ดีอยู่ แอร์หนาวมาก มีจอดพักรถตอนเที่ยงคืน ต้องลงทุกคน ข้างนอกหนาวมาก จำทะเบียนรถไว้ด้วย มีอาหารให้กินแต่ไม่แน่ใจว่าฟรีมั้ย แต่ที่แน่ๆ คนเยอะมาก
(ต่อในคอมเม้นท์นะคะ)
[เที่ยวเมียนมา] ย่างกุ้ง - มัณฑะเลย์ - พุกาม : 27-31 ธันวาคม 2018 (5 วัน 4 คืน)
ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27-31 ธันวาคม 2018 ใช้เวลาวางแพลนและจองตั๋วตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นครั้งแรกที่หว่านล้อมพ่อแม่ให้ไปเที่ยวนอกประเทศไทยได้สำเร็จ ด้วยเหตุผลว่าจะพาพ่อไปสักการะเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุประจำปีนักษัตรปีมะเมีย ที่พ่อเกิด แต่จริงๆคือลูกอยากพ่วงขอไปพุกามด้วย แต่ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เลยแวะไปมัณฑะเลย์ด้วยแล้วกัน
แพลนการเดินทาง :
5 วัน 4 คืน (นอนบนรถ 2 คืน นอนโรงแรม 2 คืน)
-27 ธ.ค. เที่ยวย่างกุ้งทั้งวัน – นั่งรถตอนกลางคืนไปมัณฑะเลย์
-28 ธ.ค. เที่ยวมัณฑะเลย์ทั้งวัน – นอนค้างที่ 79 Living Hotel ห้องละ 600 กว่าบาท จองผ่าน agoda (ห้องพักดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ อาหารโอเค มีรูฟท้อปบาร์)
-29 ธ.ค. เที่ยวมัณฑะเลย์ช่วงเช้า แล้วนั่งรถไปพุกามใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง เที่ยวพุกามได้ 2-3 ที่ – นอนค้างที่ Innwa Motel ห้องละ 900 กว่าบาท บริการดี ห้องโอเค อาหารไม่ค่อยโอเค สามารถฝากของออกไปเที่ยว แล้วกลับมาอาบน้ำ ก่อนนั่งรถกลับย่างกุ้งได้โดยไม่เสียเงิน)
ที่พักที่พุกาม แนะนำให้พักแถบ nyaung u เพราะว่าจะใกล้กับ พุกามเก่า (Old bagan) ที่มีเจดีย์เยอะๆ มากกว่าแถบพุกามใหม่ (New bagan)
-30 ธ.ค. เที่ยวพุกามทั้งวัน – นั่งรถตอนกลางคืนไปย่างกุ้ง
-31 ธ.ค. เที่ยวย่างกุ้งช่วงเช้า แล้วกลับไทย
เงิน :
คิดแบบง่ายๆว่า 1,000 Ks (จ๊าด) = 20 บาท
หรือเอาแบบละเอียดให้โหลดแอพ XE currency สามารถเทียบเงินบาทไทย-จ๊าด-ดอลล่า ได้ทีเดียวเลย
ค่าใช้จ่ายก่อนไปมี -ค่าตั๋วเครื่องบินไป/กลับ ดอนเมือง-ย่างกุ้ง = 2,600 บาท
-โรงแรม 2 คืน ประมาณ 2,000 บาท / 4 คน
-ค่ารถบัส VIP ของ E-lite (ซื้อที่พม่า โทรให้มารับที่โรงแรมได้)
ย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์ = 22,300 Ks = 465 บาท
และพุกาม-ย่างกุ้ง = 22,800 Ks = 476 บาท
-รถมินิบัส OK express (จองผ่านเวป myanmarbusticket.com ตัดบัตรเครดิต ให้มารับที่โรงแรมได้)
มัณฑะเลย์-พุกาม = 10.32 US = 340 บาท
ค่าใช้จ่ายที่เหลือ มีค่าเข้าสถานที่ ค่ากิน ค่าทำบุญ และซื้อของ
ให้แลกเงินไทยเป็นดอลล่า ตอนแลกให้บอกพนักงานว่าขอแบงค์ใหม่ ไม่ยับ จะไปเมียนมา
จากนั้นแลกเป็นเงินจ๊าด ที่สนามบิน
สรุป ทั้งทริปใช้ไปประมาณคนละ 13,000 บาท (ไม่รวมค่าไกด์ และรถ 3 วัน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อาหาร :
เป็นสิ่งที่กังวลมากที่สุด ก่อนไปอ่านกะทู้เยอะมาก ส่วนใหญ่บอกว่าอาหารค่อนข้างไม่ถูกปาก พอไปจริงๆก็ไม่ขนาดนั้น พี่ที่อยู่ที่นั่นบอกว่า เข้าร้านถูกก็อร่อยไปเลย ถ้าผิดก็... ไปเลย ที่เมียนมามีร้านอาหารคล้ายๆข้าวแกงบ้านเราเยอะมาก แต่ที่นี่เรียกร้านน้ำชา มองไปข้างทางต้องเจอตลอด คนที่นี่ไม่ค่อยกินน้ำเย็นกัน ส่วนใหญ่กินน้ำชาร้อน
ราคาอาหารไม่แพงเลย ค่าครองชีพเขาไม่สูง กินร้านดีๆมื้อนึงไม่เกิน 1 พันบาทไทย ต่อ 5 คน แบบอิ่ม ยิ่งถ้าร้านน้ำชาสั่งมาเต็มโต๊ะ ไม่เกิน 300 บาทไทย
อื่นๆ :
การเข้าวัดทุกที่ต้องถอดรองเท้า บางที่ต้องเสียเงินฝากรองเท้า แนะนำว่าให้พกถุงไปใส่รองเท้า หรือถอดทิ้งไว้ในรถตั้งแต่ลานจอด ไม่ต้องกลัวสกปรก เพราะว่าสกปรกแน่ๆ ตอนแรกพกทิชชู่เปียกไปคิดว่าจะเช็ด แต่เอาเข้าจริงไม่ได้ใช้เลย ถอดรองเท้าแทบทุกที่ๆไป เพราะว่าไปวัดทุกที่ 55555 เลยล้างเท้าทีเดียวตอนเย็นดีกว่า
ขอเล่าจากสิ่งที่ได้พบเจอมา + ความรู้ที่ได้จากพี่ไกด์ ผิดถูกยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ
Day 1
1.ย่างกุ้ง เป็นเมืองที่รถ ติด มาก นึกว่าอยู่กรุงเทพ รถมีทั้งแบบพวงมาลัยซ้าย และขวา แต่เวลาขับจะอยู่เลนขวา มีการบีบแตรทุกสถานการณ์ จนงงว่า เตือนหรือด่า (ถ้าอยู่เมืองไทยนี่มีเรื่องแน่ๆ) ข้ามถนนก็ข้ามยากมาก เหมือนต้องวัดใจว่าจะชนมั้ย บางทีคิดว่าข้ามได้แน่ๆ แต่อยู่ๆรถก็พุ่งมาด้วยความเร็ว
ช่วงเวลาที่ไป เป็นช่วงเวลาที่เกือบทุกสถานที่ในย่างกุ้งกำลังบูรณะอยู่
1.1 เจดีย์ชเวดากอง Shwedagon Pagoda : ค่าเข้า 10,000 Ks
ควรไปช่วงเช้า ไม่ก็เย็นไปเลย ไม่งั้นจะร้อน ต้องขึ้นลิฟท์ขึ้นไป ผู้หญิงหรือชายถ้าใส่ขาสั้น,กางเกงพอดีตัว ต้องยืมผ้าถุงมาใส่ (มัดจำเงินไว้) ขึ้นไปก็ตะลึงในความใหญ่ ใหญ่มาก คิดว่าถ้ามาตอนบูรณะเสร็จต้องตะลึงในความเหลืองอร่ามด้วยแน่ๆ พอไหว้องค์เจดีย์เสร็จก็ไหว้พระ เทพ และสัตว์ประจำวันเกิดต่อ จากนั้นรดน้ำพระประจำวันเกิด ต่อด้วยเทพ และสัตว์ จำนวนตามอายุ+1 เสร็จก็เดินดูรอบๆ มีส่วนย่อยๆอีกหลายที่เลย ที่นี่ใหญ่มาก
1.2 ร้านน้ำชา
มื้อแรกที่กินสั่งอาหารคล้ายๆข้าวซอย เป็นเส้นเหนียวๆคล้ายๆเส้นเล็ก+ขนมจีน ใส่ลูกชิ้นชุบแป้งทอด ในน้ำที่คล้ายๆน้ำข้าวซอย ค่อนข้างเลี่ยนมาก แต่ติดใจน้ำชา เป็นชาร้อน รสชาติคล้ายชาลิปตันแบบถุง ชงใส่นม หอม อร่อย ติดใจกันทุกคนจนต้องซื้อกลับบ้าน
1.3 พระเจดีย์สุเล Sule Pagoda : 4,000 Ks
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง ใกล้ๆมีตึกราชการ และหลักกิโลเมตรที่ 0
1.4 เจดีย์โบตะตาว Botahtaung Pagoda /เทพทันใจ (นัตโยโบยี)/เทพกระซิบ เมี๊ยนานหน่วย : 6,000 Ks
ช่วงที่ไปกำลังบูรณะอยู่ เลยได้แค่ไหว้ด้านนอก มองกระจกเข้าไปจะเห็นพระธาตุอยู่ ใกล้ๆกันสามารถขอพรกับเทพทันใจ หรือเทพกระซิบ เราขอพรกับเทพทันใจ โดยขอได้เพียงขอเดียว ต้องคิดดีๆก่อนว่าจะขอว่าอะไร ม้วนแบงค์ 2 ใบ สอดไปในมือท่าน เอาหน้าผากแตะนิ้ว แล้วขอพร เสร็จก็ลูบไม้เท้าท่านสามครั้ง
1.5 วัดเจ้าทัตจี หรือพระตาหวาน Chauk Htat Kyi Pagoda
อีกครั้ง.. ที่มีการบูรณะ เข้าไปก็ตะลึงในความใหญ่ ท่านองค์ใหญ่มาก ดูรูปแล้วเฉยๆ แต่พอมาเห็นของจริงแล้ว ใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะเลย ตาท่านก็หวานจริงๆ ขนาดมองผ่านนั่งร้านยังสวย ถ้าบูรณะเสร็จต้องสวยมากแน่ๆ
1.6 วัดงาทัตจี หรือพระนั่งสมาธิ Nga Htat Kyi Pagoda
อยู่ไม่ไกลจากพระนอน ต้องข้ามถนนมาอีกฝั่ง ท่านองค์ใหญ่เช่นกัน ข้างหลังเป็นไม้แกะสลัก สวยมาก
1.7 ร้านอาหาร
ได้กินเมนูใหม่ ก๋วยเตี๋ยวรัฐฉานแห้ง อร่อย มากกกก ตอนแรกอิ่มมาก ไม่หิว แต่พอกินคำแรก รู้ตัวอีกทีก็หมดชามไปแล้ว เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติอธิบายไม่ถูก แต่ถูกปาก ไม่มัน เลยตั้งใจว่าจะกินแต่ก๋วยเตี๋ยวฉานทั้งทริป
1.8 ไปท่ารถบัส
จองรถกับบริษัท E-lite ควรเผื่อเวลาเดินทางมาท่ารถดีๆ เพราะ รถ ติด มาก ตอนกลางคืนเปิดไฟสูงเกือบทุกคัน ท่ารถวุ่นวายมาก มีหลายบริษัท หลายซอยยิบย่อย เผื่อเวลาเยอะๆหน่อย รถก็ดีอยู่ แอร์หนาวมาก มีจอดพักรถตอนเที่ยงคืน ต้องลงทุกคน ข้างนอกหนาวมาก จำทะเบียนรถไว้ด้วย มีอาหารให้กินแต่ไม่แน่ใจว่าฟรีมั้ย แต่ที่แน่ๆ คนเยอะมาก
(ต่อในคอมเม้นท์นะคะ)