เป็นเรื่องสมัย ม.ต้น ตอนนั้นอยู่ ม.3 เป็นปีสุดท้ายที่ไปเข้าค่ายกับเพื่อนรุ่นนั้น(รุ่น ม.ต้น)
ทาง รร.ก็จัดให้ไปเข้าค่ายริมน้ำสักที่นี่แหละ แล้วก็จัดวิทยากรรุ่นพี่จาก รร.มัธยมตรงข้ามไป 3 คน เป็นพี่ ม. 6 (เพศชาย 3 wow!) ไอเราก็หญิงล้วนไม่ค่อยพบเจอ นร.ชายอะนะ(ยกเว้นว่าเลิกเรียนกลับบ้านก็ไปส่อง รร.ตรงข้าม) ตอนไปก็ไม่รู้หรอก ไปเจออีกทีก็คือเค้ารอต้อนรับเด็กมัธยมอยู่ที่ค่ายแล้ว เปิดโชว์ด้วยการ (อ้อ บอกก่อน ลักษณะของพี่ ผช.ทั้งสาม คนที่1 อ้วน สูงกลางๆผิวออกขาวๆ คนที่2 สูงดี ผอมกำลังดี ผิวแทน น่าจะชอบถ่ายรูปด้วย คนที่3 สูงดี หุ่นดี ผิวกลางๆแบบขาวๆแทนๆ) ให้พี่คนที่ 2 เรียกแทนว่า B ละกัน ให้พี่ B ไปนอนตรงโต๊ะหิน ถอดเสื้อ (ฮรุกก) แล้วเอาเสื้อคลุมปิดหน้า อารมณ์เหมือนคนเร่ร่อนตัวเลอะหน่อยๆ คือเราเห็น แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ กลัวเค้าแฮ่ขึ้นมาอะนะ แต่ก็มีเพื่อนบางคนเอาตังค์เอาขนมไปวางข้างๆไว้ให้ 👏 พอหลังเปิดพิธีเข้าค่าย วิทยากรที่ค่ายก็มาเฉลยว่าพี่Bเนี่ยยย เป็นใคร ชื่อเสียงเรียงนามมาทำไมทำอะไร แล้วเด็กทั้งโดมก็โป๊ะ(ตึกโป๊ะตึกๆ) คนที่ให้อะไรพี่แกนี่ สีนั้นได้แต้มคะแนนไปเลยจ้าา หลังจากนั้นก็เอาของไปเก็บ จำไม่ได้แล้วว่านอนยังไง(แบบรวมหรือแยก) พอเริ่มเข้าฐานทำกิจกรรม พี่วิทยากรคนที่1,2,3 ก็แบบ ช่วยวิทยากรที่ค่ายลูกเสือ ตอนแรกก็ไม่สังเกต แต่พอวิทยากรให้รุ่นพี่ออกมาแสดงบทถูกลงโทษหรือออกมาเป็นตัวอย่างทำโน่นทำนี่ เราก็แบบ อุ้ยย น่อวว โอ้วว อมก. พี่คนที่ 3 ครับ (ขอเรียกแทนว่า E จำได้ว่าชื่อขึ้นต้นพี่เค้าคือ E น่าจะเอิ** เซนเซอร์ไว้ก่อน!! เดะโลกกลมพี่แกเข้ามาอ่าน) พี่ E แม่*โคตร โอ้ยยย กระชากใจเด็กวัย 15 มาก คือพี่แกโอ้ยยย 360° มุมไหนก็ดูดี เราคิดว่าเด็กบางส่วนที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของเราสมัยนั้นมันก็น่าจะมีบ้างแหละน่าาา ที่มีอีพี่ E เข้ามานั่งในสายตา
ตอนนั้นกิจกรรมเป็นไปได้ด้วยดี (ดีมากก รู้สึกอยากเข้าค่ายสัก 5 วัน 4 คืน) จนมาถึงวันที่ 2 คืนสุดท้ายของค่ายลูกเสือ แน่นอนว่าต้องมีรอบกองไฟ มีเล่นละคร มีแสดง มีตงมีเต้น มีเล่านู่นนี่นั่น มีให้ร้องไห้ (แม่มฝืนไม่ไหวก็แพ้ใจร้องไห้ตามเสต็ป เรื่องครู พ่อแม่ เพื่อน เจอเล่าแบบเศร้าๆ เพื่อนข้างๆก็บิวท์ไง ร้องไห้เป็นเพื่อนมัน) แม่มยายชีขาหมวยเอ้ย ถึงช็อตการแสดงของรุ่นพี่นี่แหละ เราก็อารมณ์แบบนางเอกเข้าสิงไง แบบ ปากไม่ตรงกับใจ (ลืมไป นางเอก ณ จุดนั้นคงมีเป็นร้อย เพราะเพื่อนก็คงชอบรุ่นพี่คนนั้นเยอะอะแหละ) อีเราก็ตะโกนค่ะ (เรียกแทนพี่คนแรกว่า A ละกัน)
พี่ A น่ารักจังเลยยยย (W*F) เพื่อนเตือนเลยจะ " เป็นผู้หญิงพูดแบบนั้นได้ไง!! "
โอ้ว หน้าซีดเลยจะ ใจจริงอยากกรี๊ดพี่ E นั่นแหละ แต่ก็แบบ นางเอกอยากให้พระเอกหึงใช่มั๊ยล่ะ หารู้ไม่ว่าพี่ E ไม่รู้จักเรา ไม่ได้เห็นเราเป็นคนมีความแปลกประหลาดน่าสนใจ (แปลกประหลาด? 🤔) 5555 ไม่รู้เอาต่อมส่วนไหนของสมองไปคิด
พอการแสดงจบ รุ่นพี่ก็แบบ โอ้ย คุณสาทำไมทำให้เราคิดอีกแล้ววว พี่A,B,E มานั่งแถวหลังๆโซนเรานั่ง OMGกกกกกก นางเอกเข้าสิงอีกแล้ว เราทำตัวให้เด่นๆ ชะเง้อ ชะแง้ โหวกเหวก ตะโกน หัวเราะ สารพัดสารเพพี่จะทำให้เด่นในพื้นที่นั่งเพียงแค่1ตูดในที่แคบๆที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนนับร้อยยย (=w=) ครับ เด่นมาก เด่นเกิ๊น (พี่แกน่าจะมองนะ มองด้วยความประหลาด) โอเค จบพาร์ทรอบกองไฟ ตอนเช้าตื่นนอนเก็บของเตรียมกลับ ฉากนี้ต้องมา เสียบหูฟังเปิดเพลงนั่งชิดหน้าต่าง
~แอบชอบ~ เพลงนี้นี่มันนน นางเอกเข้าสิง ค้ำคาง มองนอกหน้าต่าง (สั* หลับไป ทับเพื่อนด้วยมั้ง ขาชา กินถั่วด่วน) หลังจาดเข้าค่ายก็นะ ความรักที่นางเอกทีให้พระเอกถึงแม้จะผ่านมาแค่ ตอนเย็นของวันกลับ ถามเพลงรักจากเพื่อน เสิร์ชหาเฟซรุ่นพี่ ทีแรกเจอคนอื่นก่อน ไม่ A ก็ B แต่จุดประสงค์คือ E อะยังไม่เจอ E เลยเนียนทักถามพ ี่B (นางเอกเข้าสิง )"อุ้ยขอโทษค่ะคล้ายคนรู้จักแอดผิดเอ้าพี่ที่เข้าค่ายนี่นา" ค่ะ เลยได้เฟซพี่ E มา วร้ายยยยย ดีใจเหมือนนางเอกการ์ตูนตาหวาน นี่ไม่พอ ทักพี่ A ไปอีก อารมณ์แบบ "อุ้ยทักผิด" (ทักยาวเลยยยย) ไม่รู้ตอนนั้นเราไปเอาความมั่นใจมาจากไหน กดทักพี่ E ไปแบบเด็กจีบกันในยุคนั้น สวัสดีค่ะ แนะนำตัว เล่าย้อนเรื่องเข้าค่าย สะมะกิงกุ่งไก่สะมะไกกุ่งกิ่ง พี่แกนานทีตอบบ ไอดอลไง คนทักเยอะ ก็น่าจะเพื่อนเราด้วยแหละ 35% ถึงแม้จะนานทีตอบ เราก็ใช้เวลาว่างในการส่องเฟซ เปิดเพลงบิวท์อารมณ์ไปด้วย เฮ่อ~รักล้นใจกับนายแชทช้า ในขณะที่เราอยู่ในช่วงคุยกับพี่ E เราก็แบบ อะนะ ไปทิ้งท้ายในแชทพี่ B ว่าทักผิด พอพี่แกตอบมา มันแบบ มีสตอรี่ให้คุยกัน ซึ่งพี่ B เนี่ยยย ตอบไวฉิ*หาย ตอนนั้นไม่ได้คิดชอบพี่ B เลยยย ถึงจะคุยบ่อยกว่าพี่ E ก็เถิดดด อารมณ์คนรู้จักทั่วไปมาจอยกันจอยกัน (อีกนิดจะเป็นเพลง) ก็ส่องเฟซพี่ B เหมือนกัน เหมือนแกจะชอบถ่ายรูป ในระหว่างที่คุยกับพี่ B , E ก็คุยกับพ ี่A ด้วย (เห็นเราคุยหมดแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเราฮ็อตนะฮะ แต่เราเจือกไป "อุ้ยทักผิด" พี่แกทั้งสามคงจำใจมาตอบ · · ·
แต่กะพี่ B นี่ชิวๆ คุยแบบฉันกันนางเอก&คนรู้จัก ส่วนพระเอกนี่ วันนึงมาตอบที ตอนพี่ E ตอบนี่ เหมือนมีเซนเซอร์ดีๆดูดมือกุมาพิมพ์ คำแต่ละประโยคที่เราพิมพ์ไปมันโคตรจะนางเอกกินน้ำ น้ำอะไรดี ที่แบบ สะดุดรองเท้าแล้วล้มลงไปง่ายๆ ไม่ได้อ่อนแอนะ แต่งั่ง แม่มพิมพ์ไปได้ นึกย้อนกลับไป โคตรอายตัวเอง ภาวนาว่าอย่าให้เจอพี่ E อีกเลย ชาตินี้ เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้คือ ไม่รู้ดราม่าอะไรมา ฟังเพลงไปเริ่มเศร้า ร้องไห้ด้วย เหมือนจะตัดใจแบบกัดลิ้นแล้วพิมพ์ว่า (ขึ้นต้นประโยคจำได้แม่นมาก เพราะอับอายกับคำนี้นี่แหละ)
" พี่คะ หนูไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาคุยกับพี่เลย เพราะหนู..." ฮืออออ เป็นประโยคที่แม้แต่นางเอกมันก็ยกให้กูเป็นมารดาของคนอาบน้ำใบบัวบก ช้ำแค่ไหนถามใจดู ตอนนั้นตัดใจจากพี่ E ความนางเอกที่ปล่อยพี่แกไป (สงสารแกที่มาเจอประโยคที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก) เจ็บมาก ฮรุก คือคุยมาสักพัก ถึงโบกธงขาว
พอเลิกคุยก็ลบเพื่อน แล้วก็ไปบอกล่ำลากับพี่ A พี่ B ด้วย สิ่งนึงที่เราประทับใจพี่ B คือพี่แกงงว่า เอ้า ทำไมล่ะ ประมาณว่า ก็ไม่เห็นต้องเลิกคุย คุยเล่นกันแบบทุกวันก็ได้ อะไรประมาณนั้น (ตอนนั้นไม่ได้ชอบพี่แก ก็เลยตอบแล้วออกมาง่ายๆ ชิวๆ ไม่ได้คิดเยอะ แค่จิบน้ำส้มแล้วบอกสวัสดีลา ขอบคุณ แล้วลบเพื่อน) แต่ช่วง ep. พี่ E นี่อาบน้ำใบบัวบกออกมา พี่ืA ก็ไม่ได้อะไรมาก คุยแบบกวนตงกวนตี* ตอนจะลา พี่แกก็ เอ้า ไมล่ะ เคๆ โชคดี เราก็จิบน้ำแฟนต้าแล้วเดินจากมา ลบเพื่อนออก
ณ จุดๆนั้นก็คือ หักดิบอะ ค่ายจบ คุยจบ จบ ม.ต้น โตมา เรื่องนี้ยังฝังต่อม เวลานึกขึ้นมาก็อายมากว่า กุพิมพ์ไปได้ไงวะ กุทำขนาดนั้นได้ไงวะ พอเกิดเรื่องแบบนี้แล้วมันฝังใจ จากกล้ามากกก มากเวอร์ เวอร์วัง กลายเป็น ดาวน์ ดาวน์รถ พริตตี้ โคโย้ตี้โคนม ไม่น่าใช่!! ดาวน์แบบ อาย กังวล กลัวไปเลย กลัวตัวเองว่าจะทำแบบนั้นอีก 55555 แม่มเอ้ย ก่อเรื่องไว้พอนึกแล้วมันสะกิดต่อม แค่ประโยคเดียวนี้รื้อมาแทบปูเป็นภาพยนต์ ภาพยนต์เราน่าจะขายไม่ออก แต่ขายหน้านี่น่าจะออก (พูดงงขอโทษ มุขเป็นสนิม) ผลคือหลังจากนั้นกลัวไปเลย กลัวแบบ ไม่กล้ามองหน้า ผช. เบือนหน้าหนี พออยู่ใกล้แล้ววางตัวไม่ถูก ลนลาน เหงื่อออก มีสี่แยกเกิดขึ้นในการขยับตัว อิอิอิ เป็นเรื่องที่มีปัญหามาก วุ่นวายและตื่นเต้นดี ("==)
โอเคคค ที่เราเล่ามาทั้งหมด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราจริงๆ ราวๆ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งที่เราเอามาเล่าเนี่ยยย ไม่ได้จะประจานตัวเองนะ แต่เราแค่อยากเล่า เพื่อให้เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่เครียดสำหรับเรา เหมือนได้ระบายอะ อาจจะมีสอดแทรกมุขกากๆอยู่บ้าง ก็ถ้าเครียด เราแนะนำจิบน้ำสปอนเซอร์เพื่อชดเชยแรงที่เสียไปในการอ่านมุขแป้ก
- THE END -
ถ้าโลกกลม ก็บอกตรงนี้เลย
"ถึงพี่ E หนูขอโทษที่พูดจาแปลกๆ สมัยนั้นนางเอกน้ำส้มมาแรง ประโยคที่ทำให้พี่ปวดตับ ก็ลืมๆมันไปซะ เข้าใจไหม เด็กคนที่มันพูดจาแปลกๆ ก็ลืมมันไปด้วย 555 ขอร้อง อายมาก ก็นั่นแหละ อย่าถือสามันเลยนะ ตอนนั้นมันเด็กเกินจะคิดอะค่ะ ซอรี่นะะะะ"
"ถึงพี่ B ตอนนั้นหนูก็ขอโทษที่ยืมเฟซพี่เป็นเหยื่อ 555 แต่คุยกับพี่แล้ว รู้สึกสบายใจดี พี่ไม่โหดดดด กราบสวัสดีอีกรอบ"
"ถึงพี่ A ตอนนี้พี่คงผอมหล่อแล้ว (เดา) ขอบคุณที่คุยกับเด็กที่อยู่ในช่วงสัตว์โลกกวนตี*กับหนู กราบสวัสดี"
จบแล้วสำหรับกระทู้นี้ ยาวหน่อย แต่เรารู้สึกดีที่ได้ปล่อยมันออกมา เป็นช่องทางที่เหมือนกับสะพานที่ทำให้เราไปถึงอีกฝั่งได้อย่างสบายใจในระดับนึง
ขอบคุณที่อ่านมาถึงจุดๆนี้ หรือเลื่อนฟิ่วว จากบนลิ่วลงมาอ่านข้อความท้ายสุดนี้ อิอิ
หากมีข้อผิดพลาดประการใดเกิดขึ้นในกระทู้นี้ก็ขออภัยด้วยนะคะ
แอบชอบในวัยเด็ก สมัยน้ำส้มมาแรง
ทาง รร.ก็จัดให้ไปเข้าค่ายริมน้ำสักที่นี่แหละ แล้วก็จัดวิทยากรรุ่นพี่จาก รร.มัธยมตรงข้ามไป 3 คน เป็นพี่ ม. 6 (เพศชาย 3 wow!) ไอเราก็หญิงล้วนไม่ค่อยพบเจอ นร.ชายอะนะ(ยกเว้นว่าเลิกเรียนกลับบ้านก็ไปส่อง รร.ตรงข้าม) ตอนไปก็ไม่รู้หรอก ไปเจออีกทีก็คือเค้ารอต้อนรับเด็กมัธยมอยู่ที่ค่ายแล้ว เปิดโชว์ด้วยการ (อ้อ บอกก่อน ลักษณะของพี่ ผช.ทั้งสาม คนที่1 อ้วน สูงกลางๆผิวออกขาวๆ คนที่2 สูงดี ผอมกำลังดี ผิวแทน น่าจะชอบถ่ายรูปด้วย คนที่3 สูงดี หุ่นดี ผิวกลางๆแบบขาวๆแทนๆ) ให้พี่คนที่ 2 เรียกแทนว่า B ละกัน ให้พี่ B ไปนอนตรงโต๊ะหิน ถอดเสื้อ (ฮรุกก) แล้วเอาเสื้อคลุมปิดหน้า อารมณ์เหมือนคนเร่ร่อนตัวเลอะหน่อยๆ คือเราเห็น แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ กลัวเค้าแฮ่ขึ้นมาอะนะ แต่ก็มีเพื่อนบางคนเอาตังค์เอาขนมไปวางข้างๆไว้ให้ 👏 พอหลังเปิดพิธีเข้าค่าย วิทยากรที่ค่ายก็มาเฉลยว่าพี่Bเนี่ยยย เป็นใคร ชื่อเสียงเรียงนามมาทำไมทำอะไร แล้วเด็กทั้งโดมก็โป๊ะ(ตึกโป๊ะตึกๆ) คนที่ให้อะไรพี่แกนี่ สีนั้นได้แต้มคะแนนไปเลยจ้าา หลังจากนั้นก็เอาของไปเก็บ จำไม่ได้แล้วว่านอนยังไง(แบบรวมหรือแยก) พอเริ่มเข้าฐานทำกิจกรรม พี่วิทยากรคนที่1,2,3 ก็แบบ ช่วยวิทยากรที่ค่ายลูกเสือ ตอนแรกก็ไม่สังเกต แต่พอวิทยากรให้รุ่นพี่ออกมาแสดงบทถูกลงโทษหรือออกมาเป็นตัวอย่างทำโน่นทำนี่ เราก็แบบ อุ้ยย น่อวว โอ้วว อมก. พี่คนที่ 3 ครับ (ขอเรียกแทนว่า E จำได้ว่าชื่อขึ้นต้นพี่เค้าคือ E น่าจะเอิ** เซนเซอร์ไว้ก่อน!! เดะโลกกลมพี่แกเข้ามาอ่าน) พี่ E แม่*โคตร โอ้ยยย กระชากใจเด็กวัย 15 มาก คือพี่แกโอ้ยยย 360° มุมไหนก็ดูดี เราคิดว่าเด็กบางส่วนที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของเราสมัยนั้นมันก็น่าจะมีบ้างแหละน่าาา ที่มีอีพี่ E เข้ามานั่งในสายตา
ตอนนั้นกิจกรรมเป็นไปได้ด้วยดี (ดีมากก รู้สึกอยากเข้าค่ายสัก 5 วัน 4 คืน) จนมาถึงวันที่ 2 คืนสุดท้ายของค่ายลูกเสือ แน่นอนว่าต้องมีรอบกองไฟ มีเล่นละคร มีแสดง มีตงมีเต้น มีเล่านู่นนี่นั่น มีให้ร้องไห้ (แม่มฝืนไม่ไหวก็แพ้ใจร้องไห้ตามเสต็ป เรื่องครู พ่อแม่ เพื่อน เจอเล่าแบบเศร้าๆ เพื่อนข้างๆก็บิวท์ไง ร้องไห้เป็นเพื่อนมัน) แม่มยายชีขาหมวยเอ้ย ถึงช็อตการแสดงของรุ่นพี่นี่แหละ เราก็อารมณ์แบบนางเอกเข้าสิงไง แบบ ปากไม่ตรงกับใจ (ลืมไป นางเอก ณ จุดนั้นคงมีเป็นร้อย เพราะเพื่อนก็คงชอบรุ่นพี่คนนั้นเยอะอะแหละ) อีเราก็ตะโกนค่ะ (เรียกแทนพี่คนแรกว่า A ละกัน)
พี่ A น่ารักจังเลยยยย (W*F) เพื่อนเตือนเลยจะ " เป็นผู้หญิงพูดแบบนั้นได้ไง!! "
โอ้ว หน้าซีดเลยจะ ใจจริงอยากกรี๊ดพี่ E นั่นแหละ แต่ก็แบบ นางเอกอยากให้พระเอกหึงใช่มั๊ยล่ะ หารู้ไม่ว่าพี่ E ไม่รู้จักเรา ไม่ได้เห็นเราเป็นคนมีความแปลกประหลาดน่าสนใจ (แปลกประหลาด? 🤔) 5555 ไม่รู้เอาต่อมส่วนไหนของสมองไปคิด
พอการแสดงจบ รุ่นพี่ก็แบบ โอ้ย คุณสาทำไมทำให้เราคิดอีกแล้ววว พี่A,B,E มานั่งแถวหลังๆโซนเรานั่ง OMGกกกกกก นางเอกเข้าสิงอีกแล้ว เราทำตัวให้เด่นๆ ชะเง้อ ชะแง้ โหวกเหวก ตะโกน หัวเราะ สารพัดสารเพพี่จะทำให้เด่นในพื้นที่นั่งเพียงแค่1ตูดในที่แคบๆที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนนับร้อยยย (=w=) ครับ เด่นมาก เด่นเกิ๊น (พี่แกน่าจะมองนะ มองด้วยความประหลาด) โอเค จบพาร์ทรอบกองไฟ ตอนเช้าตื่นนอนเก็บของเตรียมกลับ ฉากนี้ต้องมา เสียบหูฟังเปิดเพลงนั่งชิดหน้าต่าง
~แอบชอบ~ เพลงนี้นี่มันนน นางเอกเข้าสิง ค้ำคาง มองนอกหน้าต่าง (สั* หลับไป ทับเพื่อนด้วยมั้ง ขาชา กินถั่วด่วน) หลังจาดเข้าค่ายก็นะ ความรักที่นางเอกทีให้พระเอกถึงแม้จะผ่านมาแค่ ตอนเย็นของวันกลับ ถามเพลงรักจากเพื่อน เสิร์ชหาเฟซรุ่นพี่ ทีแรกเจอคนอื่นก่อน ไม่ A ก็ B แต่จุดประสงค์คือ E อะยังไม่เจอ E เลยเนียนทักถามพ ี่B (นางเอกเข้าสิง )"อุ้ยขอโทษค่ะคล้ายคนรู้จักแอดผิดเอ้าพี่ที่เข้าค่ายนี่นา" ค่ะ เลยได้เฟซพี่ E มา วร้ายยยยย ดีใจเหมือนนางเอกการ์ตูนตาหวาน นี่ไม่พอ ทักพี่ A ไปอีก อารมณ์แบบ "อุ้ยทักผิด" (ทักยาวเลยยยย) ไม่รู้ตอนนั้นเราไปเอาความมั่นใจมาจากไหน กดทักพี่ E ไปแบบเด็กจีบกันในยุคนั้น สวัสดีค่ะ แนะนำตัว เล่าย้อนเรื่องเข้าค่าย สะมะกิงกุ่งไก่สะมะไกกุ่งกิ่ง พี่แกนานทีตอบบ ไอดอลไง คนทักเยอะ ก็น่าจะเพื่อนเราด้วยแหละ 35% ถึงแม้จะนานทีตอบ เราก็ใช้เวลาว่างในการส่องเฟซ เปิดเพลงบิวท์อารมณ์ไปด้วย เฮ่อ~รักล้นใจกับนายแชทช้า ในขณะที่เราอยู่ในช่วงคุยกับพี่ E เราก็แบบ อะนะ ไปทิ้งท้ายในแชทพี่ B ว่าทักผิด พอพี่แกตอบมา มันแบบ มีสตอรี่ให้คุยกัน ซึ่งพี่ B เนี่ยยย ตอบไวฉิ*หาย ตอนนั้นไม่ได้คิดชอบพี่ B เลยยย ถึงจะคุยบ่อยกว่าพี่ E ก็เถิดดด อารมณ์คนรู้จักทั่วไปมาจอยกันจอยกัน (อีกนิดจะเป็นเพลง) ก็ส่องเฟซพี่ B เหมือนกัน เหมือนแกจะชอบถ่ายรูป ในระหว่างที่คุยกับพี่ B , E ก็คุยกับพ ี่A ด้วย (เห็นเราคุยหมดแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเราฮ็อตนะฮะ แต่เราเจือกไป "อุ้ยทักผิด" พี่แกทั้งสามคงจำใจมาตอบ · · ·
แต่กะพี่ B นี่ชิวๆ คุยแบบฉันกันนางเอก&คนรู้จัก ส่วนพระเอกนี่ วันนึงมาตอบที ตอนพี่ E ตอบนี่ เหมือนมีเซนเซอร์ดีๆดูดมือกุมาพิมพ์ คำแต่ละประโยคที่เราพิมพ์ไปมันโคตรจะนางเอกกินน้ำ น้ำอะไรดี ที่แบบ สะดุดรองเท้าแล้วล้มลงไปง่ายๆ ไม่ได้อ่อนแอนะ แต่งั่ง แม่มพิมพ์ไปได้ นึกย้อนกลับไป โคตรอายตัวเอง ภาวนาว่าอย่าให้เจอพี่ E อีกเลย ชาตินี้ เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้คือ ไม่รู้ดราม่าอะไรมา ฟังเพลงไปเริ่มเศร้า ร้องไห้ด้วย เหมือนจะตัดใจแบบกัดลิ้นแล้วพิมพ์ว่า (ขึ้นต้นประโยคจำได้แม่นมาก เพราะอับอายกับคำนี้นี่แหละ)
" พี่คะ หนูไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาคุยกับพี่เลย เพราะหนู..." ฮืออออ เป็นประโยคที่แม้แต่นางเอกมันก็ยกให้กูเป็นมารดาของคนอาบน้ำใบบัวบก ช้ำแค่ไหนถามใจดู ตอนนั้นตัดใจจากพี่ E ความนางเอกที่ปล่อยพี่แกไป (สงสารแกที่มาเจอประโยคที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก) เจ็บมาก ฮรุก คือคุยมาสักพัก ถึงโบกธงขาว
พอเลิกคุยก็ลบเพื่อน แล้วก็ไปบอกล่ำลากับพี่ A พี่ B ด้วย สิ่งนึงที่เราประทับใจพี่ B คือพี่แกงงว่า เอ้า ทำไมล่ะ ประมาณว่า ก็ไม่เห็นต้องเลิกคุย คุยเล่นกันแบบทุกวันก็ได้ อะไรประมาณนั้น (ตอนนั้นไม่ได้ชอบพี่แก ก็เลยตอบแล้วออกมาง่ายๆ ชิวๆ ไม่ได้คิดเยอะ แค่จิบน้ำส้มแล้วบอกสวัสดีลา ขอบคุณ แล้วลบเพื่อน) แต่ช่วง ep. พี่ E นี่อาบน้ำใบบัวบกออกมา พี่ืA ก็ไม่ได้อะไรมาก คุยแบบกวนตงกวนตี* ตอนจะลา พี่แกก็ เอ้า ไมล่ะ เคๆ โชคดี เราก็จิบน้ำแฟนต้าแล้วเดินจากมา ลบเพื่อนออก
ณ จุดๆนั้นก็คือ หักดิบอะ ค่ายจบ คุยจบ จบ ม.ต้น โตมา เรื่องนี้ยังฝังต่อม เวลานึกขึ้นมาก็อายมากว่า กุพิมพ์ไปได้ไงวะ กุทำขนาดนั้นได้ไงวะ พอเกิดเรื่องแบบนี้แล้วมันฝังใจ จากกล้ามากกก มากเวอร์ เวอร์วัง กลายเป็น ดาวน์ ดาวน์รถ พริตตี้ โคโย้ตี้โคนม ไม่น่าใช่!! ดาวน์แบบ อาย กังวล กลัวไปเลย กลัวตัวเองว่าจะทำแบบนั้นอีก 55555 แม่มเอ้ย ก่อเรื่องไว้พอนึกแล้วมันสะกิดต่อม แค่ประโยคเดียวนี้รื้อมาแทบปูเป็นภาพยนต์ ภาพยนต์เราน่าจะขายไม่ออก แต่ขายหน้านี่น่าจะออก (พูดงงขอโทษ มุขเป็นสนิม) ผลคือหลังจากนั้นกลัวไปเลย กลัวแบบ ไม่กล้ามองหน้า ผช. เบือนหน้าหนี พออยู่ใกล้แล้ววางตัวไม่ถูก ลนลาน เหงื่อออก มีสี่แยกเกิดขึ้นในการขยับตัว อิอิอิ เป็นเรื่องที่มีปัญหามาก วุ่นวายและตื่นเต้นดี ("==)
โอเคคค ที่เราเล่ามาทั้งหมด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราจริงๆ ราวๆ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งที่เราเอามาเล่าเนี่ยยย ไม่ได้จะประจานตัวเองนะ แต่เราแค่อยากเล่า เพื่อให้เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่เครียดสำหรับเรา เหมือนได้ระบายอะ อาจจะมีสอดแทรกมุขกากๆอยู่บ้าง ก็ถ้าเครียด เราแนะนำจิบน้ำสปอนเซอร์เพื่อชดเชยแรงที่เสียไปในการอ่านมุขแป้ก
- THE END -
ถ้าโลกกลม ก็บอกตรงนี้เลย
"ถึงพี่ E หนูขอโทษที่พูดจาแปลกๆ สมัยนั้นนางเอกน้ำส้มมาแรง ประโยคที่ทำให้พี่ปวดตับ ก็ลืมๆมันไปซะ เข้าใจไหม เด็กคนที่มันพูดจาแปลกๆ ก็ลืมมันไปด้วย 555 ขอร้อง อายมาก ก็นั่นแหละ อย่าถือสามันเลยนะ ตอนนั้นมันเด็กเกินจะคิดอะค่ะ ซอรี่นะะะะ"
"ถึงพี่ B ตอนนั้นหนูก็ขอโทษที่ยืมเฟซพี่เป็นเหยื่อ 555 แต่คุยกับพี่แล้ว รู้สึกสบายใจดี พี่ไม่โหดดดด กราบสวัสดีอีกรอบ"
"ถึงพี่ A ตอนนี้พี่คงผอมหล่อแล้ว (เดา) ขอบคุณที่คุยกับเด็กที่อยู่ในช่วงสัตว์โลกกวนตี*กับหนู กราบสวัสดี"
จบแล้วสำหรับกระทู้นี้ ยาวหน่อย แต่เรารู้สึกดีที่ได้ปล่อยมันออกมา เป็นช่องทางที่เหมือนกับสะพานที่ทำให้เราไปถึงอีกฝั่งได้อย่างสบายใจในระดับนึง
ขอบคุณที่อ่านมาถึงจุดๆนี้ หรือเลื่อนฟิ่วว จากบนลิ่วลงมาอ่านข้อความท้ายสุดนี้ อิอิ
หากมีข้อผิดพลาดประการใดเกิดขึ้นในกระทู้นี้ก็ขออภัยด้วยนะคะ