ไทย จะชนะบาห์เรนได้ อันดับแรก ชนาธิปต้องเปลี่ยนสีผมเป็นสีเดิม หรือไม่นักเตะทุกคนก็ต้องย้อมผมเหมือนชนาธิปให้หมด

จะชนะคนอื่นได้ เราต้องนำคนอื่น 1 ก้าวเสมอ แต่ไม่ใช่สีผม


เหตุผลที่ไทยแพ้อินเดีย มีหลายองค์ประกอบ มาก หนึ่งในนั้น คือทรงผม ชนาธิป  รวมถึงวัฒนธรรม นิสัยของทีมชาติไทย


เหตุผลแรก  นิสัย  วัฒนธรรมองค์กร ของทีมชาติ ไทย

1.   power of habit  ของนักเตะไทย กับอินเดียต่างกัน

นักเตะอินเดียมีความกระหายที่จะชนะไทย เพราะ สถิติ นั้นไทยข่มตลอด 30 กว่าปี  

ขณะที่ไทย อาจไม่ประมาท หรือไม่ผมไม่สามารถรู้ ได้

แต่ ก็น่าจะ มีความคิดคล้ายกับกองเชียร์ไทยส่วนใหญ่ คือ ไม่คิดว่าอินเดียจะชนะไทยได้ ถึงชนะได้ก็ฉิวเฉียด


นักเตะอินเดีย เหนือ กว่าไทย  อย่างเดียวคือ ในแง่ความฟิตและสรีระ ที่เขาตั้งใจเตรียมมาอย่างดีเพราะนั่นคือสิ่งที่เขาคิดว่าเขาเหนือกวาไทย
แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมกับทีมไทย

สังเกตดู ครึ่งแรกไทย เล่นกันดีกว่าอินเดีย นั่น เพราะ แรงเรายังดี   แต่เมื่อถูกยิง ในนาทีแรกของครึ่งหลัง

สิ่งที่เกิดคือ สร้างความมั่นใจให้กับทีมอินเดีย เหมือนกับถูกล็อเตอรี่รางวัลใหญ่  และ บั่นทอนทั้งกำลังกายและกำลังใจนักเตะไทย

และนั่นทำให้ เป็นจุดชี้ตายของทีมไทย ไปไม่กลับทันทีที่โดนลูกที่ 3  นั่นทำให้อินเดียยิ่งมั่นใจ ไปอีกว่า เขาจะไม่แพ้ในเกมส์นี้

และเล่นแบบนิสัยของผู้ชนะ ตามแบบที่เขาฝึกเตรียมทีมมา

ทำไม จึงเป็นเช่นนั้น  

มีหนังสือขายดี ชื่อว่า power of habit เขารวบรวมกรณีศึกษาต่างๆ  พบว่า  

เราสามารถสร้างความ เปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ ด้วยนิสัยแค่ 1 %  ซึ่งอินเดียทำสำเร็จ

ผมจะยกตัวอย่างให้ดูสัก 1 ตัวอย่าง

"บริษัทอัลโค เป็นบริษัทเกี่ยวกับโลหะร้อนจัดและเครื่องจักรอันตรายเสมอ จนในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตหลายราย

และผลประกอบการก็ไม่สู้ดีนัก  ถึงแม้นทำทุกอย่างแล้วก้ไม่สามรถทำใหเผลประกอบการดีขึ้นได้

หลังจากเปลี่ยน CEO ใหม่ได้ 6 เดือน พอล โอนีล ที่เพิ่งรับตำแหน่งก็พบว่ามีข้อบกพร่องเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานของพนักงาน

เป็นจำนวนมาก  และไม่นาน  พอลทำให้ ผลประกอบการดีขึ้นทั้งที่สิ่งที่เขาทำ  เป็นเพียง สร้างวัฒนธรรมในองค์กรในแง่ความปลอดภัยขึ้นมาใหม่

แต่นั่นก็ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของลูกจ้างในบริษัทดีขึ้น มีความมั่นใจปลอดภัย และทำงานอย่างเต็มที่ให้บริษัท

และไม่นานหุ้น อัลโค ก็พุ่งขึ้นกว่า 200 %  ความสำเร็จได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด็พากันทำการศึกษาความเป็นผู้นำของเขา
คนส่วนใหญ่ในสมัยนั้นพูดกันเสียงเดียวกันว่า เขาน่าจะเป็นรัฐมนตรี ว่าการกระทรวกลาโหมหรือไม่ก็กระทรวงพาณิชย์ ในสมัยนั้น "

มันเกี่ยว กับ ทีมชาติไทย  หรืออินเดีย ตรงไหน

อินเดียเขาเชื่อว่า เขาแข็งแรงกว่าไทยและจะชนะไทยได้ เมื่อเขานำ และเล่นได้ตามแผน นั่นเป็นการตอกย้ำและให้รางวัลกับอินเดีย ว่าเขาคิดถูก

ขณะทีม ไทย  ทั้งกองเชียร์ และอาจมีนักเตะบางคน รวมถึงโค้ชคิดว่า มีนักเตะจาก เจลีก แล้ว ทีมจะดีขึ้น

นั่นจะทำให้นักเตะบางคน อ่อนแอ กว่าที่ควรจะเป็น

ทั้งที่ความเป็นจริง ความฟิต  บางคนอาจไม่ผ่านด้วซ้ำ







อินเดีย ฟิต  กว่าไทย เพราะ อาจรู้ว่าฝีมือเป็นรองเลยพยายาม ใช้ทุกอย่างมาช่วย รวมถึงวิทยาศาสตร์ทางกีฬา

เพื่ให้สรีระที่เป็นต่อไทยอยู่แล้วมีความได้เปรียบมากขึ้น   ขณะที่ไทย กลับไม่ใช้ข้อดี จากความคล่องแคล่ว จากตัวเล็กกว่าให้เป็นประโยชน์

วิ่งน้อยกว่า แถมยังช้ากว่าอีกด้วย

2. ความกระหายของโค้ช  อินเดียมีมากกว่าไทย

เพราะ โค้ช อินเดียเคยทำทีมฟุตบอล รวันดา แพ้ทีมกานา ของราเยวัชมาแล้ว

และนั่นทำให้ โค้ช อินเดีย มีความกระหาย ที่จะชนะ มากกว่า ราเยวัช วัดกันในแง่จิตวิทยา

  

3. การพักยาวช่วงปีใหม่

มีรายงานวิจัยออกมานานมากแล้วครับ ว่าหากเราออกกำลงกายทุกวัน

และหากเราหยุดออกกำลังกายไปเสียดื้อๆ ติดต่อกัน 7 วัน  ร่งกายเรา จะเท่ากับ คนไที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ในแง่ความฟิต

29/12/18  -1 01-2019  จึงมีความสำคัญมากในแง่ความฟิตของร่างกาย และอาจเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายได้เลยในแง่ความฟิตของร่างกาย

มาต่อวันหลังครับเรื่องสีผม