✨🌟🌾🌿 จากเกมถุงมือ มาต่อจนถึงตอนสุดท้าย "ราตรีสีเขียวตะไคร่" ภาค 4 (ตอนจบ) 🌿🌾🌟✨

กระทู้คำถาม


หญิงสาวในชุดกระโปรงสั้นรัดรึงกายไร้แขน ผมสีดำขลับยาวลงไปถึงกลางหลัง นั่งจิบไวน์อ่านพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ในผับแห่งหนึ่ง บรรยากาศมืดๆทึมๆ ณ มุมห้องใกล้หน้าต่างอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่ดูเหมือนเธอกำลังรอใครบางคน

บนโต๊ะ มีแทปเล็ตหน้าจอขนาดสิบนิ้วเครื่องหนึ่งวางอยู่เบื้องหน้า

เธอกำลังแชตกับใครคนหนึ่งในขณะที่กำลังดื่มไวน์ไปเรื่อยๆ

"กรีนไนท์ ผับ ถึงแล้วค่ะ" ข้อความแชตล่าสุดขึ้นมาในไลน์

"เข้ามาเลย ฉันนั่งโต๊ะมุมห้องด้านหลังริมหน้าต่าง ทางขวา" หญิงสาวพิมพ์ตอบ แล้วยิงคำถามต่อจากนั้น "เธอมากับเพื่อนกี่คน ?"

"สามคนค่ะ"

"ชายหรือหญิง ?"

"ผู้ชายทั้งสามคนค่ะ เป็นตำรวจ คนหนึ่งเป็นพี่ชายของหนูเอง พวกเขากำลังสืบเรื่องคนหายอยู่ค่ะ"

"อ้อ..." สาวผมยาวถอนหายใจอย่างโล่งอก อุ่นใจ อย่างน้อยก็มีเพื่อนหลายคนละวะ! ถ้ากลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้ง! แล้วเธอก็พิมพ์ตอบ "งั้นก็เข้ามากันเลย"

สักครู่หนึ่ง ชายสามคนซึ่งเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ และหญิงสาววัยรุ่นอีกหนึ่งคนก็เข้ามาในร้านและเดินตรงมายังโต๊ะที่เป็นจุดนัดพบ

ทุกคนทำความรู้จักกันอย่างรวดเร็ว และจากการพูดคุยกันไม่นานก็ได้ทราบว่า หญิงสาวผมยาว คือคนแรกที่เคยเข้าไปในบ้านร้างที่เป็นข่าว ส่วนสาววัยรุ่นเป็นคนที่สองซึ่งเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดจากบ้านหลังนั้น จากการที่ไว้ใจเพื่อนชายบุกเข้าไปและเกือบถูกพวกนั้นข่มขืน แต่สัตว์ร้ายน่าสะพรึงออกมาจัดการพวกเขาทั้งสองเสียก่อน และเกือบจะได้ตัวเธอเป็นภักษาหารปิดท้ายอยู่แล้ว

เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้ทุกคนฟัง พอถึงตอนที่เธอหนีขึ้นมาบนระเบียงแล้วมองลงไป ก็อดขนลุกขนชันขึ้นมาอีกมิได้

ภาพสัตว์ร้ายตัวมหึมา แหงนหน้าจ้องมาที่เธอ ตามที่ "มือปีศาจ" ของชายคนนั้นชี้ขึ้นมา ยังติดตาเธอจนถึงเดี๋ยวนี้!

"เรื่องของคุณสองคน น่าตื่นเต้น ระทึกขวัญดีนะครับ" นายตำรวจผู้หนึ่งกล่าว "โดยเฉพาะเรื่องของน้องนก"

"ค่ะ..." สาวนกพยักหน้า "นึกว่าจะไม่รอดแล้วด้วยซ้ำ มันน่ากลัวทั้งไอ้เข้ยักษ์ทั้งผีผู้ชายคนนั้นเลย นี่ถ้าพวกพี่ๆ ไม่ใช่ตำรวจนะ หนูไม่มาแน่!"

"ฉันก็เฉียดตายเหมือนกันแหละ นก" หญิงสาวผมดำร่างระหงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

"ดูท่าทาง เหมือนพี่ไม่ค่อยกลัวสักเท่าไรนะคะ" สาววัยรุ่นถามและทำหน้าตาฉงน

"หึ!" หญิงสาวผู้รอดตายคนแรกแค่นหัวเราะออกทางรูจมูก "ตอนแรกฉันก็กลัวจ้ะ...กลัวแทบจะช็อกตาย ฉันน่าจะตายไปแล้วด้วยซ้ำ! แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรบางอย่างคงช่วยฉันไว้มั้ง ฉันเลยรอด อย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปคร่าวๆ ในไลน์นั่นแหละ"

"ทำไมเธอ...ถึงกล้าประกาศหาเพื่อนมาคุยเรื่องนี้ ไม่กลัวคนอื่นจะหาว่าเธอโม้ หรือกุเรื่องเหรอ ยายนก" นายตำรวจหนุ่มผู้เป็นพี่ชายถาม

"นกมีข้อแม้ด้วยไงคะ ว่าคนที่จะติดต่อคุยกับนก ถ้าเป็นผู้ชายต้องเป็นตำรวจ ถ้าเป็นผู้หญิง ต้องเคยมีประสบการณ์เข้าไปในบ้านนั้น นอกนั้นไม่คุยค่ะ"

"อืม...ฉลาดดี" หญิงสาวคนแรกกล่าวชม "แล้วทำไมถึงอยากคุยเรื่องนี้ล่ะ ?"

"ก็...หนูเห็นว่าช่วงหลังๆมานี่ มีข่าวคนหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อะค่ะ เลยสงสัยว่าคนที่หายไป น่าจะมีเข้าไปในบ้านนั้นบ้างมั้งคะ...แล้วที่สำคัญอีกอย่าง หนูรู้สึกกลัว..."

"กลัวอะไรจ๊ะ ?"

"กลัวผีอะค่ะ!" สาววัยรุ่นบอกตามตรง "หนูฝันเห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมา เห็นผีผู้ชายคนนั้นด้วย น่ากลัวมาก แล้วยังฝันเห็นไอ้เพื่อนผู้ชายตัวแสบที่ตายไปแล้วมาชวนไปอยู่ด้วย!"

"สงสัยไอ้พวกนั้น คงกลายเป็นบริวารเจ้าของบ้านไปแล้วล่ะ!" หญิงสาวผู้เป็น THE FIRST SURVIVOR กล่าวฟันธง แล้วหันมาถามตำรวจทั้งสามนาย

"พวกคุณ มีแผนยังไงคะ สำหรับคืนนี้ ?"

"ในเบื้องต้น เราจะเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ข้างนอกบ้านก่อนครับ ถ้าไม่เห็นความเคลื่อนไหวอะไร ผมสามคนก็จะปีนรั้วบ้านเข้าไป และไปสำรวจบริเวณหลังบ้านที่คุณสองคนเล่าไว้ว่า มันมีปล่องที่ซ่อนตัวของเจ้าสัตว์ร้ายนั่น" นายตำรวจผู้เป็นพี่ชายของสาวนกและเป็นผู้นำตอบ

"คิดว่าคุณคงต้องได้ปีนเข้าไปแน่ๆค่ะ" หญิงสาวกล่าวแล้วจิบไวน์อีกครั้ง

"ทำไมคุณดาวถึงได้มั่นใจอย่างนั้นล่ะครับ ?"

เจ้าของชื่อนั้นยิ้มนิดหนึ่ง เป็นความหมายว่า รู้ทันสัตว์ร้ายในบ้านนั้นดี!

"ไอ้วายร้ายตัวนั้นมีเล่ห์เหลี่ยม แถมตอนนี้ มีเจ้านายผีของมันคอยชี้ทางด้วย! พวกคุณสามคนต้องระวังกันให้ดี!"

"ครับผม"

"มันใหญ่ยาวขนาดไหนครับ ?" นายตำรวจอีกคนถาม

"รู้จัก 'ไอ้ด่างบางมุด' ในอดีตไหมคะ ?"

"รู้จักครับ จรเข้ยักษ์แห่งคลองบางมุด อำเภอหลังสวน ชุมพร เมื่อปี พ.ศ.2507 ได้ยินว่ามันดุร้ายและกินคนไปมากคนชาวบ้านหวาดกลัวกันไปทั่ว แต่สุดท้ายก็โดนจับจนได้ มันยาว 4 เมตรกว่าๆ น่ะครับ"

"ไอ้ตัวร้ายที่บ้านนั้น คงประมาณสองเท่าของไอ้ด่างเกยชัยละค่ะ!"

"สองเท่า !!" เขาเผลออุทานเสียงดังจนคนในร้านหลายคนหันมามอง

"ใหญ่โตขนาดนั้น ปืนพกสั้นของพวกเราจะเอามันไหวไหมเนี่ยครับสารวัตร ?" นายตำรวจผู้หนึ่งหันมาถามตำรวจพี่ชายของสาวนก

"คืนนี้เราแค่มาสืบหาเรื่องราวเบื้องต้นน่ะ หมวดก้อง" ผู้เป็นเจ้านายตอบ "ถ้าเห็นตัวมัน ก็รีบถ่ายรูป ถ่ายคลิปมันไว้ แล้วรีบออกจากบ้าน จากนั้นค่อยยกกำลังมาจัดการกับมันอีกที!"

"เอางั้นเหรอครับ ? ได้ยินว่ามันไวมากนะครับผม"

"เออน่ะ!! ปืนตั้งสามกระบอก คงต้านทานมันไหวอยู่!" แล้วสารวัตรหนุ่มก็หันไปถามสองสาว "พวกคุณสองคน แน่ใจนะครับ ว่าจะไปพร้อมกับพวกผม"

"แน่ใจค่ะ พี่แดง"

"แน่ใจค่ะ สารวัตร"

"งั้นก็ ไปกันตอนนี้เลยครับ!"

หญิงสาวชื่อดาวสั่งเช็คบิล หลังจากนั้น ทุกคนจึงพากันออกจากผับแห่งนั้น ขึ้นรถของสารวัตรแดงซึ่งจอดรออยู่ข้างนอก แล้วรถคันนั้นก็มุ่งหน้าสู่บ้านสุดสยองหลังนั้น...

และพอไปถึงประตูรั้วเหล็กหน้าบ้าน ทุกคนก็ได้ยินเสียงร้อง ทั้งตะโกนโหวกเหวกและร้องโหยหวนดังมาจากบริเวณด้านหลังบ้าน!

หนุ่มวัยรุ่นผมเกรียนคนหนึ่งวิ่งหน้าตั้งมาที่หน้าประตูด้วยใบหน้าซีดเผือดนัยน์ตาเหลือกลานแสดงความหวาดกลัวสุดขีด เขากระโดดเกาะซี่กรงเหล็กของบานประตูขนาดใหญ่และพยายามปีนป่ายขึ้นมา ในขณะที่ทางหลังบ้านเสียงร้องโหยหวนของชายอีกคนยังคงดังก้อง แล้วก็เงียบกริบลงโดยฉับพลันพร้อมกับเสียงดัง ... กร๊อบบ!!

ผู้มาใหม่ 5 คนออกมาจากรถตำรวจ สารวัตรแดงถลันเข้าไปรับตัวชายวัยรุ่นซึ่งปีนข้ามประตูเหล็กออกมาข้างนอกได้แล้วลงมา เขาตัวสั่นเทา

"เอาละปลอดภัยแล้ว" เขาบอกกับนายผมเกรียน "อย่าดิ้น! อยู่นิ่งๆเฉยๆ นี่ฉันเป็นตำรวจนะ!"

"ครับๆๆ" เขาตอบด้วยเสียงสั่นตัวสั่นไม่หาย "พี่ตำรวจๆ พะพะพะ เพื่อนผม เพื่อนผม ตายแน่เลย ข้างหลังบ้าน!"

"เออ! แล้วนายกับเพื่อนมาทำบ้าอะไรที่นี่หา ?" หมวดก้องเข้าประกบด้านหลังแล้วใส่กุญแจมือให้หนุ่มขาโจ๋ตามระเบียบ "ที่เที่ยวที่อื่นมีตั้งเยอะแยะไม่ไปดันมาหาเรื่องตายที่นี่ มันเป็นการบุกรุกบ้านคนอื่นเขาด้วยในยามวิกาล ต้องนอนคุกละเอ็ง!"

"คะ ครับผม" เขาพยักหน้ารับชะตากรรมแต่โดยดี "ติดคุก ยังดีกว่าโดนร้ายนั่นงาบไปกินละครับ!!"

"มากันกี่คน ?" สารวัตรแดงซักไซ้

"สองคนเองครับผม"

"อืม...คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย เพื่อนตายสมดังคำโบราณจริงๆเลยเมิง!" หมวดก้องว่า แล้วพาตัวหนุ่มขาโจ๋ไปที่รถ "ไปรออยู่ที่รถก่อนไป ขึ้นไปบนกระบะ..."

ตำรวจอีกคนตามมาด้วย ทั้งสองคอยคุมตัวหนุ่มขาโจ๋ไว้ หมวดก้องไขกุญแจมือให้เขาชั่วคราวแล้วสั่ง "เอ้า! ทีนี้ เอามือข้างหนึ่งสอดข้างใต้ท่อเหล็กตรงนี้ สอดเข้าไป...ดีมาก! มืออีกข้างก็ประกบ เออ...นั่นแหละ ว่าง่ายๆ" แล้วเขาก็สับกุญแจมือล็อกข้อมือทั้งสองข้างติดกับท่อเหล็กด้านข้างกระบะ

"นายปลอดภัยแล้ว รออยู่บนรถนี้แหละ"

"ครับผม"

จัดการหนุ่มขาโจ๋เสร็จเรียบร้อย ตำรวจทั้งสองนายก็เดินกลับมาหาผู้บังคับบัญชาซึ่งยืนรออยู่พร้อมกับสองสาว

"เราจะเข้าไปกันละนะ สามคน คุณผู้หญิงสองคนอยู่ด้วยกันหน้าประตูข้างนอกบ้านนี่แหละ" สารวัตรแดงบอก

"ให้พวกเราเข้าไปด้วยดีกว่ามั้งคะ" หญิงสาวชื่อดาวแย้งแล้วชี้ไปยังตัวบ้าน "ในบ้านนั้น ดิฉันเคยเข้าไปอยู่ เคยเข้าไปนอน อะไรอยู่ตรงไหน ดิฉันยังพอจำได้นะคะ น่าจะเป็นประโยชน์กับพวกคุณไม่มากก็น้อยละค่ะ"

"อ่า...ถ้าพี่ดาวเข้าไป หนูก็ต้องเข้าไปด้วยนะพี่แดง ให้หนูอยู่ข้างนอกตรงนี้คนเดียวไม่เอานา!" สาวนกร้องขอต่อพี่ชายทันที

สารวัตรแดงทำท่าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจ พยักหน้าให้สองสาว

"โอเค ก็ได้ครับ งั้น พอพวกเราผ่านประตูเหล็กเข้าไปแล้ว เราจะทำการสำรวจบ้านกันก่อน พอถึงตอนจะออกไปทางหลังบ้าน พวกคุณสองคนให้อยู่บนบ้านหรือบนระเบียง ไม่ต้องลงไปกับพวกผม ตกลงไหม ?"

"ตกลงค่ะ" สาวใหญ่ชื่อดาวเป็นผู้ตอบ

"หมวดก้อง" สารวัตรหนุ่มหันมาหาลูกน้องซึ่งยืนถืออุปกรณ์บางอย่างในมือ

"ครับผม"

"ตัดโซ่ที่คล้องหน้าประตูออก ปลดแม่กุญแจเก่าทิ้งแล้วเตรียมแม่กุญแจใหม่ไว้ให้พร้อม เวลาเรากลับออกมาก็รีบล็อกประตูเลย"

"ครับผม จัดการเดี๋ยวนี้ครับ"

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น หมวดก้องก็ตัดกุญแจเก่าซึ่งคล้องโซ่ออกได้ แต่ก็ยังติดกลอนซึ่งลงจากด้านใน จึงไม่สามารถเปิดประตูได้โดยทันที ต้องเสียเวลาปีนข้ามรั้วเข้าไปก่อน แล้วดึงกลอนเหล็กซึ่งมีอยู่ทั้งข้างซ้ายและขวาขึ้น จึงสามารถเปิดประตูเหล็กอ้าออกได้

แอ่ดดดด..........

เสียงบานประตูเหล็กซึ่งมิได้ถูกเปิดมาเป็นเวลานาน ดังระคายหู และฟังน่าหวาดเสียวพิลึก!

ตำรวจสามนายและสองสาวผู้เคยรอดตายไปจากบ้านนี้ เดินตรงไปหาตัวบ้าน โดยมี ดาว หญิงคนแรก เดินนำ พอถึงหน้าประตู เธอลองบิดลูกบิดประตูดู ก็พบว่าไม่ได้ล็อก...

เข้าไปข้างใน คลำหาสวิทช์ไฟ เจอแล้วก็กด....  แป๊กก !

แสงไฟสลัว ซึ่งจะสร้างบรรยากาศให้น่าเสน่หาก็ได้ยามอยู่กับใครสองต่อสอง หรือให้รู้สึกหวาดหวั่น เหมือนในตอนนี้

นั่นไงล่ะ! เตียงนอน...ที่เคยเป็น "รังรัก" สร้างความอิ่มเอมหฤหรรษ์ให้กับเธอและเจ้าของบ้าน...ความยับยู่ยี่อย่างมากมายมหาศาลของผ้าปูเตียง บ่งบอกให้รู้ได้เลยว่า มันเป็นเพราะสารพัดท่วงท่าลีลาแห่งการเสพสม...บางจุดถูกขยุ้มและจิกด้วยนิ้วและเล็บของเธอจนฉีกขาดหรือทะลุ!!

หญิงสาวนึกถึงภาพในอดีต แล้วถอนใจเฮือก...

"คุณเคยนอนห้องนี้หรือครับ ?" สารวัตรหนุ่มเอ่ยถาม หลังจากตามเข้ามาแล้วเห็นเธอนิ่งเงียบ

"ค่ะ" เธอตอบขณะยืนหันหลังให้

นายตำรวจหนุ่มมองดูเธอสลับกับเตียงนอนขนาดใหญ่อันยับยู่ยี่นั้นแล้วก็แอบยิ้ม กล่าวกับเธอเบาๆ

"คุณ...คงมีอดีตกับห้องนี้ ที่ลืมไม่ลงล่ะสิครับ"

เธอพยักหน้าเงียบๆ โดยไม่ตอบ แต่นึกในใจ "ใครจะไปลืมได้ลงล่ะคะ คุณตำรวจ! เรื่องซึ่งทีแรกเป็นความสุขสุดยอด แล้วเปลี่ยนไปเป็นความเลวร้ายราวกับมาจากปีศาจนรกแบบนั้น !!"

แล้วหญิงสาวก็ทำหน้าที่เป็น "ไกด์" ต่อไป โดยย่างก้าวเดิน อ้อมเตียงไปทางขวา ชี้มือไปตามทางเดินยาวซึ่งจะนำพาออกไปจากห้องและทะลุออกทางหลังบ้าน

"เดินไปทางนี้ จะออกทางหลังบ้านได้ค่ะ ระวังบริเวณใกล้ประตูทางออก จะมีรูปแกะสลักจระเข้สีดำอยู่ตัวหนึ่ง ใหญ่พอสมควร ใครเดินไม่ดี อาจจะไปเตะโดนมันเข้า"

"ครับ คุณดาว..." สารวัตรแดงตอบพลางส่องไฟฉายเดินตามหลังเธอไป ตามด้วยนายตำรวจอีกสองคนและสาวนกซึ่งทำหน้าตาหวาดหวั่น

จากจระเข้หินแกะสลักตัวนั้น ดาวเดินออกจากประตูหลังไปตามทางเดินของห้องโถง ซึ่งก็เป็นบรรยากาศเดิมๆ เปลือกหอยชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำนวนเป็นร้อยๆเรียงต่อกันเป็นเส้นๆ รวมกันเป็นแผงม่านยาวลงมาจนเกือบถึงพื้น

เปลือกหอยเหล่านั้นสะท้อนแสงจากโคมไฟระยิบระยับ พอเธอแหวกมันออก ก็เกิดการกระทบกัน ทำให้เกิดเสียงดังที่ฟังดูแปลก...เหมือนจะเพราะหู แต่ก็ไม่เพราะ !! มันชวนให้ขนลุกด้วยซ้ำ !!!

"ม่านเปลือกหอยนี้สวยจัง..." สาวนกเอ่ยชมพลางยกมือลูบคลำเล่น ยิ่งทำให้เกิดเสียงดังบาดหูดาวมากขึ้นไปอีก!

และแล้ว เธอก็เดินนำทางทุกคนมาจนถึงที่ราวระเบียง ซึ่งเป็นที่ยืนชมวิวข้างล่าง

คนอื่นๆ ยังเดินตามมาไม่ถึง สารวัตรแดงเองก็อยู่ข้างหลัง ห่างจากตัวเธอราวสองช่วงแขน...

เธอมองลงไป เห็นผืนน้ำนิ่งในสระปูนซึ่งมีทรงกลมกว้างเท่าลานบ้าน

(ต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่